- 13 AOUT 07

ขำแต่เขา... ถึงคราวเป็นเอง


---Et maintenant, nous nous mettons au "PAIR LOOK". ---



     ความรักช่างมีอิทธิฤทธิ์ร้ายกาจ สามารถเปลี่ยนคนได้แบบหน้ามือเป็นหลังมือ

     เมื่อก่อน เวลาเห็นคู่รักคู่ไหนแต่งตัวหรือใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน หรือที่เรียกๆ กันว่า "pair look" ฉันจะรู้สึกแปลกๆ ติดจะขำๆ

     ขำแต่เขา แต่พอถึงคราวตัวเองบ้าง ฉันก็เป็นแฮะ เมื่อตอนไปเที่ยวถนนคนเดินกับเพื่อนๆ ที่เชียงใหม่เมื่อสิ้นปีที่แล้ว เชื้อเริ่มออก ฉันซื้อเสื้อเพนต์มือลายเดียวกันสองขนาด หนึ่งตัวของฉัน อีกหนึ่งให้เป็นของขวัญคริสต์มาสกับ..แฮ่ม หวานใจ ... ตอนนั้นไม่ได้เอะใจอะไร นึกว่าทำสนุกๆ ไปงั้นเอง

     แต่วันเสาร์ ฉันก็เริ่มรู้ตัวว่าอาการเริ่มหนัก เกือบจะเกินเยียวยา

     วันนั้น เราสองคนเข้าไปในร้านขายรองเท้า หวานใจตั้งใจจะซื้อรองเท้าใส่สบาย ทำในฝรั่งเศส ยี่ห้อ HESCHUNG พอเห็นรุ่นที่หวานใจเลือกมีแบบเดียวกันของผู้หญิงด้วย ฉันก็สะกิดหวานใจยิกๆ ส่งพลังจิต พร้อมสายตาอ้อนวอน ทำสัญญาณพยักเพยิดให้หวานใจดูรองเท้าบนชั้นวางรอบแล้วรอบเล่า


     จนเขาใจอ่อน ยอมซื้อให้




     ป.ล. รูปประกอบ : รองเท้า "pair look"ของเรา



>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 13 สิงหาคม 2550    
Last Update : 8 กันยายน 2550 13:07:45 น.
Counter : 932 Pageviews.  

- 10 AOUT 07

ท่วมท้น... ยิ่งถอยหนี


---Je n'arrive pas à me concentrer sur mon travail. ---


      ใครว่าอากาศเย็นๆ จะช่วยให้คนขยันขันแข็ง

     ไม่จริง ไม่จริงเลย ดูฉันสิ หนาวมือไม้แข็งจนขี้เกียจ สมองไม่สั่งให้ทำงานที่ต้องใช้ความคิด เช่น เขียนบทความท่องเที่ยว หรือ เกลางานแปลที่ทำค้างอยู่

     อากาศหนาวในหน้าหนาวนั้น ไม่เท่าไหร่หรอก มันทำใจไว้แล้วว่ามันต้องหนาว แต่อากาศหนาวในหน้าร้อนแบบนี้สิ ที่ทำฉันขัดอกขัดใจ อะไรๆ ที่วางเอาไว้เสียหายยับเยิน หนังกลางแปลงที่ว่าจะไปดู ก็อดดู เพราะเจออากาศชื้นเย็นไล่ สวนสวยๆ ที่กะจะถ่ายสำแดงฝีมือเป็นภาพประกอบคอลัมน์ ฟ้าหมองเป็นสีเทาชวนหดหู่ใจ ...

     เฮ้อ ... ยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไง กำหนดส่งก็ใกล้เข้ามาแล้วด้วยสิ

     เมื่อวานฉันนัดเป๊บ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ออกมาเจอกัน กินก๋วยเตี๋ยวกันคนละชามแล้วเดินเท้า ต่อด้วยรถเมล์ไป parc de la villette ที่ฉันตั้งใจจะเขียนถึง สองสหายเดินชมสวนสีหม่น ช่วยกันถ่ายรูปคนละไม้ละมือ แวะเข้าไปต่อในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในบริเวณเดียวกัน

     เดินกันตั้งแต่บ่ายสอง จนพิพิธภัณฑ์ปิด ปาเข้าไปหกโมงครึ่ง ต่อรถไฟใต้ดินไปโผล่แถวการ์ เดอ เลสต์ เดินเลียบริมคลองหาที่นั่งดื่มเบียร์ คุย คุย คุย ดื่ม ดื่ม ดื่ม ดื่ม คุย คุย รอหวานใจมาสมทบ ดื่ม สั่งไวน์ ดื่ม ดื่ม กิน กิน กิน เรียกเก็บเงิน เดินไปถึงสานีรีปุบลิก เป๊บมุดเข้าโพรงสถานีรถไฟ ฉันกับหวานใจเดินอ้อมวงเวียนไปขึ้นรถแท็กซี่

     กลับถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน รินเหล้าย่อยอาหารปัวร์ วิลเลียมส์ หนึ่งแก้ว โปรแกรมเวลาอัดข่าวลงเครื่องบันทึกแผ่น ฉันนั่งหลับคาโซฟา หวานใจละมือจากลงโปรแกรมไมโครซอฟวิสตาที่ไปรษณีย์เพิ่งมาส่งเมื่อตอนกลางวันลงเครื่องโน๊ตบุตเดอะคิดมาปลุกฉันให้เข้าไปนอนในห้อง

     เช้านี้... ตื่นมาด้วยเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ตอนตีห้าสี่สิบห้า สองคนงัวเงียรู้สึกตัว นอนกกกอดเบียดกันอยู่สักครู่เพื่อต่อเวลานิทรา ในช่วงเวลาอย่างนี้ การได้หลับตาต่อสักสองสามนาทีนั้นช่างหอมหวานนัก ก่อนจะตัดใจสลัดผ้าห่มและไออุ่นๆ ของกันและกันลุกจากที่นอน


     หน้าที่ประจำเช้านี้ นอกจากเช็คดูว่าเครื่องอัดตามโปรแกรมและอัดถูกช่องหรือเปล่าแล้ว สิ่งที่ต้องทำอีกอย่างคือรีดเสื้อเชิ้ตใส่ทำงานให้หวานใจ เพราะที่รีดตุนๆ เอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนหมดเกลี้ยงตู้แล้ว (ฉันตั้งเอาไว้ให้วันศุกร์เป็นวันรีดผ้า)

     ฉันคั้นน้ำส้ม อาหารเช้าอุดมคุณประโยชน์อย่างเช่นผลไม้กับโยเกิร์ตหมด เดี๋ยวต้องจดในรายการซื้อของเข้าบ้านเสียแล้ว ... เอ นี่ไม่ได้ไปเดินเล่นซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างบ้านหลายวันเลย พนักงานเฝ้าเครื่องตรวจขโมยของหน้าประตูทางเข้าเหงาแย่

     ส่วนหวานใจชงกาแฟ ปิ้งขนมปัง หักช็อคโกแล็ตดำที่มีปริมาณโกโก้สูงถึง 80% จากแท่งมากินกันคนละนิดละหน่อย

(ฉันพยายามเสริมสร้างนิสัยการกินช็อคโกแล็ตดำทุกวันให้กับเราสองคน หลังจากแปลรายงานข่าวที่แจ้งว่า การกินช็อกโกแลตวันละประมาณ 30 กรัมทุกวัน จะช่วยเสริมสร้างเส้นเลือดให้แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคเส้นเลือดสมองและเส้นเลือดหัวใจอุดตันโป่งพอง และให้พลังงานสูงเหมาะสำหรับเป็นอาหารเพื่อเริ่มต้นวัน)

     พอส่งหวานใจไปทำงานที่หน้าห้องเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ปิดเตารีด เปิดน้องป้อม เปิดทีวี เปิดเครื่องอัดแผ่น ทำงานแปลข่าว ... ตอนนี้ฉันพอใจเวลาการทำงานแปลข่าวที่เป็นอยู่อย่างมาก เพราะไม่ต้องไปทับเวลากินอาหารค่ำหรือต้องอยู่ดึกๆ ดื่นๆ การทำงานช่วงเช้าหลังจากหวานใจไปทำงานแล้วแบบนี้เป็นเวลาที่สงบลงตัวที่สุดทั้งกายและใจ

     แปลข่าวเสร็จ ส่งไปแล้ว เปิดเตารีดรีดเสื้อเชิ๊ตตุนเอาไว้อีกหกเจ็ดตัว ลังเลระหว่างเริ่มลงมือเขียนคอลัมน์เล่าประสบการณ์ที่เจอเมื่อวาน กับ เกลางานแปลที่เหลืออีกประมาณครึ่งเล่มที่ทำค้างอยู่


     ลังเลแล้วเล่า สุดท้ายหันมาอัพบล้อก อ้างว่าอากาศเย็น สมองไม่ทำงาน




     ป.ล. รูปประกอบ : ภาพแรก - เป็นโปสการ์ดที่ระลึกจากการไปดูนิทรรศการศิลปะเมื่อครั้งที่มาฝรั่งเศสคราวที่แล้ว "วิธีการทำงานให้ดีขึ้น" มีอะไรบ้าง เชิญอ่านเอาเอง ตอนแรกฉันเอาไปแปะในห้องน้ำ ตอนนี้แกะมาติดข้างๆ โต๊ะทำงาน หวังว่าจะช่วยฮึดให้ใจสู้งานที่กองสุมหัวและหางหมูมากขึ้นทุกที

     ภาพที่สอง - เป็นความพยายามจะถ่ายรูปวิธีการรีดเสื้อเชิ้ต เพื่อเผยแพร่แก่แม่บ้านที่มีปัญหารีดเสื้อเชิ้ตแล้วยับตรงนั้นทีตรงนี้ที ถ่ายไปได้สามสี่ภาพก็ถอดใจ กลัวกระบวนการถ่ายทำจะนานเนิ่นจนเตารีดทำเสื้อไหม้เสียก่อน

     ภาพข้างล่าง - เป็นส่วนหนึ่งของภาพที่ถ่ายในสวนที่ไปเมื่อวาน




>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 10 สิงหาคม 2550    
Last Update : 11 สิงหาคม 2550 1:08:12 น.
Counter : 868 Pageviews.  

- 03 AOUT 07

ใช้ชีวิต ตามอากาศ


---J'ai une maudite poussette qui attire des bib-bibs à la sortie de Monoprix. ---


     เผลอแป๊บๆ วันนี้วันศุกร์อีกแล้ว เมื่อคืน ฉันแป๊กหมดแม็ก มุดเข้าเตียงตอนสี่ทุ่ม ... อาจจะเป็นเพราะ ตั้งแต่มาที่นี่ ไม่ได้นอนเต็มตา (หมายถึง 10 ชั่วโมงขึ้นไป) สักเท่าไหร่ ต้องตื่นมาทำหน้าที่แม่บ้านบ้าง นักแปลข่าวบ้าง ตื่นมาเองเฉยๆ บ้าง เมื่อวานเลยทรุด ไม่ไหว ถ่างตาไม่ได้แล้ว ขอนอน ขอนอน

     แหม... คืนนี้โล่งๆ งานแปลข่าวไม่มี ดื่มกับเบาๆ แค่ไซเดอร์สองสามขวดเล็ก มื้อค่ำ ก็กินกันเบาๆ แค่ปลากระป๋องไฮโซปี 2003 กับ 2005 (ยิ่งเก่ายิ่งอร่อยอย่างน่าประหลาด) และบวบผัด ตอนแรกกะว่าจะได้จรุ๊กจริ๊กกรุ๊กกริ๊กกับหวานใจเสียหน่อย ... อดเลย ... ไม่เป็นไร เดี๋ยวหาจังหวะใหม่

     เช้านี้ ตั้งใจจะทำงานแปลโปรแกรมหนังที่จะฉายที่สมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ ที่ฟ๊าบเพื่อนร๊าก ส่งมาให้เมื่ออาทิตย์ก่อนให้เสร็จ วางงานเกลา Vous revoir ไว้ก่อน เดี๋ยวอาทิตย์หน้าค่อยทำต่อ ... เฮ้อ... เนี่ย งานการหลุดตารางอุตตลุดเลย หนังสือที่เกลาอยู่ ตอนแรกคิดว่าจะทำเสร็จส่งให้คุณแอนตั้งแต่สิ้นเดือนที่แล้ว เดือนนี้กะจะแปลหนังสือเล่มใหม่ของมาร์แต็ง ปาจ ที่ขอผลัดและรับปากกับเจ๊นวลเป็นดิบเป็นดีว่าจะส่งเดือนกันยา ... แน่นอนค่ะเจ๊ ไม่ต้องห่วง ... เจ๊ก็ใจดี ได้ๆ ทำให้เสร็จตามกำหนดนะ ..

     แล้วไงล่ะ ... ป่านนี้ยังไม่ได้เริ่มเลย แล้วอาทิตย์หน้าก็ใช่ว่าจะมีเวลามานั่งทำนะ ต้องออกไปเก็บภาพเก็บข้อมูลสำหรับเขียนบทความท่องเที่ยวที่มีนิตยสารเล่มนึงติดต่อมา ... กำหนดส่งวันที่ 13 เหลืออีก 10 วัน

     แต่สิบวันนั้นก็ใช่ว่าจะได้ทำเต็มๆ เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ นี้จะไปบ้านพักต่างจังหวัดของหวานใจ (หวานใจอุตส่าห์ลางานหนึ่งวันเพื่อจะอยู่กับฉันนานๆ... น่ารักเนอะ)เหลืออีกเจ็ดวัน ไม่รู้าจะทำทัน ออกหมู่หรือจ่า ฉันไม่เคยเขียนงานเชิงท่องเที่ยวเสียด้วย แต่โอกาสมาถึงแล้ว ก็ต้องลองทำและทำให้ดีที่สุด ถ้ามันไม่ถนัดอึดอัดคับข้องจะได้ไม่ต้องรับทำต่อ แต่ถ้าเกิดถูกจริตขึ้นมา จะได้เขียนให้เป็นล่ำเป็นสัน เป็นเล่มๆ ไปเลย


     ที่ต้องรอดูก่อน เนื่องจากฉันรู้ตัวดีว่ามีสันดานขี้เกียจออกจากบ้าน ไม่เคยกระดี๊กระด้าจะออกไปสูดอากาศร่วมกับเพื่อนมนุษย์ข้างนอกเสียเท่าไหร่

     ชีวิตฉันที่นี่ ฉันปล่อยให้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ช่วงนี้อากาศดีวันแย่วัน แดดออก แต่อุณหภูมิเฉลี่ยแค่ 20 องศา แต่งตัวลำบากมาก จะใส่หนาก็เดี๋ยวจะร้อน จะใส่บางเดี๋ยวจะหนาว ไอ้ฉันก็มีแต่เสื้อผ้าหน้าร้อนจากเมืองไทย หรือไม่ก็เสื้อคลุมหนาไปเลย ไม่ค่อยมีเสื้อผ้ากลางๆ สำหรับอากาศแบบนี้เสียด้วยสิ ผลก็คือ อยู่กับบ้านสำราญใจ ปัดกวาดเช็ดล้าง ชำระงานที่คั้งค้าง จะได้ออกก็ตอนเย็นๆ ไปซื้อของสดของแห้งที่ซุปเปอร์ข้างๆ บ้านเท่านั้น พนักงานที่นั่นคงจะงงๆ นังนี่มาซื้อของทุกวันเลย ก็แหม... เดินในซุปเปอร์ปรับอากาศสบายๆ เดินเล่นเพลินดีออก

     ส่วนโปรแกรมค่อนข้างโลดโผน ต้องมุมลงรถไฟใต้ดินไปเดินรับอากาศข้างนอกน่ะ ผลัดได้ฉันไม่เคยลังเล อย่างที่เคยตั้งใจจะนัดเพื่อนออกไปเที่ยวสวน parc de la villette ไปดูหนังกางแปลงสำหรับเอามาเขียนในบทความก็เหลวเป๋วมาแล้ว พอเจออากาศเย็น อธิชาหดตัว ไม่ขยับเขยื้อน เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านโดยพลัน

     สงสัยต้องรอความร้อนของกำหนดส่งงานมาจ่อที่ก้นก่อนกระมัง



     ป.ล. รูปประกอบ : ข้างขวาเป็นอาหารมื้อค่ำที่นั่งลาดุชเชสออกไปกินกันที่ร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งแถวเขต 17 ในคืนวันพุธ วันนั้นอากาศดีมากๆ ชนิดไม่ควรเก็บตัวอยู่กับบ้าน

     ภาพข้างบน เป็นถุงรถเข็นจ่ายตลาดสีชมพูลายจุดที่ฉันภาคภูมิใจ ลากออกไปโชว์ผู้คนที่ซุปเปอร์มาเก็ตแทบทุกวัน และเป็นรถเข็นที่นำเรื่องราวมาให้ตื่นเต้นทุกครั้งที่เดินออกจากซุปเปอร์ เพราะเดินผ่านไอ้เครื่องดักจับขโมยแล้วดังทุกที

     อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว คาดว่ามันดังเพราะพนักงานไม่ได้ยิ่งเครื่องบาร์โค๊ดป้ายลดราคาให้หมด แต่เมื่อวานนี้ มันก็ยังดังอีกรอบ ทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้ซื้อสินค้าอะไรที่มีป้ายบอกราคาสองป้ายเลย

     คราวนี้เจ้าหน้าที่ประจำห้าง เข้ามาเชิญฉันเข้าไปในมุมที่ลับตาคนเพื่อตรวจเช็คข้าวของในถุง ไม่ได้เปิดเช็คกันเห็นๆ หน้าประตูเหมือนคราวก่อน ปรากฎว่าไม่มีอะไรผิดกฎหมาย (แน่ล่ะ) ฉันงุนงง เฮ้ย... มันอะไรอีกวะเนี่ย เผลอหงุดหงิดหลุดพูดออกไปว่า "สงสัยจะเป็นฉันมั้ง ที่ผิดกฎหมาย"


     พนักงานคนนึงไหวพริบดี รีบปลอบใจ กลบเกลื่อนสถานการณ์ว่า

     "เครื่องอาจจะส่งเสียง เพราะความงามของคุณก็ได้นะครับ"


     ได้ผลแฮะ นังลูกค้าหน้างอๆ อารมณ์ดี ยิ้มออกเลย






>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 03 สิงหาคม 2550    
Last Update : 4 สิงหาคม 2550 0:45:44 น.
Counter : 984 Pageviews.  

- 01 AOUT 07

ชีวิต แม่บ้านนักแปลข่าวข้ามชาติ


---Travailler ou ne pas travailler...C'est une question. ---


     เก็บจานชามแก้วช้อนส้อมมีดหม้อเข้าเครื่องล้าง เคลียร์บ้านเล็กน้อย แล้วมาอัพบล้อก ก่อนจะลงมือทำงานเหลา Vous revoir หลังจากประสบมรสุมปัญหาระลอกแล้วเล่าในงานแปลข่าว

     ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงเวลาทำข่าวยกใหญ่ เพราะช่วงเวลาปกติอัดข่าวสี่ทุ่ม ส่งประมาณตีสองแบบเดิมในเวลาเมืองไทยที่เคยทำ มันตรงกับช่วงกินอาหารค่ำที่นี่พอดี คือ ราวๆ สองทุ่มกว่าๆ

     เจอแบบนี้มาสองวัน ฉันเกิดความอึดอัดคับข้อง มันกระวนกระวาย ละล้าละลัง ทางนี้ก็แฟน ทางนั้นก็งาน อันที่จริง ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ฉันควรจะได้อยู่สงบๆ กับหวานใจ กินอาหารอร่อยๆ สบายๆ ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานและวันที่เพิ่งผ่านพ้นไปด้วยกัน

     ร่ำๆ จะงอแง ทิ้งทุ่น ไม่ทงไม่ทำมันแล้ว แต่ปรากฎว่าไม่นานมานี้ ทางช่องเก้า เปลี่ยนแผนการทำงานใหม่ ไม่ได้เอาข่าวที่แปลไปออกข่าวเช้ารับวันใหม่เหมือนเดิมแล้ว แต่เปลี่ยนไปออกช่องดาวเทียมช่วงหกโมงเย็นแทน ดังนั้น เราจึงมีช่วงตัวเลือกช่วงข่าวที่จะทำมากขึ้น ไม่ต้องติดกับช่วงข่าวสี่ทุ่มอีกต่อไป

     ตอนแรกว่าจะเลื่อนมาทำตอนตีสองที่นี่ คือเจ็ดโมงเช้าที่โน่น แต่เครื่องอัดมันเพี้ยนหรือฉันไม่ได้เช็คตารางโปรแกรมแน่ๆ ก็ไม่รู้ ภาพที่อัดออกมาไม่ได้เป็นช่วงข่าวไปเสียนี่ เลยขยับปรับใหม่ มาอัดช่วงสิบโมงเช้าแทน (บ่ายสามเมืองไทย) ถึงจะหมิ่นเหม่ ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อให้ออกอากาศทันตอนหกโมงเย็น แต่จะได้ข่าวค่อนข้างใหม่กว่าข่าวจากช่วงสี่ทุ่ม

     โทรไปบอกให้ทางบ.ก.ข่าวอัดภาพตอนบ่ายสาม พอถึงสิบโมงทางนี้ ฉันตั้งอกตั้งใจจดหัวข้อข่าว และอัดลงเครื่องเรียบร้อย พอโทรกลับเมืองไทย อ้าว... ทางโน้นไม่เห็นมีข่าวเลย เป็นรายการอะไรก็ไม่รู้

     ฉันเลยต้องกลับมาเปิดเน็ตเปรียบเทียบตารางเวลาออกอากาศของ TV5 MONDE ที่เมืองไทยกับของที่ฝรั่งเศสอีกที ... ถึงได้รู้ว่ามันคนละตารางกัน ก่อนหน้านี้นึกว่ามันรายการเดียวกันตลอด ....เฮ้อ จะมีตรงกันช่วงข่าวประมาณสองครั้ง คือ หกโมงเช้ากับหกโมงเย็น ของที่นี่ (เที่ยงและสี่ทุ่ม ของที่โน่น)



     สรุปว่าวันนี้พลาดหมด พลาดเกลี้ยง ... ไม่เป็นไร พลาดแล้วพลาดเลย ทำอะไรไม่ได้แล้ว แก้ตัวใหม่พรุ่งนี้ละกัน ฉันตกลงกับ บ.ก. ข่าวใหม่ ว่าจะนัดเวลากันอัดภาพวันต่อวันเลย ถ้าเป็นคิวฉัน อย่างเช่นพรุ่งนี้ อัดข่าวตอนเที่ยง แต่ถ้าเป็นของคุณตู๋ อัดตอนเจ็ดโมงเช้า ...

     แก้ปัญหาล่วงหน้าเป็นรายวันอย่างนี้ไปก่อน เดี๋ยวฉันกลับเมืองไทย แล้วค่อยว่ากันอีกที (นี่ฉันพยายามไม่นึกนะว่า แล้วตอนกลับมาอยู่ฝรั่งเศสจริงๆ จะทำยังไง ... ถึงเวลาก็คงจะรู้เอง)

      ตัดสินใจว่าจะลองตั้งเครื่องอัดดูอีกรอบนึง แต่จะพยายามตื่นมาดูด้วยว่ามันทำงานหรือเปล่าตอนหกโมงแล้วค่อยกลับไปนอนต่อ เพราะไอ้เครื่องอัดแผ่นบ้านี่ก็ไม่รู้เป็นไง เวลาทดลองตั้งโปรแกรม มันทำงานดี๊ดี แต่เวลาจะเอาจริง มันเหลวเป๋วตลอด ราวกับแกล้ง หรือว่าฉันเกร็งเกินไปก็ไม่รู้

     ถึงจะมีอุปสรรคขลุกขลักมากมายในการทำงาน และเคยท้ออยากเลิกทำมาหลายครั้ง แต่ตอนนี้ฉันคิดได้แล้วว่า ฉันคงจะไม่เลิกทำงานนี้หรอก ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ และเวลาการทำงานไม่ได้ทับกับเวลาที่ควรเอาไปทำอะไรที่น่าทำกว่า

     อีกเหตุผลหนึ่งที่มาเสริมให้ควรทำงานแปลข่าวต่อก็คือ งานนี้ทำให้ฉันได้รับรู้ข่าวสารและความรู้กว้างขวางสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่โง่ดักดาน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวาน ตอนไปจ่ายตลาด ขณะที่รอแถวจ่ายเงิน ผู้ชายที่ยืนต่อจากฉันอยู่ๆ ก็ชวนฉันคุย ชี้ชวนฉันดูเนยแข็งที่เขาถืออยู่รอจะจ่ายเงิน แล้วบอกว่า

     "ยี่ห้อนี้อร่อยมากนะ ขอแนะนำ คุณรู้จักหรือเปล่า นี่น่ะคือเนยแข็งการ์มองแบร์ต์"

     "แล้วมันทำจากนมดิบหรือเปล่าคะ" ฉันถาม

     (ที่ถามอย่างนั้น เพราะฉันเคยแปลสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับเนยแข็งการ์มองแบร์ต์ ซึ่งชาวเมืองการ์มองแบร์ต์ยืนยันว่า เนยแข็งการ์มองแบร์ต์ต้องทำจากนมดิบเท่านั้น ถ้าเป็นนมพาสเจอร์ไรซ์ ถึงแม้รสชาติจะไม่ต่างจากการ์มองแบร์ต์ รบกวนไปใช้ชื่ออื่น)

     ผู้ชายคนนั้นพูดอุบอิบ "... เอ่อ... ที่จริง ก็ไม่ใช่การ์มองแบร์ต์จริงๆ แหละ"


     หลังจากนั้น เขาก็นิ่งไป ไม่เจ๊าะแจ๊ะชวนฉันคุยอีกเลย





     ป.ล. รูปประกอบ : เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากกินอาหารฉันกับหวานใจไป "สวนดอกไม้แห่งปารีส" (parc floral de Paris) วันนั้น ที่นั่นกำลังจัดเทศกาลแจ๊สประจำปีอยู่พอดี มีผู้คนชาวปารีสและปริมณฑลจูงลูกจูงหลาน จูงมือคนรักไปปิ๊กนิค ปูผ้านั่งฟังเพลงแจ๊ซที่เล่นจากศาลาใหญ่กลางสวน บรรยากาศดีมาก

