ไร้ถ้อยคำใดมาปลอบใจเธอ

ไร้ถ้อยคำใดมาปลอบใจเธอ

Grand Corps Malade
Titre : J'ai pas les mots
Album : Enfant de la ville






Il est de ces evenements qui sortent tout le reste de nos pensées.
Certaines circonstances qui nous stoppent net dans notre lancéé.
Il est de ces realités qu'on etait pas prêts à recevoir.
Et qui rendent toutes tentatives de bien-être illusoires.

เรื่องราวทำนองนี้ทำให้เราใคร่ครวญในเรื่องที่ไม่เคยคิด
เหตุการณ์มากมายที่หยุดเรานิ่งงันขณะกำลังโลดแล่น
ความจริงประเภทนี้ที่เราไม่พร้อมจะรับไว้
ความจริงที่ทำให้ความพยายามทำชีวิตดีดีกลายเป็นภาพลวงตา


J'ai pas les mots pour exprimer la puissance de la douleur.
J'ai lu au fond de tes yeux ce que signifiait le mot "malheur".
C'est un souvenir glacial, comme ce soir de decembre.
Où tes espoirs brulants, ont laissé place à des cendres.

ฉันไม่มีคำใดมาอธิบายความรุนแรงของความเจ็บปวด
ฉันอ่านเห็นในดวงตาเธอ คำที่หมายถึง ทรมาน
เป็นความทรงจำหนาวเหน็บเหมือนคืนนี้ในเดือนธันวาคม
คืนที่ความหวังร้อนรุ่มของเธอปล่อยตัวกลายเป็นเถ้าถ่าน

J'ai pas trouvé les mots pour expliquer l'innexplicable.
J'ai pas trouvé les mots pour consoler l'inconsolable.
Je n'ai trouvé que ma main, pour poser sur ton epaule.
Attendant que les lendemains se depechent de jouer leur rôle.

ฉันไม่มีคำใดมาอธิบายสิ่งที่ไม่อาจอธิบาย
ฉันไม่มีคำใดมาปลอบโยนสิ่งที่ไม่อาจปลอบโยนได้
ฉันมีแต่มือของฉัน ที่จะจับไหล่ของเธอ
ระหว่างรอให้พรุ่งนี้รีบเข้ามาทำหน้าที่ของตน

J'ai pas les phrases miracles qui pourraient soulager ta peine.
Aucune formule magique, parmi ces mots qui saignent.
Je n'ai trouvé que ma presence pour t'aider à souffrir.
Et constater dans ce silence, que ta tristesse m'a fait grandir.

ฉันไม่มีประโยคมหัศจรรย์มาปัดเป่าความทุกข์ของเธอ
ไม่มีสูตรวิเศษไหนในบรรดาถ้อยวลีเชือดเฉือน
มีแต่ตัวฉันที่อยู่ตรงนี้ เพื่อช่วยให้เธอเจ็บปวด
และได้เห็นว่า ในความเงียบงันนี้ ความโศกเศร้าของเธอทำให้ฉันเติบโต

J'ai pas trouvé le remede pour reparer un coeur brisé.
Il faudra tellement de temps avant qu'il puisse cicatriser.
Avoir vecu avec elle et apprendre à vivre sans.
Elle avait ecrit quelquepart que tu verserais des larmes de sang.

ฉันไม่มียาใดมารักษาอาการอกหัก
คงต้องใช้เวลาอีกนานนักกว่าแผลจะหาย
ได้อยู่กับเขาแล้ว ต่อไปต้องเรียนรู้ที่จะอยู่โดยไม่มี
ชะตาลิขิตเอาไว้ว่าสักวันเธอจะร้องไห้เป็นสายเลือด

Tu as su rester debout, et je t'admire de ton courage.
Tu avances la tête haute, et tu traverses cet orage.
A côté de ton epreuve, tout me semble derisoire.
Tout comme ces mots qui pleuvent, que j'ecris sans espoir.

เธอได้รู้จักวิธียืนหยัด และฉันชื่นชมความกล้าหาญของเธอ
เธอเชิดหน้าก้าวต่อ และผ่านพายุกระหน่ำลูกนี้
ทุกอย่างรอบข้างบทพิสูจน์ของเธอ ล้วนดูไร้สาระน่าขำ
ทุกอย่าง เหมือนถ้อยคำที่หลั่งไหลในตอนนี้ คำที่ฉันเขียนอย่างท้อแท้

Pourtant les saisons s'enchaineront, saluant ta patience.
En ta force et ton envie, j'ai une totale confiance.
Tu ne seras plus jamais le même, mais dans le ciel, des demain.
Son etoile t'eclairera, pour te montrer le chemin.

กระนั้น ฤดูกาลก็ไหลเรื่อยมาทักทายความอดทน
แรงพลังและความต้องการของเธอ ฉันมั่นใจเต็มร้อย
เธอจะไม่เป็นคนเดิมอีกต่อไป หากในท้องฟ้า นับแต่พรุ่งนี้
ดาวประจำตัวจะส่องประกาย เพื่อนำทางให้เธอเดิน



>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 25 ตุลาคม 2552    
Last Update : 25 ตุลาคม 2552 19:14:15 น.
Counter : 966 Pageviews.  

25 OCTOBRE 09 แม่เลี้ยงบันทึก วันที่ 13 วันสุดท้าย

แม่เลี้ยงบันทึก วันที่ 13 วันสุดท้าย

Antoine in Bangalore Day 13 the last day


คลิกที่ลูกศรตรงกลางหรือมุมซ้ายมือบนเพื่อดูสไลด์ค่ะ


วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการรับหน้าที่ซูเปอร์แม่เลี้ยง ประจำช่วงปิดเทอมเดือนตุลาของปีนี้


เมื่อคืนนอนแต่หัววัน เช้านี้เลยตื่นมาอย่างกระปรี้กระเปร่า เร่ิมต้นวันด้วยการเข้าครัวเป็นอันดับแรก ทอดไข่ดาวกับไส้กรอก อาหารเช้าสิ้นคิดที่เด็กชายอองตวนชอบนักหนา ทำเผื่อให้ป่ะป๊ากินด้วยกันสองคน ส่วนฉันกลับเข้าสู่ภาวะโภชนาการอุบาท ซดแต่กาแฟอีกครั้ง ตามท้ายด้วยน้ำส้มคั้นสดจากใจสุดที่รักหนึ่งแก้วโต

กินกันเสร็จแล้ว หวานใจชวนลูกชายทำแมลงสำหรับตกปลา ต่อด้วยล้างจาน โดยมีอองตวนเป็นลูกมือคอยเช็ดจานชามหม้อไหที่ล้างเรียบร้อย ระหว่างนั้นฉันเพาะโหระพาใส่กระถาง ตัดต้นไม้ รดน้ำไปเรื่อยๆ เด็กชายขึ้นมาเก็บกระเป๋าเดินทาง อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปกินอาหารกลางวันด้วยกันข้างนอก ต่อด้วยช้อปปิ้ง หวานใจซื้อชุดร้านโปรดให้ฉัน แล้วเข้าร้านหนังสือ ซื้อหนังสือและของเล่น


อองตวนได้หุ่นที่แปลงเป็นรถได้จากเรื่องทรานสฟอร์มเมอร์ ตอนแรกแกลังเล กลัวจะแปลงกายหุ่นไม่เป็น เข้ามากระซิบกับฉันว่าขอเปลี่ยนเป็นปืนได้มั้ย ฉันเลยเสนอว่าเดี๋ยวให้ป่ะป๊าแปลงให้ดูเป็นตัวอย่างในรถให้ดูละกันจะได้ทำเป็น แกเลยเปลี่ยนใจกลับมาเอาหุ่นตัวเดิม ส่วนแม่สาวน้อยหลุยส์ได้ตุ๊กตาบาร์บี้เวอร์ชั่นอินเดียหนึ่งตัว



ช้อปปิ้งเสร็จ กลับบ้านจัดกระเป๋า ออกไปกินอาหารค่ำแล้วไปสนามบิน ระหว่างที่นั่งรถไปสนามบิน ฉันถามอองตวนว่าแกได้ของฝากที่ฉันซื้อให้คราวที่แล้วตอนที่หลุยส์มาเมื่อเดือนเมษาหรือเปล่า แกตอบว่าไม่ได้ ไม่เห็นเลย ฉันถามย้ำหลายรอบแกก็ยืนกรานว่าไม่ได้

ฉันฉุนปี๊ดขึ้นมาทันที ด้วยความเหนื่อยกายบวกความรู้สึกที่กรุ่นในใจ น้อยอกน้อยใจที่เด็กน้อยถามทุกวันว่าจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ และที่แรงที่สุดคือเมื่อคืนนี้ แกพูดว่าแกไม่มีความสุขที่นี่ แกมีความสุขที่บ้านเมืองไทย ประกอบกับการอัดอั้นตันใจที่ต้องเริ่มต้นทุกอย่างใหม่หมดทุกครั้ง ทั้งยังมีความสงกาในใจว่าสิ่งที่ฉันพยายามปลูกฝังในช่วงเวลาสั้นๆ นี้จะส่งดอกออกผลกับพัฒนาการของแกมากน้อยขนาดไหน

มันเหมือนกับรับต้นไม้มาดูแลช่วงหนึ่ง เราทนุบำรุงอย่างดี จนออกตุ่มเล็กๆ เป็นดอกตูมๆ แล้วต้องส่งกลับไป ไม่ทันได้เห็นดอกไม้ว่าแย้มบานเป็นสีไหน สวยงามหรือไม่ แล้วพอปีต่อมาก็ได้ต้นไม้ต้นเดิมที่เติบโตขึ้นมาดูแลใส่ปุ๋ยอีกรอบ เพื่อจะส่งกลับไปอีกหน

มันเหมือนพลังงานทั้งหมดที่เราทุ่มเทลงไปในช่วงที่เขามาที่นี่จะสูญสลายหายไปเป็นอากาศธาตุเมื่อเราปล่อยให้เขากลับไปบ้าน ไปอยู่ในแม่พิมพ์ที่เราไม่สามารถเห็นความเป็นไปอีกครั้ง ยิ่งกว่านั้นคือ ดูเหมือนเขาจะไม่แยแสไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำให้เลยสักนิด เหมือนผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไร้ความหมาย

ฟูมฟายอยู่พักหนึ่ง พาลถึงขนาดบอกหวานใจว่า ถ้าหลุยส์ไม่ได้ให้ของเล่นกับอองตวนจริง หรือถ้าคุณแม่ของพวกแกเก็บของหรือทิ้งของพวกนั้น ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับลูกๆ ของหวานใจอีก คราวหน้าให้หวานใจไปพักร้อนกันตามลำพังพ่อลูก ไม่ต้องเอามาให้เป็นภาระของฉัน

ระเบิดไปแล้ว หลังจากนั้นเริ่มเย็นลง เริ่มถามตัวเองว่า ฉันจะไปสนใจทำไมว่าเด็กคิดอะไร พูดอะไร ฉันเอาจิตใจไปผูกพันกับเด็กมากเกินไปจนมองข้ามช็อตเกินเลย สร้างความกดดัน สร้างความเครียดให้ตัวเอง

ช่างแกสิ แกอยากรู้สึกอย่างไร ได้รับการเลี้ยงดู การศึกษาอย่างไรมันก็เรื่องของแก ฉันทำหน้าที่ของฉันในช่วงสิบกว่าวันต่อปีให้ดีที่สุด ถ้าเราตั้งใจทำดี มันก็ต้องได้ดี ไม่วันนี้ก็วันหน้า ถ้ามันจะได้ร้าย อย่างน้อยเราก็บอกตัวเองได้ว่า

ฉันทำดีที่สุดแล้ว



>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 25 ตุลาคม 2552    
Last Update : 25 ตุลาคม 2552 2:41:51 น.
Counter : 887 Pageviews.  

- 23 OCTOBRE 09 แม่เลี้ยงบันทึก วันที่ 12

แม่เลี้ยงบันทึก วันที่ 12

Antoine in Bangalore Day 12


คลิกที่ลูกศรตรงกลางหรือมุมซ้ายมือบนเพื่อดูสไลด์ค่ะ


เมื่อคืนไปกินอาหารค่ำที่บ้านอิซาเบลล์กับจิลล์ ครอบครัวเดียวในบังกาลอร์ที่หวานใจคบหา พาอองตวนไปเล่นเกมกับมาเอล ลูกชายคนสุดท้องของบ้านนั้นด้วย

กลับมาถึงบ้านย่างเข้าตีสอง เช้านี้ตื่นมา รดน้ำต้นไม้กันก่อนจะเตรียมตัวเด็กชายและตัวเองเพื่อจะได้ไปเที่ยววัดใหญ่ชื่อดังของที่นี่ คือ วัดพระกฤษณะ กับมันจุฬาและชีวาน้องสะใภ้ของมันจุฬา วิโนดขับขึ้นถนนวงแหวนรอบนอกรอบใหญ่ ขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของบังกาลอร์ประมาณสามสิบกิโลเมตร แต่การจราจรคับคั่งต้องใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ


วัดนี้เขาจะปิิดพักตอนบ่ายโมง แล้วจะเปิดให้คนเข้าบูชากันอีกทีตอนบ่ายสี่ เลยต้องออกจากบ้านช่วงเช้า ลุ้นกันนิดนึงว่าจะถึงก่อนเขาปิดหรือเปล่า ขึ้นบันไดหลายขั้น ทำบุญบูชา ดูพราหมณ์ทำพิธีครบเครื่องเรียบร้อย ตั้งแต่การวนเทียน เป่าหอยสังข์ สั่นกระดิ่ง

เสียดาย เขาห้ามเอากล้องเข้าไปในวัดเลยไม่มีภาพถ่ายมาให้ดู แต่ก็ดีไปอย่าง ไม่งั้นวัดที่ควรจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวยืนถ่ายรูปอยู่ทั่ว เสียขลังหมด


ดูพิธีสวด รับของบวงสรวง ซื้อของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ แล้วกลับบ้านเลย ไม่แวะอีกวัดหนึ่งตามที่มันจุฬาบอก เพราะกลัวจะกลับถึงบ้านไม่ทันก่อนบ่ายสาม แล้วอองตวนจะไม่ได้ลงว่ายน้ำ เหลืออีกสองวันเท่านั้น ฉันตั้งใจเลี้ยงแกมาอย่างดีสิบวัน ไม่อยากให้ความประทับใจทุกอย่างพังทลายลงในวันก่อนกลับเมืองไทย

นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ริมสระน้ำ สลับเหลือบตาดูเด็กดำผุดดำว่ายได้สิบห้านาทีแล้วเรียกขึ้นบ้าน เข้าครัวทอดเฟรนช์ฟรายไส้กรอกให้เด็กกินในรถ ต้มมาม่าเส้นหมี่ให้ตัวเองรีบกินรีบซด โดยมีเด็กแย่งไก่กินอยู่ข้างๆ ก่อนจะกระโดดขึ้นรถไปเรียนปั้นดินวันสุดท้าย



ชั้นเรียนวันนี้เป็นไปอย่างหนืดๆ อืดฉืด ครูสอนปั้นคนนั่งเสร็จ ฉันเกลาผิวตุ๊กตาดินรูปอองตวนเล่นเพลย์สเตชั่น อองตวนเล่นแป้นหมุน แป๊บๆ หมดเวลาเรียน ปิดท้ายด้วยการให้ขนมเด็กน้อย ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับคุณครูและผู้ช่วย ขึ้นรถกลับบ้าน

ถึงบ้านแล้ว อองตวนติดหนึบ ไล่ไปดูทีวีก็ไม่ไป เกมอะไรก็ไม่เล่น มานั่งเบียดดูฉันอัพบล้อกอยู่นั่นล่ะ



>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 23 ตุลาคม 2552    
Last Update : 23 ตุลาคม 2552 21:11:19 น.
Counter : 876 Pageviews.  

- 22 OCTOBRE 09 แม่เลี้ยงบันทึก วันที่ 11

แม่เลี้ยงบันทึก วันที่ 11
Antoine in Bangalore Day 11


คลิกที่ลูกศรตรงกลางเพื่อดูวิดีโอค่ะ


เมื่อคืนนอนเร็ว เช้านี้เลยตื่นแต่เช้า สดชื่น มีพลังรับวันใหม่ รับหน้าที่ซูเปอร์แม่เลี้ยงต่ออีกหนึ่งวัน

เด็กชายองตวนมารอหน้าประตูห้อง ลงไปข้างล่างด้วยกัน เด็กชายคว้าไอโฟนไปนอนเล่นเกม ฉันยกแม็คบุคเข้าห้องครัว ทำงานตอบเมลกิจการกำมะหยี่ วันนี้ที่สำนักพิมพ์เล็กๆ ของเรามีเรื่องตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อสายส่งถามมาว่าเราจะมี “คำสาปร้านเบเกอรี” ส่งให้เขาหลังงานหนังสือหรือเปล่า เพราะที่เหลืออยู่ในคลังมีน้อย อาจจะไม่พอส่งให้ร้านค้าที่เรียกขอหนังสือเพิ่ม

เหตุการณ์แจ้งขอให้ส่งหนังสือเพิ่มไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เรื่องที่เราขายหนังสือส่วนที่เรากันไว้ขายเองออกไปจนเหลือไม่เท่าไหร่ แถมในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้สิ สาวๆ กำมะหยี่กรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่ คุณแอนดีใจออกนอกหน้ามาก คิดหาวิธีการนำเสนองานพิมพ์ครั้งที่สองหลายทาง ส่วนฉันยังยิ้มๆ อยากดูข้อมูลก่อน ยังไม่อยากกระโจนผาดโผนมาก ขอมองหน้ามองหลังก่อน น้องออมเตรียมตัวพร้อมประสานงานติดต่อขอราคาและข้อมูลมือระวิง ส่วนฝนคงนั่งส่ายหน้าสงวนท่าที คอยปรามๆ ขรึมๆ แต่รู้หรอกน่าว่าก็แอบดีใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน




คลิกที่ลูกศรตรงกลางเพื่อดูวิดีโอค่ะ


ระหว่างที่ตอบอีเมลกันไปมา ฉันก็วิ่งรอกออกไปสอนเด็กชายเล่นเกม wii fit กับ "ให้อาหาร" เปลี่ยนถ่านที่ชาร์จเต็มใส่ฐาน แล้วเริ่มไล่เล่นที่ละเกม แรกๆ แกก็ยังไม่ชินกับการเล่นเกมแบบขยับเนื้อขยับตัวจริงๆ ฉันเลยต้องโชว์ว่าเล่นเกมนี้ มันต้องอดทน ต้องอึด ไม่กลัวเหนื่อย ด้วยเกมฮูลาฮูบขั้นแอดวานซ์สิบนาทีเต็ม ส่ายสะโพกไปช่วงแรกๆ ก็แรงดีอยู่ ช่วงหลังๆ แรงตก ชักแฮ่กๆ แต่ฝืนอึดเอาไว้ เดี๋ยวเสียฟอร์ม สอนไม่สำเร็จ

และก็ได้ผลเป็นอันดี อองตวนเริ่มฝึกเล่นเกมแบบไม่หวือหวาไล่ยิงล้างผลาญ แต่ต้องเล่นนานๆ ได้ ต่อจากนั้นไปลงไปว่ายน้ำกัน ต่อด้วยห้องสตีม ขึ้นมาทำอาหารว่างให้กินเล็กน้อย แล้วไปเรียนปั้นดิน

วันนี้ฉันหัดปั้นตุ๊กตาด้วยดินเหนียวตัวแรกในชีวิต เป็นรูปอองตวนเล่นเพลย์สเตชั่น เดี่ยวพรุ่งนี้แต่งผิวให้เรียบร้อยแล้วจะเอามาอวด




คลิกที่ลูกศรตรงกลางเพื่อดูวิดีโอค่ะ



ป.ล. วันนี้มีบทสนทนาซึ้งๆ น่ารักอยู่แว่บนึงระหว่างทางกลับบ้าน

อองตวน : ตอนที่อยู่ที่นี่สิบกว่าวัน อองตวนรักแม่ที่สุดเลย

ฉัน : ก็ดีแล้วนี่ลูก รักแม่ก็ดีแล้ว เดี๋ยวอีกสองวันก็ได้กลับบ้านแล้ว

อองตวน : เปล่าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น อองตวนมีแม่สองคนไง หม่าม็อง กับ นิชา (ฉันเอง)

ฉัน : อ้อ เหรอ (ออกแนวตั้งตัวไม่ติด ไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองว่าแกหมายถึงฉัน แต่แอบใจสั่นนิดๆ ฉันไม่เคยคิดว่าเด็กต้องมองฉันเป็นแม่อีกคนหนึ่ง เหตุผลหนึ่งคือ ยังไงแม่เลี้ยงก็ไม่ใช่แม่จริง ฉันไม่ได้อยากแข่งกับใคร หรือโดนจับไปเปรียบเทียบกับใคร ยิ่งกับคนเป็นแม่เนี่ย แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้แข่ง ฉันอยากเป็นคนหนึ่งคนที่อยู่ในชีวิตแก คอยดูแลแกเวลามาเยี่ยมป่ะป๊า แต่จะให้เป็นอะไรกันแน่ ก็ยังบอกไม่ได้เหมือนกัน)






>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 22 ตุลาคม 2552    
Last Update : 23 ตุลาคม 2552 3:43:25 น.
Counter : 881 Pageviews.  

- 21 OCTOBRE 09 แม่เลี้ยงบันทึก วันที่ 10

แม่เลี้ยงบันทึก วันที่ 10

Antoine in Bangalore Day 10


คลิกที่ลูกศรตรงกลางหรือมุมซ้ายมือบนเพื่อดูสไลด์ค่ะ


วันนี้รู้สึกเหี่ยวอย่างแรง ไม่ได้เหี่ยวหมดเรี่ยวแรงเพราะต้องดูแลเด็ก เนื่องจากเมื่อคืนนอนดึกเกือบตีสาม ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเพราะอดหลับอดนอนดูแลหวานใจที่ไม่สบาย แต่เป็นเพราะดันตามลิงก์จากบล็อคคุณแอนไปดูตัวอย่างหนังเรื่อง “รถไฟฟ้า มาหานะเธอ” แล้วต่อด้วยวิดีโอรายการวูดดี้เกิดมาคุย ตอนไปสัมภาษณ์ท่าน ว. ในบล็อกคุณหริ่น

เวลาออนไลน์ทีนึง นอกจากเฟซบุคแล้ว ก็มีสองบล็อกนี้ล่ะที่ฉันเข้าไปดูตลอด ของคุณแอนหุ้นส่วน เอาไว้ดูความเคลื่อนไหวในชีวิตของเธอว่าอยู่สุขสบายใจดีอยู่หรือเปล่า บางทีอ่านรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง บางทีเธอใส่รหัสหนาแน่น แกะไม่ออก แต่แค่เห็นเธอมีเวลามาเขียน ฉันก็สบายใจล่ะ ส่วนบล็อกคุณหริ่น เนตรนภา ตามอ่านมานานแล้ว เธอเขียนสนุก อ่านเพลินดี ตามประสาเมียฝรั่ง สาวไทยต่างแดน และคนทำหนังสือเหมือนกัน



เช้านี้ ตื่นมา ลุกแบบโผเผ มีเด็กมาทวงถึงหน้าประตูห้องนอนว่า เช้านี้จะเล่นเกม wii ด้วยกันไง เริ่มต้นวันด้วยการชวนเด็กรดน้ำต้นไม้ ลงไปทอดไข่ดาวกับไส้กรอกไก่ที่เลือกซื้อด้วยกันเมื่อวาน เป็นอาหารเช้าง่ายๆ ทำสะดวก และเด็กชอบกิน กินได้ทุกวัน ไม่ต้องนั่งคิดเมนูให้ยุ่งยาก แต่กินซ้ำๆ ของทอดๆ อย่างนี้มาสองสามวันแล้ว ไม่ได้กินผักเลย แถมมื้อเที่ยงก็ร้องจะกินนักเก็ตไก้กับเฟรนช์ฟรายอีกต่างหาก

สงสัยพรุ่งนี้เช้าต้องเปลี่ยนเพื่อเพิ่มสารอาหาร ต้มจืดไก่ใส่ฟักกินกับข้าวน่าจะดี คืนนี้เป็นอาหารอินเดียแกะมาซารา จานเด็ดของแม่มันจุฬา จัดให้ เพราะอองตวนได้กินแกะมาซาราที่ฟิชแคมป์เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาแล้วบอกว่าชอบ

ในส่วนของกิจกรรมโปรด - เล่นเกม เมื่อวานนี้อองตวนลองเล่นเกมในไอโฟนแล้วติดอกติดใจจอแบบทัชสกรีน ไม่เหลียวมองเพลย์สเตชั่นแบบพกพาที่ต้องกดปุ่มอีกเลย วันนี้ลองให้เล่น wii fit แบบที่ต้องเล่นบนฐานขยับร่างกาย ดูแกชอบใจเป็นอันดี แม้ว่าตอนแรกๆ จะยังเขินๆ อยู่ แต่โชคร้ายถ่านของฐานดันหมด ต้องถอดออกมาชาร์จ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเริ่มเล่นกันใหม่อีกที

สำหรับกิจวัตรประจำวันที่ไม่เคยพลาด คือการว่ายน้ำ เมื่อวานฉันไม่ลงสระด้วย นั่งรออยู่ขอบสระ แต่วันนี้ลงไปเล่นเป็นเพื่อน อองตวนดีใจใหญ่เข้ามาเกาะหลังหนึบ ไม่สนใจจะฝึกท่าว่ายน้ำซึ่งเพิ่งจะว่ายเป็นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วอีกเลย

ต่อด้วยชั้นเรียนปั้นดิน วันนี้อาจารย์สอนขึ้นแม่พิมพ์กับปูนปลาสเตอร์ ด้วยการปั๊มมือของอองตวนลงดินเหนียวแล้วเทปูนลงไป ฉันหัดขึ้นรูปแบบทรงกระบอกใช้เครื่องมือที่เรียกว่าริปโบนในการกลึงให้พื้นผิวเรียบเนียน

วันนี้วันที่ ๒๑ แล้ว เหลือเวลารับบทซูเปอร์แม่เลี้ยงอีกสามวันเท่านั้น อองตวนจะกลับเมืองไทยคืนวันเสาร์

ใจหายนิดๆ โล่งใจหน่อยๆ



>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 21 ตุลาคม 2552    
Last Update : 21 ตุลาคม 2552 22:06:50 น.
Counter : 834 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.