|
ตั๋วรถเมล์ใบหนึ่ง
ในที่สุดรถโดยสารก็โยกๆ เยก ๆ เข้าจอดที่สถานีแล้ว ที่สถานีรถคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ยืนคอย ชั่วพริบตาดังผึ้งแตกรังต่างแย่งกันเบียดขึ้นไปบนรถ ห้องโดยสารที่แน่นอยู่แล้วยิ่งคับแคบขึ้นไปอีก เวลานี้พอดีเป็นฤดูร้อนที่ร้อนจัด บนรถไม่มีแอร์ ผู้โดยสารต่างสบถว่าอากาศช่างร้อนอย่างโหดร้ายและรถราก็ติด ผู้คนอัดแน่นราวปลากระป๋องบนรถที่เคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ ท่ามกลางผู้โดยสารมีชายชราผมขาวคนหนึ่ง เสื้อผ้ารุ่งริ่ง หิ้วลังไม้ใบใหญ่ที่ดูหนักอึ้งและสกปรก เห็นแล้วรู้ได้เลยว่าไม่ใช่คนในเมือง ขณะนี้เขากำลังลากลังไม้เดินขึ้นมาอย่างยากลำบาก ผู้โดยสารบนรถเห็นท่าทางของเขาต่างแสดงอาการรังเกียจออกมา พยายามอยู่ให้ห่างเขาราวกับว่าเขาเป็นตัวเชื้อโรค พนักงานขายตั๋วพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่า เอาลังของคุณวางชิดในหน่อย อย่าขวางทาง ชายชราฟังแล้วรีบลากลังไม้ชิดกับหน้าต่างรถ ไม่คาดว่า ผู้โดยสารที่นั่งอย่างสบายริมหน้าต่างร้องเสียงแหลมขึ้นว่า เอามันออกไปให้ห่างจากฉัน ชายชราจำต้องลากเอาลังไม้ไปที่ทางเดินอย่างเดิม พนักงานขายตั๋วอารมณ์เสีย แต่ก็ไม่กล้าต่อว่าผู้โดยสารที่ร้องเสียงแหลมผู้นั้น จำต้องขายตั๋วให้ชายชราด้วยหน้าตาบึ้งตึง ชายชราล้วงเอาธนบัตรยับยู่ยี่มูลค่าหนึ่งเหรียญออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ส่งให้พนักงานขายตั๋ว พนักงานขายตั๋วไม่ได้รับมันมาทันที แต่ใช้สายตาเหล่ไปที่เขาแล้วพูดว่า ยังขาดหนึ่งเหรียญ อะไรนะ ยังขาดไปหนึ่งเหรียญ ชายชราเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ ถามด้วยสำเนียงพื้นบ้านที่ฟังยาก เสียงหัวเราะระเบิดขึ้นทันทีในห้องโดยสาร หลังจากเสียงหัวเราะหยุดลง หนักงานขายตั๋วชี้ไปที่ลังไม้พูดว่า ลังไม้นี้ไม่ต้องจ่ายหรือไง ชายชราคิดจะโต้แย้งแต่ก็สกดเอาไว้ อาจจะเกรงว่าสำเนียงพื้นบ้านของเขาจะยั่วให้ผู้คนทั้งหลายหัวเราะเขาอีก เขาจึงใช้มือดุจใบไม้ที่เหี่ยวแห้งควานหาในกระเป๋าเสื้อ แต่ว่าครั้งนี้นอกจากเศษผ้าและเศษกระดาษหลายแผ่นแล้ว ไม่พบอะไรในกระเป๋าอีกเลย พนักงานขายตั๋วรู้สึกรำคาญ รีบหน่อยไม่ได้หรือไง ชายชราหน้าแดงก่ำ เขาสกดอารมณ์เอาไว้ พลิกกระเป๋าดูอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่พบอะไรเลย ทำไมหายไปไหนแล้ว ชายชราบ่นกับตัวเอง ร้อนรนจนเหงื่อท่วมหน้าผาก หรือว่าโดนขโมยล้วงไปแล้ว มีผู้โดยสารพูดขึ้นอย่างเห็นใจ ไม่กระมัง ฉันว่าเขาคงคิดจะเบี้ยวไม่จ่ายมากกว่า เสียงที่พูดหยาบกระด้าง นั่นแหละ เขาจะมีเงินอะไร ใครขโมยของเขาก็โง่เต็มที เสียงหนึ่งตอบรับกัน ผู้คนฟังแล้วหัวเราะพร้อมกัน ราวกับว่าคำพูดนี่ช่างน่าตลกขบขันเสียนี่กระไร ชายชรายิ่งร้อนรน เขาพลิกกระเป๋าไปมาไม่หยุด พลางบ่นพึมพำราวกำลังสบถ เวลานี้เองเด็กหญิงที่อยู่แถวหลังสุดเดินเบียดผู้คนออกมา เธอเดินมาที่พนักงานขายตั๋ว ชูเหรียญหนึ่งเหรียญขึ้นมาพูดว่า คุณน้าคะ กรุณาให้ตั๋วกับคุณตาผู้นี้หนึ่งใบด้วยค่ะ ในห้องผู้โดยสารเงียบเสียงลงทันที พนักงานขายตั๋วตลึงงัน ไม่รู้จะรับหรือไม่รับดี เด็กหญิงรออยู่นาน วางเหรียญลงบนโต๊ะขายตั๋ว ตอนนี้พนักงานขายตั๋วจึงมีปฎิกิริยาโต้ตอบ เธอไม่ได้รับเงินเหรียญนั้น แต่พูดแก้เก้ออย่างอารมณ์เสียว่า ลูกสาวบ้านไหนกันนะใช้เงินอย่างหลับหูหลับตา จากนั้นฉีกตั๋วมาสองใบ หาเจอแล้ว หาเจอแล้ว ชายชราโบกกระเป๋าใบเล็กที่ห่อด้วยผ้าตะโกนอย่างดีใจ ผู้คนมองดูเขาอย่างเงียบ ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี เห็นชายชราเปิดกระเป๋าออกอย่างระมัดระวัง ดึงธนบัตรใบละหนึ่งเหรียญออกมา รวมกับธนบัตรใบแรกเดินไปวางไว้บนโต๊ะขายตั๋วต่อหน้าพนักงาน เช่นนี้แล้วบนโต๊ะจึงมีเงินรวมสามเหรียญ เหรียญกษาปณ์ทีเงาวับกับธนบัตรสองใบที่ยับยู่ยี่ จะทำอย่างไรดีนะ พนักงานขายตั๋วครุ่นคิดอย่างกลุ้มใจ เธอรู้สึกได้ว่าทุกสายตาบนรถล้วนจับจ้องที่ตัวเธอ เธออยากจะบอกกับเด็กหญิงว่าเก็บเอาเหรียญของเธอคืนไป เขาจ่ายเงินให้แล้ว เธอยังอยากจะบอกกับชายชราว่าเงินของคุณพอจ่ายแล้ว นี่คือตั๋วสองใบ ใบหนึ่งสำหรับคุณ ใบหนึ่งสำหรับลังไม้ แต่ว่าในที่สุดอะไรเธอก็ไม่ได้พูดออกไป แต่กลับเอาตั๋วหนึ่งในสองใบที่ฉีกไว้เมื่อสักครู่นี้กับธนบัตรหนึ่งเหรียญยื่นให้แก่ชายชรา สื่อความหมายว่าไม่เก็บค่าลังแล้ว จากนั้นเธอเดินไปที่แถวหลังเอาเงินเหรียญหนึ่งเหรียญคืนให้แก่เด็กหญิง เด็กหญิงกำเหรียญในมือแน่น มองดูชายชราอย่างสนิทสนม ชายชราก็มองดูเธอด้วยสายตาที่ซาบซึ้ง ในที่สุดรถใกล้ถึงสถานีแล้ว ผู้คนในรถต่างรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก ***การเป็นคน อย่าละลืมในความเห็นใจอย่างเด็ดขาด อย่าละลืมการให้ความเคารพผู้อื่น อย่าละลืมการให้ความเชื่อถือ อย่าลืมว่าตัวเองก็เคยเหมือนเช่นเด็กหญิงคนนี้ที่ศรัทธาในความดีงาม ต่อผู้ที่ประสบกับความยากลำบากควรจะเปี่ยมไปด้วยความรักและเมตตา *****
Create Date : 23 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 23 พฤษภาคม 2554 7:17:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 451 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|