     หลังจากนั้น นั่งลาดุชเชสไปกินอาหารค่ำกับเดเด้แถวๆ ตีนเขามงต์มาร์ต ใกล้ๆ กับบาร์ชื่อ Le Blue Note ที่เจอใน Pariscope หนังสือโปรแกรมกิจกรรมประจำสัปดาห์ของปารีส หวานใจเห็นชื่อและโปรแกรมนึกว่าเป็นบาร์แจ๊ซ แต่เอาเข้าจริงๆ กลายเป็นบาร์บราซิลเลียนเสียนี่ มีวงเล่นสดเสียด้วย ไหนๆ ก็มาแล้ว บราซิลเลียนก็ได้ไม่เป็นไร


     ฉันฟังได้สามเพลงมั้ง คอพับพิงบ่าหวานใจ หลับคร่อกตลอดรายการ ตื่นมาเห็นลูกค้าที่มาเที่ยวบาร์ลุกขึ้นเต้นกันสนุกสนาน ฉันรู้สึกกระดากอายนิดๆ เรานั่งกันแถวหน้าสุดเสียด้วย พวกนักดนตรีเขาจะเสียกำลังใจ คิดว่านังบ้าคนนี้หลับเพราะเขาเล่นเพลงน่าเบื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้

     แต่แหม จะไม่ให้หลับได้ไง วันนี้ฉันดื่มตั้งแต่บ่าย

     -เริ่มจากไวน์ขาวกินแกล้มกับปลาทอด

     -ต่อด้วยเบียร์ตอนแวะเข้าห้องน้ำที่คาเฟ่กลางทาง

     -ขณะรอเดเด้ เรียกน้ำย่อยด้วยไวน์โรเซ

     -ระหว่างกินอาหารค่ำเปิดไวน์แดง


     พอมานั่งที่บาร์ ฉันตบท้ายด้วยคอนยัคแก้วใหญ่ ... ผลก็นี่ไง ...น็อคโลด






>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 01 สิงหาคม 2550    
Last Update : 1 สิงหาคม 2550 17:20:43 น.
Counter : 931 Pageviews.  

- 30 juillet 07

เสาร์-อาทิตย์ สุขสันต์


--- Je vis ma vie avec mon homme de ma vie.. ---



     แฮ่ม แอบอวด... เพิ่งกลับจากไปดูหนังเรื่อง "แสงศตวรรษ" มาค่ะ ที่โรงหนังอิสระแถวๆ ปองเตอ็ง หนังสนุก ฉลาด เนียนสวย ชอบ

      นั่งรถไฟใต้ดินสองทอด ดิ่งกลับบ้านด้วยความเป็นห่วงว่าหวานใจที่น่าจะกลับถึงบ้านแล้วจะรอนาน เปิดประตูบ้านเข้ามา อ้าวพ่อคุณยังไม่กลับ เราตกลงกันทางโทรศัพท์ก่อนที่ฉันจะเข้าเมืองว่า คืนนี้หวานใจจะแวะซื้อของสำหรับอาหารค่ำเอง พอเป็นอย่างนี้ ฉันก็เลยต้องนั่งรอแกร่วอยู่กับบ้าน ไม่กล้าลงมือหยิบจับทำอะไรล่วงหน้า เผื่อพ่อคุณจะทำอะไรเป็นพิเศษแล้วมันจะกร่อยกันเสียเปล่าๆ

      หันมองซ้ายขวา ไม่มีอะไรทำ อัพบล้อกที่ลงภาพค้างๆ ไว้ดีกว่า เมื่อเช้านั่งทำคอลลาจตั้งหลายชั่วโมง กลับมาเขียนเล่าให้เสร็จเรื่องเสร็จราวไปเลย จะได้สบายใจ


      เริ่มต้นที่วันศุกร์ นอกจากรีดเสื้อเชิ้ตสำหรับใส่ไปทำงานให้หวานใจเตรียมไว้ถึงหกตัวรวดแล้ว ฉันยังทำงานแถมให้ด้วยการเช็ดถูบ้านถึงสามรอบเพื่อความมั่นใจว่าสะอาดเอี่ยมแน่ๆ

     ค่ำๆ หวานใจกลับจากทำงาน รับออกไปนั่ง "ลา ดุชเชส"รถมอเตอร์ไซดุกาติสาวสวยสีแดงสด ตอนแรกฉันจะเปลี่ยนชุดกระโปรงที่ใส่อยู่เป็นกางเกง แต่หวานใจบอกว่าใส่ชุดกระโปรงอย่างนี้แหละ สวยดี เหมือนสาวอิตาลีไง ไอ้ฉันก็เป็นโรคใจอ่อน หลงลมคนง่าย ยิ่งบอกว่าเป็นสไตล์อิตาลีฉันยิ่งฝันหวานว่าจะกรีดกรายนั่งรับลมซ้อนมอเตอร์ไซค์กระโปรงพริ้วไสวผ่ากลางกรุงปารีส

