- 10 OCTOBRE 07

อกหักรักคุด โธ่...อุตส่าห์ชื่นชม

--- J’ai le coeur brissé... ---

     เผลอแป๊บๆ วันพุธอีกแล้ว เมื่อกี้เพิ่งทำงานแปลข่าวเสร็จ วันนี้ไม่ค่อยมีข่าวฆ่าฟันกันสักเท่าไหร่ แต่มีข่าวน้ำท่วมจนความช่วยเหลือเข้าไปไม่ถึงชาวบ้านในแอฟริกาแทน

     วันนี้อยากผ่อนคลายอารมณ์ เพราะเมื่อคืนเพิ่งส่งต้นฉบับแปล Vous revoir ที่นั่งเกลาซ้ำๆ ซากๆ อยู่หลายรอบเพราะความไม่รู้จักวางระบบการเซฟงานที่ไม่สับสนของตัวเอง.... แต่ไม่เป็นไร จำเอาไว้เป็นบทเรียนของเล่มต่อๆ ไปได้

      ฉันเชื่อมั่นมาตลอดว่า "ผิดเป็นครู" แถมเป็นครูที่สอนเก่งชะมัดเลย นักเรียนจดจำบทเรียนได้ขึ้นใจไปตลอดชีวิต

      อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันเชื่อมั่น คือ คนเรามีสิทธิทำผิดได้ และมีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือปรับปรุงตัวใหม่ได้ ฉันจึงไม่ถือสาหาความคนที่รู้สำนึกในความผิดของตน ที่ร้ายกว่าคือคนที่คิดว่าตัวเองถูกทุกอย่างไม่เคยผิด และไม่ให้อภัยคนอื่นๆ เลยนี่สิ ... ฉันควรจะทำอย่างไรกับเขาดี ...หรือไม่ทำอะไรเลยดี แค่เลี่ยงห่างออกไปไม่สุงสิงก็พอ

      หรือแค่คิดว่าเขาเป็น "ครู"



      เฮ้ยๆๆๆ ...นอกเรื่องไปใหญ่แล้ว วันนี้อยากจะคุยเรื่องหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ช่วงนี้มากกว่าฟูมฟายอาการอกหักของตัวเอง มันก็แค่จิ๊บๆ เจี๊ยบๆ ทำงานสักวันสองวันก็หาย (การทำงานเป็นยาประสานหัวใจชั้นเยี่ยม... สูตรนี้ไม่หวงลิขสิทธิ์หรอกนะคะ)


     หนังสือที่ว่าเป็นหนังสือระดับโลกเชียวนะ เขียนเมื่อ 400 ปีที่แล้ว แต่เนื้อหาสาระและกลวิธีการเขียนของคนเขียนยังสามารถนำมาปรับใช้กับการดำรงชีวิตในปัจจุบันได้อยู่เลย เอ่อ... อย่างน้อยก็ในการดำรงชีวิตของฉันเองคนนึงล่ะ ฮ่า

     หนังสือเล่มนี้เขาโปรยสรรเสริญไว้ว่า นับจำนวนพิมพ์และจำนวนผู้อ่านมากที่สุด รองก็แต่พระคัมภีร์ไบเบิ้ล และที่สำคัญ (บนปกหลัง) เขาเน้นตัวเข้มว่า "ในชั่วชีวิตหนึ่ง หากแม้นสวรรค์ทรงอนุญาตให้อ่านหนังสือได้เพียงเล่มเดียว จงเลือกเล่มนี้เถิด ชีวิตจักไม่ตายเปล่าแน่" ว้าว... ต้องเชื่อมั้ยเนี่ย ...

      หนังสือเล่มนี้คือ "ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า" เขียนโดย มิเกล์ เด เซร์บันเดส ซาเบดร้า

     แหะๆ ที่จริงแล้ว ฉันยังอ่านไม่จบเล่มหรอก อ่านถึงแค่บทที่ 23 จาก 52 บท แต่แค่อ่านอรัมภบทของผู้เขียน ฉันก็รู้แล้วว่าคนเขียนไม่ธรรมดาเลย ถึงจะทำเป็นถ่อมเนื้อถ่อมตัว ออกตัว นอบน้อม อ้อมค้อมสารพัด แต่ฉันก็จับได้ถึงคารมเสียดสีวงการวรรณกรรม

