- 06 Mars 11 บาหลี - บันทึกปิดทริป

บาหลี - บันทึกปิดทริป

กลับมาจากบาหลีถึงฮ่องกงแล้วเมื่อคืนนี้ ชีวิตดำเนินต่อไป แต่ขอย้อนกลับมาระลึกเขียนบันทึกปิดท้ายเสียหน่อย

สามวันหลังที่หาดชางกุ สิ่งประทับใจช่วยดึงให้ชื่นตาชื่นใจมีอย่างนึงคือ โรงแรมที่เราเลือก เป็นโรงแรมชนะเลิศจริงๆ ข้าวของประดับประดาเป็นของเก่าที่เจ้าของสะสมไว้ คงจะสะสมไว้เยอะมากจนไม่มีที่เก็บ เลยตัดสินใจเปิดเครือโรงแรมเพื่อจะได้มีที่วางสมบัติแบบเศรษฐีพ่อค้าคือไม่ได้วางเฉยๆ เก็บค่าเข้ามานอนดูด้วย

การมีวัตถุและเครื่องเรือนที่เป็นของเก่าจริง มองหาไม่เจอในท้องตลาดทั่วไป แถมมีความขลังจากกาลเวลามาช่วยเพิ่มความพิเศษ ทำให้โรงแรมแห่งนี้ดูดีมีระดับในระดับโลก แตกต่างจากโรงแรมในสไตล์โอเรียลทอลชิค อื่นๆ ทั่วไป อันเป็นสไตล์ที่บาหลีดูจะโดดเด่นล้ำหน้ากว่าที่ไหน

เข้าไปเดินในเมืองเซมิยัคอยู่แป๊บนึง เพื่อหาซื้อผ้าถุงลายแบบอินโดนีเซีย เลือกที่เข้าไปดูในตลาดสดที่ขายให้คนพื้นถิ่น เซมิยัคมีร้านค้าขายพวกเครื่องประดับตกแต่งบ้านและเสื้อผ้าเก๋ๆ มากมายตามรายทาง สิ่งที่วางขายนักท่องเที่ยวพวกนี้น่าจะมีขายทุกเมือง ในทุกหาด ทั่วทั้งเกาะกระมัง คล้ายๆ กับที่ร้านในภูเก็ตมีงานของทางเชียงใหม่วางขาย เผื่อว่านักท่องเที่ยวจะลืมซื้อ

จบทริปนี้ ด้วยความรู้สึกว่าเพียงพอ เหมือนขีดในเช็คลิสต์ว่าได้มาแล้ว โดยส่วนตัวคงไม่คิดจะกลับไปอีก เที่ยวคราวหน้าคงจะเลือกไปที่อื่นอย่างเช่น เกาะจาวา เพราะติดใจการนวดแบบจาวาเข้าเสียแล้ว


อย่างไรก็ตาม บาหลีก็เป็นสถานที่ที่ถ้ามีใครถามว่าน่าไปมั้ย ฉันตอบได้เต็มปากเต็มคำว่า ไปเถอะค่ะ







>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2554 9:56:10 น.
Counter : 1139 Pageviews.  

- 03 Mars 11 บาหลี : ไปไหน ไปไหน ไปอุบุด

บาหลี : ไปไหน ไปไหน ไปอุบุด

คนที่เสนอความคิดว่าอยากไปเที่ยวช่วงหยุดตรุษจีน คือ หวานใจ

คนที่เลือกว่าไปไหนดี คือ ฉัน

ฉันเลือกบาหลี เพราะอยู่ไม่ไกลจากฮ่องกงเท่าไหร่ เพราะฉันไม่ต้องขอวีซ่า เพราะเป็นที่เที่ยวที่ติดปากฉันมานานแล้วเวลาคนถามว่าอยากไปเที่ยวไหน ฉันมักจะตอบว่าบาหลี ทั้งที่ไม่รู้หรอกว่าที่นั่นมีอะไรดี

คราวนี้เลยได้รู้เสียที

มีเวลาไม่เยอะแค่อาทิตย์เดียว เราเลยเลือกบาหลีสองมุม คือ มุมชนบท+ศิลปะที่อุบุด (Ubud) กับมุมริมทะเลที่หาดชางกุ (Canggu)

สามวันแรกผ่านไปไวเหมือนโกหก เราเลือกพักที่ Ubud Hanging Garden เป็นรีสอร์ทในหุบเขาเล็กๆ ที่มีแม่น้ำไหลผ่านตรงกลาง เครื่องจากฮ่องกงลงถึงสนามบินตอนบ่ายสองกว่าๆ นั่งรถหนึ่งชั่วโมงถึงที่พัก ห้องพักกว้างขวางมีสระว่ายน้ำเล็กๆ วิวต้นไม้เขียวสบายตา

วันที่สอง สามีภรรยาพักผ่อนภายในบริเวณรีสอร์ท กว่าจะตื่น เอ้อระเหยเล่นน้ำ กว่าจะเตรียมตัวเสร็จก็เที่ยงพอดี กินอาหารกลางวัน แล้วลงไปที่แม่น้ำข้างล่าง หวานใจตกปลาไป ฉันอ่านหนังสือไปใต้ร่มใหญ่ที่ช่วยกันฝนที่ตกๆ หยุดๆ เป็นระยะๆ อยู่เช่นนั้นจนตกเย็น เข้าสปา ลองการนวดแบบบาหลี เป็นอันจบวันแสนสงบ

วันรุ่งขึ้น ออกจากรังรอง นั่งรถชมหมู่บ้าน ไปดูวัด ก่อนเข้าเมืองอุบุดไปกินเป็ดทอดกรอบร้านดัง ต่อด้วยแวะชมโรงงานทอผ้า ซื้อผ้ามาหนึ่งผืน เข้าร้านนวดกันอีกรอบ คราวนี้นวดนานสองชั่วโมงกว่า เพราะเป็นร้านนวดแบบธรรมดาๆ ไม่หรูหราราคาสูง ปิดวันด้วยอาหารค่ำในเมือง ก่อนกลับที่พัก

เรื่องกินเรื่องใหญ่ เที่ยวให้สนุก อาหารต้องอร่อย : สองวันแรกเราฝากท้องกับร้านอาหารในรีสอร์ท เห็นว่าเชฟใหญ่เป็นคนไทย ในเมนูเลยเป็นลูกผสมมีกลิ่นอายเทคนิคการทำอาหารไทยๆ ผสมอยู่ประปราย ฉันลองเมนูที่ว่าเป็นอาหารอินโดนีเซียอยู่สองสามอย่าง จานแรกเป็นปลาทอดคลุกเครื่องแกง คล้ายๆ ปลาราดพริก จานที่สองเป็นสะเต๊ะลูกหมู เป็นเนื้อลูกหมูบดผสมเครื่องแกงแปะกับไม้ย่าง อีกจานเป็นหมี่ผัด

อาหารรสชาติค่อนข้างจืดๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างนี้จริงๆ หรือเป็นอาหารโรงแรมที่ต้องทำให้กลางๆ เอาไว้ก่อน แขกต่างชาติมากินจะได้กินได้

มื้อที่พิเศษหน่อย คือ มื้อค่ำในเมืองอุบุด เราเลือกร้านอาหารเลื่องชื่อที่สุดคือ Mozaic เป็นอาหารลูกผสมฟิวชั่นเหมือนกัน แต่เอียงไปทางอาหารฝรั่งจานใหญ่ๆ อาหารน้อยๆ จัดมาเล็กๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม กินสองคำหมดให้พอรู้รส ทยอยมาหลายๆ จาน

ที่ร้่านนี้มีสองเซ็ตเมนูให้เลือก คือ discovery ที่คล้ายจะให้ทำความรู้จักกับอาหารอินโดนีเซีย แต่เอาเข้าใจจริงๆ แล้วเป็นอาหารที่ใช้เครื่องเทศและเครื่องเคราพื้นเมืองมาทำด้วยเทคนิคและการนำเสนอแบบอาหารฝรั่งมากกว่าเป็นอาหารอินโดนีเซียแบบที่คนที่นี่กินจริงๆ กับอีกเมนูนึงเป็นอาหารฝรั่งสลัด ซุป จานปลา จานเนื้อ เหมือนเซ็ตเมนูทั่วไป สิ่งที่น่าสนใจคือ การจัด wine pairing ให้กับอาหารแต่ละจาน ซึ่งถือว่าทำได้ดีทีเดียว


วันรุ่งขึ้น หลังอาหารเช้า นวดหน้า เก็บกระเป๋า เช็คเอาท์ เปลี่ยนที่พักไปริมทะเลด้านตะวันตกของเกาะ ยิ่ิงรถวิ่งออกห่างจากอุบุด ความน่ารักของบ้านเรือนชาวบ้านแบบพื้นถิ่นริมทางก็ค่อยๆ ลดลง ยิ่งเข้าใกล้ชายฝั่งจุดท่องเที่ยว ยิ่งเห็นสภาพการถูกความสมัยใหม่่เข้ารุกราน โชคยังดีที่จุดที่เราเลือกพักเป็นหาดที่ไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก และที่พัก Tugu ก็สวยตระการตา เรากะกันว่าจะทำสูตรเดิมคือ วันแรกกับวันที่สองพักผ่อนอยู่กับที่ วันที่สามค่อยออกไปดูโลกภายนอกในเมือง Seminyak ใกล้ๆ


ถ้ามีเวลา โอกาสเหมาะๆ จะมาเล่าสู่กันฟัง


ถ้าไม่มีเวลา อย่างน้อยที่สุดก็จะนำรูปมาฝากนะคะ





>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2554 14:04:40 น.
Counter : 684 Pageviews.  

- 24 DEC 10 เที่ยวไทเป วันที่สี่ วันสุดท้าย

เที่ยวไทเป วันที่สี่ วันสุดท้าย

ไปเที่ยววัดและเดินตลาดในเขตเมืองเก่า



>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 24 ธันวาคม 2553    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2554 12:57:15 น.
Counter : 682 Pageviews.  

- 22 DEC 10 เที่ยวไทเป วันที่สาม เช้ายันค่ำ

เที่ยวไทเป วันที่สาม เช้ายันค่ำ




>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 22 ธันวาคม 2553    
Last Update : 22 ธันวาคม 2553 21:41:06 น.
Counter : 640 Pageviews.  

21 DEC 10 เที่ยวไทเป วันแรก ตอนค่ำ และวันต่อมา ตอนบ่าย

เที่ยวไทเป วันแรก ตอนค่ำ และวันต่อมา ตอนบ่าย

วันแรกตอนค่ำ





วันที่สองตอนบ่าย ไปเดินพิพิธภัณฑ์ (กันจนขาลาก)





>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 22 ธันวาคม 2553    
Last Update : 22 ธันวาคม 2553 7:55:08 น.
Counter : 718 Pageviews.  

1  2  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.