|
ความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์ เพราะเหตุใดประเทศที่พัฒนาแล้วในยุโรปจึงได้เข้มแข็งและมั่งคั่ง หากท่านเดินทางไปท่องเที่ยวที่ออสเตรียด้วยตนเอง (มิได้ไปกับกรุ๊ปทัวร์) การไปนั่งรถ นั่งเรือจะไม่มีใครมาตรวจตั๋วหรือเก็บตั๋วแต่อย่างใด และคุณธรรมก็เป็นปัจจัยพื้นฐานของการยกระดับความมั่นคงมั่งคั่งของประเทศ ในรายการสนทนาของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง แขกผู้ถูกรับเชิญเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง ตอนท้ายรายการ ผู้ดำเนินรายการได้ถามคำถามหนึ่งว่า ท่านคิดว่าอะไรคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจ เขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่มิได้ตอบคำถามนี้โดยตรง แต่กลับเล่านิทานเรื่องนี้ด้วยท่าทีที่สงบนิ่ง.. สิบสองปีก่อน มีไอ้หนุ่มจีนคนหนึ่งเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยก็เดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศส เริ่มต้นชีวิตนักเรียนนอกด้วยการเรียนไปทำงานไป ในเวลาไม่นาน เขาสังเกตุเห็นว่าระบบขายตั๋วของการขนส่งสาธารณะของที่นั่นเป็นระบบช่วยตัวเอง นั่นหมายความว่าหากท่านต้องการไปที่ไหนก็ซื้อตั๋วเอาเอง สถานนีแต่ละแห่งก็เกือบจะเปิดกว้างโดยไม่มีจุดตรวจตั๋ว และก็ไม่มีพนักงานตรวจตั๋ว แม้แต่การสุ่มตรวจก็เกิดขึ้นน้อยมาก เขาค้นพบช่องโหว่นี้ หรือจะพูดว่าตามวิธีคิดของเขานี่คือจุดรั่วไหล อาศัยความชาญฉลาดของตัวเอง เขาคำนวญได้ว่าจากสถิติแล้วจะมีผู้ที่ขึ้นรถโดยไม่ซื้อตั๋วแล้วถูกจับได้จากการสุ่มตรวจเพียงร้อยละ0.00003 หรือสามคนในหนึ่งหมื่นคน เขารู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องในการค้นพบของตนเอง หลังจากนั้น เขาก็ขึ้นรถโดยไม่ซื้อตั๋วเป็นประจำ และไม่ลืมที่จะหาเหตุผลข้ออ้างให้กับตัวเองว่า ก็เพราะข้าเป็นนักเรียนยากจนนี่นา ประหยัดได้นิดหน่อยก็ยังดี สี่ปีผ่านไป เขาภาคภูมิใจกับเกียริตนิยมเหรียญทองจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของตนเอง และเริ่มเดินเข้าสมัครงานในบริษัทข้ามชาติใหญ่ๆในกรุงปารีส และแนะนำตนเองอย่างมั่นอกมั่นใจ เพราะรู้ดีว่าบริษัทข้ามชาติเหล่านี้กำลังขยายงานและธุรกิจสู่ตลาดในเอเชีย แต่บริษัทเหล่านี้เริ่มต้นก็สนใจในคุณสมบัติของเขาเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ปฎิเสธเขาอย่างนุ่มนวล จากการล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เขาโกรธแค้นมาก เขาเข้าใจว่าบริษัทเหล่านี้จะต้องมีปัญหาเหยียดสีผิว รังเกียจชาวจีนเป็นแน่แท้ ครั้งหลังสุด เขาบุกเข้าไปในออฟฟิศของบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อเข้าพบผู้จัดการฝ่ายบุคคลและขอร้องให้ผู้จัดการชี้แจงสาเหตุและเหตุผลที่ปฎิเสธในการรับเขาเข้าทำงาน ทว่า สุดท้าย คำตอบกลับเป็นสิ่งที่เขาคาดคิดไม่ถึง และนี่คือบทสนทนาตอนหนึ่ง บริษัทเราไม่มีความคิดเหยียดคุณ ตรงกันข้ามกลับให้ความสำคัญกับคุณมาก