- 19 FEVRIER 09 - โยเอ๋ย โยคะ

โยเอ๋ย โยคะ

     วันนี้ฉันเริ่มชีวิตวันใหม่อย่างโล่งสบายเป็นพิเศษ


     เพราะเมื่อวานแจ้งบ.ก. ที่แพรว สนพ.ไปแล้วว่าขอส่งงานครึ่งนึงก่อนสิ้นเดือนนี้ และอีกสองอาทิตย์ที่เหลือจะตามไป ยืดเวลาอออกไปได้ แต่ด้วยประสบการณ์การขอเลื่อนเวลาอันโชกโชน ฉันก็บังคับตัวเองให้นั่งทำงานต่อ อย่าเพิ่งเริงร่า ปล่อยเวลาที่เอาความเป็นมืออาชีพแลกมาไปทิ้งเปล่าดายไร้ประโยชน์

     วันนี้แปลโควต้าของวันนี้เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่บ่ายสอง ตั้งใจจะใช้เวลาที่เหลือนั่งรวมรวมชื่อของอาสนะหรือท่าต่างๆ ทางโยคะ เป็นภาษาสันสกฤตจากอินเตอร์เน็ต เพราะถึงฉันจะเป็นนักเรียนที่ "ตัวอ่อน" ดัดตัว ตั้งสมาธิ มีสมดุล ทำท่ายากๆ ได้มากที่สุดในชั้น แต่ฉันเป็นคนที่ความจำสั้นที่สุด จำชื่ออะไรไม่ได้เลย ท่านอาจารย์ถึงกับเหนื่อยหน่ายขู่ว่าถ้าฉันจำชื่อปรายารานาพื้นฐานที่สอนมาตั้งแต่ต้น 5 ชื่อ ไม่ได้ จะไม่สอนอะไรต่อ

     เพื่อนร่วมชั้นก็เป็นกำลังใจ พยายามแปล พยายามร่ายชื่อต่างๆ ย้ำให้ฉันจำ

     แต่ความจำของฉันมันรอให้ตัวฉันเองไขกุญแจเปิดด้วยตัวเองมากกว่า

     ฉันสวมบทตัวตลกทำนหน้าทะเล้นเวลาอาจารย์ถามชื่อแล้วฉันตอบไม่ได้ไปงั้นแหละ ที่จริงแล้วก็อายอยู่ไม่น้อยที่เอาไปแต่ร่างกาย ไม่ได้เอาสมองติดไปด้วยเลย พยายามแก้ตัวกับตัวเองว่า ฉันเริ่มทำงานมาตั้งแต่เช้า 8 ชั่วโมงเต็ม ฉันไม่มีที่ว่างในสมอง ไม่เหลือน้ำยาอะไรมารับรู้รับจำชื่อแปลกๆ อะไรอีกแล้ว

     ฉันอยากเรียนโยคะเพียงเพื่อได้ยืดแขนขาและร่างกาย เพื่อก้าวล่วงพ้นศักยภาพทางร่างกาย ทั้งเรื่องความอ่อน ความแข็งแรง สมดุล และการรวบรวมสมาธิในการควบคุมลมหายใจ และพักความคิดในสมองให้สงบ

     ฉันเป็นคนขยาดกับการท่องจำมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ตอนที่เรียนอยู่ ถ้าเป็นวิชาท่องจำเข้าไปเติมในช่องว่าง ฉันเหมาเอฟมาไม่น้อย แต่ถ้าเป็นวิชาถามความเห็น อยากได้การวิเคราะห์ วิชาที่เอาหนังสือเข้าไปในห้องสอบก็ได้ แต่คำตอบไม่มีในหนังสือพวกนั้นหรอก ต้องกลั่นกรองออกมาเอง ฉันกวาดเอมานักต่อนัก

     แต่ดูเหมือนการเรียนโยคะ ต้องใช้มากกว่าความตั้งใจจะลดน้ำหนักหรือการลดความเครียด ฉันควรจะใส่ใจจดจำชื่อต่างๆ เพื่อให้รู้สึกใกล้ชิดกับท่าต่างๆ มากมาย เพื่อจะได้จำท่านั้นๆ ได้ เพราะรู้ชื่อแล้ว

     เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งบอกว่า "อธิชา การที่เธอทำท่าต่างๆ ได้ดีแต่จำชื่อไม่ได้ มันเหมือนกับเธอทำอาหารอร่อยเลิศ แต่ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร"




     ได้ฟังแล้ว คนช่างกินอย่างฉันเข้าใจในทันที




ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2552 23:00:11 น.
Counter : 1425 Pageviews.  

- 17 FEVRIER 09 - ป่วย : เปิดทางให้สามีทำคะแนน

ป่วย : เปิดทางให้สามีทำคะแนน

Je tombe malade. Il va gagner des points...

Photobucket
     ป่วยเป็นไข้หวัด ไอโขลกๆ น้ำมูกไหลมาสองวันแล้ว


     เป็นหวัดหนักครั้งที่แล้วเมื่อไหร่ จำไม่ได้ ถึงฉันจะเป็นคนใช้ชีวิตหักโหม ไม่ค่อยรักษาสุขภาพมากนัก แต่ฉันไม่ค่อยได้ล้มป่วยกับเขาสักเท่าไหร่

     พอไม่ค่อยได้ป่วย ก็เลยไม่ค่อยชินกับการนอนพักผ่อนซมอยู่บนเตียง อาศัยพยายามมีวินัยกินยา กินข้าว ดื่มน้ำ และขึ้นนอนแต่หัวค่ำ ห่มผ้ามิดชิด เปลี่ยนเสื้อผ้าที่รู้สึกว่ามีเชื้อโรคติดอยู่บ่อยๆ ที่สำคัญที่สุดคือการมีกำลังใจฮึดขึ้นมาต่อสู้กับกองทัพไวรัสตัวน้อยที่วิ่งเล่นอยู่ในร่างกาย

     เมื่อเช้าฉันลุกขึ้นมา อาบน้ำสระผมให้รู้กันไปเลย รู้สึกสดชื่นขึ้นมานิดนึง เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการตั้งรับการโจมตี มันจุฬาผู้แปลกใจหนักหนาว่าทำไมฉันไม่ไปโรงพยาบาลเวลาไม่สบาย ต้มสมุนไพรอะไรสักอย่างมาให้หนึ่งถ้วยโต ฉันดื่มแล้วชื่นใจ อร่อยดี เดี๋ยวพรุ่งนี้จะขอสูตร

     ทางด้านหวานใจซึ่งไม่ค่อยเคยเห็นฉันป่วยออกอาการเดือดเนื้อร้อนใจ บางครั้งออกจะเกินๆ ไปนิดนึง เพราะฉันไอทีนึง พ่อคุณร้องครวญครางเหมือนกับเจ็บปวดจะเป็นจะตายทีนึง อะไรกันนักหนาคะ พ่อคุณพ่อทูนหัว แต่ก็ดีอย่างนึง พอฉันไม่สบายสามีจะได้ดูแลเอาใจใส่ทำคะแนน คืนนี้เขาจะเป็นคนเข้าครัวทำอาหารค่ำให้กินเอง ฮ่าๆๆๆ

     วันนี้เริ่มกินข้าวต้มได้ตอนมื้อกลางวัน กินยาครบ นั่งตัวแข็งทำงานแปลข่าวและต่อด้วยงานแปลที่ยังคั่งค้างอยู่ กะว่าจะรออีกสักอาทิตย์แล้วจะอีเมลไปแจ้งข่าวร้ายขอเลื่อนกำหนดส่ง หรือไม่ก็ส่งเป็น เฟสๆ ตามสำนวนจอยเพื่อนรัก

     ใกล้ถึงเวลาเรียนโยคะแล้ว ใจนึงอยากลงไปเรียน จะได้ขยับเนื้อขยับตัว แต่ก็กลัวจะไปไอโขลกๆ ใส่บ้านเขา ที่นั่นยิ่งมีเด็กอ่อนอยู่ด้วย ... แหงะ ทำเป็นอ้างเหมือนใจดีรักเด็กไปงั้นแหละ ที่จริงขี้เกียจจะตาย ยังรู้สึกเข้าข้างตัวเองว่าเนื้อตัวยังอ่อนระโหยนิดๆ

     ไปเรียนโยคะ ไม่ไปเรียนโยคะ นั่นคือคำถาม หรือจะไปเข้าห้องสตีมแทน เขาว่าเป็นหวัดเข้านั่งให้ตัวอุ่นๆ เหงื่อออกในห้องสตีมแล้วจะหายชะงัด




     เฮ่อ ... ตัดสินใจลำบากจริงๆ เลยวุ้ย





ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2552 18:27:12 น.
Counter : 807 Pageviews.  

- 16 FEVRIER 09 - มุมไบ จุดเริ่มต้นของการฝึกฝนวิชาขับไล่ขอทานของดิฉันและสามี

มุมไบ จุดเริ่มต้นของสามีภรรยาผู้ฝึกฝนวิชาขับไล่ขอทาน

Mumbai - le commencement d'un couple qui chasse des mandiants...

Photobucket
     เมื่อเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา หวานใจพาไปเที่ยวมุมไบหรือที่หลายคนคุ้นเคยกับชื่อที่เรียกแบบอังกฤษว่า บอมเบย์


     ถึงจะพักโรงแรมที่ได้ชื่อว่าบูติคที่สุดในหมู่บูติคโฮเต็ล คือ The Gordon House แต่เนื่องจากผิดที่ผิดถิ่น ผ้านวมหนาจนร้อน แต่อากาศในห้องก็หนาวเกินกว่าจะนอนแบบไม่ห่มผ้าห่มได้ ผลก็คือ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน ต่อด้วยหนาว --- สุดท้ายก็เป็นไข้หวัด ตอนที่เริงร่าหาของกินอร่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาหารทะเลปลากุ้งปูระหว่างทริปนั้น ยังไม่เท่าไหร่ ไวน์ขาวมาเท่าไหร่ ดิฉันดื่มได้ไม่อั้น วันอาทิตย์ไปบรันช์ ยังยกแก้วเชมเปญซดได้เป็นขวดๆ

     แต่ใกล้จบทริป พอถึงเวลากลับบังกาลอร์ เจอแอร์เย็นๆ ในสนามบินมุมไบอีกรอบนึง อาการทรุดฮวบเพราะไม่ได้เตรียมผ้าคลุมอุ่นๆ ไปด้วย เลยถือโอกาสอ้อนซุกสามีเสียเลย นานๆ จะได้ป่วยกับเขาเสียที

     มุมไบนั้นก็เป็นเหมือนกับเมืองใหญ่ที่เป็นจุดท่องเที่ยวในอินเดียหลายเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่อง "ขอทาน" แต่น่าประหลาดที่ฉันไปคราวนี้ไม่ได้มีขอทานมารุมล้อมอย่างที่เคยได้ยินมาหนาหู หวานใจยังแปลกใจเลยว่าจำนวนผู้มาเปิดโอกาสให้เราทำทานนั้นลดน้อยลงจากเดิมมาก

     แต่เมื่อมานั่งพิจารณากันดีๆ แล้ว ฉันว่าเป็นเพราะท่าทางฉันกับหวานใจคงจะดูไม่ใช่คนใจดีหรือใจอ่อน แววตาและออร่าคงจะมีพลังมาคุประกาศมาแต่ไกลว่า "อย่ามาแหยมนะว้อย" แต่กระนั้นก็ยังมีขอทานที่ไม่รู้ประสา หรือไม่สามารถรับกระแสแห่งความโหดร้ายของสามีภรรยาคู่นี้ เข้ามาลองของอยู่สามสี่ราย และถูกปฏิเสธไล่กระเจิงกลับไปด้วยกลเม็ดที่ทวีความงุนงงให้กับขอทานในมุมไบมากขึ้นทุกทีด้วย

     1."ไม่ล่ะขอบใจ" (น้ำเสียงเรียบๆ หน้าเฉยๆ) ... "บอกว่าไม่ก็ไม่สิ" "ไป!ไปให้พ้น" (น้ำเสียงเริ่มมีโมโห ตีหน้ายักษ์)

     2. ยิงใส่ให้ผงะกระจายด้วยกล้อง พร้อมกล่าวว่าจะเอาไปส่งตำรวจ แจ้งขอหาก่อกวนความสงบในชีวิต

     3. สั่งสอนยืดยาวด้วยคำพูดแปลกประหลาด และไม่มีท่าทีจะช่วยเหลือ เช่น หนูน้อยคนหนึ่งถือโค้กกระป๋องเข้ามาขอตังส์ เจอใส่เข้าไปว่า "โค้กเนี่ยกินไม่ดีนะ ฉันไม่ให้เงินเธอหรอก เดี๋ยวเธอเอาไปซื้อโค้ก ฉันไม่อยากวางยาพิษเธอ" แม่หนูทำหน้างงๆ แล้วเดินจากไปหงอยๆ พร้อมกับยาพิษกระป๋องนั้น

     4. กรีดร้องตะโกน กระโดดราวคนบ้า อันนี้หวานใจทำ

     5. พูดภาษาไทยรัวใส่ไปเลย "จะเอาอะไร ไม่เข้าใจ พูดอะไรไม่รู้เรื่อง งานการไม่รู้จักทำ มาขอทานแบบนี้ ไม่อายบ้างหรือไง ฯลฯ" แล้วก้าวเดินต่อไปอย่างไม่ไยดี ขอทานถอดใจไม่เดินตามตื๊อ เพราะรู้ว่าไม่ได้เรื่องแน่ๆ



     อย่างไรก็ตาม หวานใจบอกว่าถึงเราฝึกวิทยายุทธ์สลัดขอทานได้หลายกระบวนท่าที่มุมไบ แต่ก็ใช่ว่าเราจะบรรลุฝ่าด่านความอึดของขอทานที่มีลูกตื๊อระดับเซียน ด่านต่อไปที่เราจะต้องนำเทคนิคต่างๆ เหล่านี้ไปพิสูจน์ความขลังและพลังความโหดขั้นสูงสุดในครั้งต่อไป



      ได้แก่ ที่นิวเดลี กับ กัลกัตตา



ป.ล. ภาพประกอบ คือ ด้านหน้าของโรงแรม Taj ที่เกิดเหตุ 26/11 ผู้ก่อการร้ายบุกเข้ายิงแขก ยึดโรงแรมเมื่อเดิน พ.ย. ที่ผ่านมา

ป.ล. 2 ฉันอัพรูปที่ถ่ายบางส่วนไว้ --> ที่นี่




ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2552 18:39:31 น.
Counter : 1231 Pageviews.  

- 12 FEVRIER 09 - วันปิดจ๊อบ

วันปิดจ๊อบ

j'ai fini mon article sur Action contre la faim...

Photobucket
     เมื่อวานเป็นวันค้างค้า วันนี้เป็นวันปิดจ๊อบ


     เขียนคอลัมน์โอเวอร์ซีเสร็จ-ส่งไปอะเดย์เรียบร้อยแล้ว แถมยังมีช่วงขอเวลานอกลุกไปแปลข่าวด้วยนะ

     เมื่อวานทางช่อง 9 เอ็มมาถามว่าทำงานของวันนี้ให้เขาได้มั้ย เพราะคนที่ทำอยู่ป่วย ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ฉันตอบในทันที ไม่ต้องคิดไตร่ตรองอะไรมากมายว่า ได้ค่ะ เพราะความงก เอ้ย...เพราะความเห็นใจกลัวเขาจะไม่มีข่าวไปออกอากาศ

     ข่าววันนี้เป็นเรื่องผลการเลือกตั้งในอิสราเอล (เข้ากับภาพประกอบที่ถ่ายในเมืองโคชินดีมั้ยเล่า) กับการขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอดีตฝ่ายค้านในซิมบับเวย์ ที่ถูกดองยาวหลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว

     วันนี้มีพัฒนาการส่งข่าวได้เร็ว จากครั้งที่แล้วส่ง 12.51 วันนี้ส่ง 12.35 สิบหกนาทีแห่งความก้าวหน้า ภูมิใจตัวเองเป็นที่สุด


     จ๊อบอีกจ๊อบหนึ่งที่ดูเหมือนจะปิดได้แล้ว คือ จ๊อบ "เย็บถากปากร้าย" วันนี้เคาะปกกันแล้ว เนื้อในลงเพลตรออยู่ อีกอาทิตย์สองอาทิตย์ คุณแอนคงจะเข็นลูกสาวคนใหม่ออกมาอวดใครต่อใครได้

     เล่มต่อไปที่พวกเราจะเข้ากลุ้มรุมในอาทิตย์หน้า คือ Firefly หนังสือเล่มแรกของชุดรวมเรื่องสั้นมูราคามิ 3 เล่ม



     คืนพรุ่งนี้หวานใจจะพาไปเที่ยวเมืองมุมไบหรือบอมเบย์ พอดีตรงกับวันวาเลนไทน์ด้วยเลยเป็นเหตุผลเพิ่มเติมให้ออกไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศกันเสียหน่อย เมื่อเช้าฉันตกลงกับหวานใจว่า เราไม่ต้องให้ของขวัญวาเลนไทน์กันหรอกนะ เราให้การ์ดกันดีกว่าและต้องเป็นการ์ดที่ทำเองด้วย เหตุผลลึกๆ ไม่ใช่แค่ความขี้เหนียวเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการตัดความรำคาญใจในการนึกหาและยังต้องถ่อกายาออกไปซื้อของขวัญด้วย ในหนึ่งปีมีโอกาสต่างๆ ที่ต้องให้ของขวัญกันเยอะแยะอยู่แล้ว วันเกิดเอย วันครบรอบแต่งงานเอย แล้วก็วันคริสต์มาส จึงไม่ควรเพิ่มวันวาเลนไทน์เข้ามาอีก


      เก็บเงินเอาไว้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปหาของกินอร่อยๆ อย่างทริปมุมไบในปีนี้ดีกว่า



ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2552 18:19:24 น.
Counter : 735 Pageviews.  

- 11 FEVRIER 09 - ค้างคาแต่ว่ายังสบายใจดี

ค้างคาแต่ว่ายังสบายใจดี

Je vais bien...

Photobucket
     วันนี้เป็นวันค้างๆ คาๆ


     ค้างต้นฉบับโอเวอร์ซีที่ต้องส่งให้อะเดย์เมื่อวันที่ 10 เช้าวันนี้เปิดอีเมลเจอเมลของน้องก้อง-ทรงกลด แว่บแรกใจหายวาบ แต่เปิดเข้าไปไม่ใช่เรื่องนั้น ส่งอีเมลออกตัวไปนิดๆ ว่าเดี๋ยวจะส่งไม่เกินวันศุกร์นี้ค่ะ

     นั่งหา "ข่าวดีๆ " เพื่อเป็นข้อมูลเขียนถึง มันช่างหายากหาเย็นแสนเข็ญใจ อาศัยไปไหนมาไหนเก็บจดข้อมูลที่น่าจะเอามาเขียนถึงได้อยู่บ้าง หยิบปึกโพสต์อิทที่ใช้เป็นสมุดจดบันทึกเวลาออกไปไหนต่อไหนขึ้นมาดู ได้คีย์เวิร์ดมาคำนึง เปิดกุ๊กเกิลค้นข้อมูลต่อ โทรศัพท์กลับไป "ขาย" หัวข้อกับน้องก้อง แล้วมานั่งเขียนได้สิบบรรทัด

     ปิดไฟล์เก็บ พรุ่งนี้ค่อยเขียนต่อให้เสร็จ ของแบบนี้ต้องดองเค็มดองเปรี้ยวเล็กน้อยให้ตะกอนมันตก มีไฟจี้อยู่ที่ก้นนิดๆ มันถึงจะสุกเสร็จกินได้กำลังอร่อย

     บ่ายสามโมง วิโนจ คนขับรถมารับไปจ่ายตลาด อันประกอบด้วยสามจุดเจ้าประจำ นั่นคือ ร้านนิวฟรอสตี้ ขายเนื้อว้ว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อแกะและปลา รวมไปถึงของแช่แข็งต่างๆ ต่อด้วยร้านนันดารา เป็นร้านขายผักและซอสปรุงอาหาร ปิดท้ายด้วยฟูดโซนซูเปอร์มาร์เก็ต ขายเครื่องใช้ภายในบ้าน น้ำยาทำความสะอาดบ้าน เครื่องเทศของแห้ง โซดา โทนิค และนิตยสารอินเดียในภาษาอังกฤษ

     ฉันซื้อนิตสารแม่บ้าน Good Housekeeper, Time India กับ ReaderDigestฉบับอินเดีย (แน่ล่ะ) มาอ่าน เพราะตอนนี้ หลังจากเริ่มปรับตัวกับประเทศนี้ได้แล้ว ฉันก็ก้าวสู่ขั้นต่อไป เริ่มอยากจะเข้าใจทำความรู้จักกับวัฒนธรรมความคิดของคนที่นี่ให้มากขึ้น ถึงขนาดรับหนังสือพิมพ์ Times of India ให้มาส่งที่บ้านทุกเช้า อ่านบ้างไม่ได้อ่านบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้สนใจผ่านตาดูความเป็นมาเป็นไป ประเด็นร้อนของบ้านเมืองที่มาอาศัยอยู่กินและทำงานเลย

     และไม่แน่ วันนึงที่ฉันสามารถจับทางจับดูทิศทางและธรรมชาติของประเทศนี้ โดยอย่างน้อยผ่านทางสื่อต่างๆ ได้แล้ว ก็อาจจะเขียนบทความเล่าประเด็นร้อนๆ ในอินเดียส่งไปลงมติชนสุดสัปดาห์เหมือนตอนเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส



     และก็คงต้องเปลี่ยนชื่อจากคอลัมน์ "จากยุโรป" เป็น "จากอินเดีย"



ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2552 18:37:41 น.
Counter : 816 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.