รีวิวหนังสือ "Ghost boy พูดไม่ได้ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก - มาร์ติน พิสโตเรียส,เมแกน ลอยด์ เดวีส์"
เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับมาร์ติน พิสโตเรียสซึ่งเกิดมาเป็นเด็กสุขภาพดีคนหนึ่ง ในครอบครัวที่มีพ่อ แม่ และน้องสาว น้องชายแต่แล้วเมื่อเขาอายุได้ 12 ปีก็เกิดป่วยเป็นโรคที่ไม่มีหมอคนไหนรักษาได้ จนให้เขากลับบ้านในที่สุด ซึ่งหลังจากป่วยอยู่นานหลายปีเขาก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง รับรู้เรื่องราวรอบตัวทุกอย่างเพียงแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ ชีวิตของเขาไปๆมาๆระหว่างบ้านกับสถานพักฟื้นที่พ่อของเขาจะพามาส่งในช่วงเวลากลางวันก่อนจะมารับกลับบ้านในตอนเย็น และพ่อมักจะมารับเขาช้าซึ่งผู้ดูแลบางคนก็ดีกับเขา แต่บางคนก็ไม่ชอบ ซึ่งเขารับรู้ได้ทุกอย่าง 

และเพราะทุกคนคิดว่าเขาไม่รับรู้อะไรเช่นเคยเลยมีคนมากมายเล่าเรื่องราวต่างๆให้เขาฟัง รวมถึงถูกกระทำในแบบที่ไม่ดีมากๆด้วย เช่นสถานพักฟื้นแห่งหนึ่งที่เขาต้องเจอคนที่พูดจาเหมือนกับว่าเขาไม่ใช่คน เป็นขยะไร้ค่า เข็นรถเข็นเขาออกไปข้างนอกและให้นั่งตากแดดอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน ยัดอาหารให้เขากินแม้ว่าเขาจะกลืนไม่ลงและอ้วกออกมา หรือแม้กระทั่งมีอะไรกับเขาก็ตามเพราะรู้ว่าเขาไม่อาจขัดขืนได้

แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับ"เวอร์นา" หญิงสาวซึ่งทำหน้าที่นวดเพื่อให้กล้ามเนื้อที่เกร็งได้ผ่อนคลาย เธอคือคนที่พูดคุยกับเขาแบบที่คนปกติคุยกัน เธอไม่ได้ทำเหมือนพูดคนเดียวและคิดว่าเขาไม่รู้เรื่องเหมือนคนอื่นๆ และเธอคือคนที่ทำให้เขาได้ไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารทางเลือกเพราะเธอแน่ใจว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด จนทำให้เขาได้เข้ารับการรักษาและใช้วิธีการสื่อสารผ่านแล็ปท็อปด้วยโปรแกรมที่เขาตัดสินใจเองว่าจะเลือกใช้ตัวไหนเพราะเขาเก่งเรื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่สมัยเด็กๆ และนั่นทำให้เขาได้ทำงานพิเศษเกี่ยวกับมันด้วย

แล้วเขาก็ได้รับการยอมรับในความสามารถ หลังจากที่อดทนและเพียรพยายามเพื่อให้กลับมาสื่อสารได้อีกครั้ง และเรียนหนังสือต่อจนได้รับประกาศณียบัตร และพบกับ "โจอันนา" หญิงสาวที่เป็นรักแท้ของตัวเองแล้วย้ายจากการอยู่กับครอบครัวที่ประเทศแอฟฟริกาใต้ มาอยู่ที่อังกฤษกับภรรยา

 

เป็นหนังสือที่เขียนเป็นบทสั้นๆ อ่านง่ายและไวมากเพราะเขาเล่าเรื่องราวได้น่าอ่านและน่าติดตามมากๆ ทั้งการใช้ชีวิตในแต่ละวันว่าต้องเจออะไรบ้างทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี รวมถึงความรู้สึกที่ต้องแบกรับจากการถูกกระทำอย่างร้ายกาจหลายๆอย่างแต่ก็ไม่อาจบอกใครได้ อ่านแล้วทรมานแทนอึดอัดใจมากแล้วก็คิดว่าทำไมคนเราถึงทำกันได้ขนาดนั้น แล้วก็ลุ้นไปกับการทดสอบของเขาว่าจะสามารถกลับมาสื่อสารได้ไหม รวมถึงตอนที่เขาจะเดินทางไปหาแฟนสาวโดยที่ครอบครัวไม่เห็นด้วยว่าจะสำเร็จไหม อ่านแล้วรู้สึกว่าเขาโคตรเก่งเลย มีความเก่งรวมกับความทุ่มเทพยายามมหาศาลทำให้เขามีวันนี้ได้ พออ่านจบก็ไปค้นดูหน้าตาเขาเลย เห็นแล้วแบบ ว้าว....สุดยอดไปเลยเป็นภาพคู่กับภรรยาที่ดูมีชีวิตสดใสสมกับที่ฝ่าฟันกันมา165



Create Date : 03 สิงหาคม 2566
Last Update : 11 สิงหาคม 2566 21:22:17 น.
Counter : 166 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด