- 06 FEVRIER 08

ทำหน้าที่พลเมือง

C'est fait ... c'est fait...

     ภารกิจหนึ่งที่ฉันจะต้องทำในช่วงกลับมาเมืองไทยคราวนี้ คือ การยื่นแบบภาษีรายได้ประจำปีที่แล้ว

     เมื่อวาน ตื่นมาปลุกปล้ำกับการยื่นภาษีแบบออนไลน์ เผชิญปัญหาเป็นระยะๆ ปัญหาแรก คือช่องในตารางคู่สมรสมีให้ติ๊กว่าเป็นคนต่างด้าว แต่มันบอด-ติ๊กไม่ได้ ต้องโทรไปคอลเซ็นเตอร์ของกรมสรรพากร รอสายอยู่นานพอสมควรทีเดียวกว่าจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ ปรากฎว่าต้องติ๊กว่าคู่สมรสไม่มีรายได้ (สำหรับยื่นแบบในเมืองไทย) ก่อนจึงจะสามารถติ๊กช่องคนต่างด้าวได้

     ฉันถือโอกาสถามว่าในกรณีของฉันในปีหน้า ตัวไม่อยู่เมืองไทย แต่ยังมีรายได้ในเมืองไทยจ่ายโดยสนพ.ไทย เข้าบัญชีธนาคารในเมืองไทยอยู่ ยังต้องยื่นแบบหรือเปล่า เขาบอกว่ายังมีหน้าที่ต้องยื่นต่อไป ... ก็ดี...เข้าทางเลย เพราะการยื่นแบบภาษีของฉัน ส่วนมากจะเป็นขอการรับเงินที่โดนหักภาษี ณ ที่จ่ายกลับคืนมา มากกว่าการจ่ายภาษีเพิ่มเติมอยู่แล้ว

     ทำตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ กรอกตัวเลขรายได้และจำนวนเงินที่โดนหัก ณ ที่จ่ายเรียบร้อยแล้ว ข้ามไปหน้าลดหย่อน ได้ลดหย่อนของตัวเองสามหมื่นตามปกติ ที่เพิ่มเข้ามาคือได้ลดหย่อนเพราะคู่สมรสไม่มีรายได้อีกสามหมื่นแน่ะ บวกกับค่าประกันชีวิตอีกเล็กน้อย รายได้พึงประเมินที่ออกมาเลยเหลือไม่เท่าไหร่

     แต่ครั้นจะคลิกยื่นแบบให้เสร็จๆ ดันเกิดปัญหาขึ้นอีก โปรแกรมบอกให้เข้าไปหน้าผู้จ่ายเงินได้ก่อน ฉันเชื่อฟังตามเข้าไปต้อยๆ อ้าว ... มีช่องให้กรอกแค่ช่องเดียว ในขณะที่ฉันมีผู้จ่ายเงินได้ประมาณสามสี่เจ้า เดือดร้อนต้องโทรศัพท์ไปที่คลล์เซ็นเตอร์อีกครั้งหนึ่ง รอสายอยู่นานเหมือนเดิม ก่อนจะได้รับคำตอบว่าให้เลือกผู้จ่ายที่จ่ายเงินให้ฉันมากที่สุด

     กลับมาหน้าจอเพื่อปลุกปล้ำกับแบบภาษีออนไลน์อีกครั้ง เหวอ.. พอใส่หมายเลขผู้เสียภาษีของผู้จ่ายไปแล้ว ทำไมเงินภาษีที่ขอคืนมันน้อยลงกว่าเดิมล่ะ หรือเขาจะลิงก์ข้อมูลจากหมายเลขผู้จ่าย หรือฉันควรจะยื่นเป็นกระดาษแบบดั้งเดิมดีหว่า



     ค้างคำถามเอาไว้แค่นั้น เพราะคุณแอลกับคุณเท็นมารับตัวไป "ประชุมภายใน" ของผู้ร่วมก่อการสำนักพิมพ์กำมะหยี่ที่ริมทะเล เริ่มประชุมกันตอนบ่ายสามโมงกว่าๆ เลิกกี่โมงไม่รู้ รู้แต่เบียร์หมดไปเกือบสองโหล อาหารทะเลเพียบเต็มโต๊ะ เมื่อคืนนอนที่กระท่อมน้อยกลอยใจของคุณแอล

     นอนปวดหัวตึ้บๆ สัญญากับตัวเองรอบที่ล้านว่าจะไม่ดื่มมากขนาดนี้อีกแล้ว กลางดึก ตื่นลืมตาโพลง ได้ยินเสียงครืนๆ นึกว่ามีใครถีบคันสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าบ้าน ฟังไปฟังมา เพิ่งนึกออก อ๋อ ... เสียงคลื่นที่ซาดซัดหาดทรายต่างหากเล่า

     ตื่นมาตอนสายๆ ตั้งใจจะพาเพื่อนทั้งสองมากินเกี๊ยวเนินหย่อง แต่วันนี้วันตรุษจีน ร้านปิด จึงขับเลยไปกินขนมจีนบ้านนาแทน ก็อร่อยดี แต่ฉันอยากกินเกี๊ยวน้ำมากกว่า มาคราวนี้ไม่มีโอกาสได้กินเลย ฮือๆๆๆ

     กลับถึงบ้าน ต่อเน็ต เช็คเมล กงสุลฝรั่งเศสอีเมลตอบมาว่าในวีซ่าของฉัน กำหนดช่วงให้กลับภายในวันที่สิบห้าเดือนนี้ถึงสิบห้าเดือนหน้า ...เย้ พอรู้อย่างนี้แล้ว ก็ช่วยให้ชีวิตโล่ง สามารถโทรศัพท์ไปคอนเฟิร์มตั๋วเครื่องบินได้ทันที และในวันพรุ่งนี้ไม่ต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่ เพื่อขึ้นรถเที่ยวหกโมงครึ่ง เข้ากรุงเทพไปรับวีซ่าก่อนเที่ยงก็ได้ ผัดไปรับเช้าวันศุกร์ได้เลย ฮ่าๆๆ เริ่ด

     เอ้า ... เปิดเวบสรรพากรอีกรอบ ลองเริ่มต้นกรอกแบบฟอร์มภาษีอีกครั้งสิ ค่อยๆ ทำไปตามขั้นตอน ปรากฎว่ายื่นสำเร็จ และขอเงินภาษีคืนตามจำนวนที่ควรจะเป็นจนได้ เดี๋ยวกลับมาจากภูเก็ตค่อยเช็คดูอีกทีว่าต้องเอาเอกสารเข้าไปยื่นให้เขาตรวจดูหรือเปล่า ถ้าต้องยื่น เดี๋ยวฝากคุณนายแม่ส่งให้ละกัน




     เป็นอันจบภารกิจปฏิบัติหน้าที่พลเมืองสำหรับรอบปีนี้แต่เพียงเท่านี้



>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 16:30:02 น.
Counter : 803 Pageviews.  

- 04 FEVRIER 08

ฉันมันงก..ใช่..แล้วยังไง

Ouiiii... je suis radine..et alors?


     ตื่นบ่ายโมงครึ่ง นอนฝันร้าย ฝันว่ากลายเป็นคนเร่ร่อน หอบกระเป๋าเดินทาง กล้องแคนดี้กับโน๊ตบุค นอนเล่นตามทางเท้าข้างถนนในปารีส

     หลุดเข้าไปนั่งในคาเฟ่แห่งหนึ่ง ที่อยู่ๆ ป้ายติดบอกรายการอาหารกลายเป็นภาษาไทยไปเสียอย่างนั้น เจอผู้หญิงเป็นนายหน้าหางานคนนึง ฉันเซ็นสัญญาเป็นงานถ่ายรุปไปฉบับนึง ในความฝันพยายามนึกว่าจะไปหาเพื่อนที่ไหนได้ นึกเบอร์โทรศัพท์ของฟิลูลูออก ค้นเจอนามบัตรของหวานใจ แต่พอจะโทร เงินโทรศัพท์หมด เลยต้องไปซื้อที่เคาน์เตอร์

     บทจะซวย คนมันก็ซวยได้ในทุกอิริยาบท ซื้อบัตรเติมเงินมาได้ แต่ดันขูดแรงเกินไป ตัวเลขรหัสลอกหลุดอ่านไม่ออก ... เฮ่อ ... ฝันจบเพียงแค่นี้


     กลับมาในโลกแห่งความจริงบ้าง ลุกขึ้นล้างหน้าล้างตา ตัวเมื่อยขบ ชงกาแฟจืดๆ กินหนึ่งแก้ว เปิดเน็ตเช็คราคาแม่บ้านที่จ้างมาทำงานที่เนยยี่ เพราะเมื่อวานคุยเรื่องนี้กับคุณนายแม่ แล้วลองคำนวณราคารวมๆ รายเดือนคร่าวๆ ว๊าย...ทำไมมันแพงอย่างนั้น จะคุ้มหรือเปล่านี่

     ความงกเข้ามารบกวนจิตใจอยู่แว่บๆ เช้านี้ตื่นมา เหมือนปัญญาเกิด ถ้าเสียดายเงินก็ไม่ยากเลยคุณนายขา เมื่อมีคนมาดูแลเรื่องความสะอาดแล้ว คุณนายก็เอาเวลาว่างที่เหลือ ใช้ประโยชน์จากความปลอดโปร่งใจหาเมนูแปลกๆ อร่อยๆ ทำอาหารให้สามีกินเป็นการชดเชย ลดการออกไปกินตามร้านอาหารลงสิคะ

     จากการเก็บสถิติในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา การทำอาหารกินเองที่บ้านจะใช้เงินน้อยกว่าไปกินตามร้านประมาณ 60% ทั้งยังอิ่มอร่อยกว่า สามารถเก็บไปกินเป็นอาหารกลางวันของฉันในวันรุ่งขึ้นได้ นอกจากประหยัดเงินตรงนั้นมาจ่ายแม่บ้านแทน ยังเป็นการเพิ่มความหวานชื่นในชีวิตคู่ เติมทักษะเสริมสเน่ห์ปลายจวักติดตัวอีกด้วยนะคะ

      ถึงคิดตั้งใจได้อย่างนั้นแล้ว แต่ก็อดจะแว่บเข้าไปเวบไซต์ของบริษัทแม่บ้านไม่ได้ ตรวจสอบข้อกำหนดในการลดหย่อนภาษีจากการจ้างงานนี้แล้วยิ้มออก เย้...ตามกฎหมาย เขาให้ลดหย่อนภาษีได้ตั้งครึ่งนึงแน่ะ แล้วยังไม่มีเงื่อนไขกำหนดด้วยว่าจะต้องมีรายได้เท่าไหร่ หรือมีคนในครอบครัวกี่คน แสดงว่าทางรัฐบาลเขานับสนุนให้มีการจ้างงานเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ เพื่อจูงใจไม่ให้มีการงุบงิบจ้างงานเถื่อน ...ดีแฮะ





     ตอนนี้หวานใจอยู่อินเดีย เมื่อคืนพอถึงโรงแรมก็โทรมาหา ฉันรีบเตือนให้ส่งเสื้อเชิ้ตไปซักรีด เพราะแน่ใจว่าหนึ่งอาทิตย์กว่าๆ ที่ผ่านมา นี่ หวานใจคงจะใช้สต็อคเสื้อเชิ้ตที่รีดแล้วไปจนหมด อยู่ที่อินเดีย อากาศไม่หนาว คงจะใช้วิธีใส่เสื้อถักคลุมปิดร่องรอยยับย่นของเสื้อเชิ้ตที่ภรรยาไม่มีเวลารีดให้อย่างที่ทำเป็นบางครั้งเวลาอยู่ฝรั่งเศสไม่ได้หรอก

      พอเตือนเรื่องเสื้อแล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงกางเกง เลยหลุดปากถามไปว่าเอากางเกงมาพอใส่หรือเปล่า หวานใจหัวเราะก๊ากร้องส่งเสียงลั่นมาตามสาย พอคร๊าบบบ คุณแม่ ไม่ต้องห่วงคร๊าบบ ฉันจึงได้สติรู้สึกตัวว่าทำตัวและพูดจาเหมือนแม่จริงๆ ด้วย



     สลดแล้วก็ยิ้มออก ... ถ้าทำตัวน่ารำคาญเพราะความเป็นห่วงใยเหมือนคนเป็นแม่ แสดงว่าฉันรักเขาจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย



>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 15:40:51 น.
Counter : 837 Pageviews.  

- 03 FEVIER 08

ไร้ประโยชน์... แต่รู้สึกดี

Je suis inutile..et ça fait du bien


     ขณะนี้อยู่บ้านระยอง ทำตัวไร้ประโยชน์มาก กินๆๆๆ นอนๆๆๆ งานบ้านไม่จับ

     แต่ทำงานการเขียนคอลัมน์ส่งท่าน บ.ก. วิภว์ ณ แฮพเพ็นนิ่งหนึ่งต้นฉบับตามขนาดที่กำหนด

     อ่านหนังสือเล่มหนาจบสองเล่ม คือ "นวจันทรา" กับ อีนิกมา" ที่คุณนพดลกรุณาส่งมาให้

     กลับมาคราวนี้ สถานการณ์การปฏิสัมพันธ์กับคุณนายแม่เป็นไปได้อย่างดี ยังไม่ปรากฎว่ามีการขัดเคืองใจกันแรงๆ ออกแนวหยอกล้อกันเบาๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่กับคุณท่านพ่อถึงขั้นเงียบกริบ แทบจะไม่ได้ได้พูดจาสนทนาเป็นเรื่องเป็นราว ... ไม่รู้เป็นยังไง

     เอาเถอะ ... อย่าคิดมาก ก่อนจะไปอยู่ที่โน่น ฉันกับพ่อไม่ค่อยจะได้คุยกันอยู่แล้ว ถ้าจะหวังให้พูดคุยจี๋จ๋าทันทีที่กลับมาแดนไกล ก็คงจะหวังมากไป

     ข่าวร้ายมาก -- เครื่องทำกาแฟเอ็กเพรซโซไฮโซเสีย ต้องชงกาแฟใส่ที่กรองกาแฟกระดาษ ... อี๊ๆๆๆ ไม่รู้ว่ากาแฟสวีเดนที่ซื้อมาจาก Ikea เมันจืดๆ หรือชงผิดหลักแบบนี้แล้วรสชาดเสียหาย แต่ก็ดีกว่ากาแฟสำเร็จรูปผสมแล้วเป็นซองๆ ของคุณนายแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องลองโทรหาศูนย์ Krubs ว่ารับซ่อมหรือเปล่า จะได้ส่งให้ไปดูทางไปรษณีย์ หรือไม่ก็ลงทุนขนขึ้นรถทัวร์ไปเอง

     เมื่อวานนี้พี่มีน พี่สาวแสนสวยพาครอบครัวมาที่บ้าน พี่น้องสองสาวนั่งกินเบียร์ตากยุงหลังบ้านกันไปหลายกระป๋อง นั่งคุยบนซีเมนต์ปากบ่อน้ำอยู่นานเป็นชั่วโมงๆ คุยเรื่องโน่นเรื่องนี้ติดลมจนเบียร์หมด เช้ามาเจ็บก้น ขาเป็นริ้วรอยโดนยุงกัด

     หลานสาวผ้าไหมใส่ชุดที่น้ามิวซื้อมาฝากได้พอดี ส่วนหลานชายใบหม่อนงอแงไม่สบายเห็นน้ามิวเป็นผีสาง เจอหน้าปุ๊บร้องโยเยปั๊บ สงสัยจะจับรังสีอำมหิตได้ (ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยรักเด็ก -- ไม่รู้เป็นไร)



     วันนี้หวานใจมาต่อเครื่องที่กรุงเทพฯ เพื่อไปอินเดีย ฉันตัดสินใจบอกไปแล้วว่าไม่อยู่กรุงเทพฯ ต่อรอเจอกันนะ ขอกลับมาบ้านก่อน เพราะว่าเสาร์อาทิตย์นี้เป็นสุดสัปดาห์เดียวที่ฉันจะได้เจอกับพี่มีนและหลานๆ ฉันจะได้อืดฉืดอยู่บ้านอีกสามวันเท่านั้น วันพฤหัสต้องเข้ากรุงเทพไปรับวีซ่าตั้งแต่เช้าตรู่ ทางสถานทูตโทรมาบอกตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้ว หลังจากยื่นไปสองวันว่าวีซ่าผ่านแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ไว้ใจ อยากตรวจดูให้แน่นอนว่าเขาอนุญาตให้เข้าฝรั่งเศสในช่วงไหน ใช่ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภานี้ อย่างที่ฉันขอไปหรือเปล่า

     โทรศัพท์เข้าไปสอบถามที่สถานทูตหลายรอบมาก ถึงจะโทรตอนหลังบ่ายสองอย่างที่เขาบอกไว้ในเครื่องรับโทรศัพท์ แต่รอแล้วรอเล่า ก็ยังไม่มีใครมารับสาย ครั้งจะรอโทรวันจันทร์ คาดว่าคงจะคว้าน้ำเหลวอีกเช่นเคย เมื่อกี้ฉันเลยส่งอีเมลไปถาม อยากได้คำตอบเร็วๆ จัง จะได้ยืนยันตั๋วเครื่องบินวันที่ 19 ที่จองไว้ จะตัดเรื่องให้ต้องกังวลออกไปได้เรื่องนึง

     กลับบ้านมาคราวนี้ ต้องเคลียร์เรื่องภาษีของปีที่แล้วด้วย พี่วิ พี่เขยผู้จัดการฝ่ายบุคคลอาสาจะยื่นแบบให้ แต่ฉันว่าฉันจะยื่นเองทางอินเตอร์เน็ต อยากรู้จังว่าแต่งงานแล้วได้ลดหย่อนภาษีหรือเปล่าในกรณีที่แยกยื่นแบบ เดี๋ยวต้องลองเข้าไปดูที่เวบไซต์ของกรมสรรพากร

     ปีนี้ท่าทางรายได้จะไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีอีกแล้ว คงได้แต่ขอภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายกลับคืนมาประทังชีวิตยากไร้ ให้สามารถช้อปปิ้งได้ต่ออีกสักนิด



      เฮ่อ บล้อกนี้มีแต่ข้อมูลไร้ประโยชน์ สมกับหัวข้อจริงๆ แต่เขียนแล้วรู้สึกดี ฮ่าๆๆ




>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2551 23:57:32 น.
Counter : 925 Pageviews.  

- 31 JANVIER 08

กลับ บ้าน เรา

Je suis rentrée chez moi.


     กลับถึงบ้านระยองแล้วตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นๆ มอบของฝากให้คุณนายแม่กับคุณท่านพ่อ คุณนายแม่ยิ้มแป้นชอบกระเป๋ากับสบู่ก้อนโตที่ฉันซื้อมาฝาก ส่วนคุณท่านพ่อ เห็นเครื่องเฮลิคอปเตอร์บังคับแล้วบอกว่าที่ตลาดนัดก็มีขาย ทำเอากร่อยๆ ไปเล็กน้อย

     ได้แต่จำเอาไว้ในใจว่า คราวหน้าถ้าซื้อของฝากจากฝรั่งเศสต้องดูให้เป็นสินค้าเมดอินฟร๊านซ์ ไม่ใช่เมดอินไชน่าที่ส่งขายทั่วโลก

     สิ่งที่แตกต่างระหว่างบ้านระยองกับบ้านเนยยี่ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ อากาศที่นี่อบอุ่นแสนสบายไม่หนาวสั่นอย่างที่โน่น ที่สำคัญ อยู่ที่นี่ ฉันนอนอุตุสิบกว่าชั่วโมงรวดได้ โดยไม่รู้สึกว่ามีอะไรต้องให้ลุกขึ้นมาทำ

     การไม่มีอะไร "ต้องทำ" หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "หน้าที่" เนี่ย ช่างเป็นชีวิตที่สบายดีจริงๆ นะ สามวันที่อยู่กรุงเทพฯ ถึงจะมีภารกิจที่ต้องติดต่อให้ทำ แต่ไม่ต้องทำหน้าที่การงาน ไม่ต้องแตะงานเขียนงานแปลงานแก้ตรวจใดๆ รู้สึกว่าโลกไหลไปเอื่อยๆ หัวเบาลง มีเวลาดูแลลงครีมใบหน้าเนื้อตัว มีเวลานั่งละเลียดไปเรื่อยๆ หน้าตาสดใสขึ้นตั้งเยอะ

     สงสัยต้องมีการกำหนดช่วงเวลาการกลับมาเป็น "โสดและไม่มีงานทำ" ไม่มีหน้าที่ศรีภรรยาคอยจิ้มหลัง ไม่มีหน้าที่นักแปลคอยกระทุ้งข้างแบบชั่วครู่ชั่วยามอย่างนี้ปีละครั้งสองครั้งเสียแล้ว ..ฮ่าๆๆ

     เมื่อคืนหวานใจโทรมาบอกว่า ตอนนี้มีการกำหนดย้ายไปทำงานที่บังกาลอร์ ประเทศอินเดียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เราจะย้ายไปอยู่ที่อินเดียกันในเดือนกรกฎาคม ... ได้ยินแล้ว ใจหนึ่งรู้สึกยินดี เพราะจะได้ไปอยู่ในประเทศใหม่ที่มีอากาศอบอุ่น ไม่ต้องทนทรมานใส่เสื้อสามสี่ชั้น (แล้วก็ยังหนาวสั่น) เหมือนที่ฝรั่งเศส

     ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น รู้สึกใจหาย เหมือนกับต้องกลับออกมายืนอยู่บนชานชลารถไฟ รอการเปลี่ยนแปลงและการเดินทางไปยังที่อื่นอีกครั้ง ไม่ได้ลงหลักปักฐานใช้ชีวิตนิ่งๆ เสียที นี่ฉันจะต้องอยู่ในช่วงรอการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเพื่อจะได้เจอกับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งแบบนี้ไปตลอดชีวิตหรือไง

     แต่เมื่อหวานใจบอกว่าเขาอยากเดินทาง อยากไปทำงานต่างประเทศ เขาไม่อยากทำงานท่ามกลางฝูงฉลามในอากาศเย็นๆ แบบนี้ ฉันก็ได้แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอก ชีวิตจะได้มีรสชาติไง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำซากดี อินเดียเองก็เป็นประเทศเก่าแก่ที่น่าสนใจ แถมยังพัฒนาก้าวหน้า



     ฉันจะได้เรียนรู้ชีวิตและวัฒนธรรมใหม่ๆ ได้ลองใส่ส่าหรีไงล่ะ



ป.ล. ภาพข้างบนเป็นภาพตอนที่เพื่อนรักสาวโสดของฉันทั้งสองคนมาเยี่ยมชมห้องพักเมื่อคืนก่อน ภาพสามสาวสามสไตล์นี้มีประวัติ เมื่อตอนเรียนอยู่ ปี 4 ด้วยกันย้อนหลังไปเมื่อ... เอ่อ... 15 ปีก่อน เราสามคนมีรูปที่ถ่ายสามคนด้วยกันแบบนี้หนึ่งรูป และต่อมาทุกครั้งที่เจอกัน เมื่อมีกล้อง และที่สำคัญเมื่อมีพี่เลิศ ตากล้องคนเดิมอยู่ด้วย เราก็จะกรี๊ดกร๊าดเข้ากล้องโพสท่าเดิมถ่ายรูปด้วยกันทุกครั้งไป เดี๋ยววันหลังจะเอารูปที่ถ่ายสามคนในแต่ละโอกาสแต่ละยุตมาเปรียบเทียบให้ดูว่าใครเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง




>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2551    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2551 18:50:39 น.
Counter : 794 Pageviews.  

