ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง
Group Blog
 
All Blogs
 
การศึกษาขั้นสูง

***ความขยันหมั่นเพียร เรียบๆ ง่าย ๆ เป็นคุณธรรมที่ดีงามขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และการประหยัดมัธยัสถ์คือวิธีการสะสมความมั่งคั่งขั้นพื้นฐาน
เหว่ย หลังจากสอบตกในชั้นมัธยมปลายแล้ว เขาจึงติดตามพี่ชายมาทำงานที่เมืองเซินเจิ้น เซินเจิ้นสวยงามมาก เขาชมจนลายตา พี่ชายถามว่าไม่เลวใช่ไหม เหว่ยตอบว่า ไม่เลวเลย พี่ชายพูดอีกว่า ดีน่ะดีอยู่ แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่บ้านของเรา คนเขาดูถูกเรา เหว่ยบอกว่า แต่ตัวเราเองอย่าดูถูกตัวเองก็ใช้ได้แล้ว
เหว่ยกับพี่ชายไปทำงานเย็บปะเต๊นท์ผ้าใบให้กับโกดังแห่งหนึ่งแถวท่าเรือ คืนวันหนึ่ง เกิดพายุฝนขึ้นทันใด เหว่ยลุกขึ้นจากเตียง วิ่งฝ่าสายฝนออกไป พี่ชายห้ามอย่างไรก็ไม่ได้ผล ด่าเขาว่าไอ้เซ่อ
มันเป็นโกดังกลางแจ้ง เหว่ยตรวจดูกองสินค้าทีละกอง ๆ จัดการคลุมผ้าใบให้แน่นหนายิ่งขึ้น ขณะนั้นเจ้านายขับรถเข้ามาพอดี เห็นเหว่ยเปียกปอนไปทั้งตัว เจ้านายเห็นสินค้าไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย บอกว่าจะขึ้นเงินเดือนให้กับเหว่ยเดี๋ยวนั้นเลย เหว่ยบอกว่าไม่ต้องหรอกครับ ผมเพียงแต่จะดูว่าผ้าใบที่ผมเย็บนั้นแข็งแรงแน่นหนาดีหรือไม่
เจ้านายเห็นว่าเขาช่างซื่อสัตย์เหลือเกิน จึงคิดที่จะให้เขาไปเป็นผู้จัดการของเขาในอีกบริษัทหนึ่ง เหว่ยบอกว่า ผมไม่ไหวหรอกครับ ให้คนที่มีระดับวัฒนธรรมการศึกษาสูงไปทำเถอะ เจ้านายบอกว่า ผมบอกว่าคุณทำได้คุณก็ต้องทำได้ คุณเหนือชั้นกว่าคนที่มีระดับวัฒนธรรมการศึกษาสูงก็คือคุณมีพลังของความซื่อ ด้วยประการฉะนี้เหว่ยจึงรับตำแหน่งผู้จัดการ
บริษัทเพิ่งเปิดใหม่ ต้องการรับสมัครพนักงานหนุ่มสาวที่มีการศึกษาสูงเพื่อทำงานธุรการ พี่ชายทราบข่าวรีบมาหา บอกว่าช่วยจัดการให้ฉันได้เป็นพนักงานในตำแหน่งที่ดี ๆ หน่อย เหว่ยบอกว่า พี่ทำไม่ได้ พี่ชายว่า เฝ้าประตูก็ยังไม่ได้หรือ เหว่ยว่า ไม่ได้ เพราะพี่ไม่สามารถทำงานให้เหมือนกับเป็นงานของตนเอง พี่ชายโกรธจนหน้าแดงก่ำ ด่าว่าเขาไม่มีจิตสำนึก เหว่ยบอกว่าการเห็นงานบริษัทเป็นเหมือนงานของตัวเองนั่นแหละจึงจะเรียกว่ามีจิตสำนึกต่างหาก
