มันอยู่ที่ใจ
มันอยู่ที่ใจ
วันนั้น ผมยืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์ร้าจิวเวอลี่แห่งหนึ่ง วางถุงที่ใส่หนังสือไว้ข้าง ๆ ขณะที่ผมกำลังเลือกเครื่องเพชรอยู่นั้น ชายคนหนึ่งแต่งตัวภูมิฐานดูบุคลิกผู้ดีก็เดินเข้ามาดูด้วย ผมขยับถุงใบนั้นออกอย่างเกรงใจ แต่ชายคนนั้นกลับจ้องมองผมด้วยความโกรธ และบอกผมว่าเขาเป็นสุภาพชน ไม่คิดที่จะขโมยของของผมเด็ดขาด เขาดูเหมือนตนเองได้รับการดูถูกเหยียดหยามอย่างยิ่ง ปิดประตูอย่างแรง ออกจากร้านไป ประสาท ผมโกรธมากที่อยู่ดีๆ ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็ถูกคนตะคอกเข้าให้ ไม่มีแก่ใจดูเครื่องเพชรต่อไป ออกจากร้านขับรถกลับบ้าน รถบนถนนติดยาวดูคล้ายกับหนอนโง่ๆ ตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่ค่อยๆ กระดึบๆ ผมเหลียวมองดูรถทางซ้ายขวาหน้าหลังก็ยิ่งรู้สึกอารมณ์เสีย รถมาจากไหนกันนักกันหนา คนขับที่แสนงี่เง่า ขับรถไม่เป็นนี่หว่า ไอ้บ้านั่นก็ขับเสียเร็ว อยากตายหรือไง ไอ้บ้านี่ก็ขับช้า หัดมาภาษาอะไรถึงได้ขับรถห่วยอย่างนี้ อย่างนี้ต้องตัดเงินเดือนครูฝึก............. ต่อมารถผมถึงสี่แยกพร้อมๆ กับรถบรรทุกใหญ่คันหนึ่ง ผมคิด ไอ้หมอนี่ต้องพุ่งรถออกมาก่อนแน่เลย เพราะถือว่ารถคันใหญ่กว่า ขณะที่จิตใต้สำนึกผมบอกให้ชะลอรถลงเพื่อให้เขาไปก่อน รถบรรทุกคันนั้นกลับชะลอความเร็ว คนขับยื่นศรีษะออกจากหน้าต่างแล้วโบกมือให้ผมไปก่อน ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใสและเปิดกว้าง ผมแล่นรถผ่านแยกมา หัวใจที่อัดแน่นไปด้วยความทุกข์กลับอันตรธานไปสิ้น รู้สึกโล่งไปเลย ชายในร้านเครื่องเพชรไม่รู้ไปอารมณ์เสียจากไหนมา แล้วพาอารมณ์ที่ขุ่นมัวมาติดต่อให้ผม เมื่ออารมณ์ขุ่นมัวเสียแล้ว รู้สึกมองคนในโลกนี้เป็นศัตรูไปหมด ดูเหมือนเรื่องทุกเรื่อง คนทุกคนกำลังหาเรื่องกับผม แต่คนขับรถบรรทุกใช้รอยยิ้มที่เจิดจ้าสดใส อารมณ์ที่ดีขจัดความรู้สึกที่เป็นศัตรูของผมไปเสียสิ้น เมื่อมีจิตใจที่เบิกบาน จึงจะได้ยินเสียงร้องเพลงของนก *** โลกไม่ได้เปลี่ยน ที่เปลี่ยนไปคืออารมณ์ของคนต่างหาก
*****
Create Date : 16 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2553 16:12:05 น. |
|
1 comments
|
Counter : 440 Pageviews. |
|
|
|
ก้อนเนื้อเล็กเท่ากำปั้นมือก้อนนี้
สำคัญมาก ควบคุมชีวิตได้เสมอ
ใจเย็น อารมณ์จะได้เย็น โลกนี้จะสวยขึ้น
ขอบคุณมาก