- 10 Juin 08 - สวัสดี ชมพูทวีป

สวัสดี ชมพูทวีป

Bonjour l’Inde.


    ถึงอินเดียแล้วค่ะ

    ได้อัพบล้อกเสียที หลังจากเงื้อง่าเพราะเน็ตราคาแพงมากอยู่หลายวัน (เน็ตโรงแรมติดดาวนาทีละ ๒๐ บาท) ประกอบกับตารางชีวิตแน่นเอี้ยด ไหนจะต้องออกไปดูที่อยู่ในอนาคต เป็นอพาร์ทเมนต์บ้าง บ้านเดี่ยวบ้าง บ้านจัดสรรตามโครงการบ้าง ขณะที่งานประจำตามปกติ คือ งานแปล และกิจการสนพ.กำมะหยี่ ก็ไม่ได้ซาลงแต่อย่างใด มีแต่จะเร่งรัดเพิ่มขึ้นเสียอีก เพราะเวลาไม่คอยท่า ไหลไปเรื่อยๆ กำหนดส่งงานงวดใกล้ทุกที กำหนดออกหนังสือขยับเข้ามาทุกวินาที


    ขอบ่นเรื่องเน็ตโรงแรมก่อน ตอนนี้ฉันกับหวานใจมาพักที่โรงแรม The Oberoi ซึ่งเป็นเชนโรงแรมชั้นนำของอินเดีย แอบเปิดดูราคาห้องแล้วสะดุ้งเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ที่นี่มีบริการต่างๆเพียบพร้อม สระว่ายน้ำ สปา ร้านอาหาร พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสสุภาพนอบน้อมสมควรกับราคา (ที่บริษัทหวานใจจ่าย)

    แต่บริการอินเตอร์เน็ตนี่สิ ทำเอาฉันค้างคาในใจ เพราะเวลาไปพักตามโรงแรมเล็กๆ เช่น พระนครนอนเล่น หรือล่าสุด บ้านดินสอ อินเตอร์เน็ตไวไฟไร้สายเป็นบริการฟรี ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม พอมาพักตามโรงแรมใหญ่ โอเรียลเต็ล เมโทรโปลิแตน และที่โอเบอร์รอย นี่ บริการนี้กลับไม่ฟรีแฮะ แถมชาร์จในราคาโหดร้ายด้วย (อย่างน้อยที่สุด ก็สำหรับฉันคนนึงล่ะ)



    หวานใจพยายามอธิบายให้ฉันทำใจว่า ลูกค้าที่มาพักโรงแรมพวกนี้ส่วนใหญ่อาจจะมาทำงาน บริษัทที่ส่งตัวมาจึงรับภาระค่าใช้จ่ายให้ คนเราเมื่อไม่ต้องควักกระเป๋าเอง ก็คงไม่ใส่ใจว่าจะแพงหรือถูก อย่าคิดมาก เมื่อจำเป็นต้องใช้ เท่าไหร่ก็ต้องจ่าย

    เฮ่อ ... ก็ได้ บ่นไปก็ไลฟ์บอย เสียอารมณ์เปล่าๆ ฉันเลยใช้วิธีต่อเข้าต่อออก ต่อเพื่อเช็คเมล ดูดเข้า Outlook แล้วปิดออกมาทำงานออฟไลน์ ตระเตรียมเขียนตอบเมลจนหมดแล้วต่อเน็ตส่งทีเดียว

    อันที่จริง การที่ไม่มีเน็ตตลอดเวลานี่ก็ดีเหมือนกัน ทำให้ไม่เถลไถล สมาธิกระเจิดกระเจิงท่องเน็ตให้เสียเวลา แต่ความเคยชินทำให้รู้สึกขัดอกขัดใจเล็กน้อย เวลาที่แปลหนังสือแล้วติดคำศัพท์หรือสำนวนที่เปิดเช็คตามเวบพจนานุกรมได้ในทันที หรือเวลาที่อยากส่งลิงก์อะไรให้ใคร ก็ต้องรอต่อเน็ตก่อน บางทีรอจนลืม


    บ่นเสร็จแล้ว มาอัพเดทชีวิตกันดีกว่า




    คืนวันศุกร์ หวานใจกับฉันลงเครื่องที่สนามบินใหม่ของบังกาลอร์ หรือ เบ็นกาลูรู ในชื่ออินเดีย ตอนเที่ยงคืนกว่าๆเวลาอินเดีย เท่ากับตีสองกว่าๆ เวลาไทย (เวลาของอินเดียช้ากว่าเมืองไทยหนึ่งชั่วโมงครึ่ง) สนามบินใหม่ของบังกาลอร์เพิ่งเปิดทำการได้ไม่ถึงเดือน แต่กระบวนการศุลกากรและการรับกระเป๋าก็เป็นไปอย่างรวดเร็วเรียบร้อยดี

    เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ให้สังเกตเวลารับกระเป๋าที่นี่ คือ ถ้าบนกระเป๋ามีรอยชอล์คสีขาวขีดเครื่องหมายกากบาท ให้ทำใจว่าจะยังไม่สามารถออกจากเขตตรวจได้ เจ้าหน้าที่ศุลกากที่หน้าประตูทางออกจะเพ่งเล็งหาเครื่องหมายนี้เป็นพิเศษ เมื่อเห็นเครื่องหมายนี้ที่เขียนด้วยชอล์คธรรมดาๆจะลบออกเมื่อไหร่ก็ได้นี้แล้ว เขาจะดึงตัวเราไว้แล้วส่งไปแผนกให้เพื่อนร่วมงานตรวจดูว่าข้างในมีอะไร

    หวานใจซึ่งเดินทางเข้าออกบังกาลอร์หลายครั้งคาดว่าเป็นเครื่องหมายนี้เป็นการแสดงว่าในกระเป๋ามีคอมพิวเตอร์โน้ตบุคอยู่ และตามกฎศุลกากรของที่นี่ ผู้โดยสารสามารถนำเครื่องโน้ตบุคเข้าประเทศได้คนละเครื่องเท่านั้น จึงจะต้องตรวจเช็คว่าไม่แอบนำเครื่องคอมพ์ฯเข้าเกิดกำหนด

    กระเป๋าของฉันเจอเครื่องหมายกากบาทนี่เข้าไปอย่างจัง ตอนแรกก็ใจตุ้มต่อมว่าจะต้องเปิดกระเป๋า เข้าเครื่องสแกนวุ่นวายเสียเวลา แต่การณ์กลับเป็นว่า เจ้าหน้าที่แผนกตรวจสอบแค่สอบถามว่าข้างในกระเป๋ามีอะไร มีเครื่องโน้ตบุคเข้ามากี่เครื่อง โดยไม่เสียเวลาแม้แต่จะเปิดกระเป๋าดู ไม่ได้ผ่านเครื่องสแกนเพราะสนามบินใหม่เอี่ยม เครื่องสแกนคงยังมาไม่ถึง และที่สำคัญคงจะเป็นการทำงานไปตามขั้นตอนธรรมเนียมโดยไม่ได้มุ่งหมายจะจับผิดอะไรละเอียดลออ

    ซึ่งเป็นวิธีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอินเดีย ที่ต่อมา ฉันได้เห็นเป็นประจำ




    แค่มาอยู่ที่นี่ไม่กี่วัน ฉันก็มีประเด็น มีเรื่องราวมากมายอยากจะเล่าสู่ เพราะการมาอินเดียเพื่อเตรียมตัวมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จริงๆ ไม่ได้เป็นการท่องเที่ยวเดินทางชั่วครั้งชั่วคราว ทำให้ฉันต้องคอยสังเกตสังกา เพื่อซึมซับวิถีชีวิตของคนที่นี่และประเทศนี้อย่างจริงจัง โดยรู้อยู่แก่ใจว่า อินเดียเป็นประเทศใหญ่ขนาดทวีปๆหนึ่ง แคว้นหรือเมืองต่างๆอาจะเทียบได้กับประเทศหนึ่งประเทศ ภูมิภาคต่างๆมีความแตกต่างกัน

    บังกาลอร์ จึงเปรียบได้เพียงประเทศหนึ่ง ฉันคงไม่อาจมองบังกาลอร์แล้วสรุปได้ว่าอินเดียทั้งประเทศเป็นอย่างนี้ไปหมด บังกาลอร์เป็นเพียงคอร์สเรียกน้ำย่อยของการทำความรู้จักกับอินเดียเท่านั้น

    แต่แค่เริ่มต้นในเมืองที่ไม่ได้โดดเด่น ลือเลื่องทางวัฒนธรรม หรือน่าสนใจจนเป็นจุดท่องเที่ยวประเภทไม่มาเยี่ยมชมถือว่ามาไม่ถึงอินเดีย



    ฉันก็เริ่มหลงเสน่ห์ชมพูทวีปเสียแล้ว


>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 10 มิถุนายน 2551
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 12:43:27 น. 3 comments
Counter : 864 Pageviews.

 
เป็นประเทศหนึ่งที่อยากไปนะคะ

แต่ก็ยังกลัวๆ อยู่จากสิ่งต่างๆ ที่เคยทราบมา

แต่อย่างว่าค่ะ..ของอย่างนี้ต้องไปสัมผัสด้วยตนเองก่อนเนาะ จะเชื่อแต่ที่คนอื่นเค้าไปเจอมาได้อย่างไร


จขบ.สบายดีนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:17:15:39 น.  

 
ดีที่ความรู้สึกแรกถูกชะตา เพราะเป็นสิ่งสำคัญมาก อินเดียอาจจะเป็นประเทศที่เปลี่ยนชีวิตคุณเหมือนกับที่หลายๆ คนเคยมาแล้ว ตื่นเต้นแทนเรยยย


โดย: rin IP: 88.100.132.225 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:4:55:22 น.  

 
พาทัวร์บ้านใหม่ด้วยนะครับ

ฝากความคิดถึงถึงคุณฟิลิป


โดย: นพดล IP: 58.8.104.246 วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:6:52:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.