     ที่สำคัญคือ อ่านๆ เรื่องราวไป แล้วมันคลับคล้ายกับชีวิตฉันยังไงชอบกล


     "ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า" เป็นเรื่องราวของชายชราผู้เป็นขุนนางต่ำศักดิ์ผู้หนึ่ง ที่คลั่งไคล้ใหลหลงชอบอ่านหนังสือนิยายและตำนานเกี่ยวกับอัศวินมากจนหัวปักหัวปำ จนหลงเข้าสู่โลกจินตนาการของตัวเอง หรือที่ใครๆ เรียกว่า สติวิปลาส

     วันหนึ่งเขาจึงตัดสินใจใส่ชุดอัศวินออกจากบ้าน หวังไปผจญภัยร้ายดำเนินรอยตามวีรบุรุษอัศวินในหนังสือที่เขาเคารพนับถือ

     "ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า" มีความคิดมุ่งมั่นสวยงามเป็นขั้นเป็นตอนอยู่ในหัว ตามขนบของเรื่องราวเกี่ยวกับอัศวิน เขารู้ว่าจุดเริ่มต้นของอัศวินต้องเป็นอย่างไร ต้องเจออะไร ต้องเก็บแต้มจากที่ไหน ต้องทำอย่างไรถึงจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ทุกอย่างถึงจะซับซ้อนแต่ไม่มีเรื่องน่าประหลาดใจเข้ามาแทรก

     (เป็นสูตรสำเร็จ คล้ายๆ กับละครทีวีบ้านเรา หรือไม่ก็หนังแอ็คชั่นฮอลลีวู๊ดเลย ฉันว่า)

      เขามองโลกในแง่ดี แม้จะต้องอดอยาก แม้จะมีภัยร้ายเกิดขึ้นเขาก็ไม่หวั่นไหว ถือเสียว่าเป็นการทดสอบจากสวรรค์ บ่อยครั้งที่เขาถูกทำร้าย บ่อยครั้งที่เขาบ้าบิ่นไม่ดูตาม้าตาเรือ เพราะมองทุกอย่างทุกผู้ทุกคนสูงเลิศลอย

     หลายครั้งหลายคราขณะที่เขาออก "ปราบภัยพาล อภิบาลผู้อ่อนแอ" เขาเคยถูกหัวเราะเยาะ เคยถูกหักหลัง ถูกเนรคุณ ถูกลอกคราบ แต่เขาก็ยังไม่ย่อท้อ สิ่งที่เขายึดมั่นคือความดีงามและความยุติธรรมอันเป็นพื้นฐานของศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ...

      นี่ล่ะ "ความ" ที่ได้จากการอ่านจนถึงหน้า 236 ยังเหลืออีกสามร้อยกว่าหน้า ฉันยังไม่รู้ว่าจะออกหัวออกก้อย


     ดอนกิโฆเต้ ชายผู้เสียสติเชื่อในโลกแห่งความฝันเปี่ยมอุดมคติ (อนิจจา "อุดมคติ" มีความหมายเท่ากับ "เสียสติ" ไปเสียแล้ว) จะเข้ากลับเข้าสู่โลกแห่งความจริงอันโหดร้ายของผู้มีสติสมประกอบหรือไม่ อ่านอีกสองสามวันก็คงจะรู้ได้



     ส่วนตัวอิฉัน จะออกจากโลกอุดมคติสวยงาม ไปมีสติดีแต่ใจร้ายเหมือนใครๆ จะล้มลุกคลุกคลานหรือไม่ อีท่าไหน ก็ต้องติดตามกันต่อไปเน้อ



>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่







Create Date : 10 ตุลาคม 2550
Last Update : 10 ตุลาคม 2550 17:52:18 น. 2 comments
Counter : 884 Pageviews.

 
เคยได้ยินชื่อดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่ามาตั้งแต่เด็กๆ ตามหนังสือเล่มโน้นบ้างเล่มนี้บ้าง

อ่านที่คุณมิวเขียนถึง.... ชักอยากจะอ่านบ้างเสียแล้ว


โดย: SevenDaffodils IP: 65.203.0.242 วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:23:45:29 น.  

 
ปกสีทองสวยมากมาย แต่พีทซื้อเร็วไปหน่อย เลยได้เป็นปกเขียวมาแทน

เป็นหนังสือเล่มโปรดของพีทเลยนะฮะ เพราะชอบสำนวนประชดประชัน อ่านแล้วได้อารมณ์ดี


โดย: DoRaePEET IP: 125.24.146.119 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:19:25:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.