ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง
Group Blog
 
All Blogs
 

ช่วงเวลาที่รวยที่สุด

เด็กหนุ่มคนหนึ่งอายุสิบหกปีก็ออกจากบ้านเร่ร่อนหางานรับจ้างไปทั่ว เขาเคยนอนข้างถนนมาแล้ว เคยคุ้ยหาเก็บขยะ เคยโดนทุบตี ขายเลือด ทำงานซ่อมถนน หิ้วปูน สุดท้ายประสบความสำเร็จสร้างอาณาจักรของตนกลายเป็นนายทุนผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีเงินนับพันล้านเหรียญ
ขณะที่เพื่อนที่เคยร่วมงานเมื่อครั้งยังเป็นเด็กรับจ้างแสดงอาการชื่นชมในตัวเขานั้น เขาพูดว่า คุณคงคิดว่าผมรวยแล้วใช่ไหม นี่เป็นความเข้าใจผิด ความจริง ตอนที่ผมร่ำรวยที่สุดคือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมเพิ่งจะมาถึงกวางเจา ทำงานอยู่ 1 ปีจึงจะได้รับค่าแรง 150 เหรียญ ผมใช้เงิน 150 เหรียญนั้นซื้อของว่างสไตล์กวางเจาให้แม่ของผมห่อหนึ่ง ซื้อกระโปรงผ้าไหมแท้ให้ภรรยาผมหนึ่งตัว กลับถึงบ้านในกระเป๋าของผมว่างเปล่าไม่มีเงินสักเหรียญ แต่ว่าคนทั้งบ้านกลับรู้สึกว่าเรารวยมาก ถึงแม้ว่าขณะนี้ผมมีซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กลับค้นหาความรู้สึกว่ารวยแบบตอนนั้นไม่พบแล้ว
อะไรคือความร่ำรวย บางครั้งพวกเราเข้าใจว่า ความรวยก็คือเงินตรา เวลาที่รวยที่สุดก็คือเวลาที่มีเงินมากที่สุดหากนับจากตัวเลขก็คงถูกต้องกระมัง แต่ว่า ในชีวิตความเป็นจริง ช่วงเวลาที่รวยที่สุดกลับไม่ใช่เวลาที่มีเงินมากที่สุด
ในอมเริกามีเศรษฐีร้อยล้านคนหนึ่ง บริจาคเงินการกุศลโดยไม่ออกนามมาเป็นเวลา 25 ปี เป็นจำนวนเงินรวมถึงสองร้อยเจ็ดสิบล้านเหรียญสหรัฐ ปีที่แล้วในขณะที่องค์กรการกุศลแห่งหนึ่งในมลรัฐนิวเจอร์ซี่ได้รับเงินบริจาคจากเขาเป็นครั้งที่ 10 ทนไม่ไหวและค้นหาเขาจนพบในที่สุด คนผู้นี้คือ Grace Pei Qi เขาเป็นพ่อค้าขายลูกกวาดคนหนึ่ง
หลังจากชื่อเสียงของเขาขจรขจายออกไป นักข่าวต่างกรูกันเข้าไป เมื่อถูกถามถึงว่า “ คุณอยู่ในสภาพการณ์เช่นไรทุกครั้งที่บริจาคเงิน “ นั้น เขาตอบว่า “ ผมรู้สึกว่าขณะนั้นเป็นเวลาที่ผมรวยที่สุด “
“ ถ้าเช่นนั้น เวลาไหนเป็นช่วงเวลาที่คุณรวยที่สุด “ นักข่าวถาม
“ เวลาที่ผมคิดอยากจะบริจาค “ Pen Qi ตอบ
เงินทองเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวย ทว่าผู้ที่มีเงินทองมากมายไม่แน่ว่าจะเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุด เหตุผลเดียวกัน เวลาที่ร่ำรวยที่สุดนั้นไม่แน่ว่าจะต้องเป็นช่วงที่มีเงินทองมากที่สุดเช่นกัน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย ขอเพียงแต่มีหัวใจแห่งรักที่เรียบ ๆ ง่ายๆ ดวงหนึ่ง ก็ล้วนแต่มีช่วงเวลาที่รวยที่สุดได้ด้วยกันทั้งนั้น
*****




 

Create Date : 16 มีนาคม 2554    
Last Update : 16 มีนาคม 2554 8:07:27 น.
Counter : 382 Pageviews.  

ปลาใหญ่กลัวปลาเล็ก

มีนักจิตวิทยาคนหนึ่งเคยทำการทดลองดังนี้.. เขานำปลาตัวใหญ่ที่หิวโซตัวหนึ่งใส่ลงไปในบ่อน้ำ แล้วใช้กระจกใสขั้นระหว่างกลาง อีกด้านหนึ่งนำปลาตัวเล็กที่ปลาตัวใหญ่ตัวนี้ชอบกินใส่ลงไป ในตอนแรก ปลาตัวใหญ่พุ่งเข้าหาปลาตัวเล็กหมายที่จะกิน แต่กลับชนกำแพง แต่มันไม่ละทิ้งความพยายาม พุ่งชนอีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายยังคงชนเข้ากับกำแพง หลังจากล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง ปลาใหญ่พุ่งชนจนจมูกช้ำหน้าบวม มันไม่ลองอีกแล้ว กระหืดกระหอบนิ่งอยู่ด้านหนึ่งของบ่อ ขณะนี้ นักจิตวิทยาค่อย ๆ แอบเอากระจกแผ่นนั้นออก ปล่อยให้เหล่าปลาตัวเล็กว่ายเวียนอยู่ข้าง ๆ ปากของปลาใหญ่ ทว่า สิ่งมหัศจรรย์ได้เกิดขึ้นแล้ว ปลาใหญ่กลับไม่กล้ากินอาหารอันโอชะที่ประเคนถึงปาก เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจากการล้มเหลวหลายต่อหลายครั้งทำให้ปลาใหญ่ใจฝ่อเสียแล้ว
ในโลกของสรรพสัตว์ ปลาใหญ่กินปลาเล็กเป็นกฎแห่งธรรมชาติที่จะต้องเป็นไป แต่จากการทดลองปลาใหญ่กลับกลัวปลาเล็ก นี่ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดสำหรับปลาใหญ่
ความจริง ใคร ๆก็รู้ดีว่าขอเพียงปลาใหญ่เชื่อมั่นในตัวเองอีกสักครั้งก็จะได้ลิ้มรสอาหารอันโอชะนี้ ต่อเรื่องนี้มีคนพูดว่า คุณอาจจะล้มเหลว 999 ครั้ง แต่ครั้งที่ 1000 อาจจะสำเร็จทะลุทะลวงไปอย่างง่ายดาย เห็นได้ว่า การขาดความเชื่อมั่น บางครั้งจะต้องรู้สึกเสียดายโอกาสไปอีกนาน
เนื่องจากกลัวความเจ็บปวดจากการล้มเหลวพ่ายแพ้ เราจึงเลือกที่จะละทิ้งและไม่กล้าทดลองอีกต่อไป แต่เคยคิดบ้างไหม หรือว่าการละทิ้งไม่ใช่ความเจ็บปวดอย่างมาก
*****





 

Create Date : 09 มีนาคม 2554    
Last Update : 9 มีนาคม 2554 7:07:02 น.
Counter : 523 Pageviews.  

ท่าทีกับพฤติกรรม

ชายคนหนึ่งกับเพื่อนของเขาไปซื้อของที่ร้านค้าใกล้ ๆบ้าน เขากล่าว “ ขอบคุณ “ พนักงานในร้านอย่างมีมารยาท แต่พนักงานร้านกลับทำหน้าปั้นปึ่งไม่สนใจเขา
ขณะที่พวกเขาเดินออกจากร้าน เพื่อนของเขาพูดว่า “ หมอนั่นท่าทีในการรับใช้แย่มาก “
ชายคนนี้พูดกับเพื่อนว่า “ เขาเป็นของเขาอย่างนี้ทุกวัน “
เพื่อนพูดว่า “ ในเมื่อเขาเป็นอย่างนี้ทุกวัน แล้วคุณทำไมจะต้องมีมารยาทไปเกรงอกเกรงใจเขาอีก “
ชายคนนี้ตอบว่า “ แล้วทำไมผมจึงต้องปล่อยให้ท่าทีของเขามากำหนดพฤติกรรมของผมเล่า “
*** เหตุผลเมื่อได้พูดออกมาดูเหมือนง่ายนิดเดียว แต่ลองคิดดูให้ดี ในยามปกติพวกเราก็มิใช่ปล่อยให้ท่าทีของบุคคลอื่นมากำหนดพฤติกรรมของเราดอกหรือ
*****




 

Create Date : 07 มีนาคม 2554    
Last Update : 7 มีนาคม 2554 8:27:18 น.
Counter : 466 Pageviews.  

