รีวิวหนังสือ "ร่มไม้ใบบาง - ว.วินิจฉัยกุล"

เรื่องราวของหญิงสาวนามว่า "น้ำเย็น" ซึ่งแม่ตั้งชื่อให้ตามสภาพอากาศในวันนั้นที่อากาศหนาวจนน้ำเย็น เธอเกิดมาในครอบครัวคนจีนที่ยากจนและมีพี่น้องหลายคน ทำให้เธอกินอาหารไม่ครบถ้วนและร่างกายไม่แข็งแรงจนหลวงพ่อที่วัดแนะนำให้ยกให้คนใจบุญที่ชอบมาทำบุญที่วัดนำเธอไปเลี้ยง จนกระทั่งเธอเติบโตขึ้นและได้รับการสั่งสอนให้เรียนรู้มารยาทอย่างคนไทยรวมถึงส่งเสียให้เรียนหนังสือ แต่ก็เลี้ยงเธอมาในฐานะคนรับใช้และให้คอยดูแลรับใช้ลูกสาวคนเล็กของบ้าน และคอยติดสอยห้อยตามคุณนายและคุณหลวงไปยังที่ต่างๆทำให้เธอได้พบผู้คนมากหน้าหลายตาและได้ทำธุระต่างๆแทนคุณนายหลายอย่าง 

จนวันหนึ่งคุณหลวงผู้ซึ่งเป็นสามีคุณนายคิดข่มเหงเมื่อเธอเริ่มโตเป็นสาวจึงทำให้น้ำเย็นเลือกที่จะหนีไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าจะตกเป็นเมียน้อย โดยได้รับความช่วยเหลือจากป้านองแม่ครัวประจำบ้านที่คอยเลี้ยงดูเธอราวกับญาติคนหนึ่งมาแต่เล็ก และ"คุณกลาง" ลูกชายคนโตของคุณนายที่มีน้ำใจและช่วยทำให้เธอรอดพ้นจากบ้านหลังนั้นที่เคยเป็นที่พึ่งให้เธอมาตลอดจนโตขึ้นมาได้แม้ว่าจะต้องมีเรื่องบาดหมางใจกับครอบครัวตามมาก็ตาม

จนกระทั่งกาลเวลาผ่านไปและเธอได้กลับมาอยู่บ้านนานหลายปีใช้ความรู้ และความสามารถที่มีทำให้กิจการที่บ้านรุ่งเรืองขึ้นมาได้จนครอบครัวกลายเป็นเศรษฐี และได้กลับมาพบกับคุณกลางอีกครั้งแต่ในฐานะใหม่ที่ตอนนี้เป็นเธอที่ฐานะสูงกว่าเขา แต่ใจเธอยังคงรู้สึกพิเศษต่อเขาเช่นเดิมเหมือนเมื่อครั้งเก่า แต่ถึงอย่างนั้นครอบครัวเขาก็ยังมองเธอเป็น "นังเย็น" คนรับใช้ของบ้านเขาเมื่ออดีตอยู่ดีไม่ว่าวันนี้เธอจะเปลี่ยนไปเช่นไรก็ตาม 


เป็นหนังสือที่หยิบมาอ่านเพราะปกสวยดี แต่พอเปิดอ่านหน้าคำนำผู้เขียนก็แทบอยากวาง...เพราะเขาบอกเลยว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แนวรักพาฝัน แต่เป็นแนวสมจริง พระเอก นางเอกไม่ได้สมหวังในรักได้แต่งงานอย่างในอย่างนวนิยายรักทั่วไป มันทำให้เราไม่ค่อยอยากอ่านต่อเพราะอารมณ์ตอนนั้นอยากอ่านอะไรที่พระเอกนางเอกคู่กัน ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจอ่านเรื่องแนวนี้ เราก็เลยเปิดอ่านตอนจบไปเลยให้มันสบายใจแล้วค่อยมาเริ่มอ่านหน้าแรก สำหรับเราเรื่องนี้ก็ได้อารมณ์อีกแบบดี แต่ก็เป็นแนวของผู้เขียนที่เราคุ้นเคยถ้าอ่านหนังสือของเขาซึ่งมักสะท้อนมุมมองชีวิตที่เล่าเรื่องราวให้เห็นเกือบทั้งชีวิตของตัวละครให้เราได้เห็นและเรียนรู้ผ่านเรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆที่ตัวละครต้องพบเจอ ซึ่งเรื่องนี้เราชอบประโยคที่ว่า "รักแต่รักไม่มากพอ" ซึ่งไม่เคยคิดมาก่อน มันคือรักแหละแต่ความรักนั้นไม่มากพอให้ฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันได้




Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2565 16:11:54 น.
Counter : 361 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Day-afterday.BlogGang.com

สมาชิกหมายเลข 3651244
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด