BOOK HAUL 2023 (ตุลา - ธันวา)ฺ - สนพ. Bibli + รวมสนพ. สำนักพิมพ์ Bibli เล่มแรก ร้านมหัศจรรย์สำหรับคนไม่หยุดฝัน เล่ม 2 ตอน ตามหาลูกค้าที่หายไป - อีมีเยไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด หลังกลายเป็นความทรงจำแล้วขอบเขตของความดีใจและความเสียใจเล็กๆ น้อยๆ จะจางหายไป เพนีเป็นพนักงานประจำห้างสรรพสินค้าขายความฝันดัลเลอร์กู้ทมาครบหนึ่งปีแล้ว แม้เธอจะรู้สึกคุ้นเคยกับตาชั่งเปลือกตาและระบบดรีมเพย์จนทำงานอย่างมั่นใจมากขึ้น แต่เธอก็ยังตื่นเต้นและคาดหวังว่าจะได้มองเห็นโลกที่กว้างกว่าปีที่ผ่านมา และครุ่นคิดว่าความสามารถของเธอจะช่วยให้ลูกค้ามีเรี่ยวแรงในการใช้ชีวิตอีกครั้งอย่างไร เรื่องราวภาคต่อของนวนิยายแฟนตาซีเยียวยาจิตใจที่ติดอันดับ TOP10 ในชาร์ตหนังสือขายดีต่อเนื่อง 75 สัปดาห์ ขายลิขสิทธิ์แปลได้แล้วกว่า 10 ประเทศทั่วโลก หนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดของปี 2020 และ 2021 ที่คัดเลือกโดยผู้อ่าน ซื้อเพราะปกอีกเช่นเคย เล่มนี้เรามีเล่มแรกที่ซื้อมาแบบมือสองซึ่งยังไม่ได้อ่านเลย เล่มสองก็ออกมาให้เราซื้ออีกแล้ว ซึ่งเราซื้อเพราะปกเป็นหลักเลย กับเนื้อเรื่องยังไม่ได้รู้สึกอะไรมากเท่าไหร่ แต่พอเห็นว่าเป็นหนังสือขายดีและก็เป็นหนังสือที่ดีที่สุดติดต่อกันสองปีซ้อนที่คัดเลือกโดยผู้อ่านก็รู้สึกว่าอยากลองเอามาอ่านจริงจังบ้าง เล่มที่สอง แมวปริศนากับใบไม้แห่งคำทำนาย - มิจิโกะ อาโอยามะเรื่องราวของผู้คนทั้ง 7 ที่จะพาคุณไปสำรวจสิ่งที่ทำหล่นหายขณะกำลังเดินไปบนเส้นทางชีวิต นิยายเรื่องเยี่ยมที่เปี่ยมไปด้วยความตื้นตันและอบอุ่นหัวใจผู้คนที่มีปมปัญหาชีวิตทั้ง 7 ต่างได้เดินเข้าไปยังศาลเจ้าแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ พวกเขาได้พบกับมิกุจิ แมวสีขาวดำมีลายรูปดาวสีขาวตรงสะโพก เมื่อมิกุจิแปะขาหน้าที่ต้นทาราโย ใบไม้ที่เขียนข้อความที่หลังใบหล่นลงมา เมื่อหยิบใบไม้นั้นขึ้นมา เจ้าแมวก็จะวิ่งหายไป เจ้าอาวาสที่ศาลเจ้านั้นบอกว่ามันคือ “คำพยากรณ์” แต่นั่นเป็นเพียงคำบอกใบ้เพื่อไปให้ถึงคำตอบที่แท้จริง นิยายที่จะผ่อนคลายความกังวลและเหมาะกับคนที่ชีวิตกำลังหลงทาง ได้รับรางวัลวรรณกรรมเท็นริวครั้งที่ 13 ในปี 2021 ทุกคนเองก็มีโชคดีอยู่กับตัว เพียงแต่โชคดีนั้นมาไวไปไว เราแค่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง – มิจิโกะ อาโอยามะ ซื้อเพราะปกอีกแล้ว ปกน่ารักสีสันสดใสถูกใจ เรื่องราวก็น่าอ่านมาก อยากเจอมิกุจิแล้วขอใบไม้พยากรณ์สักใบตั้งแต่ยังไม่ได้อ่านเลย แถมเป็นนิยายได้รางวัลด้วย แล้วก็ชอบประโยคที่คนเขียนบอกว่าทุกคนก็มีโชคดีอยู่กับตัว อ่านแล้วน่าจะรู้สึกอยากมองหาโชคดีรอบตัวที่เราไม่รู้ตัวมาก่อนบ้าง เล่มที่สาม บ้านพักใจโอบไออุ่นทะเล - โมริซาวะ อากิโอะ ชีวิตคนเราก็มีจังหวะเหมาะเหมือนกัน ฤดูร้อนปีนี้อาจไม่ใช่จังหวะให้ฉันมีความรักก็ได้ ในช่วงเวลาที่หัวใจกำลังสับสนอย่างหนักหลังจากสูญเสียทั้งงาน และคนรัก เอมิริ หญิงสาววัย 25 ตัดสินใจ “หนี” พร้อมหอบหิ้วหัวใจอันบอบช้ำมุ่งหน้าสู่บ้านของคุณตาไดโซผู้อาศัยอยู่ตามลำพังกับสุนัขแก่ที่ทัตสึอุระ หมู่บ้านชาวประมงอันห่างไกล ขณะที่อยู่บ้านของคุณตาผู้มีอาชีพทำกระดิ่งลม คุณตาสอนให้เอมิริทำสิ่งต่างๆ ทั้งตกปลา ทำอาหาร กระทั่งลับมีดทำครัวเล่มเล็กเก่าๆ ที่คุณตาใช้แล่ปลาเสมอ ทว่ากิจวัตรประจำวันแสนธรรมดาที่บ้านของคุณตานี้เอง ที่ขัดเกลาให้เอมิริกลายเป็นคนใหม่และหัวใจก็ได้รับการเยียวยาอย่างคาดไม่ถึง เรื่องราวการเติบโตและการเริ่มต้นใหม่ของหญิงสาวคนหนึ่งที่พยายามเรียนรู้และยอมรับบาดแผลจากอดีต พร้อมด้วยเมนูอุ่นๆจากครอบครัวที่ช่วยรักษาบาดแผลในหัวใจ ซื้อเพราะชอบภาพปกอีกแล้ว ดูแล้วมันรู้สึกสงบใจ ผ่อนคลายดี ชื่อเรื่องก็ดูเข้ากับบรรยากาศของภาพปกมากดูอบอุ่นเช่นกัน อ่านเรื่องราวแล้วก็ถูกใจดูสโลว์ไลฟ์ดีอ่านแล้วน่าจะทำให้เราสงบจิต สงบใจ ผ่อนคลายไปกับเรื่อง แล้วก็รู้สึกอยากได้กระดิ่งลมมาติดที่หน้าต่างห้องสักอันสองอันเลย ทาคาโกะ หญิงสาววัยยี่สิบกำลังเคว้งคว้างและเสียใจอย่างหนัก เมื่อจู่ๆคนรักที่คบหากันในที่ทำงานบอกว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน จนในที่สุดทาคาโกะตัดสินใจลาออกเพื่อหนีออกมารักษาแผลใจ แต่เธอก็หมดแรงจนไม่อาจก้าวต่อไปได้ วันหนึ่งซาโตรุ น้าชายแท้ๆของทาคาโกะก็โทร.มาหา ขอให้ทาคาโกะไปช่วยงานที่ร้านหนังสือโมริซากิซึ่งอยู่ในย่านจิมโบโจ ทาคาโกะไม่มีที่ไป จึงตัดสินใจไปช่วยงานน้า โดยไม่คาดคิดว่า ทั้งผู้คน หนังสือเก่า และร้านหนังสือแห่งนี้จะสร้างความทรงจำล้ำค่าและผลักดันให้ทาคาโกะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง นี่คือเรื่องราวการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งอบอวลด้วยกลิ่นกระดาษ ท่ามกลางบรรยากาศย่านหนังสือเก่าที่มีมนตร์ขลัง พร้อมด้วยผู้คนที่จะสร้างความทรงจำอันยากจะลืมเลือน นวนิยายที่ได้รับรางวัลจิโยดะ ครั้งที่ 3 ปี 2009 และได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์อบอุ่นใจในปี 2010 สะดุดตากับหน้าปกที่ออกแบบได้น่ารัก น่าสนใจ ภาพปกเป็นรูปร้านหนังสือที่อยู่ในหนังสือที่หันตัวปกออก แล้วโทนสีพาสเทลก็ดูอบอุ่นมากสมกับที่บอกว่าสร้างเป็นภาพยนตร์อบอุ่นใจเลย เรื่องราวก็น่าอ่านเพราะเป็นร้านหนังสือในย่านเมืองเก่าอ่านแล้วน่าจะได้บรรยากาศดีมากเลย แล้วคงมีต้นแปะก๊วยด้วยแน่ๆเพราะภาพปกมีใบแปะก๊วยอยู่ รวมสำนักพิมพ์ เล่มแรก ร้านหนังสือมินาโตะที่เรารัก - ยาสึชิ คิตากาวะ"พลิกความเหนื่อยให้เป็นกำลังใจ" วันหนึ่งโยชิโตะได้รับสายจากตำรวจว่าพ่อที่ไม่ได้เจอกันกว่า 38 ปี เสียชีวิตอย่างเดียวดายในร้านเช่าหนังสือมินาโตะของเขาเอง โยชิโตะ และแม่เดินออกจากชีวิตพ่อเพราะรู้สึกว่าพ่อไม่รักพวกเขา จึงตัดขาดกันตั้งแต่นั้นเรื่องนี้กลายเป็นปมในใจของเขา เขาแทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อเหลืออยู่เลย แต่เมื่อกลับไปที่ร้านก็ได้พบผู้คนในงานเทศกาลดังจิริ ความทรงจำเรื่องพ่อจึงหวนกลับทำให้เขาตื่นตะลึง หนังสือเล่มนี้จะตบบ่าให้คุณหายเหนื่อยและรู้สึกว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "คุณพยายามใช้ชีวิตได้ดีแล้ว" ไม่มีอะไรต้องเสียใจภายหลัง ภาพปกน่ารักมาก ชอบรูปร้านหนังสือมากเลยเห็นแล้วต้องซื้อ เนื้อหาก็น่าอ่านแถมเป็นคนเดียวกับที่เขียนเรื่องแท็กซี่คันนี้รับส่งความหวังที่เราซื้อเก็บไว้ด้วย เล่มที่สอง เทนเดอร์เนส สะดวกรักที่พักใจ - โซโนโกะ มาจิดะยินดีต้อนรับสู่ร้านเทนเดอร์เนส ร้านสะดวกซื้อที่ไม่ได้มีดีแค่อาหารฮีลใจ บริการพิเศษ แต่ยังมี “ชิบะ มิตสึฮิโกะ” ผู้จัดการร้าน หล่อแบบสวรรค์สร้าง เจ้าของฉายา “ผู้จัดการฟีโรโมน” ไม่ว่าใครที่ได้เข้ามา ก็ต่างได้ความรู้สึกดีๆ กลับไป จนกลายเป็น third place ของทุกคน
เชิญเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์อันอบอุ่น ซาบซึ้งจนใจฟู ไปพร้อมกับผู้จัดการสุดหล่อที่จะคว้าหัวใจคุณ อ่านจบเล่มก็เหมือนเช็กสต๊อกหัวใจในร้านสะดวกซื้อที่คุณอยากให้มีอยู่ใกล้บ้าน ซื้อเพราะปกอีกแล้ว แถมได้ปฏิทินฟรีด้วยซึ่งเราก็คิดว่าอันเล็กนิดเดียว ที่ไหนได้ที่เราได้มาคือภาพปกหนังสือ พร้อมปฏิทินขนาดA4 เราก็เลยเอาไปติดไว้ที่ผนังโน่นเลย แถมเขาเป็นคนที่เขียนหนังสือเรื่องดังที่เราก็ซื้อไว้อีกแล้วเช่นกัน และแน่นอนว่าเรายังไม่ได้เอามาอ่านเหมือนเดิม(ซึ่งคนที่ทำงานเราสองคนได้อ่านแล้วแต่ทั้งคู่อ่านไปแค่นิดเดียวแล้วเลิก คนหนึ่งบอกว่ามันเศร้าไป อีกคนบอกว่ามันเนือยไม่ไหว) เราก็เลยคิดว่าถึงเวลาต้องเอาออกมาอ่านดูบ้างแล้ว เล่มที่สาม ร้านขนมแห่งความลับ ตอน ความลับแห่งวัยเยาว์ - ซากากิ สึคาสะอันจังทำงานที่ร้าน "มิตสึยะ" ร้านขายวากาชิ ในชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้ามาได้แปดเดือนแล้ว แม้จะเริ่มคุ้นชินกับงานขายแต่ยังมีอะไรอีกมากมายให้เธอเรียนรู้เต็มไปหมด คืนวันแห่งการเติบโตอันว้าวุ่นที่บางครั้งก็ท้อแท้ บางครั้งก็กลุ้มใจ ยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานซึ่งเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว และแน่นอนว่าครั้งนี้ก็ยังมีขนมชวนน้ำลายสอ กับปริศนามากมายเตรียมใว้รอรับทุกคน ปกน่ารักอีกแล้ว แถมเรื่องนี้เล่มแรกเราก็ได้อ่านไปแล้วด้วย ยังจำได้เลยว่าชอบบรรยากาศที่ร้านมิตสึยะแล้วก็เหล่าพนักงาน โดยเฉพาะวากาชิต่างๆที่ทำให้เรารู้สึกว่าญี่ปุ่นเขาละเมียดละไมในการคิดและการทำขนมต่างๆมากเลย วากาชิพิเศษสำหรับโอกาสต่างๆคือเยอะมาก แถมเล่มนี้เราได้มาแบบมือหนึ่งพร้อมปกนอกและของแถมที่เราไม่เคยได้ด้วยดีใจมากเลย เล่มที่สี่ ร้านขนมแห่งความลับ ตอนความลับของความรัก - ซากากิ สึคาสะอันจังใกล้จะเข้าพิธีบรรลุนิติภาวะเต็มทีแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังรู้สึกเร็วไปที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ กระนั้นวันเวลาก็มิอาจคอยท่า ทำได้เพียงกินวากาชิแสนอร่อยพร้อมจิบชาหลายอึก แล้วมุ่งไปข้างหน้าเถอะ! แล้วเราก็ซื้อเล่มสามมาด้วย แถมได้เล่มพิมพ์ครั้งแรกมาด้วยนะถ้าเราดูไม่ผิดน่ะ เพราะเขาแถมปกนอกมาด้วยจับๆดูตัวหนังสือก็นูนๆน่าจะมีของแถมด้วย ซึ่งตอนที่เรากดซื้อหน้าร้านแจ้งว่าเป็นพิมพ์สองซึ่งเราก็เสียดายแต่ก็ไม่อยากจ่ายแพงกว่าไปซื้ออีกร้านที่พิมพ์หนึ่ง แต่พอเราแกะกล่องเท่านั้นแหละ กรี๊ด...