• 小故事 大智慧

ขาดเธอไม่ได้ สมัยก่อนผมชอบนั่งดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟริมถนนในปารีส อ่านและจดบันทึกของผมอย่างขมักเขม้น สิ่งที่ผมเขียนนั้นไม่ใช่บทความทางเศรษฐศาสตร์ แต่เป็นพวกบทกวี นิยาย หรือกระทั่งปรัชญานิพนธ์ ไม่ว่าจะเขียนอะไร ผมจะต้องกวาดสายตาไปยังผู้หญิงที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่บ่อย ๆ จุดที่ผมสนใจนั้นไม่ใช่อยู่ที่หญิงสาว แต่อยู่ที่คู่สามีภรรยา โดยเฉพาะหญิงที่แต่งงานแล้ว พวกเธอหาใช่สาวงาม ไม่ได้เป็นแบบ มาริลีนมอนโร บางคนก็สวย แต่ส่วนใหญ่แล้วโฉมหน้าท่าทางเป็นวัยกลางคน พวกเธอไปที่เคนเนดี้เซ็นเตอร์เพื่อดูละครเวที ละครเพลงหรือฟังดนตรี ระดับวัฒนธรรมค่อนข้างดี แต่ในด้านต่าง ๆ พวกเธอก็เหมือนคนทั่ว ๆ ไป ใช้ชีวิตที่ปกติธรรมดา แต่ทว่า กล่าวสำหรับผู้ชายที่ควงแขนของเธอ เธอไม่ใช่เพียงคนธรรมดาเด็ดขาด แต่เป็นโลกทั้งโลกของเขาทีเดียว เหตุใดผู้หญิงคนนี้จึงมีความสำคัญกับผู้ชายคนนี้ถึงเพียงนั้น มีเหตุผลสามประการ ก่อนอื่นเมื่อร่วมเรียงเคียงหมอนแล้ว เธอคือร่างที่อบอุ่น ผมไม่ได้หมายถึงกิจกรรมทางเพศ กิจกรรทมทางเพศนั้นสำคัญมาก แต่สิ่งที่ผมหมายถึงนั้นเป็นสิ่งที่ล้ำลึกกว่านั้น นั่นคือการสำผัสทางกาย เวลาทารกน้อยในเปลร้องไห้ สิ่งที่ต้องการไม่ใช่เสียงพูดปลอมประโลม หากแต่เป็นการโอบกอดและตบเบา ๆ ผู้ใหญ่ก็ต้องการการสัมผัสทางกาย ต้องการการกอด ท่ามกลางโลกที่หนาวเหน็บใบนี้ต้องการความอบอุ่นและปลอบใจ ประการต่อมา การพูดคุยก็สำคัญมาก คู่สามีภรรยาบางคู่อาจจะพูดคุยกันมา 30 กว่าปีแล้ว คนทั่วไปอาจเข้าใจว่าไม่มีอะไรจะคุยแล้ว ความจริงพวกเขายังมีสิ่งที่ไม่อาจพูดคุยกับคนภายนอกได้ที่จะพร่ำพรรณาต่อกันอีกมากมาย ความสมหวังในชีวิต คุณบอกกับเธอได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าเธอจะรู้สึกว่าคุณกำลังคุยโม้โอ้อวดตนเอง เรื่องของคุณ เธอมักสนใจที่จะรับฟังเสมอ และมักจะเข้าใจจุดประสงค์ของเรา จุดมุ่งหมายของการพูดคุยไม่ใช่อยู่ที่การส่งข่าวสาร แต่อยู่ที่จะบอกอีกฝ่ายหนึ่งว่า “ ฉันอยู่ข้างกายของคุณ และฉันก็รู้ว่าคุณอยู่ข้าง ๆ ฉัน ” ประการที่สาม ผู้หญิงทำให้ผู้ชายรู้สึกว่า “ มีคนต้องการฉัน ” ถ้าหากไม่มีใครต้องการคุณแล้ว การดำรงอยู่ของคุณยังจะมีความหมายอะไร คนอื่น ๆ อาจจะเคยบอกว่าต้องการคุณ ตัวอย่างเช่น นายจ้าง ลูกศิษย์ ผู้อ่าน เป็นต้น แต่ว่าในความสัมพันธ์หลายชนิดนี้ ตำแหน่งของคุณสามารถใช้ค่าตอบแทนอื่น ๆ มาแทนที่ได้ แต่กล่าวสำหรับภรรยาของคุณแล้ว ไม่อาจมีสิ่งอื่นมาทดแทนคุณได้เลย ฉะนั้น ผู้หญิงที่ธรรมดา ๆ คนนี้แหละสำคัญมากสำหรับผู้ชายของเขา ผมเขียนเช่นนี้ แม้จะเป็นมุมมองของผู้ชาย แต่ผมไม่เชื่อว่าความสัมพันธ์เช่นว่านี้จะเป็นเพียงด้านเดียว ผมเชื่อว่าอีกฝ่ายหนึ่งก็รู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน *** ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงเสน่ห์ที่พิเศษของมันอยู่ที่การสนทนาของทั้งคู่ อยู่ที่การพูดคุยอย่างไร้ขอบเขตและเนิ่นนาน ก็เพราะการกระซิบกระซาบแบบนี้ ให้ความรู้สึกที่เอื้อเฟื้อเสมอภาคที่ชวนให้หลงใหล นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ไม่เพียงแต่สิ่งเหล่านี้สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือร่างที่เปลือยเปล่าของเขายังมีมือที่อุ่นละมุนอีกคู่หนึ่ง *****   Create Date : 04 มกราคม 2554     Last Update : 4 มกราคม 2554 9:13:03 น. Counter : 399 Pageviews.   1 comment Share Tweet

เปลี่ยนจุดยืน กาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงของอิตาลี สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นก็มุ่งมั่นเลือกที่จะทำการค้นคว้าวิจัยทางปรัชญา แต่กลับได้รับการคัดค้านจากผู้เป็นบิดา วันหนึ่งเขาหาโอกาสเพื่อที่จะพูดกับบิดาของเขา “ พ่อครับ ผมอยากจะทราบว่าอะไรที่ทำให้พ่อแต่งงานกับคุณแม่ได้ครับ ” บิดาของเขาตอบว่า “ เพราะว่าพ่อรักเธอเข้าแล้ว ” กาลิเลโอถามต่อว่า “ ถ้าเช่นนั้นพ่อก็ไม่ได้พิจารณาว่าจะเลือกคนอื่นบ้างเลยหรือครับ ” บิดาของเขายิ้มหน้าบานตอบว่า “ เป็นไปได้อย่างไร ลูกรัก เจ้ารู้ไหมว่า เมื่อตอนนั้นผู้ปกครองที่บ้านล้วนแต่จะให้พ่อแต่งงานกับหญิงสาวที่มีฐานะร่ำรวยคนหนึ่ง แต่นี่เป็นรักแรกพบของพ่อที่มีต่อแม่ของเจ้า ตอนแรก ๆ ที่พ่อตามจีบเธอนั้นเหมือนอยู่ในความฝันที่น่าหลงใหล ตอนนั้นแม่ของเจ้าช่างสวยงามทำให้พ่อคลั่งไคล้......” กาลิเลโอพูดต่อว่า “ นี่กลับเป็นเรื่องจริง ถึงขณะนี้ก็ยังดูออกว่าแม่สวยงามจริง ๆ แต่ว่า คุณพ่อครับ ขณะนี้ผมก็ตกอยู่ในสภาพเช่นดียวกัน นอกจากวิชาปรัชญาแล้ว ผมไม่อาจเลือกอย่างอื่นได้เลย ขณะนี้วิชาปรัชญาเป็นหนึ่งเดียวที่ผมต้องการ ผมรักมันเสมือนกับที่รักหญิงสาวสวยคนหนึ่งที่ไม่อาจตัดขาดจากเธอ” บิดาของกาลิเลโอได้ฟังดังนั้น ในที่สุดจึงพยักหน้าตกลงเห็นด้วยกับเขาที่จะเรียนด้านวิจัยทางปรัชญา *** การที่จะพูดเกลี้ยกล่อมให้ผู้อื่นยอมรับ วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้ทฤษฎีและหลักการอ้างอิงของเขาเอง *****   Create Date : 03 มกราคม 2554     Last Update : 3 มกราคม 2554 8:05:00 น. Counter : 436 Pageviews.   0 comment Share Tweet

เลือกทิศทาง มีมดสองตัวคิดที่จะปีนข้ามกำแพงไปหาอาหารที่อยู่อีกฟากหนึ่ง มดตัวแรกมาถึงตีนกำแพงก็รีบไต่ขึ้นไปโดยไม่ลังเล แต่เมื่อมันไต่ไปได้เกินครึ่งทางก็ตกลงไปข้างล่างเพราะความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าทุกครั้งไป แต่มันไม่เคยท้อ แต่ละครั้งที่มันตกลงมา มันจะรีบตั้งตัวอย่างรวดเร็วแล้วเริ่มต้นไต่ขึ้นไปใหม่ มดอีกตัวสังเกตุอยู่พักหนึ่ง ตัดสินใจอ้อมกำแพงไป และมาถึงเบื้องหน้าอาหารอย่างรวดเร็ว แล้วเริ่มต้นเสพสุขกับอาหารเหล่านั้น แต่มดตัวแรกยังคงตกลงมาแล้วเริ่มต้นไต่ขึ้นไปอีกอยู่อย่างนั้น *** ในหลายครั้ง ความสำเร็จนอกจากจะได้มาจากความกล้าหาญและยืนหยัดอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยแล้ว สิ่งที่จำเป็นกว่านั้นก็คือทิศทาง การมีทิศทางที่ถูกต้อง ความสำเร็จจะได้มาเร็วกว่าที่จินตนาการไว้อีก *****   Create Date : 01 มกราคม 2554     Last Update : 1 มกราคม 2554 8:02:50 น. Counter : 457 Pageviews.   2 comment Share Tweet

ตะแกรงล่อนสามตัว วันหนึ่ง ชายคนหนึ่งวิ่งมาหาปราชญ์คนหนึ่งด้วยท่าทางร้อนรน และพูดว่า “ ผมมีข่าวข่าวหนึ่งจะมาบอกท่าน.......” “ รอประเดี๋ยว ” ปราชญ์ขัดจังหวะคำพูดของเขา “ ข่าวที่คุณจะบอกผมนั้นใช้ตะแกรงสามตัวล่อนแล้วหรือยัง ” “ ตะแกรงสามตัว ตะแกรงอะไรสามตัว ” คนผู้นั้นถามอย่างไม่เข้าใจ “ ตะแกรงตัวที่หนึ่งเรียกว่าความจริง ข่าวที่คุณจะบอกผมนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ” “ ไม่ทราบครับ ผมได้ยินเขาพูดกันบนท้องถนน ” “ งั้นตอนนี้ใช้ตะแกรงตัวที่สองตรวจสอบดูซิ ” ปราชญ์พูดต่อว่า “ ข่าวที่คุณจะบอกผมถึงจะไม่เป็นความจริง แต่ก็น่าจะเป็นเจตนาดีกระมัง ” ชายผู้นั้นตอบอย่างลังเลว่า “ ไม่ ไม่ พอดีมันตรงกันข้ามเลย ” ปราชญ์ขัดจังหวะคำพูดของเขาอีกครั้ง “ ถ้าอย่างนั้นเราใช้ตะแกรงตัวที่สาม ขอถามหน่อยว่า ข่าวที่ทำให้คุณตื่นเต้นถึงเพียงนี้สำคัญมากไหม ” “ ไม่สำคัญสักเท่าไหร่ ” ชายผู้นั้นตอบอย่างเกรงใจ ปราชญ์พูดว่า “ ในเมื่อสิ่งที่คุณอยากจะเล่าให้ผมฟังนั้นทั้งไม่เป็นเรื่องจริง และก็ไม่มีเจตนาดี ยิ่งกว่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีก ถ้าเช่นนั้นคุณก็ไม่ต้องเล่าดีกว่า เช่นนี้แล้วจะได้ไม่รบกวนทั้งคุณและผม ” ลองคิดดูว่า ปกติเวลาที่เรารีบร้อนที่จะเล่าเรื่องของผู้อื่น ก็เหมือนชายคนนี้ที่จะเล่าเรื่องให้ปราชญ์ฟังโดยไม่เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่นใช่หรือไม่ บางทีการใช้ ตะแกรง “ ความจริง เจตนาดี ความสำคัญ ” สามตัวนี้มาล่อนคำพูดของเราที่จะพูดออกไปเสียก่อน เราก็จะค้นพบว่า มีคำพูดมากมายที่ไม่จำเป็นต้องพูดเลย ฝึกการควบคุมลิ้นของเราให้ดีเถิด อย่าปล่อยให้มันทำอะไรส่งเดชตามอำเภอใจ คุณจะพบว่า เมื่อคุณควบควบปากของคุณดีแล้ว คุณก็จะดูแลชีวิตของคุณได้ดีทีเดียว *** นักเขียนชื่อ หลิว เจิ้น หวิน มีเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งชื่อว่า ( เหลวไหลทั้งเพ ) เขาเห็นว่า คำพูดของเราที่พูดกันในแต่ละวันนั้นส่วนใหญ่จะเหลวไหลไร้สาระเสียมากกว่า ความจริง คำพูดเหลวไหลบางครั้งไม่พูดไม่ได้ แต่คำพูดเหลวไหลบางอย่างไม่ควรพูดเลยจะดีกว่า *****   Create Date : 30 ธันวาคม 2553     Last Update : 30 ธันวาคม 2553 8:46:29 น. Counter : 432 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ใช้ความยิ่งใหญ่แห่งรักทำกุศลเล็ก ๆ แม่ชีเทเลซ่าเคยพูดเมื่อยังมีชีวิตอยู่ว่า “ ความยากจนเป็นของขวัญที่พระเจ้ามอบให้ ” กล่าวสำหรับผู้ที่ไม่นึกเสียใจหรือไม่รู้สึกละอายต่อชีวิตแล้ว ในส่วนลึกของหัวใจจะรู้สึกเป็นปลื้มและอิสระตลอดกาล ตอนที่แม่ชีเทเลซ่าพบกับเจ้าหญิงไดอาน่านั้น เครื่องแต่งกายของทั้งคู่นั้นไม่อาจนำมาเปรียบกันได้เลย แต่ว่า แม่ชีเทเลซ่าไม่รู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยแม้แต่น้อย เพราะว่าทั้งชีวิตของเธอมีคุณูปการต่อโลก เธอมี “ ของขวัญจากพระเจ้า ” มากมายนับไม่ถ้วน ฉะนั้น จึงไม่มีปมอะไรในใจ มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ หวงเซ่าฉี ปีหนึ่งในช่วงฤดูหนาว ใกล้จะถึงวันตรุษจีนแล้ว ขณะที่ผมกำลังส่งแขกขึ้นรถไฟ ได้พบกับเขาโดยบังเอิญ ตอนนั้นเขากำลังตกอับ กำลังรับจ้างขัดรองเท้าให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา จากการทักทายถามสารทุกข์สุกดิบจึงรู้ว่าเงินของเขาที่ได้มาด้วยความยากลำบากจากการทำงานในโรงงานรองเท้าแห่งหนึ่งทั้งปี โดนขโมยเอาไปจนหมด เขาใช้คำว่า “ เอาไป ” เพราะว่าเขาเชื่อว่าขโมยคนนั้นคงจะยากจนกว่าเขาอีก เขามักจะมีจิตใจสงสารคนยากคนจนเสมอ กระทั่งไม่ยอมใช้คำว่า “ ขโมย ” เพื่อที่จะหาเงินให้พอเป็นค่าเดินทางกลับบ้านที่เสฉวน เขาจึงตั้งแผงชั่วคราวเพื่อรับจ้างขัดรองเท้า ค่าตั๋วรถในตลาดมืดก็แสนแพง เขาซื้อไม่ไหว แต่จะซื้อตั๋วจากห้องตั๋วก็ยิ่งยากกว่าการได้กลับไปที่ “ จ๊กก๊ก ” เสียอีก ผมตัดสินใจช่วยเหลือเขา โดยอาศัยหลักฐานการเป็นนักข่าวได้ตั๋วมาโดยไม่ยาก ซื้อตั๋วชั้นสามให้เขาใบหนึ่ง ช่วยเขาประหยัดได้ถึง 300 กว่าเหรียญไปในตัว เขารู้สึกซาบซึ้งมาก พูดคำที่ทำให้ผมไม่อาจลืมได้ชั่วชีวิตว่า “คุณเป็นผู้มอบตรุษจีนปีนี้แก่ผม ” เขากล่าวเกินไปแล้ว ผมเพียงแต่ทำเท่าที่ทำได้ ไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก แต่เขาบอกว่า “ คุณมีความตั้งใจ อันนี้สำคัญมาก ” เขายกย่องผม เรื่องเล็ก ๆ เช่นนี้ได้เปลี่ยนอารมณ์ผมจนรู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว นี่แหละคือสิ่งที่แม่ชีเทเลซ่าริเริ่มส่งเสริม--------ใช้ความรักที่ยิ่งใหญ่กระทำกุศลเล็ก ๆ ปัจจุบัน ผมและเซ่าฉียังติดต่อกันอยู่ ตรุษจีนของทุกปี ผมจะได้รับคำอวยพรและปรารถนาดีที่จริงใจจากเขา หากมองจากความหมายในมุมนี้ ผู้ที่ได้ประโยชน์คือผม เขาทำให้ผมรู้สึกถึงความสวยงามของชีวิต ในโลกนี้เต็มไปด้วยเสียงขานรับของความรักในทุก ๆ ที่ อย่าได้แต่จ้องไปที่เสื้อผ้าอาภรณ์หรือรถยนต์คันหรูของเศรษฐี ความจริง สายตาที่ใสซื่อของคนจน ก็มีค่าเช่นกัน มันทำให้คุณยืนหยัดต่อไปได้ ทำให้คุณรู้สึกว่ายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากมาย และทำให้คุณรู้สึกว่าเหรียญที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาดีงามที่ถูกโยนลงไปในตู้รับบริจาคนั้น มีเสียงตอบกลับที่สวยงามดัง “ ติ๊งติ๊งตั๊งตั๊ง ” ผมเคยจนมาก่อน ตอนนี้ก็ยังไม่รวย และยังมี “ญาติมิตรสหายที่ยากจน ” ห้อมล้อมอยู่ แต่ผมรู้สึกได้ว่า การได้ให้ความหวังแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือแม้เพียงเล็กน้อยเท่าที่เราจะทำได้ ก็เป็นเรื่องดีที่สวยงามยิ่ง “ ความจน ” คือสิ่งที่เราต้องนำมาศึกษาพิจารณากันตลอดไป มันทำให้เราเรียนรู้ที่จะถนอมรักความสุข เรียนรู้เมตตาธรรมและการให้อภัย ขอให้พวกเราได้ลิ้มรสในการใช้ความรักที่ยิ่งใหญ่ของตน ทำเรื่องดีเรื่องกุศลเล็ก ๆ เราก็จะมีความสุขมากจริง ๆ *** ความรักเล็กน้อยเช่นนี้ แพร่กระจายออกไป แผ่ขยายเข้ามา จึงจะสามารถรวมตัวเป็นมหาสมุทรแห่งรัก ผู้ที่พูดถึงรักเพียงด้านทฤษฎีแต่ไม่มีการกระทำที่เป็นรูปธรรมนั้น แท้ที่จริงคือผู้ที่ไม่มีหัวใจของความรักเลย *****   Create Date : 18 ธันวาคม 2553     Last Update : 18 ธันวาคม 2553 7:39:05 น. Counter : 458 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang