- 06 SEPTEMBRE 10 โตเอ๋ย โตเกียว

โตเอ๋ย โตเกียว






มาถึงโตเกียวได้สามวันแล้วค่ะ

โตเกียวที่มาเยี่ยมเยียนในวันนี้ไม่ได้เป็นคนแปลกหน้าต่อกันเหมือนตอนมาเที่ยวเมื่อปีที่แล้ว ถึงจะย้ายถิ่นที่นอนเปลี่ยนไปจากคราวก่อน จากชินกูจุไปอยู่แถวร็อปงงิ

มาโตเกียวคราวที่แล้ว เหมือนมาทำความรู้จักทักทายกันไว้ ถึงจะไม่ครบถ้วนทั่วทั้งเมือง แต่ก็ช่วยให้จับบรรยากาศออก พอมาคราวนี้ความรู้สึกเปลี่ยนไป ความตื่นเต้นลดลง ความคุ้นหน้าคุ้นตาเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับคุ้นเคย โดยเฉพาะเวลาขึ้นรถไฟใต้ดิน วันนี้หวานใจไปทำงาน ฉันออกตระเวนฉายเดี่ยวคนเดียว หลงทางเดินวนเสียแทบแย่

กิจกรรมหลักของสองสามีภรรยายังคงเหมือนเดิม คือ การหาอาหารกินอร่อยๆ เป็นความสุขที่ปรนเปรอตัวเองได้ถึงสามครั้งต่อวัน มาคราวนี้ ความกระสันเรื่องอยากซื้อเสื้อผ้าของจุกจิกเหือดแห้ง เห็นแล้วเฉยๆ เพราะรู้ว่าใส่ไม่ได้ ถึงใส่ได้ก็ไม่สวย


นับเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของคนอ้วน .... จะได้เก็บเงินเอาไปกินของอร่อยๆ แทน ฮ่าๆๆๆ




>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 06 กันยายน 2553    
Last Update : 7 กันยายน 2553 16:30:09 น.
Counter : 1011 Pageviews.  

- 03 SEPTEMBRE 10 ชีวิตดีๆ มีเวลาเยอะแยะ

ชีวิตดีๆ มีเวลาเยอะแยะ



เอาข้าวของออกจากกล่องมาห้าหกวัน ตอนนี้ห้องครัวเข้าที่เข้าทางสมบูรณ์แล้ว มุมหน้าโซฟาในห้องนั่งเล่น หวานใจติดตั้งระบบเครื่องเสียงใกล้เสร็จเต็มที ตั้งชั้น วางลำโพงแล้ว มุมโต๊ะทำงานเหลือคัดของเข้าตู้อีกนิดหน่อย ห้องน้ำมีข้าวของเครื่องใช้ครบ มุมพักตามบันไดกลายเป็นที่ปล่อยของประดับให้ฉันเอาอะไรต่อะไรไปวางๆ เหลือแค่ห้องวางเก้าอี้นวดข้างบน กับห้องด้านล่างที่หันเข้าหาสวนที่ยังต้องดูแลกันอีกยกใหญ่

วันนี้ตื่นเจ็ดโมงเช้าพร้อมกับหวานใจ ลงมาเตรียมอาหารเช้าอันประกอบด้วย กล้วยปั่น น้ำส้มคั้น และโยเกิร์ตสตรอเบอรี พร้อมบอกให้คุณ ก. หุงข้าวและทำต้มจืดฟักใส่ไก่ในหม้อตุ๋นไฟฟ้าสำหรับมื้อเช้าของตัวเองและของเธอตอนประมาณเก้าโมงกว่าๆ

หลังจากอบอ้าวมาเป็นอาทิตย์ วันนี้ฝนที่ชะเงื้อง่าอยู่ก็ได้ฤกษ์ตกเสียทีและตกหยิมๆ ตลอดทั้งวัน ฉันเลยไม่ได้ออกไปเดินออกกำลังเหมือนเมื่อวาน ได้แต่หยิบเสื่อโยคะออกมาปู สวัสดีพระอาทิตย์ไปหนึ่งรอบ การที่ฉันตื่นเช้าแบบนี้ สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือ เวลาช่างมีเยอะแยะมากมาย ปล่อยเวลาเคลื่อนไปสบายๆ ฟังเพลง ดูสายฝนพรำ ยังไม่เปิดสถานีทำงานอย่างเต็มตัวเสียที แต่ใกล้แล้วล่ะ ไฟในการทำงานของฉันเริ่มระอุอยู่ลึกๆ รอเวลาปะทุ เมื่อบ้านช่องห้องหับเรียบร้อย เมื่อกลับจากไปเที่ยวญี่ปุ่นที่จะออกเดินทางในวันรุ่งนี้

ทริปญี่ปุ่นคราวนี้ห้วนกุดเพราะอันที่จริงเป็นบิสิเนสทริปของหวานใจ เขาต้องไปทำงานที่สำนักงานสาขาที่โน่นสองวัน ส่วนฉันถือโอกาสติดสอยห้อยตามจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินแจมไปกับเขาด้วย โปรแกรมคร่าวๆ คือ เสาร์-อาทิตย์ เที่ยวกับหวานใจ จันทร์-อังคาร หวานใจไปทำงาน ฉันต้องเที่ยวคนเดียว คงหนีไม่พ้นพิพิธภัณฑ์ ที่มองๆ เอาไว้มีสองประเภทคือ เชิงประวัติศาสตร์ กับ ศิลปะร่วมสมัย แถมด้วยวัดแบบชินโต ก่อนบินกลับฮ่องกงวันพุธ

ไปกันแค่ห้าวัน สั้นจนฉันใจหายแสนเสียดายค่าเครื่องบิน อาศัยปลอบใจตัวเองว่า เอาน่า ไปพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศคลายเครียดจากการย้ายบ้าน ไปกินอาหารอร่อยๆ และไม่ได้ไปเที่ยวเฉยๆ จะไปถ่ายรูปสำหรับเป็นสต็อคทำปกหนังสือของกำมะหยี่ด้วย ... ถึงค่อยยิ้มออก




>>ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 03 กันยายน 2553    
Last Update : 7 กันยายน 2553 16:30:52 น.
Counter : 1301 Pageviews.  

- 02 SEPTEMBRE 10 ดินเนอร์ครบรอบสมรสสมรัก

ดินเนอร์ครบรอบสมรสสมรัก
ตามสัญญา วันนี้เอาภาพอาหารในดินเนอร์โรแมนติก เนื่องในโอกาสครบรอบแต่งงานสามปีเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมามาฝากค่ะ

ตอนแรกเห็นว่ามันค่อนข้างกระชั้นชิดกับการย้ายบ้านใหม่ ฉันว่าจะรวบยอดเลื่อนไปตอนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่หวานใจยืนกรานว่าต้องเป็นวันนี้ วันที่ตรงครบรอบจริงๆ ทั้งยังเป็นธุระหาข้อมูลจากลูกน้องเก่านักกินชาวฮ่องกง ตกลงเป็นร้าน Pierre ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โรงแรมดั้งเดิมริมท่าเรือ (ที่ฮ่องกงมีโรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล สองแห่ง แห่งใหม่อยู่ที่ตึกแลนด์มาร์ก)

นัดกันที่สถานีรถไฟฟ้า admiralty ตอนทุ่มครึ่ง เกือบหกโมงฉันอาบน้ำแต่งชุดที่ใส่จดทะเบียนสมรสชุดเดิมเมื่อสามปีที่แล้ว ตั้งใจจะใส่ชุดนี้มันทุกปีเลย โชคดีที่เป็นชุดแบบปลายบานอออก พุงจะหลามเพิ่มขึ้นแค่ไหน ยังพรางได้อยู่ ประหยัดแถมยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์อีกด้วย ฮ่าๆๆๆ

เดินออกจากบ้านยามโพล้เพล้เพื่อไปโบกแท็กซี่ที่ถนนไหญ่ อากาศร้อนอบ แถมเป็นการเดินขึ้นเนิน เหงื่อออกปุดๆ ชุดสวยเปียกชื้น แต่ไม่นานนัก แอร์ในรถแท็กซีและรถไฟใต้ดินก็มาช่วยคลายความร้อน เจอหวานใจตรงจุดนัดพบแล้ว นั่งรถไฟใต้ดินต่ออีกหนึ่งสถานี เดินอีกหนึ่งช่วงตึกก็ถึงโรงแรม ขึ้นลิฟท์ไปชั้นเท่าไหร่จำไม่ได้ แล้วก็ถึงร้านอาหารของ pierre gagnaire เชฟดังชาวฝรั่งเศสที่มาเปิดสาขาที่นี่

เมื่อนั่งโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นเรียกน้ำย่อยด้วยด้วยเชมเปญโรเซ่คนละแก้ว แล้วการศึกษารายการอาหารก็เริ่มต้นขึ้น ฉันกับหวานใจเลือกชุดเมนูที่เขาจัดเซ็ตมาพร้อมกับไวน์ประกบแต่ละจาน โดยเลือกแบบเซ็ตใหญ่ 7 คอร์สหนึ่ง กับเซ็ตเล็ก 4 คอร์สหนึ่ง ไวน์ประกบของทั้งสองเมนูแตกต่างกัน จะได้ลองชิมไวน์หลากหลายเสียเลย

ล่วงเลยมาถึงตอนนี้ จะให้สาธยายร่ายละเอียดถึงอาหารแต่ละคอร์ส ประกอบความเห็นก็คงจะยากอยู่ วัยเพิ่มความทรงจำสั้น ขอกล่าวสรุป ว่าคุณปิแอร์เขามีของจริงๆ สามารถพลิกแพลงดัดแปลงคิดค้นอาหารได้หลากหลาย อย่างคอร์สที่สองชื่อ Homage to Tomato เป็นอาหารทำจากมะเขือเทศให้ลองชิมลิ้มอยู่ 5 จาน อาหารทุกจานในทุกคอร์สจัดแต่งสวยงามตามแบบอาหารฟิวชั่นเชฟใหญ่ คือ อาหารสามคำประดับประดาสวยงามในจานใหญ่สีขาว ให้กินแค่พอรู้รส อาศัยทยอยมาหลายๆ จาน ถึงจะอิ่ม

ที่ประทับใจก็คือ พอถึงคอร์สของหวาน ทางร้านจัดของหวานมาเพียบ จานหนึ่งเขียนว่า Happy Anniversary มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ ส่วนใหญ่ทำจากช็อคโกแล็ต


ราวกับตั้งใจจะโด๊ปให้คึก เพื่อให้สมกับเป็นวันครบรอบแต่งงาน





>>ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 02 กันยายน 2553    
Last Update : 7 กันยายน 2553 16:31:17 น.
Counter : 1239 Pageviews.  

- 31 AOUT 10 เข้าบ้านใหม่ เริ่มชีวิตใหม่

เข้าบ้านใหม่ เริ่มชีวิตใหม่


นอนบ้านใหม่มาสามคืนแล้ว ดีใจได้กลับมาอัพบล็อกบนเครื่องไอแม็ค สะดวกดายสบายดี หลังจากเมื่อยนิ้วเพราะไม่มีเมาส์ต่อกับไอบุคมาเป็นเดือน ถึงจะไม่เคยตกข่าวคราวอีเมลหรือเฟซบุคเพราะเช็คทางไอโฟนได้ แต่ยังไงการใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ จอใหญ่่เต็มตา แป้นพิมพ์และเมาส์พอดีมือ นั่งบนเก้าอี้ถูกสุขลักษณะ ไม่ต้องก้มจนปวดหลังปวดไหล่ย่อมจะดีกว่ามาก

ภาพสไลด์ด้านล่างนี้ เป็นบรรยากาศการขนของเข้าบ้าน เริ่มตั้งแต่สิบโมงเช้า เสร็จเกือบทุ่มนึง นอกจากข้าวของในคอนเทนเนอร์ที่ลงเรือมาจากอินเดียแล้ว หวานใจนัดเจ้าหน้าที่ติดตั้งเครื่องซักผ้า และพนักงานจากบริษัทโทรศัพท์บ้าน อินเตอร์เน็ตและเคเบิลทีวีมาด้วย กะว่ายุ่งวันเดียวให้เสร็จๆ ไปเลย

นักขนย้ายห้าคนทำงานกันอย่างแข็งขัน หวานใจคอยบอกว่ากล่องไหนไปไว้ห้องไหน ฉันทำหน้าที่เช็คหมายเลขประจำกล่อง ช่วงพักกลางวัน หวานใจกับฉันจะขึ่กาสตอร์-เวสป้าสีแดงสด ออกไปซื้ออาหารแต่แบตหมดสตาร์ทไม่ติด ลองวิ่งกระตุกเกียร์แล้วก็ไม่ติด พนักงานขนของใจดีช่วยถีบคันสตาร์ทให้จนติด ไม่งั้นล่ะแย่เลย

