• 小故事 大智慧

แมวดำปล่อยหนู 1 แมวดำจับหนูมาได้ตัวหนึ่ง แต่ว่า มันเล่นสักพักหนึ่งแล้วจึงปล่อยไป หมาแดงเห็นเข้าพูดกับแมวดำว่า “ จับหนูมาด้วยความยากลำบาก เจ้าปบ่อยมันไปทำไม ” “ เจ้าต้องไม่เข้าใจอยู่แล้ว ” แมวดำตอบ “ ข้าถูกส่งให้มาจับหนูที่นี่พร้อมกับหัวหน้าของข้า เวลานี้หัวหน้าของข้าแม้แต่ขนหนูสักเส้นยังคว้าไม่ได้ ข้าจะทำข้ามหน้าข้ามตาเขาได้อย่างไร ” 2 แมวดำจับหนูมาได้ตัวหนึ่ง เล่นอยู่พักหนึ่งก็ปล่อยมันไป หมาแดงเห็นเข้าพูดกับแมวดำว่า “ จับหนูมาด้วยความยากลำบาก เจ้าปล่อยมันไปทำไม ” “ เจ้าต้องไม่เข้าใจอยู่แล้ว ” แมวดำตอบ “ หนูตัวนี้เป็นตัวที่ 15 ที่ข้าจับได้ในอาทิตย์นี้ หน่วยเหนือกำหนดมาว่าให้พวกเราจับหนูอาทิตย์ละ 14 ตัว พรรคพวกส่วนใหญ่ล้วนรู้สึกว่าภารภิจนี้หนักเกินไปแล้ว แต่ข้าตัวเดียวที่บรรลุภารกิจนี้โดยทำเกินโควต้า วันหลังข้ายังจะสามารถเข้าพวกเข้าฝูงกับเขาได้อย่างไร ” 3 แมวดำจับหนูมาได้ตัวหนึ่ง เล่นอยู่พักหนึ่งก็ปล่อยมันไป หมาแดงเห็นเข้าพูดกับแมวดำว่า “ จับหนูมาด้วยความยากลำบาก เจ้าปล่อยมันไปทำไม ” “ เจ้าต้องไม่เข้าใจอยู่แล้ว ” แมวดำตอบ “ เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว ผู้นำของเราได้ประกาศให้ภายนอกได้ทราบว่า หลังจากการเคลื่อนไหวกวาดล้างอย่างฟ้าถล่มดินทลายและลงโทษอย่างเข้มงวดแล้ว เขตปกครองของเราได้เป็นเขตปลอดหนู เมื่อวานนี้ คณะตรวจสอบที่จัดตั้งโดยฝ่ายนำยังมาที่เขตเราเพื่อตรวจตราโครงการเขตปลอดหนู และประเมินค่าผลงานของเราอย่างสูง หากข้าไม่ปล่อยหนูตัวนี้ไป จะไม่เป็นการตบหน้าตัวเอง ทุบป้ายรางวัลตัวเองทิ้งหรอกหรือ “ 4 แมวดำจับหนูมาได้ตัวหนึ่ง เล่นอยู่พักหนึ่งก็ปล่อยมันไป หมาแดงเห็นเข้าพูดกับแมวดำว่า “ จับหนูมาด้วยความยากลำบาก เจ้าปล่อยมันไปทำไม ” “ เจ้าต้องไม่เข้าใจอยู่แล้ว “ แมวดำตอบ “ เจ้าดูไม่ออกเชียวหรือว่าหนูตัวนี้มันกำลังท้องอยู่ หลังจากการกวาดล้างหนูครั้งใหญ่ครั้งนั้น หนูในเขตปกครองของเราเกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว ไม่มีหนู ชามข้าวของพวกแมวเราก็จะเป็นปัญหา เพื่อรักษาความมั่นคงของชามข้าวพวกเรา ข้าจำเป็นต้องปล่อยหนูตัวนี้ไป” *** ในสภาพแวดล้อมที่บิดเบี้ยว การกระทำมากมายที่ดูแล้วขัดกับเหตุผล ความจริงในนั้นยังมีเหตุผลที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างเหลือเชื่อ *****   Create Date : 27 สิงหาคม 2553     Last Update : 27 สิงหาคม 2553 9:05:37 น. Counter : 386 Pageviews.   3 comment Share Tweet

งานภารโรงที่ไมโครซอฟ มีชายคนหนึ่งไปสมัครเป็นภารโรงที่บริษัทไมโครซอฟ หลังจากผ่านกการสัมภาษณ์และปฎิบัติการจริง ( ทำความสะอาดห้องน้ำ เป็นต้น ) แล้ว ฝ่ายบุคคลบอกว่าเขาได้รับคัดเลือกแล้ว และขอ e-mail ของเขาเพื่อจัดส่งเอกสารตอบรับและอื่น ๆ ให้เขาในภายหลัง เขาบอกว่า “ ผมไม่มีคอมพิวเตอร์ “ ฝ่ายบุคคลบอกเขาว่า สำหรับไมโครซอฟแล้วผู้ที่ไม่มี e-mail เท่ากับไม่มีตัวตน เพราะฉะนั้นไมโครซอฟจะไม่จ้างเข้าทำงาน เขาเดินออกจากไมโครซอฟด้วยความผิดหวัง ในกระเป๋ามีเงินเพียง 10 ดอลลาร์ เขาจึงไปซื้อมันฝรั่งที่ร้านสะดวกซื้อมา 10 กิโลกรัม เดินบอกขายไปตามบ้าน เขาขายหมดเกลี้ยงภายในสองชั่วโมง ได้ กำไร 100 % เขาซื้อมาขายไปเช่นนี้อีกหลายครั้ง สะสมเพิ่มทุนได้เท่าตัว เขาค้นพบว่าการทำเช่นนี้สามารถเลี้ยงชีพได้ ดังนั้นเขาตั้งใจทำการค้าแบบนี้อย่างจริงจัง ความขยันประกอบกับโชคช่วย การค้าของเขาขยายตัวเรื่อยมา สามารถซื้อรถและเพิ่มจำนวนพนักงาน 5 ปีให้หลัง เขาก่อตั้งบริษัทเดินเคาะประตูบ้านขายของที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง เสนอทางเลือกให้บริการขายผักสดอาหารสดถึงหน้าบ้าน เขาคิดถึงการวางแผนอนาคตให้กับครอบครัว จึงวางแผนซื้อประกันภัยฉบับหนึ่ง ตอนเซ็นต์สัญญา พนักงานบริษัทประกันขอ e-mail จากเขา เขาพูดอีกครั้งหนึ่งว่า “ ผมไม่มีคอมพิวเคตอร์ ไม่ต้องพูดถึง e-mail ” พนักงานบริษัทประกันรู้สึกประหลาดใจ “ ท่านมีบริษัทที่ยิ่งใหญ่ระดับนี้ แต่กลับไม่มี e-mail ลองนึกดูซิว่าหากท่านมีคอมพิวเตอร์และ e-mail แล้วล่ะก็ จะสามารถทำอะไรได้อีกเท่าไหร่ “ เขาบอกว่า “ หากเป็นเช่นนั้นล่ะก็ ตอนนี้ผมก็ยังคงเป็นพนักงานทำความสะอาดของไมโครซอฟ อยู่น่ะซี “ *** ไมโครซอฟสามารถที่จะมีมาตรฐานของตนเอง แต่ไม่อาจกำหนดมาตรฐานแห่งความ” สำเร็จ” ของสังคมได้ อย่าใช้มารตฐานของผู้อื่นมาปฎิเสธตนเอง *****   Create Date : 26 สิงหาคม 2553     Last Update : 26 สิงหาคม 2553 12:40:05 น. Counter : 454 Pageviews.   0 comment Share Tweet

หลังจากพาดสะพาน หมู่บ้านฝั่งตะวันออกและหมู่บ้านฝั่งตะวันตกถูกกั้นด้วยลำคลองสายหนึ่ง เนื่องจากที่นี่ไม่มีสะพาน การไปมาหาสู่ของผู้คนในสองหมู่บ้านจึงมีความยากลำบาก จะต้องเดินทางอ้อมเสียไกล มีชายหนุ่มมากด้วยน้ำใจคนหนึ่ง ใช้ไม้ขื่อในบ้านนำมาพาดเป็นสะพานไม้แผ่นเดียว ทำให้ผู้คนได้รับความสะดวกขึ้น การกระทำเช่นนี้ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านยินดีปรีดาไปพักหนึ่ง และก็กล่าวชื่นชมเขาอยู่พักหนึ่งเหมือนกัน แต่หลังจาก 3 วันผ่านไป เสียงชื่นชมก็กลายเป็นเสียงกล่าวโทษเป็นการใหญ่ “ เฮ้อ ไม้แผ่นหนึ่งก็นับเป็นสะพานได้ด้วยเหรอ “ “ ในยามปกติเดินก็ยังโยกโยกเยกเยก ถ้าเจอหน้าฝนแล้วจะเดินยังไง ” “ ถ้าเป็นเด็ก............คนแก่.............” “ แล้วสมมุติว่าแบกของกระสอบหนึ่ง หิ้วของอะไรห่อหนึ่ง....................” “ ถ้าคนขี่จักรยานก็ยิ่งไม่ไหวเลยแหละ ” “.........................” *** คนไม่ทำงานแต่มักชอบติหรือจับผิดคนที่ลงมือทำเสมอ *****   Create Date : 25 สิงหาคม 2553     Last Update : 25 สิงหาคม 2553 10:13:05 น. Counter : 372 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ครอบครัว สมมุติว่าพรุ่งนี้เราต้องจากโลกนี้ไปแล้ว บริษัทที่เราทำงานอยู่จะหาคนมาทำงานแทนหน้าที่ของเราได้ภายในไม่กี่วัน............ แต่คนในครอบครัวเราจะปวดร้าวจากการสูญเสียญาติสนิทของพวกเขาในส่วนที่เหลือของชีวิต . คิดดูให้ละเอียด พวกเรามักจะทุ่มเทให้กับงานมากกว่าที่จะทุ่มเทให้กับครอบครัว นี่เป็นการลงทุนที่ไม่ชาญฉลาดเลยแม้แต่น้อย หรือว่าคุณไม่เห็นด้วย และนี่มีนัยอะไรที่ลึกซึ้งที่จะบอกอะไรกับเรา คุณรู้ไหมคำว่าครอบครัว ( Family ) ศัพย์คำนี้หมายถึงอะไร ครอบครัว ( Family ) = พ่อ ( F ) ATHER และ ( A ) ND แม่ ( M ) OTHER ฉัน ( I ) รัก( L ) OVE พวกเธอ ( Y ) OU *** ครอบครัวและการงานล้วนเป็นเนื้อหาสาระที่ขาดไม่ได้ในชีวิต การที่พวกเราขยันหมั่นเพียรต่องานก็เพื่อครอบครัวจะได้มีความสุขยิ่งขึ้น -------- นี่เป็นเหตุผลที่อ้างได้ถูกที่เดียว แต่ว่า เป็นไปได้ไหมที่เราควรจะมี จิตสำนึกที่จะลงทุนในด้านครอบครัวมากสักหน่อย *****   Create Date : 24 สิงหาคม 2553     Last Update : 24 สิงหาคม 2553 8:46:01 น. Counter : 369 Pageviews.   1 comment Share Tweet