- 30 JANVIER 08

ติดฝน... แต่ทำทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อย


--Il pleut... ---


     เมื่อคืนนอนดูดีวีดีรายการตลกขำกลิ้งของอังกฤษเรื่อง Little Britain กว่าจะได้นอนก็เกือบตีสอง

     ตั้งนาฬิกาปลุกไว้แปดโมงเช้าบนมือถือเครื่องใหม่ที่ซื้อมาเมื่อวาน เนื่องจากมือถือเครื่องที่เอามาจากฝรั่งเศสโดนล็อกเครื่องไม่ให้ใช้ซิมของระบบอื่น พนักงานแนะนำให้ไปปลดอีมี่ตามร้านมือถือแต่ฉันขี้เกียจเสียเวลาเดินหา และไม่รู้ว่าค่าปลดค่าเดินทางจะคุ้มหรือเปล่าเลยตัดสินใจซื้อเครื่องใหม่ เอารุ่นถูกสุดนะคะน้อง

     ถึงจะราคาถูก แต่เจ้าแอลจีก็ทำงานได้ตรงเวลา แปดนาฬิกา เสียงเพลงปลุกดังขึ้น ฉันนอนโอ้เอ้ ลุกดีไม่ลุกดี ไม่อยากลุกเลย ลุกเถอะ วันนี้มีอะไรต้องทำหลายอย่าง ต้องไปที่แผนกวีซ่าก่อนเที่ยง เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าเขาได้รับแฟ็กซ์สำเนาพาสปอร์ตของหวานใจที่หวานใจส่งมาจากนิวยอร์คเมื่อคืนนี้หรือยัง ถ้ายังจะได้ให้แฟกซ์ใบสำรองที่ฉันให้หวานใจแฟ็กซ์มาที่โรงแรมด้วยเป็นแผ่นแบ็คอัพ

     ฝนตกพรำๆ ทำให้ลังเลว่าจะไปดีมั้ย หรือจะโทรไปเช็คตอนบ่ายสอง แต่โทรศัพท์สถานทูตไม่ค่อยมีคนรับสายนะจำไม่ได้เหรอ อือ... จะเอายังไงดี ระหว่างที่ยังลังเลใจอยู่ ยกหูโทรศัพท์บอกให้ทางโรงแรมยกอาหารเช้าขึ้นมาส่งบนห้อง กินไปดูรายการทีวีช่องซีเอ็นเอ็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาไป สิบโมงกว่าๆ ฝนเริ่มจางเม็ด อาบน้ำแต่งตัว เรียกแท็กซี่ไปส่งสถานทูต ไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงจุดหมายปลายทาง

      ต่อคิวรอแป็บนึงก็ได้ความว่าแฟ็กซ์มาถึงเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะรู้ผลวันที่เท่าไหร่เพราะต้องรอคำตอบจากหน่วยงานปกครองของพื้นที่ที่ฉันขอบัตรที่ฝรั่งเศสก่อน แต่เขาส่งเรื่องไปให้ทางโน้นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

     ปัญหาที่น่าเซ็งก็คือ ฉันจองตั๋วเครื่องบินเอาไว้แล้ว ออกเดินทางวันที่สิบเก้า ทางเอเย่นต์ตั๋วต้องการให้ยืนยันตั๋วก่อนออกเดินทางประมาณห้าวัน หมายความว่าวันที่สิบสามฉันควรจะรู้แล้วว่าวีซ่าจะอนุญาตให้เข้าฝรั่งเศสตั้งแต่วันที่สิบแปดได้หรือเปล่า

     ... เฮ้อ... ก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไป หวังว่าทางฝรั่งเศสจะไม่ขอเอกสารใบรับรองอะไรเพิ่มเติมมาในช่วงที่ฉันอยู่บนเรือที่ภูเก็ตนะ ถ้าเป็นอย่างนั้น คงต้องเลื่อนกำหนดเดินทาง เลื่อนตั๋วออกไปอีก และถ้าเลื่อนกำหนดเดินทาง เราก็ต้องโทรเลื่อนนัดแม่บ้านที่จะให้มาทำความสะอาดอพาร์ทเมนต์ที่ฝรั่งเศสออกไปอีก กระทบวุ่นวายเป็นทอดๆ ที่สำคัญคือ ฉันไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ห่างจากหวานใจ นี่แค่ห่างกันสามวัน ฉันก็คิดถึงเหลือเกินแล้ว

     ออกจากสถานทูต เข้าไปทักทายฟาเบียงเพื่อนเลิฟที่ห้องสมุดสมาคมฝรั่งเศส กินกาแฟหนึ่งถ้วย แวะไปส่งของที่ไปรษณีย์สวนพลู ก่อนจะไปรับแว่นที่สั่งตัดเมื่อวานซืนแล้วเลยไปที่สำนักงานการบินไทย เพื่อยื่นเรื่องขอเปลี่ยนนามสกุลในบัตรสะสมไมเลจ

     โชคดีจริงๆ ที่มาคราวนี้ ธุระทุกอย่างกระจุกอยู่แถวสาทร-สีลม ที่พักก็อยู่ในละแวกเดียวกัน รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกที่มาพักที่นี่ นอกจากจะได้ทำความรู้จักกับที่พักใหม่ๆ ในกรุงเทพแล้ว ยังสะดวกดีมากๆ ด้วย

     ทำธุระทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดินทะลุซอยมาออกถนนเดโช ซื้อลาบปลาดุกกับขนมจีนมากินที่ห้อง ระหว่างรอลาบ ข้ามถนนไปดูโฮสเตลเปิดใหม่ชื่อ Lub d เป็นโรงแรมเล็กๆ มีห้องรวม ห้องแยก ตัวอาคารน่าจะดัดแปลงจากตึกแถวเหมือนกันแต่จะออกแนวสปอร์ต เท่ๆ วัยรุ่นยี่สิบนิดๆ ใช้สีสันสดใสมากกว่าแนว Chic เก๋ๆ เมืองๆ เน้นไม้เรียบๆ คุมน้ำตาล เทา ดำ สำหรับคนทำงานวัยสามสิบอัพอย่าง Luxx

     เดินกลับโรงแรม จัดแจงจองห้องเพิ่มสำหรับช่วงที่กลับจากภูเก็ตก่อนไปฝรั่งเศส เพิ่มจากตอนก่อนไปภูเก็ตที่จองไว้สองคืนอีกสี่คืนรวมเป็นหกคืน ฉันเลยขอให้น้องเขารวบคืนที่จะพักคิดเงินแบบแพคเกจโปรโมชั่นสามคืนสี่วันสองชุดให้ โดยย้ำว่าฉันขออยู่ห้องเดิมเพราะขึ้นบันไดแค่ชั้นเดียว หวานใจจะได้ขึ้นสบายๆ ไม่ต้องเหนื่อยมาก



     เดี๋ยวอีกสักพักจะเข้าไปหาเจ๊นวลที่วงกลม สนพ. เจ๊บอกให้เข้าไปตอนบ่ายแก่ๆ ... ฉันก็ลืมถามว่าบ่ายแก่ๆ เนี่ยมันสักกี่โมงกันแน่



>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 30 มกราคม 2551    
Last Update : 30 มกราคม 2551 14:51:40 น.
Counter : 949 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.