วันนั้น เราอาจจะโชคดีที่ฝนไม่ตก แต่อากาศก็ร้อนอ้าว หมดวันทุกคนหมดแรง



ตั้งแต่ย้ายจากห้องบนกล่องสูงในเมืองมาอยู่บ้านบนเขาวิวทะเลหลังนี้ ฉันตื่นเช้าขึ้นสมกับความตั้งใจ น่าจะเป็นเพราะความตื่นเต้นกับชีวิตใหม่ ประกอบกับห้องนอนยังไม่มีผ้าม่าน หกโมงนิดๆ ฟ้าแจ้งสว่างจ้า แถมหวานใจต้องลุกเตรียมตัวไปทำงาน

มาอยู่ค่อนข้างไกลตัวเมืองอย่างนี้ ระหว่างที่รอเลือกซื้อรถยนต์ หวานใจเตรียมหาข้อมูลและวิธีการในการเดินทางไปทำงานหลากหลายแบบ เมื่อวาน เรียกแท็กซี่มารับไปส่งสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุด ใช้เวลาแค่สี่สิบนาทีจากที่บ้านจนถึงออฟฟิศ นับว่าไม่เลวนักแม้ว่าจะเปลืองเงินหน่อย ส่วนวันนี้เขาลองขี่กาสตอร์ไปจอดในที่จอดรถใต้ห้างสรรพสินค้าแถวๆ สถานี เห็นว่าทางการมีนโยบายสนับสนุนให้คนขับรถไปจอดแล้วขึ้นรถไฟใต้ดินต่อ โดยจะลดค่าจอดให้ ถ้าถูกกว่าไปแท็กซี่จริงๆ ก็ดีเลย สะดวกแถมอิสระดีไม่ต้องขึ้นอยู่กับใคร จะลำบากหน่อยก็ตอนฝนตก

ส่วนฉันเอง จากที่เคยตื่นเพลตื่นเที่ยง ก็ต้องลุกแต่เช้าขึ้นมาจัดเก็บข้าวของที่กองในกล่องเกลื่อนบ้าน เวลาดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อวานแวะไปรับวีซ่าเข้าญี่ปุ่น แล้วจัดการขนของที่ห้องพักในเมืองกลับมาที่บ้านใหม่จนหมด งานที่เหลือก็คือ เปิดกล่อง คัดของว่าอันไหนใช้อันไหนเก็บเข้าห้องเก็บของ โดยเฉพาะข้าวของในห้องครัวที่ขนซื้อย่างสนุกสนาน และบางอย่างตอนอยู่อินเดียไม่ได้ใช้งานเลย โดยมีคุณ ก. แม่บ้านเป็นลูกมือช่วยหยิบจับขนกล่อง ขนของ เช็ดปัดกวาดอย่างแข็งขัน ถ้าไม่มีเธอช่วยล่ะก็ ฉันแย่แน่ๆ

วันนี้กะจะเปิดกล่องซีดีออกมาใส่ชั้นให้หมด เหลือก็แต่กล่องใส่หนังสือเพราะยังไม่แน่ใจว่าตำแหน่งวางชั้นที่ตั้งอยู่ตอนนี้เหมาะสมที่สุดหรือยัง

เดี๋ยวช่วงบ่ายจะเปลี่ยนบรรยากาศ จะพาคุณ ก.ออกไปลองขึ้นรถเมล์ที่วิ่งผ่านถนนใหญ่หน้าซอยเข้าบ้านดูว่าไปสุดที่ไหน และต้องลงที่สถานีรถไฟไหนถึงจะมีรถเมล์วิ่งผ่านมาทางนี้ เพราะเท่าที่สังเกตุดู สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด ไม่มีรถเมล์จากที่นั่นเข้ามา อาจจะต้องไปลงสถานีก่อนหน้า


เมื่อคืน หวานใจพาไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารของเชฟใหญ่ชาวฝรั่งเศสในโรงแรมหรูเนื่องในโอกาสวันครบรอบสมรส บล็อกหน้าจะนำภาพและเรื่องราวมาฝากค่ะ


รายงานอากาศ : สองสามวันที่ผ่านมา อากาศร้อนจัด อบอ้าวเหมือนฝนจะตก เมื่อวานมีคำเตือนจากทางการฮ่องกงเกี่ยวกับไต้ฝุ่นระดับ 1 แต่ก็ไม่เห็นมีฝนตกลงมาคลายร้อนสักกะแหมะ ส่วนวันนี้ กองสังเกตสภาพอากาศบอกว่าอากาศจะร้อนจัดด้วยคลื่นความร้อน แต่กลับเป็นว่าที่บ้านอากาศดีมีลมพัดเฉื่อย



>>ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 31 สิงหาคม 2553    
Last Update : 31 สิงหาคม 2553 11:31:14 น.
Counter : 1156 Pageviews.  

27 AOUT 10 เฝอและเธอที่เปลี่ยนไป

เฝอและเธอที่เปลี่ยนไป




เชื่อแล้วว่าฮ่องกงที่แพงจริงๆ เมื่อกี้ไปกินเฝอที่ร้านอาหารเวียดนามบนตึกตรงข้ามที่พัก ไปคนเดียว พนักงานจัดให้นั่งโต๊ะเดียวกับผู้ชายที่มาคนเดียวเหมือนกัน ทั้งที่ในร้านก็ยังมีโต๊ะอื่นๆ ว่างๆ อยู่

เข้าใจอยู่่ว่าช่วงเที่ยงอย่างนี้ ร้านใต้ตึกที่มีสำนักงานมากมายอย่างนี้ เดี๋ยวอีกสักพักจะมีลูกค้าแห่แหนเข้ามานั่งเต็มร้าน แต่ฉันก็อดตกใจนิดๆ ขาก้าวพลาดเกือบสะดุดเก้าอี้ล้มคว่ำ ดีที่เอามือยันไว้ได้ก่อน

พ่อหนุ่มผิวขาวผมทองเพื่อนร่วมโต๊ะ ร่วมตกกระไดพลอยโจน กล่าวต้อนรับอย่างสุภาพ ยู อาร์ เวลคัม ฉันยิ้มแหยๆ แล้วสั่งอาหาร ไม่นานชามเฝอของพ่อหนุ่มมาถึง เขาวางแบล็คเบอรีลงบนโต๊ะ กางหนังสือพิมพ์ วอลสตรีท จูนัล แล้วเริ่มจัดการอาหารของตน ส่วนฉันนั่งหลุบตามองลายพื้นโต๊ะ

สักพัก เฝอของฉันมา คนแปลกหน้าสองคนก้มหน้าก้มตาหน้าชามก๋วยเตี๋ยว ต่างคนต่างคีบ เคี้ยว ซด

ระหว่างที่กิน จิตใจฉันเริ่มซุกซนนึกเรื่องโน้นเรื่องนี้ ความคิดแรกเลย คือ ถ้าสามีมาเห็นเข้าต้องนึกว่าฉันคบชู้สู่ชายเป็นแน่ แต่อีกด้านหนึ่งก็ เอ ฉันยกมือข้างซ้ายที่สวมแหวนแต่งงานสูงเด่นเห็นชัดเกินไปหรือเปล่าหว่า จะเป็นอย่างไรหนอถ้าผู้ชายคนนี้สามารถอ่านจิตใจของคนอื่นออกเหมือนพระเอกหนังที่เพิ่งดูไปเมื่อวันก่อน คงไม่หรอก เพราะถ้าอ่านออกเขาต้องสำลักเฝอแน่ๆ

ต่อจากนั้น จิตประหวัดนึกไปถึงตัวละครในเล่ม “ตัวตน” ของคุณเดอรา ที่แปลค้างอยู่ ตัวละครหญิงในเรื่องรู้สึกเศร้าที่ไม่มีผู้ชายเหลียวหลังกลับมามองเธอเหมือนเมื่อก่อน เป็นความรู้สึกหมองๆ ที่ฉันเข้าใจดีทีเดียว ตัวฉันเอง เมื่ออายุและน้ำหนักเพิ่มขึ้น ประกายวิบวับที่เคยเห็นในดวงตาของผู้ชายที่มองมาก็ลดลง

ความคิดหยุดลงเมื่อเขากินเสร็จ จ่ายเงิน แล้วลุกออกไป พร้อมกล่าว กู๊ดบาย






>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 27 สิงหาคม 2553    
Last Update : 27 สิงหาคม 2553 12:58:02 น.
Counter : 1076 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.