เนื่องเพราะบริษัทเรากำลังขยายธุรกิจไปยังตลาดในประเทศจีน พวกเรากำลังต้องการคนพื้นที่ที่มีความสามารถโดดเด่นมาช่วยบรรลุภารกิจนี้ ฉะนั้น เมื่อตอนคุณมาสมัครงานกับเรา เราสนใจในมารตฐานและเบื้องหลังการศึกษาของคุณเป็นอย่างยิ่ง พูดตรงๆ ได้เลยว่า ด้านความสามารถทางการงาน คุณคือบุคลากรที่เรากำลังสรรหาอยู่ เอ้า แล้วทำไมไม่รับคนที่มีคุณสมบัติเลิศเลอนี้ไว้ทำงานในบริษัทคุณล่ะ เพราะว่าเราได้ตรวจดูจากบันทึกข้อมูลด้านเครดิตของคุณ เราพบว่าคุณเคยถูกปรับจากการขึ้นรถประจำทางแล้วไม่ได้ซื้อตั๋วถึงสามครั้ง ผมไม่ปฎิเสธในข้อนี้ แต่นั่นมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น แล้วพวกคุณถึงกับยอมละทิ้งบุคคลากรที่มีความสามารถที่เคยเขียนบทวิจารณ์ทางหน้าหนังสือพิมพ์ เรื่องเล็กเช่นนั้นหรือ พวกเราไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก พวกเราสังเกตุเห็นว่า คุณหลบการซื้อตั๋วครั้งแรกหลังจากที่คุณเข้าประเทศของเราแล้วหนึ่งสัปดาห์ พนักงานตรวจเชื่อในคำอธิบายของคุณว่ายังไม่คุ้นเคยกับระบบขายตั๋วอัตโนมัติ เพียงแค่ให้คุณซื้อตั๋วใหม่ แต่หลังจากครั้งนั้น คุณยังหลบการซื้อตั๋วอีกสองครั้ง แต่นั่นเป็นเพราะตอนนั้นในกระเป๋าของผมไม่มีเศษสตางค์ต่างหาก ไม่ ไม่ ผมไม่เห็นด้วยกับข้ออธิบายนี้ เพราะคุณกำลังสงสัยในปัญญาของผม ผมเชื่อว่าก่อนที่คุณจะถูกตรวจจับได้ เป็นไปได้ว่าคุณทำเช่นนี้มาเป็นร้อยครั้งแล้ว แต่นั่นก็โทษไม่ถึงตาย ทำไมต้องจริงจังมากนัก ผมจะแก้ไขในภายหลังไม่ได้หรือ ไม่ ไม่ เรื่องนี้พิสูจน์ได้สองข้อ 1. คุณไม่เคารพกฎระเบียบ ไม่เพียงเท่านี้ คุณยังสันทัดในการค้นพบช่องโหว่ของกฎและใช้มันโดยเจตนาไม่บริสุทธิ 2. คุณขาดความน่าเชื่อถือ ในขณะที่บริษัทของเรามีหน้าที่การงานมากมายที่ต้องดำเนินการโดยอาศัยความน่าเชื่อถือ เพราะถ้าคุณจะต้องรับผิดชอบการบุกเบิกตลาดในแต่ละท้องที่ บริษัทจะต้องมอบหมายอำนาจให้คุณอย่างมากมาย และเพื่อความประหยัดลดค่าใช้จ่าย พวกเราไม่สามารถที่จะจัดตั้งองค์กรคอยตรวจสอบ ก็เหมือนระบบขนส่งสาธารณะของเรา เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถจะจ้างคุณได้ และก็ฟันธงได้เลยว่าในประเทศนี้และกระทั่งในประเทศยุโรปทั้งหมด คุณคงจะหาบริษัทที่จะรับคุณไว้ทำงานไม่ได้ ถึงตอนนี้ เขาเหมือนตื่นจากฝัน รู้สึกเสียใจ ทว่า สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากกว่านั้นกลับเป็นประโยคสุดท้ายของคู่สนทนา *** บ่อยครั้งที่คุณธรรมสามารถชดเชยปัญญาความรู้ที่ขาดหายไป แต่ปัญญาความรู้กลับไม่สามารถเติมเต็มคุณธรรมที่ว่างเปล่าได้
Create Date : 26 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 20:32:46 น. |
|
1 comments
|
Counter : 451 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ทิดชา วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:22:08:07 น. |
|
|
|
| |
|
|
ทุกครั้งที่ผมได้ยินคนเล่าเรื่องเราชนะสงครามโลกแบบไม่ตรงๆ แล้วคนฟังหัวเราะ ผมสะอึกทุกที