รีวิวหนังสือ "สวนสัตว์กระดาษและเรื่องสั้นอื่นๆ - Ken Liu"
หนังสือที่รวมเรื่องสั้น ๘ เรื่องไว้ด้วยกันโดยเนื้อเรื่องมีส่วนผสมของวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์จีน และแฟนตาซีผสมกัน โดยเรื่องที่ชอบมากที่สุดคือเรื่องเดียวกับที่ใช้เป็นชื่อหนังสือคือ "สวนสัตว์กระดาษ" เป็นเรื่องราวของแม่กับลูกชายที่เป็นลูกครึ่งอเมริกัน - จีน ที่ตอนยังเล็กเมื่อเขาร้องไห้งอแงแล้วไม่ว่าพ่อกับแม่จะทำอย่างไรก็ไม่ยอมเงียบ แม่ก็จะคว้าเอากระดาษห่อของขวัญที่แกะอย่างประณีตแล้ววางเก็บไว้อย่างดีที่หลังตู้เย็นออกมาแล้วบรรจงพับเป็นสัตว์ต่างๆให้กับลูกชาย อย่างเช่นเหลาหู่ หรือเสือที่แม่บรรจงพับ รีด แล้วเป่าลมหายใจของแม่เข้าไปในตอนท้ายสุดจนทำให้เจ้าเหลาหู่ขยับร่างกายกระดาษของมันแล้วคำรามโฮกออกมา จนทำให้เขาหัวเราะออกมาได้ด้วยความประหลาดใจ
หลังจากวันนั้นแม่ก็พับสัตว์กระดาษออกมาให้ลูกชายอีกมากมายหลายตัวทั้งปลาฉลามที่แม่ต้องพับด้วยกระดาษฟอยล์เพื่อให้มันว่ายในน้ำได้สมใจไม่ขาดยุ่ยไปเสียก่อน หรือควายที่อยากแช่ปลักเลยเอาขาไปจุ่มในซีอิ๊วจนเปื่อยแม่ต้องเอามาซ่อมแล้วเอาพลาสติกห่ออาหารมาพันขาไว้ให้เพื่อให้มันเอาขาไปแช่ได้ตามใจ แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อลูกชายมีเพื่อนมาที่บ้านและได้เล่นของเล่นกันจนเกิดเรื่อง แล้วหลังจากนั้นเขาก็แทบไม่ได้คุยกับแม่อีกเลยเพราะเพื่อนคนนั้นเป็นคนทำให้คนอื่นๆในโรงเรียนพากันหาว่าเขาเป็นหน้าเจ๊ก ซึ่งตัวเขาเองแต่เดิมก็ไม่ได้ชอบหน้าตาตัวเองสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะดวงตาที่เหมือนแม่ซึ่งเป็นคนจีน
จนกระทั่งวันหนึ่งหลังจากที่แม่จากไปแล้ว และเจ้าเหลาหู่ก็ขยับตัวจากชั้นวางที่แฟนเขาวางเหล่าสัตว์กระดาษไว้ทั่วห้องเพราะเห็นว่าแม่ของเขามีพรสวรรค์มากในการพับกระดาษ แล้วกระโดดมาบนตักก่อนจะคลี่ตัวเองออกให้เขาได้เห็นข้อความที่อยู่ภายในซึ่งเป็นภาษาจีนที่แม่เขาเขียนไว้ด้วยหัวใจทั้งหมดที่มีเพื่อให้เศษเสี้ยวที่แม่ทิ้งไว้ที่สัตว์กระดาษเหล่านี้มีชีวิตอีกครั้งในวันชิงหมิง ที่ผู้ล่วงลับจะกลับมาหาครอบครัวได้และทำให้เหล่าสัตว์กระดาษขยับตัวได้อีกครั้ง ซึ่งในจดหมายเธอได้เล่าเรื่องราวของตัวเองที่คิดว่าวันหนึ่งจะบอกเขาเมื่อเขาโตขึ้นเพราะเห็นว่าตอนนั้นเขายังเด็กเล่าไปก็คงไม่มีประโยชน์ แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อเขาโตขึ้น เขากลับไม่ยอมคุยกับเธอซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกสูญเสียทุกสิ่งไปอีกครั้ง หลังจากได้เจอเรื่องราวในอดีตที่แสนเจ็บปวด และต้องข้ามทวีปมายังอเมริกาซึ่งเธอไม่รูจักใครและพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้ววันหนึ่งเธอก็มีลูกชายซึ่งรักปานดวงใจและคาดหวังว่าเขาจะเป็นเพื่อนพูดคุยกับเธอ แต่วันหนึ่งเขากลับไม่ยอมพูดกับเธออีกเลย
และมีข้อความหนึ่งในจดหมายที่ว่า "ลูกรู้ไหมว่าคนจีนอย่างเราเห็นว่าความรู้สึกที่เศร้าที่สุดในโลกคืออะไร มันคือความรู้สึกของเด็กคนหนึ่งที่โตพอจนนึกอยากจะดูแลพ่อและแม่ของตน เพียงเพื่อจะตระหนักว่าพวกท่านไม่อยู่แล้ว"
เป็นหนังสือที่หลายๆบทในช่วงแรกที่เราอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่เข้าใจหนังสือเล่มนี้เลย ปกติก็ไม่ค่อยอ่านอะไรแนววิทยาศาสตร์อยู่แล้ว แต่พออ่านๆไปก็เริ่มชอบเรื่อง"นักเวทอักษร" ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเวทมนตร์ที่มีในตัวอักษรแต่ละตัว ที่อ่านแล้วก็ต้องกลั้นใจกับฉากทรมานที่ตัวละครถูกจับไปทรมานเค้นข้อมูลเป็นเรื่องราวที่มีประวัติศาสตร์ช่วงจีนแดงและคอมมิวนิสต์ กว่าจะอ่านจบเรื่องนั้นก็ทั้งอบอุ่นใจ เศร้า หดหู่จนต้องกลั้นใจอ่าน พอมาเจอเรื่อง"สวนสัตว์กระดาษ"ที่ติดกันก็ต้องกลั้นน้ำตาเพราะพกออกไปอ่านข้างนอก ถ้าอยู่บ้านน่าจะอ่านไปน้ำตาไหลพรากไปด้วย และอีกเรื่องที่เราชอบคือเรื่องสุดท้าย "ชายเจ้าปัญญากับพญาวานร" เรื่องนี้ก็สอดแทรกประวัติศาสตร์จีนของราชวงศ์แมนจูที่เข่นฆ่าผู้คนไปเป็นจำนวนมาก และการบังคับการแต่งตัวและการไว้ทรงผมเปียที่ด้านหลัง โกนหัวด้านหน้า ซึ่งเรื่องนี้เราก็ต้องกลั้นใจอ่านพอกัน มันหดหู่ใจมาก