- 10 JUIN 11 Hubble : ส่องจักรวาล สะท้อนย้อนสู่จิตใจ

Hubble : ส่องจักรวาล สะท้อนย้อนสู่จิตใจ

เมื่อวานพาเด็กหญิงไปพิพิธภัณฑ์อวกาศ (Space Museum) ของฮ่องกง พาเด็กและตัวเองเข้าโรงหนังแบบ IMAX จอขยายเต็มเพดานทรงกลมเป็นครั้งแรก ดูภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Hubble

Hubble เป็นชื่อกล้องโทรทรรศน์อวกาศที่ส่งภาพของจักรวาลและอวกาศกลับมายังพื้นโลก เพื่อให้มนุษย์ได้รู้จักวิวัฒนาการของดวงดาวอย่างชัดเจนกว่าการส่องดูจากพื้นโลกที่ต้องผ่านชั้นบรรยากาศฝุ่นผงหมอกเมฆ

หนังเรื่องเดียวกับกล้องเรื่องนี้ นอกจากประวัติและภาพวิดีโอเก่าๆ ตามประสาหนังสารคดีแล้ว ได้เจาะถ่ายทำช่วงที่ทีมนักบินอวกาศขึ้นไปทำการซ่อมบำรุง เปลี่ยนอุปกรณ์ของกล้องใหม่ เป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนี้อีกสามปีก็จะถึงเวลาเกษียณอายุ บทบรรยายและเสียงบรรยายภาษาอังกฤษให้เสียงโดย เลโอนาโด ดีคาปรีโอ ได้อารมณ์ฟูมฟายดราม่านิดๆ ไม่แข็งทื่อเหมือนเสียงบรรยายหนังสารคดีทั่วไป ฟังไปก็นึกหน้าบานๆ ของพ่อหนุ่มไป เพลินดีเหมือนกัน

การได้ดูหนังเกี่ยวกับจักรวาล ดวงดาวต่างๆ แบบนี้ ช่วยให้เราได้เห็นโลกในมุมอื่น ในหนังมีประโยคหนึ่งบอกว่า "การออกมานอกโลก ทำให้เราได้เห็นโลกชัดเจนขึ้น" สำหรับฉัน หนังเรื่องนี้ ช่วยดึงตัวเองออกจากหลักในชีวิตที่ยึดแน่นอยู่ เหมือนกับเวลาอยู่ในทุ่งโล่งๆ มองขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วรู้สึกว่า เราตัวเล็กนิดเดียว แต่ในกรณีนี้ สิ่งที่เราเห็นเบื้องหน้า แม้จะเป็นแค่หน้าจอ ทำให้ระลึกขึ้นได้ว่า เรา … กระทั่งโลกที่เรายืนอยู่เป็นเพียงฝุ่นผงเล็กๆ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่เท่านั้นเอง เราไม่ได้มีความหมายยิ่งใหญ่ใดๆ ต่อความว่างเปล่าที่โลกลอยตัวอยู่ แล้วทำไมเราจะต้องยึดมั่น ให้ความสำคัญกับตัวเอง ใครๆ และสิ่งต่างๆ ที่อยู่รายรอบชีวิตเรามากมายนัก

ระหว่างนั่งรถเมล์กลับบ้าน เห็นหญิงสาวชุดกระโปรงขาวคนหนึ่งหน้าหม่นเศร้าสิ้นหวัง เปิดหนังสือพิมพ์ เปิดหน้าเฟซบุค เห็นความรัก โลภ โกรธ หลง เกลียดชัง คดโกง แล้วรู้สึกว่าช่างกระจิดริดน่าหัวร่อเหลือเกิน

ขณะเดียวกัน ในอีกทางหนึ่ง ได้เห็นความเพียรพยายามของมนุษย์ ของนักวิทยาศาสตร์ นักบินอวกาศ และทีมงาน ได้เข้าใจกลุ่มคำว่า sense of achievement ภาษาไทยแปลว่าอะไรดี ความรู้สึกถึงความสำเร็จลุล่วง

โดยส่วนตัวแล้ว กลุ่มคำนี้น่าจะเป็นธีมชีวิตของฉันเลยทีเดียว เพราะจำกัดความถึงความสุขในการทำงานของฉันได้อย่างเหมาะเหม็ง ทุกวันนี้ ฉันไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน ไม่ได้ทำงานเพื่อชื่อเสียง ไม่ได้ทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ไม่ได้ทำงานเพื่อให้ใครมายอมรับนับถือ ฉันทำงานเพื่อความพอใจที่ได้สร้างสิ่งที่จับต้องได้เป็นชิ้นเป็นอัน จากตัวหนังสือล่องลอยในสมองผู้เขียน ในหัวใจผู้แปล หน้าจอคอมพิวเตอร์ ออกมาเป็นรูปเล่ม คิดๆ แล้ว sense of achievement อาจจะเรียกได้ว่าเป็นความรู้สึกหนึ่งที่ช่วยให้ฉันผ่านวันแต่ละวัน ช่วยลากฉันออกจากความขี้เกียจ เป็นเหมือนของรางวัลที่ฉันและนายของฉัน(ฉันเอง)มีความพึงพอใจร่วมกัน จนในอนาคตน่าจะเป็นสิ่งที่ฉันสามารถใช้เป็นตัวล่อให้ลูกน้องของฉัน(ฉันเอง)ลุกขึ้นมาทำงานได้

ที่ชอบอีกอย่างนึง คือ ระหว่างที่นักบินค่อยๆ ไขสกรูตัวเล็กๆ แกะแผ่นวงจรออกมาเปลี่ยน ซึ่งต้องไขทั้งหมด 32 ตัว ในภาวะสูญญากาศ และห้ามพลาดเด็ดขาด เขาบอกว่า เขาค่อยๆ ไขทีละตัว จิตใจจดจ่อกับตัวที่ไขอยู่ ไม่วอกแวกนึกว่าไขได้กี่ตัวแล้ว และเหลือให้ไขอีกกี่ตัว

อืม กลับไปไขสกรูของตัวเองบ้างดีกว่า






>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 10 มิถุนายน 2554    
Last Update : 10 มิถุนายน 2554 9:08:31 น.
Counter : 1035 Pageviews.  

08 JUIN 11 บันทึกแม่เลี้ยง : อยากให้เป็นเหมือนกัน แต่ไม่อยากให้เจอเหมือนกัน

บันทึกแม่เลี้ยง : อยากให้เป็นเหมือนกัน แต่ไม่อยากให้เจอเหมือนกัน

….
สองสามวันที่ผ่านมา เจอภาวะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก สภาพตรงตามสำนวน

จะฝืนกลืนลงก็ยังไม่เต็มใจ จะคายออกไปก็ทำไม่ได้

เรื่องเด็กหญิง ย่่างสิบเอ็ดขวบ พรากจากอ้อมอกคุณแม่ และภาวะที่คุ้นเคย มาอยู่ในความดูแลอารักขาของฉันและหวานใจ ส่วนใหญ่จะเป็นฉันมากกว่า และตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนของฉัน - คุณ ก. แม่บ้าน ที่คอยดูแล เพราะช่วงเดือนนี้ ฉันมีงานมากมายล้นหลามที่รอให้จัดการเคลียร์ส่งต่อยู่

เด็กพูดได้แต่ภาษาไทย จะเข้าโรงเรียนไหน ทั้งนานาชาติพูดอังกฤษ หรือโรงเรียนท้องถิ่นพูดกว้างตุ้งก็ยังไม่ได้ ตอนนี้อาศัยจ้างครููอังกฤษมาสอนที่บ้านไปก่อน แต่ฉันรู้ว่าต้องดูแลให้ความรู้มากกว่านั้น ฉันต้อง "ลง" ไปดูแลสอนเพิ่มเติม และคิดว่าเป็นสิ่งที่เด็กหญิงต้องการ คือ ให้ฉันดูแลสอนวิชาความรู้ต่างๆ ให้ และให้ความใส่ใจดูแล ในฐานะ เอ่อ… แม่อีกคนนึงมั๊ง

