รีวิวหนังสือ "The age of miracles สู่พิภพนิรันดร์ - แคเรน ธอมป์สัน วอล์เกอร์"
เรื่องราวเหตุการณ์ช่วงที่โลกชะลอตัว หรือช่วงเวลาสุดท้ายของโลกที่เล่าผ่านเด็กสาวคนหนึ่งชื่อ "จูเลีย" อาศัยอยู่บ้านกับพ่อแม่ และเรียนในระดับมัธยมโดยที่เธอเล่าถึงชีวิตวัยรุ่นที่ต้องพบเจอ เพื่อนสาวที่สนิท ชีวิตในโรงเรียน และเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เธอแอบชอบเขามานาน
แล้ววันหนึ่งสิ่งต่างๆก็เริ่มไม่เหมือนเดิม ช่วงเวลากลางคืนเริ่มยาวนานออกไป มีนกมาตายในบ้านเธอและมันก็เริ่มมีฝูงนกตายมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนพากันร่วงลงมาจากฟ้า โดยที่ทางการไม่ยอมประกาศว่าเกิดเหตุไม่ปกติอะไรแต่บอกให้ทุกคนใช้ชีวิตตามปกติต่อไป แต่ครอบครัวเพื่อนสนิทของจูเลียตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่อื่น และเธอก็กลายเป็นคนโดดเดี่ยวไม่มีเพื่อนสนิทไปรอรถโรงเรียนด้วยกัน และตารางการเรียนก็มีการปรับให้เหมาะสมเมื่อช่วงเวลากลางคืนเริ่มยาวนานออกไปเรื่อยๆ
แล้วก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนยันที่จะใช้ชีวิตตามเวลาธรรมชาติ หลังจากที่เริ่มมีช่วงเวลากลางวันยาวนานขึ้นมาอีก โดยที่ในเวลามีแสงแดดพวกเขาจะออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านแม้ว่าเวลาจริงอาจจะเที่ยงคืนก็ตาม และจะนอนในเวลาที่ไม่มีแสงแทน และมีคนจำนวนหนึ่งที่เริ่มอพยพไปอยู่กับผู้คนที่ตั้งค่ายเพื่อใช้ชีวิตตามช่วงเวลาของธรรมชาติด้วยกัน แต่คนที่ใช้ชีวิตแบบนี้จะถูกเพื่อนบ้านต่อต้านและขับไล่จนกระทั่งไม่อาจทนอยู่ต่อได้เพราะการที่ใช้ชีวิตไม่เหมือนคนอื่น และอาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นมีผลต่ออารมณ์ของผู้คนให้รุนแรงขึ้น
แล้วช่วงเวลากลางวันก็ยาวนานขึ้นอีก จากที่เพิ่มเป็นรายชั่วโมงก็เป็นวัน จนต้นไม้เริ่มตายเพราะไม่อาจทนต่อความร้อนไหวเริ่มจากต้นไม้เล็กๆจนกระทั่งต้นไม้ใหญ่ก็ยืนต้นตายจนต้องตัดทิ้งทั้งหมดก่อนที่มันจะโค่นลงมากีดขวางถนน พืชผักต้องปลูกแต่ในเรือนกระจกเท่านั้น และการโดนแดดโดยตรงเป็นอันตรายต่อชีวิต บ้านทุกหลังต้องติดม่านหนาทึบกันแสงแดด
ส่วนชีวิตของจูเลียเธอก็ได้พบความเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเพื่อนสนิทที่กลับมาแต่ไม่สนิทกันเหมือนเดิม เด็กหนุ่มที่เธอเคยแอบชอบก็ได้ทำความรู้จักกันหลังจากที่ได้ช่วยเธอตอนถูกเด็กชายคนอื่นแกล้ง และการใช้ชีวิตที่ค่อยๆยากลำบากขึ้นทุกที การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัวท่ามกลางช่วงเวลาสุดท้ายของโลก
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วกังวลใจตามเพราะมันเหมือนเอาเหตุการณ์จริงเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนมาเล่า แล้วคนเขียนกับคนแปลก็ทำดีมากบรรยายสิ่งต่างๆได้สละสลวย เล่าเหตุการณ์แบบเห็นภาพตาม คิดตามได้ง่ายมาก แต่ที่ทำให้เราตกใจกับหนังสือเล่มนี้คือมันไม่เหมือนที่เราอ่านรีวิวในเว็บนายอินทร์ตอนที่ซื้อมาแล้วมีคนเขียนว่ามันเล่าโดยเด็กสาวเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่น ปัญหาชีวิตในวัยเรียน ทำให้มีผลต่อการมองโลกและสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนไปแต่มันไม่ได้เกิดขึ้นจริง...ซึ่งเราก็อ่านไป คิดไปว่าแล้วตอนไหนนะที่มันจะเฉลยสักทีว่าคิดไปเอง อ่านไป อ่านมา อ่านจนจบ...มันเกิดขึ้นจริงโว้ย! จูเลียไม่ได้คิดเอง โธ่เอ้ย...ไม่งั้นเราไม่ซื้อเล่มนี้มาอ่านแน่นอน ไม่ใช่แนวเลย อ่านแล้วหดหู่ใจ (รู้สึกถึงช่วงเวลาสิ้นโลกตามเขา มันอึดอัด)