คำโกหก

ลิเลียน คาร์เตอร์ เป็นมารดาของ จิมมี่ คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา วันหนึ่ง มีนักข่าวคนหนึ่งมาที่บ้านของเธอพูดกับเธอว่า “ บุตรชายของท่านได้ไปปราศัยทั่วประเทศ และยังบอกกับประชาชนว่าหากเขาเคยพูดคำโกหกต่อพวกเขาแล้ว ก็ขออย่าได้เลือกเขา ท่านจะสามารถบอกกับผมด้วยความสัตย์จริงได้ไหมครับว่าบุตรชายของท่านไม่เคยโกหกมาก่อน เพราะว่าไม่มีใครอีกแล้วที่จะเข้าใจบุตรชายของท่านได้ดีเท่าตัวท่าน ”
ลิเลียน คาร์เตอร์ตอบว่า “ คงจะเคยพูดคำโกหกที่ไม่มีเจตนาร้ายบ้างกระมัง ”
“ ถ้าเช่นนั้นคำโกหกที่ไม่มีเจตนาร้ายกับคำโกหกอื่น ๆ นั้นแตกต่างกันอย่างไรหรือครับ ” นักข่าวถามต่อ “ ท่านสามารถให้คำนิยามได้ไหมครับ ”
“ ฉันไม่ทราบว่าจะสามารถให้คำนิยามคำนี้ได้หรือไม่ ” มารดาของคาร์เตอร์พูด “แต่ฉันสามารถยกตัวอย่างให้คุณได้ คุณยังจำได้ไหมว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ตอนที่คุณเดินเข้ามา ฉันพูดกับคุณว่า คุณช่างหล่อเหลาดูดี ฉันดีใจมากที่ได้พบคุณ ..ไหม .......”
*** ในชีวิตประจำวันเราอาจจะหลีกไม่พ้นกับคำโกหกที่มีเจตนาดี แต่อย่าได้ไปเปิดโปงมันอย่างเด็ดขาด เพราะนั่นนอกจากไม่มีความหมายเลยแม้แต่น้อย แต่ยังอาจจะกลายเป็นการทำร้ายอย่างหนึ่ง
*****




 

Create Date : 04 มีนาคม 2554    
Last Update : 4 มีนาคม 2554 8:07:07 น.
Counter : 522 Pageviews.  

น้ำเปล่าหนึ่งกา

ในพิธีการเซ่นไหว้และเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง หัวหน้าเผ่าเรียกร้องให้ทุกครัวเรือนสละเหล้าหนึ่งกาแล้วนำมาเทรวมกันในถังใหญ่ใบหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันดื่มกิน
เห็นได้ว่าทุกครัวเรือนต่างนำเหล้าที่ตนเองได้หมักไว้มาเทรวมกันอย่างเป็นทางการ เหล้าได้ถูกบรรจุเต็มถังใบใหญ่อย่างรวดเร็ว
พิธีการกล่าวเฉลิมฉลองใกล้เสร็จสิ้น หัวหน้าเผ่าดึงจุกไม้ก๊อกถังเหล้าออก แก้วใบใหญ่ในมือของทุกคนเติมเต็มไปด้วยเหล้า ขณะที่ทุกคนกระดกแก้วดื่มจนเกลี้ยงนั้น จึงได้พบว่าสิ่งที่ได้ดื่มลงไปนั้นเป็นน้ำเปล่า
ที่แท้ ใครๆ ล้วนคิดว่าในเหล้าจำนวนมากนั้น น้ำเปล่าของตนเพียงหนึ่งกาจะไม่มีใครสังเกตุเห็นอย่างแน่นอน
/*** ความเห็นแก่ตัวของแต่ละคนล้วนเพื่อต้องการบรรลุประโยชนสูงสุดของตัวเอง แต่หากไม่มีการระงับยับยั้งหรือควบคุมแล้ว รังแต่จะกระทบหรือทำลายผลประโยชน์ของตนเองด้วย
*****




 

Create Date : 03 มีนาคม 2554    
Last Update : 3 มีนาคม 2554 8:12:43 น.
Counter : 481 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  

syrubbocaboro
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add syrubbocaboro's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.