คำสาบาน ชายหนุ่มคนหนึ่งมาหาผมเนื่องจากถูกคนรักทอดทิ้งตีจาก เขาบอกว่าเพื่อนสาวของเขายังอยู่ดีมีสุข เขารู้สึกเคียดแค้นยิ่งนัก ผมถามเขาว่าเพราะเหตุใด เขาบอกว่า “ ตอนที่พวกเราอยู่ด้วยกันเคยสาบานร่วมกันว่าหากใครทรยศในความรักก่อนจะต้องตายโหง แต่ว่าเวลาผ่านไปสองปีแล้ว เธอยังคงมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข หรือว่าฟ้าไม่มีตา หรือว่าไม่ได้ยินคำสาบานของคนเชียวหรือ ผมบอกเขาว่า “ หากคำสาบานทั้งหลายในโลกมนุษย์ปรากฎเป็นจริงทั้งหมด ถ้าเช่นนั้นมนุษย์คงสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว เพราะเวลาหนุ่มสาวรักกัน นอกเสียจากไม่มีความจริงใจในรักแล้ว ล้วนแต่เคยสาบานมาแล้วทั้งสิ้น ถ้าพวกเขาล้วนแต่ต้องตายโหง ในโลกนี้ยังจะมีคนเหลืออยู่หรือ ฟ้าไม่ใช่ไม่มีตา แต่เพราะรู้ว่าความรักเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน ในสายตาของผู้มีสติปัญญาแล้ว คำสาบานของเรานั้นเป็นแค่คำพูดล้อเล่นที่ผ่านทะลุรูหูไปเท่านั้น “ คำสาบานของคนเราที่สามารถเป็นจริงได้นั้นต้องเป็นผลจากบุพเพสันนิวาสบวกกับแรงปรารถนา” ผมบอก “ งั้นผมควรจะทำอย่างไรครับ “ ผมเล่านิทานเปรียบเทียบให้เขาฟังเรื่องหนึ่ง สมัยก่อนมีคนคนหนึ่งเลี้ยงปลาทองที่ล้ำค่าตัวหนึ่งในอ่างน้ำ มีวันหนึ่งอ่างปลาถูกกระทบแตก เขามีทางเลือกสองทาง ทางหนึ่งคือยืนตรงหน้าอ่างปลาแล้วสบถด้วยความแค้นใจ ยืนดูปลาทองขาดน้ำแล้วตายไป อีกทางหนึ่งคือรีบไปหาอ่างใบใหม่มาใส่น้ำเพื่อช่วยชีวิตปปลาทอง ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน “ ต้องรีบ ๆ ช่วยปลาทองแน่นอนอยู่แล้ว “ ชายหนุ่มตอบ “ งั้นก็ถูกต้องแล้ว คุณควรจะรีบหาอ่างปลามาช่วยปลาทองของคุณ ให้ความชุ่มชื้นหล่อเลี้ยงมันสักหน่อย ช่วยชีวิตมัน หลังจากนั้นก็โยนอ่างที่แตกทิ้งไปเสีย คนคนหนึ่งถ้าสามารถละวางการสาปแช่ง ความเคียดแค้นลงเสียจึงจะเข้าใจในรักอย่างแท้จริง ชายหนุ่มได้ฟังแล้วใบหน้าปรากฎรอยยิ้มจากไปอย่างมีความสุข ผมหวนคิดเมื่อตอนวัยหนุ่ม อ่างน้ำของผมก็เคยถูกผู้อื่นตีแตก ผมก็เคยถูกคนที่สาบานด้วยกันทรยศ ปัจจุบันนี้ผมได้ละทิ้งคำสาปแช่งความเคียดแค้นแล้วอย่างสิ้นเชิง มีเพียงบางครั้งที่บางสถานการณ์ไม่อาจหลีกเลี่ยงความรู้สึกที่ขมขื่น ปวดร้าว ความปวดร้าวก็ดีมันเป็นการยืนยันว่าปลาทองที่เลี้ยงอยู่ในใจของผมยังคงมีชีวิตอยู่ *** กล่าวสำหรับ “ ข้าศึก “ “ ศํตรู “ ของคุณแล้ว การที่คุณมีชีวิตอยู่อย่างดีมีความสุขก็คือการลงโทษพวกเขาอย่างหนัก *****   Create Date : 23 สิงหาคม 2553     Last Update : 23 สิงหาคม 2553 10:53:26 น. Counter : 538 Pageviews.   3 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang