|
ศักดิ์ศรีคนจน
สามีเป็นครูสอนอยู่ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง พวกเราจึงอาศัยอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ วันนี้ มีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งมาเคาะประตู คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอเป็นชายวัยกลางคน ดูจากหน้าตาแล้วเห็นได้ชัดว่าเป็นพ่อของเด็กนักเรียนหญิง เมื่อเข้าบ้านแล้ว พ่อลูกนั่งลงด้วยอาการสำรวมอย่างมาก พวกเขาไม่ได้มีกิจอันใด เพียงแต่ผู้เป็นพ่อขี่จักรยานมาระยะทาง 80 กิโลเมตรเพื่อจะเยี่ยมลูกสาว และแวะมาทำความรู้จักกับคุณครูสักหน่อย ผู้เป็นพ่อพูด ที่บ้านนอกไม่มีของอะไรแปลกใหม่ จึงนำไข่ไก่ที่เพิ่งออกใหม่มาฝากสิบกว่าฟอง พูดพรางล้วงมือไปในห่อผ้าที่สะพายอยู่กับตัว ในห่อผ้าที่เต็มไปด้วยแกลบมีไข่ไก่อยู่สิบกว่าฟอง เห็นได้ชัดว่าเขาห่อมันอย่างทะนุถนอม เกรงว่าไข่ไก่จะกระทบแตก ฉันเสนอให้พวกเราห่อเกี๊ยวมากินกันในมื้อเที่ยง สีหน้าสองพ่อลูกดูเหมือนมีอาการหวาดหวั่น พูดยังไงก็ไม่ยอมอยู่กินมื้อเที่ยง ฉันต้องใช้ศักดิ์ศรีความเป็นครูจึงจะ สยบ พวกเขาอยู่ กินเกี๊ยวเสร็จแล้ว สองพ่อลูกยังมีอาการเกร็งๆ แต่ท่าทางดีใจมาก เมื่อส่งสองพ่อลูกกลับไปแล้ว สามีมีสีหน้าประหลาดใจมาก เขาสงสัยว่าแต่ไหนแต่ไรมาฉันจะปฎิเสธของขวัญที่มีคนนำมาให้ทุกครั้งไป แต่ทำไมแค่ไข่ไก่สิบกว่าฟองทำให้ฉันดูนอบน้อมถึงเพียงนี้ และยังรั้งให้สองพ่อลูกอยู่กินเกี๊ยวกันเป็นกรณีพิเศษอีก มองดูสายตาที่ฉงนสงสัยของสามี ฉันยิ้มยิ้มแล้วเล่าเรื่องราวเมื่อ 20 ปีก่อนที่ตัวเองได้ประสบมาให้เขาฟัง...... สมัยที่ฉันอายุ 10 ขวบ วันหนึ่งในฤดูร้อน พ่อของฉันมีธุระจะโทรศัพท์ให้อาที่อยู่ต่างจังหวัด เวลานั้นค่ำแล้ว ฉันเดินตามหลังพ่อไปที่ทำการไปรษณีย์ในตัวตำบลที่อยู่ห่างออกไปสิบกิโลเมตร ถุงผ้าที่สะพายอยู่บนไหล่ของฉันบรรจุสาลี่ลูกใหญ่ ๆ 7 ลูก ที่เพิ่งเก็บมาจากต้นที่บ้าน สาลี่ต้นนี้ปลูกมา 3 ปี ปีนี้เป็นปีแรกที่ออกลูกมา 7 ลูก น้องสาวรดน้ำทุกวัน รอคอยให้มันเติบโต แต่ค่ำนี้ก็ถูกพ่อเด็ดมาหมดต้น น้องสาวร้อนรนใจมากได้แต่กระทืบเท้า พ่อตะคอกเสียงดังว่า จะเอามันไปเพื่อทำธุระ ที่ทำการไปรษณีย์เลิกงานไปนานแล้ว คนที่ดูแลโทรศัพท์เป็นญาติห่าง ๆ คนหนึ่ง พ่อบอกให้ฉันเรียกเขาว่าคุณน้า ตอนเข้าบ้าน คนในครอบครัวเขากำลังรับประทานอาหารค่ำกันอยู่ พ่อบอกถึงเจตนาที่มา คุณน้าทำเสียงอือคำเดียวไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย ฉันกับพ่อยืนรออยู่นอกประตู ภายใต้แสงไฟ เสื้อผ้าที่ทั้งเก่าทั้งขาดยิ่งดูยากจนซอมซ่อ รอจนกระทั่งคุณน้ากินข้าวเสร็จ แคะฟันเสร็จ ยืดเส้นยืดสายแล้วค่อยพูดขึ้นว่า เอาเบอร์โทรศัพท์มา รออยู่ที่นี่ ฉันจะไปดูว่าจะโทรติดหรือไม่ ห้านาทีผ่านไป คุณน้ากลับมาแล้วพูดว่า โทรติดต่อได้แล้ว พูดกันเข้าใจแล้ว ค่าโทรศัพท์ 95 เซ็นต์ พ่อรีบล้วงเงินจากกระเป๋ามอบให้ พ่อบอกฉันให้รีบเอาสาลี่ออกมา ไม่คาดคิดว่าคุณน้าโบกมือและพูดเสียงดังว่า ไม่ ไม่เอา ที่บ้านมีเยอะแยะไป พวกแกไปดูที่คอกหมูซิ แม้แต่หมูยังกินไม่หมด ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันเดินตามหลังพ่อ อุ้มห่อผ้าไว้เดินร้องไห้มาตลอดทาง เพียงแค่พวกเรายากจน สายเลือดและความเป็นญาติก็จางลง เพียงแค่พวกเรายากจน ในสายตาของผู้อื่นดูเหมือนไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นคนเหลืออยู่เลย ภายหลัง ในกระบวนการเติบโตของฉัน ท่าทางของการโบกไม้โบกมือของคุณน้าได้ฝังลึกอยู่ในใจฉันตลอดมา มันเหมือนแซ่ที่อ่อนนุ่มเส้นหนึ่งฟาดลงที่จิตวิญญาณของฉัน ฉันจะไม่ยอมทำท่าโบกมือเช่นเดียวกับคุณน้า ทำให้เด็กหญิงคนหนึ่งต้องมีร่องรอยบาดแผลสีเทาจารึกอยู่ในความทรงจำตลอดชีวิต ฉันเชื่อว่า เกี๊ยวของฉันวันนี้จะเหลือไว้ซึ่งความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนแก่เด็กหญิง เพราะว่าพลังแห่งรักนั้นยิ่งใหญ่กว่าพลังของการทำร้ายมากนัก *** เส้นแบ่งความรวยกับความจนมีสาเหตุที่ซับซ้อนมากมาย ณ. ที่นี้พวกเราจะไม่ถกกันในประเด็นนี้ แต่โปรดจำไว้ หากคุณเป็น คนจน โปรดเข้มแข็งไม่ระย่อ หากคุณเป็น คนรวย ก็จงโปรดปฎิบัติต่อผู้อื่นด้วยดี
*****
Create Date : 27 กันยายน 2553 | | |
Last Update : 27 กันยายน 2553 8:20:06 น. |
Counter : 424 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
แม่อูฐ
มีนักท่องที่ยวชาวอเมริกันคนหนึ่งได้เห็นฉากเช่นนี้ในทะเลทรายซาฮาร่าในทวีปอัฟริกา........ ในแถบทะเลทรายที่เวิ้งว้างไร้ผู้คน มีแม่อูฐตัวหนึ่งนำพาลูก ๆ ของมันก้มหน้าเดินไปในทะเลทราย และหยุดลงใช้จมูกของมันดมที่พื้นทรายเป็นระยะ ๆ( อ้างอิงตามความรู้ทั่วไปแล้ว ) นักท่องเที่ยวรู้ดีว่านี่คือการตามหาแหล่งน้ำของอูฐ เห็นได้ชัดว่าพวกมันกระหายน้ำอย่างแสนสาหัส อูฐน้อยหลายตัวเดินอย่างหมดอาลัยตายอยาก ภายใต้แสงเพลิงของดวงอาทิตย์ นัยตาของพวกมันกลายเป็นสีเลือด ดูเหมือนจะยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว นักท่องเที่ยวยังสังเกตุเห็นว่า อูฐน้อยเหล่านั้นเดินเบียดตัวแนบกับแม่อูฐ และแม่อูฐก็มักจะเดินต้อนให้ลูก ๆ เดินแอบอยู่ใต้เงาของมันตามทิศทางที่ต่างกัน ในที่สุด พวกมันมาถึงหนองน้ำรูปครึ่งวงกลมแห่งหนึ่ง พวกมันหยุดลง อูฐน้อยหลายตัวตื่นเต้นดีใจผิดปกติ ทำเสียงดังทางจมูก แต่ว่า น้ำในหนองช่างตื้นเขินเสียเหลือเกิน พวกอูฐน้อยยืนบนที่สูงไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ก้มลงกินน้ำไม่ถึง นาทีนี้นี่เอง ฉากที่ทำให้ผู้คนต้องตกใจก็เกิดขึ้น แม่อูฐเดินวนไปรอบ ๆ ลูกของมันหลายรอบ ทันใดนั้นก็กระโดดลงไปในหนอง.............ในที่สุดน้ำในหนองก็ยกระดับสูงขึ้นมาทันที พวกอูฐน้อยต่างก็สามารถกินน้ำในหนองได้สำเร็จ *** ก็เพราะด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ของแม่ จึงทำให้สรรพสิ่งมีชีวิตทั้งหลายสามารถดำรงสืบทอดเผ่าพันธุ์ต่อ ๆ ไปได้
*****
Create Date : 25 กันยายน 2553 | | |
Last Update : 25 กันยายน 2553 7:39:28 น. |
Counter : 422 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ไม่อยากรู้
สมัยที่ ตี๋ เหริน เจี๋ย ดำรงตำแหน่งเสนาบดีอยู่นั้น พระนาง บู๊ เจ๊ก เทียน ( พระเจ้าแผ่นดินหญิง ) พูดกับเขาว่า สมัยก่อนตอนที่ท่านอยู่ที่ หรู่หนาน ผลงานราชการดีเด่นมาก อยากรู้ไหมว่ามีใครเคยกล่าวหาท่านบ้าง ตี๋ เหริน เจี๋ย ขอบพระทัยแล้วทูลว่า หากใต้ฝ่าพระบาทคิดว่ากระหม่อมมีข้อผิดพลาดจริง ๆ แล้ว กระหม่อมจะต้องแก้ไขอย่างแน่นอน การที่ใต้ฝ่าพระบาทยอมที่จะกล่าวคำเหล่านี้กับกระหม่อม ถือเป็นเกียรติและเป็นโชคอย่างยิ่งสำหรับกระหม่อม หากกระหม่อมไม่รู้ว่าใครเคยกล่าวหากระหม่อมมาก่อน กระหม่อมก็จะสามารถมีท่าทีที่เป็นมิตรกับเขา เพราะฉะนั้นกระหม่อมขอร้องใต้ฝ่าพระบาทโปรดอย่าให้กระหม่อมรับทราบเรื่องราวที่แท้จริงเลย พระนาง บู๊ เจ๊ก เทียน รู้สึกประหลาดใจมาก และสะเทือนใจในท่าทีของเขา *** อย่าเสียเวลาและความคิดไปกับคำนินทาที่ไร้สาระ การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุด ประธานาธิบดี จอร์จ วอชิงตันเตือนเราว่า ควรที่จะทำอะไรก็ทำอย่างนั้น การนิ่งเงียบเป็นคำตอบที่ดีที่สุดต่อผู้ใส่ร้าย *****
Create Date : 24 กันยายน 2553 | | |
Last Update : 24 กันยายน 2553 8:31:48 น. |
Counter : 466 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
พิชิต
มีโจรปล้นคนหนึ่งถูกตำรวจล้อมจับขณะทำการปล้นธนาคารแห่งหนึ่ง เขาไม่มีทางถอย ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เขาฉวยจังหวะลากเอาคนคนหนึ่งท่ามกลางฝูงชนมาเป็นตัวประกัน ใช้ปืนจี้ที่หัวของตัวประกัน ขู่ตำรวจไม่ให้เข้าใกล้ พร้อมกับตะคอกตัวประกันว่าต้องฟังตามคำสั่งของเขา ตำรวจล้อมไว้ทั้งสี่ทิศ แต่ไม่กล้าขึ้นหน้าไป โจรปล้นจี้ตัวประกันฝ่าวงล้อมออกมา ทันใดนั้น ตัวประกันครวญครางเสียงดังขึ้นมา โจรปล้นรีบตะคอกให้ตัวประกันหุบปาก แต่เสียงครวญครางของตัวประกันยิ่งมาก็ยิ่งดัง สุดท้ายกลายเป็นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ท่ามกลางความหวาดหวั่นวุ่นวายนี้ โจรปล้นเพิ่งสังเกตุเห็นว่าที่แท้ตัวประกันเป็นหญิงตั้งครรภ์ เสียงร้องที่เจ็บปวดและอากัปกิริยาของเธอยืนยันได้ว่าภายใต้ความตกใจกลัวอย่างสุดขีดเธอกำลังจะคลอด เลือดสด ๆ ไหลเปื้อนเสื้อผ้าของเธอเต็มไปหมด สถานการณ์คับขันอย่างยิ่ง ด้านหนึ่งคือภัยจากเรือนจำที่เนิ่นยาวไร้กำหนด ด้านหนึ่งคือชีวิตหนึ่งที่กำลังจะลืมตาดูโลก โจรปล้นรู้สึกลังเล เลือกทางหนึ่งก็เท่ากับละทิ้งอีกทางหนึ่ง และการเลือกทั้งสองอย่างก็แสนลำบากยิ่งนัก ฝูงชนที่รายล้อมรวมทั้งตำรวจต่างเฝ้าจับจ้องการเคลื่อนไหวของโจรปล้น เพราะเบื้องหน้าการเลือกของโจรปล้นนั้นก็คือการประลองกำลังระหว่าง จิตสำนึกในบาปบุญคุณโทษ คุณธรรม กับเงินทองและความชั่วร้าย ในที่สุด โจรปล้นยกปืนขึ้นช้า ๆ เขาโยนปืนลงพื้นพร้อมกับยกสองมือขึ้น ตำรวจกรูกันเข้าไป ผู้คนที่มุงดูกลับตบมือเสียงดัง สตรีตั้งครรภ์ประคองตัวเองไม่ไหวแล้ว คนทั้งหลายจะช่วยกันนำเธอส่งโรงพยาบาล โจรปล้นที่ถูกใส่กุญแจมือไว้แล้วพูดขึ้นในทันใดว่า โปรดรอเดี๋ยว ได้ไหมครับ ผมเป็นหมอ ตำรวจลังเลอยู่ครู่หนึ่ง โจรปล้นพูดต่อว่า หญิงท้องผู้นี้คงจะอดทนรอถึงโรงพยาบาลไม่ไหวแล้ว มีโอกาสเป็นอันตรายถึงชีวิตทุกเมื่อ โปรดเชื่อผม ในที่สุดตำรวจก็เปิดล็อคกุญแจมือ เสียงร้องที่ก้องกังวาลทำเอาทุกคนที่ได้ยินตกใจ ผู้คนต่างไชโยโห่ร้อง โผเข้ากอดกัน มือของโจรปล้นชุ่มไปด้วยเลือดสด ๆ -------เป็นเลือดของชีวิตใหม่ แต่ไม่ใช่เลือดของความชั่วร้าย ใบหน้าของเขาปรากฎรอยยิ้มและความพึงพอใจของมืออาชีพ ผู้คนต่างส่งความปรารถนาดีมายังเขา ลืมไปแล้วว่าเขาคือโจรปล้น ตำรวจใส่กุญแจมือเขา เขาพูดว่า ขอบคุณพวกท่านที่อนุญาติให้ผมได้ทำหน้าที่แพทย์ของผม ชีวิตน้อย ๆ นี้เป็นทารกคนแรกที่คลอดภายในวันที่ผมใช้ปืนตั้งแต่ผมเป็นแพทย์มา ความกล้าหาญของเขาพิชิตใจผม ตอนนี้ผมหวังว่าตัวเองไม่ใช่โจรปล้น แต่เป็นหมอที่ช่วยชีวิตคน บางครั้งความชั่วสามารถพิชิตโดยชีวิตเล็ก ๆ ชีวิตหนึ่ง ไม่ใช่เพราะมันแข็งแรงหรือยิ่งใหญ่ แต่เป็นเพียงชีวิตที่ต้องการสิทธิในการอยู่รอด บางทีการพิชิตก็ง่าย ๆ เช่นนี้เอง นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ เกิดขึ้นที่ลอสแองเจลีส อเมริกา ในวันที่ 25 เดือน 7 1940 *** ภายในจิตใจมนุษย์มีสิ่งที่บริสุทธิ์อยู่มาก อาจจะคือสิ่งที่เราเรียกว่า จิตสำนึก กระมัง เพียงแต่ในหลายครั้งมันล้วนถูกฝังกลบด้วยความทะยานอยาก
*****
Create Date : 23 กันยายน 2553 | | |
Last Update : 23 กันยายน 2553 8:12:41 น. |
Counter : 404 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
แหวนวงที่หก
ช่วงระยะเวลาที่เศรษฐกิจอเมริกาซบเซาอย่างหนัก สาวน้อยซาแมนต้าอายุ 18 ปี เธอต้องใช้ความพยายามอย่างยากลำบากกว่าจะได้มาเป็นพนักงานขายในร้านจิวเวอลี่ชั้นนำแห่งนี้ ในวันคริสต์มาสอีฟ ลูกค้าชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี เดินเข้ามาในร้าน ถึงแม้เขาจะแต่งตัวเรียบร้อยดูสะอาดสะอ้าน มองไปดูมีรสนิยมทีเดียว แต่ก็ดูออกว่าเขาก็เป็นหนึ่งในผู้คนที่โชคร้ายจากภาวะตกงาน ขณะนี้ในร้านมีเพียงซาแมนต้าคนเดียว พนักงานคนอื่น ๆ เพิ่งจะออกไป ซาแมนต้าทักทายกับเขา ชายผู้นี้ฝืนยิ้มเล็กน้อยแล้วรีบหลบสายตาจากซาแมนต้า ราวกับจะบอกว่าไม่ต้องมาสนใจผม ผมเพียงแต่มาดู ๆ เท่านั้น ณ.เวลานั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซาแมนต้าเดินไปรับโทรศัพท์ ไม่ระมัดระวังเอามือไปปัดถูกจานใบหนึ่งบนเคาท์เตอร์เข้า แหวนทองที่สวยตระการตา 6 วงหล่นกระจายอยู่บนพื้น สาวน้อยรีบก้มลงไปเก็บที่พื้น แต่เธอเก็บได้เพียง 5 วงเท่านั้น วงที่ 6 หาอย่างไรก็หาไม่พบ ตอนเธอเงยหน้าขึ้นมานั้น เห็นชายผู้นั้นกำลังจะเดินออกประตูไป ทันใดนั้น เธอเข้าใจทันทีว่าแหวนวงที่ 6 อยู่ที่ไหน ขณะที่มือของชายผู้นั้นกำลังจะสัมผัสประตู ซาแมนต้าเรียกขึ้นด้วยเสียงอันอ่อนโยนว่า ขอโทษค่ะ คุณ ชายดังกล่าวหันกลับมา ทั้งสองสบตากันนิ่งเงียบนานราวหนึ่งนาที หัวใจซาแมนต้าเต้นอย่างรุนแรง คิดในใจว่าหากเขาลงมือใช้ความรุนแรงจะทำอย่างไรดี เขาจะ.........ไหมหนอ มีเรื่องอะไรหรือครับ ในที่สุดเขาปริปากถาม ซาแมนต้าพยายามระงับหัวใจที่เต้นแรง รวบรวมความกล้าพูดว่า คุณคะ นี่คืองานครั้งแรกของฉัน ทุกวันนี้การจะได้งานสักแห่งก็ช่างยากลำบากจริง ๆ ใช่ไหมคะ ชายดังกล่าวจ้องสำรวจเธออยู่นาน รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขา ในที่สุดซาแมนต้าก็สงบใจลงได้ เธอมองเขาแล้วยิ้ม ๆ ทั้งคู่ดูราวเพื่อนเก่าที่ได้มาพบกันสนิทสนมเป็นกันเอง ใช่แล้วครับ มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เขาตอบ แต่ผมแน่ใจได้ว่าคุณจะอยู่ที่นี่และทำงานได้ดีทีเดียว หยุดอยู่ครู่หนึ่ง เขาเดินขึ้นหน้ามา ยื่นมือมาให้เธอ ผมขออวยพรให้คุณได้ไหมครับ หลังจากที่จับมือกันแน่นแล้ว เขาหันหลังกลับไปที่ประตูอย่างช้า ๆ ซาแมนต้ามองดูจนเงาของเขาลับตาจากประตูไป หันกลับมาที่เคาท์เตอร์ นำแหวนวงที่ 6 วางกลับที่เดิม นัยตาเธอเปียกชื้น ในใจคิดว่า ... พระเจ้า ขอให้วันเวลาช่วงนี้ผ่านไปโดยเร็วเถิด ทุก ๆ คนจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น *** เข้าใจ ให้อภัย ใช้ใจสะเทือนใจ สาวน้อยผู้ชาญฉลาดหาวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
*****
Create Date : 22 กันยายน 2553 | | |
Last Update : 22 กันยายน 2553 8:01:31 น. |
Counter : 410 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|