ที่บริษัทมีนักศึกษาปริญญาตรีเข้ามาทำงานหลายคน กิจการเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว นักศึกษาเหล่านี้ไม่รู้ว่าไปได้ข่าวพื้นเพของเหว่ยจากไหน รู้สึกไม่ยอมรับในตัวเขา เหว่ยล่วงรู้แต่ก็ไม่โกรธ พูดว่า ในเมื่อพวกเราต้องร่วมงานกัน ก็ควรจะทำงานให้ดี ตำแหน่งผู้จัดการของผมใครๆ ก็นั่งได้ แต่ค่าที่แท้จริงของมันไม่ใช่ที่ตำแหน่งนี้แต่อย่างใด นักศึกษาหลายคนต่างมองหน้ากันไม่ได้ปริปากอีก
บริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่งได้ข่าวว่าบริษัทของเหว่ยมีแนวโน้มที่จะพัฒนาได้ดี จึงคิดที่จะร่วมทุนในโครงการหนึ่ง ผู้ช่วยของเหว่ยบอกว่า นี่อาจจะเป็นปลาตัวใหญ่เลยทีเดียว เหว่ยบอกว่า ถูกต้องเลย
นักธุรกิจข้ามชาติมาแล้ว เป็นชาวจีนนอกสัญชาติ เขาพาเลขาและล่ามมาด้วย เหว่ยถามด้วยภาษาอังกฤษ “ คุณครับ พูดภาษาจีนแมนดารินได้ไหมครับ ” นักธุรกิจข้ามชาติตะลึง ตอบว่า “ พูดได้ ” เหว่ยจึงบอกว่า “พวกเราพูดคุยกันด้วยแมนดารินนะครับ” นักธุรกิจข้ามชาติตอบ
“ โอเค ”
การเจรจาเสร็จสิ้น เหว่ยเชิญนักธุรกิจข้ามชาติรับประทานอาหารค่ำ มื้ออาหารค่ำเรียบง่ายมาก แต่มีสีสรรเป็นพิเศษ อาหารทุกจานรับประทานจนเกลี้ยง เหลือเพียงเสี่ยวล้งเปาสองใบ เหว่ยพูดกับพนักงาน
เสริฟว่า “ ช่วยนำซาลาเปาสองใบนี้ใส่ถุงให้หน่อย ผมจะนำกลับบ้าน” น้ำเสียงของเขาเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง ผู้ช่วยของเขากลับรู้สึกเครียดขึ้นมา คอยมองดูสีหน้านักธุรกิจข้ามชาติ นักธุรกิจข้ามชาติยืนขึ้น จับมือเหว่ย
แน่นว่า “ โอเค พรุ่งนี้เราเซ็นต์สัญญากันได้เลย ”
การเจรจาสำเร็จด้วยดี เจ้านายจัดงานเลี้ยงรับรองนักธุรกิจข้ามชาติ เหว่ยและผู้ช่วยของเขาไปร่วมงาน ระหว่างงานนักธุรกิจถามเหว่ยเบาๆ ว่า “คุณจบการศึกษาอะไรมาบ้าง ทำไมจึงทำงานได้ดีเพียงนี้ “ เหว่ยว่า
“ บ้านของผมยากจน พ่อแม่ไม่รู้หนังสือ แต่พวกเขาอบรมผมมาเริ่มต้นจากเมล็ดข้าวหนึ่งเม็ด เส้นด้ายหนึ่งเส้น ต่อมา คุณแม่ของผมเสีย คุณพ่อส่งผมเรียนด้วยความเหนื่อยยาก ท่านบอกว่า ฉันไม่ได้หวังให้เธอสูงเด่นกว่าคนทั้งหลาย เพียงสามารถทำงานของตนเองให้ดีก็พอ........” เจ้านายเขาน้ำตาคลอเบ้า เขายกแก้วเหล้าขึ้น พูดกับเหว่ยว่า ผมขอคารวะท่านผู้เฒ่าหนึ่งจอก เขามอบการศึกษาอบรมที่ดีที่สุดในชีวิตแก่คุณ “
*****



Create Date : 03 มิถุนายน 2554
Last Update : 3 มิถุนายน 2554 8:26:21 น. 0 comments
Counter : 791 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

syrubbocaboro
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add syrubbocaboro's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.