เราได้พิมพ์แรกมา ดีใจมาก แล้วเราก็คิดว่าก่อนจะอ่านเล่มต่อเราจะอ่านเล่มหนึ่งก่อนอีกรอบแล้วต่อด้วยน้องๆเล่มสองและสามต่อกันไปเลย เอาให้หิวกันให้ตายไปข้าง Suzume การผนึกประตูของซุซุเมะ - มาโคโตะ ชินไค (Makoto Shinkai) ซุซุเมะ เด็กสาววัย 17 ปีอาศัยอยู่กับน้าที่เมืองท่าอันเงียบสงบบนเกาะคิวชู เธอเดินสวนกับเด็กหนุ่มรูปงามขณะเดินทางไปโรงเรียนในเช้าวันหนึ่ง เขาคนนั้นบอกว่า “ฉันตามหาประตูอยู่น่ะ” เป็นเหตุให้เธอตามไปยังกองซากปรักหักพังกลางภูเขา ทว่าสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงนั้นกลับมีเพียงบานประตูสีขาวเก่าคร่ำคร่า ซึ่งตั้งอยู่อย่างเดียวดายคล้ายถูกทิ้งร้างหลังสิ่งปลูกสร้างพังทลาย ซุซุเมะเอื้อมมือไปหาประตูบานนั้นราวกับมีบางสิ่งดลใจ... เรื่องราว ‘การผนึกประตู’ ของซุซุเมะซึ่งเชื่อมโยงทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเข้าด้วยกันกำลังเริ่มต้นขึ้น บทประพันธ์ต้นฉบับจากปลายปากกาของมาโคโตะ ชินไค ผู้กำกับภาคแอนิเมชันจะเปิดประตูอีกบานให้ทั้งโลกตื่นตะลึง! เล่มนี้เราถูกใจหน้าปกก่อนเลย เดินไปซื้อเครื่องเขียนที่บีทูเอสแล้วเห็นหนังสือเล่มนี้ผ่านตาตรงหนังสือใหม่ก็รีบพุ่งตัวไปดู พอเห็นชื่อนักเขียนเท่านั้นล่ะรีบกลับมาซื้อในไลฟ์ช้อปปี้ทันใด ชอบภาพปกมาก แล้วก็ชอบหนังสือของมาโคโตะมากด้วยยิ่งเวลาได้ดูภาพประกอบในหนังสือเหมือนต้องมนต์เลย มันสวยสะกดใจมากรายละเอียดในภาพก็งดงามไปหมด ดีใจมากเลยที่ได้หนังสือเล่มนี้มา White bird การเดินทางสุดมหัศจรรย์ - อาร์.เจ. ปาลาซิโอสงครามทำให้เห็นว่าคนเราเกลียดชังกันได้แค่ไหน และต้องใช้ความพยายามมากเพียงใดเพื่อแสดงความเมตตา พบกับเรื่องราวสุดสะเทือนใจของสงครามและความรัก แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความแข็งแกร่งของมนุษยชาติในช่วงเวลาอันมืดมิด เราซื้อเล่มนี้เพราะปกอีกแล้ว ชอบภาพปกมากมันดึงดูดใจ ดูสว่างสดใส เราก็เลยซื้อมาซึ่งพอได้อ่านเรื่องราวจากปกหลังเราก็ดีใจมากเพราะเราชอบผลงานสองเรื่องแรกของเขามาก แล้วเรื่องนี้ก็เขียนต่อมาจากเรื่องราวที่ย่าของจูเลียนเล่าให้เขาฟัง ซึ่งเป็นเรื่องที่เราก็ชอบมากๆเหมือนกัน แล้วก็งงตัวเองว่าตอนที่ซื้ออ่านผ่านๆว่าเป็นคนที่เขียนเรื่องออกัสแค่นั้นแน่เลยแล้วก็ตกลงใจซื้อ คงไม่ได้อ่านเรื่องปกหลังจริงจัง แล้วเล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่เราดีใจมากๆที่ได้ซื้อมา อะพาร์ตเมนต์บำบัดใจ (Rengesou) - มูเระ โยโกะเมื่อบ้านไม่ใช่เซฟโซน และการงานทำให้รู้สึกว่าชีวิตช่างว่างเปล่า "เคียวโกะ" พนักงานบริษัทวัย 45 จึงลาออกจากงานและย้ายออกจากบ้าน เกษียณอายุตัวเองก่อนเวลา มาใช้ชีวิตด้วยเงินเก็บเท่าที่มีอยู่ ในอะพาร์ตเมนต์เก่าราคาประหยัดที่มีชื่อว่า “เรือนแรมดอกเร็งเงะ” ชอบภาพปกอีกแล้ว บ้านไม้กับต้นไม้เยอะๆที่ปกคลุมหลังคา แล้วก็ชอบเรื่องราวด้วยดูน่าอ่านดีแถมขายดีต่อเนื่องยาวนานซะด้วย ซึ่งหนังสืออีกเล่มของเขาจะบอกว่าเราได้อ่านแล้วด้วย คราวนี้ไม่ได้ถูกหมกไว้อย่างสิ้นหวังเหมือนเล่มอื่นๆ ห้องสมุดบันทึกความทรงจำ - อิมดามี'ฮันฮีจู' พบว่าความทรงจำสมัยประถมของเธอเริ่มเลือนหายไป ทีแรกเธอก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะมันเป็นแค่เรื่องเก่าๆไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อชีวิต ทว่ามันกลับเลือนหายไปเรื่อยๆจนเธอตัดสินใจเข้ารับการรักษา แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดความทรงจำของเธอก็ยังไม่กลับคืนมา จนกระทั่งเธอได้พบกับ ‘ศูนย์บำบัดความจำมเนโมส’ ของซอนโอเข้า เล่มนี้เป็นเล่มที่คิดหนักว่าจะซื้อดีไหม ปกก็น่ารักดูอยู่แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น เรื่องราวแนวนี้เราก็ซื้อมาเยอะจนถมตัวได้แล้ว แต่พอคิดไม่ตกก็คิดว่าซื้อไว้ก่อน! อีกอย่างคือชอบประโยคสุดท้ายที่ว่าจะทำให้คุณซาบซึ้ง อบอุ่นใจ และตระหนักถึงคุณค่า ของความทรงจำ และความสัมพันธ์กับคนรอบตัว แม้ว่าอีกหลายสิบเล่มก็บอกแบบนี้เหมือนกันก็ตาม แต่ก็เผื่อเล่มนี้อ่านแล้วถูกใจก็ได้ แล้วก็ครบเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขกับช่วงปีใหม่ แล้วก็ขอให้ได้พบเจอแต่เรื่องราวที่ดีๆ คนที่ดี สุขภาพแข็งแรง การเงิน การงานรุ่งเรือง สมหวังในสิ่งดีๆที่ปราถนา หากเจอปัญาหาก็ให้ผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่นนะคะ สู้ไปด้วยกันค่ะกับปี 2567 นี้ เราจะผ่านพ้นไปได้แบบเลิศๆ ปล.ปีนี้เราตั้งใจไว้ว่าจะอ่านหนังสือให้น้อยลง เอาเวลาไปทำอย่างอื่นบ้างก็อาจจะทำให้เราห่างหายไปนะคะ ซึ่งเราก็ตั้งใจว่าจะกลับไปเย็บผ้าบ้าง ผ้าที่ซื้อมากองเต็มตู้ไม่ได้ทำอะไรเลยมานานมาก ต้นไม้ในสวนก็ดูรกเกินงามเพราะความที่ไม่ชอบตัดแต่ง (ชอบให้น้องได้ออกตามใจแต่ดูเหมือนมันจะมากไป ก็ว่าจะให้เวลากับสวนมากขึ้นด้วย) แต่...ตอนสิ้นปีเราทำความสะอาดตู้หนังสือค่ะ! แล้วเราก็ดันเอาหนังสือที่อยากอ่านซ้ำมากองไว้เยอะมาก...ดูเหมือนร่างหนึ่งกับร่างสองเรายังคุยกันไม่ลงตัว |
บทความทั้งหมด
|