     เอาเข้าจริงๆ กระโปรงมันถกขึ้นมาเห็นแข้งขา กระโปรงปลิวสวยดีหรอก แต่ตอนจะขึ้นจะลงรถนี่สิ จะกางแข้งกางขามากก็ไม่ได้ ไม่ได้กลัวโป๊โชว์กางเกงในต่อสาธารณชนดอก กลัวกระโปรงขาดมากกว่า เลยยักแย่ยักยัน จะขึ้นจะลงกระโดกกระเดกไม่เป็นท่า และยังได้แผลท่อนาบแข้งมาหนึ่งดอกใหญ่ สะใจมั้ยล่ะ คุณนาย...

     หวานใจพาไปกินอาหารโมร็อกโกอีกซีกหนึ่งของเมือง ร้านเดิมที่เคยไปกินครั้งที่แล้วนั่นแหละ เอร็ดอร่อย ถูกอกถูกใจทั้งสองคน ถึงแม้ว่าตอนที่สั่งอาหาร ฉันจะมีอาการโมโหหิว ตอนที่หวานใจเอาแต่คอยถามว่าจะเอานั่นมั้ย เอานี่มั้ย... โธ่ว๊อย คนยิ่งหิว ไม่ต้องถามได้มั้ย สั่งมาเหอะ กินได้ทั้งนั้นแหละ

     พอกินอิ่มท้องแล้ว หวานใจถึงได้กล้าเอ่ยปากแซวว่า เธอนี่ หิวแล้วหน้ามืดหงุดหงิดง่ายจริงๆ เลย ... ใช่สิ... นี่ล่ะ ฉันล่ะ... ถ้าไม่อยากเห็นนางยักษ์ อย่าปล่อยให้ฉันหิว

     ออกจากร้านไปนั่งจิบคาวาโดส เหล้าหลังอาหารแก้วโปรดที่บาร์เล็กๆ ในซอยเดียวกับร้านอาหารนั่นเอง ในร้านมีกลุ่มเพื่อนๆ นักร้องสาวช็อกโกแล็ตมินต์ (ลูกครึ่งอาหรับ ฝรั่ง คนดำ มั้ง) โกนหัวเกรียนแสนเท่นั่งเฮฮากันอยู่ สักครู่มีไอ้หนุ่มคนนึงเข้าร้านมาแสดงความยินดี นัยว่าเมื่อตอนหัวค่ำ มีคอนเสิร์ตเล็กๆ ของนักร้องคนนั้น แล้วพ่อหนุ่มได้ดูและชื่นชม


     เฮฮาชื่นชอบกันอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดมีใครในกลุ่มนั้นพูดจาไม่เข้าหูอะไรสักอย่างมั้ง ไอ้หนุ่มนั่นโวยวายจะเอาเรื่อง หาว่าไม่ให้เกียรติ หาว่ารังเกียจ จะไปพายกเพื่อนเข้ามาช่วย จะชกต่อยกันหน้าร้านเลยบ้าง แต่สุดท้ายก็มีสาวสวยในกลุ่มนั้น ค่อยๆ ตะล่อมจนออกจากร้านไปจนได้

     ท่ามกลางความลุ้นระทึก อยากเห็นมวยเด็ดภาคดึกของฉัน ...


      ว้า... ทำไมมันไม่ต่อยๆ กันไปเลยวะ เงื้อง่ากันอยู่ได้ ... คนดูเซ็ง



---- ขอตัวชั่วคราว หวานใจเพิ่งโทรมาบอกว่าเพิ่งเลิกงานเมื่อกี้นี้เอง ... สามทุ่มครึ่งแล้ว ซุปเปอร์ปิดหมดแล้ว คืนนี้ไปกินซูชิแถวๆ บ้านที่เปิดถึงห้าทุ่มครึ่งก็แล้วกัน ... เดี๋ยวจะมาอัพต่อค่ะ ----


     ป.ล. รูปประกอบ : อาหารโมร็อคโกที่ไปกินกัน และภาพอพาร์ทเมนต์ผนังสีส้มที่ทาเสร็จแค่ครึ้งเดียวตัดกับตู้สีเขียว กำแพงที่ทุบไว้ก็ปล่อยทิ้งไว้ดื้อๆ อย่างนั้นเอง


>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 2 สิงหาคม 2550 0:02:36 น.
Counter : 1031 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.