ตอนกลางวัน ฉันไปกินกลางวันกับหวานใจ เขาเปรยว่าอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีที่พาเด็กหญิงมาอยู่กับเราตอนนี้ เพราะไม่รู้ว่าต่อไปจะต้องย้ายไปไหน อาจะต้องกลับไปฝรั่งเศส เด็กอาจจะลืมการเขียนการอ่านภาษาไทย จะดีกว่าไหมถ้าส่งกลับไปอยู่กับคุณแม่ที่เมืองไทย และเขาควรจะเลิกพูดฝรั่งเศสกับลูก หันไปพูดอังกฤษแทนดีไหม

ฉันตอบได้แค่ ถ้ากลับเมืองไทย เด็กจะลืมหมดทั้งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส เด็กจะไม่ลืมภาษาไทยถ้าอยู่กับฉัน เพราะฉันตั้งใจว่าพอภาษาอังกฤษเข้าฝักแล้ว จะสอนอ่านและเขียนภาษาไทยเสริมลงไป ถ้าอยู่กับเราต่อ ถึงกลับฝรั่งเศสยังมีโรงเรียนนานาชาติที่พูดอังกฤษ ถึงเด็กหญิงไม่ใช่เด็กอัจฉริยะที่สามารถเรียนรู้ได้เร็วรี่ แต่แกมีคุณสมบัติในเรื่องสมาธิยาว สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ในระยะเวลานานๆ หรือไม่ก็ให้คิดถึงเด็กๆ ลูกของคนอพยพแขกขาวหรือคนดำที่เข้าฝรั่งเศส มันต้องมีวิธีการสอนให้ปรับตัวเข้ากับภาษาฝรั่งเศสสิ อย่างไรไม่ว่าจะย้ายไปที่ไหน ในอนาคตภาษาอังกฤษย่อมสำคัญ ในช่วงแรกๆ ตอนปรับตัว อาจจะยากหน่อย แต่ถ้าเราให้เวลาเด็ก เด็กจะค่อยๆ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะเข้าสู่ระบบหลังเกณฑ์อายุ ก็ไม่ใช่ปัญหา

ที่ฉันมั่นใจเช่นนั้น ส่วนหนึ่งเป็นประสบการณ์ส่วนตัว ฉันครุ่นคิดบ่อยๆ ถึงเรื่อง ระบบการศึกษา และเวลาการค้นพบตัวเอง ฉันเอง เคยเป็นเด็กเรียนก่อนเกณฑ์ แถมสอบเทียบ แล้วเข้ามหาวิทยาลัยได้

การขึ้นสู่ชั้นขณะมีอายุน้อยกว่าเกณฑ์มีประโยชน์อันใดหรือ เรียนจบ ฉันหลงทาง หาวิถีของตัวเองอยู่นาน อาจจะนานกว่าตอนที่เด็กหญิงเสียเวลาเรียนภาษาใหม่อยู่ในตอนนี้ก็ได้ นานพอจะบอกได้ว่า ฉันพอใจจะเสียเวลาเพื่อจะรู้ว่าตัวเองอยากทำอะไรระหว่างการเรียน แล้วมุ่งไปในทางนั้น มากกว่าหลับหูหลับตาเรียนไปโดยไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร แล้วจะเรียนวิชาต่างๆ ในหลักสูตรเพื่ออะไร

สรุปก็คือ ฉันอยากให้เวลาเด็กหญิง ไม่กังวลว่าจะเข้าเรียนไม่ทันเพื่อนอายุเดียวกัน ไม่เร่งให้ก้าวข้ามชั้นเรียนตามระบบ ไหลไปตามกระแสส่วนใหญ่ แต่ค่อยๆ ดู ค่อยๆ รู้ว่าความชอบของตัวเองคืออะไรกันแน่ เมื่อแน่ใจแล้ว เรามุ่งไปสู่จุดนั้นอย่างเต็มที่ ฉันอยากให้เด็กหญิงเติบโตเป็นผู้หญิงที่มีแนวคิดอิสระ ไม่ต้องขึ้นอยู่กับระบบและสังคม … เหมือนฉัน อยากให้ทำงานอิสระ ไม่ขึ้นอยู่กับองค์กร ไม่ต้องยอมน้อมตัวให้กับข้อบังคับ แต่ด้วยวิธีการที่ตรงมากกว่า ประหยัดเวลากว่า ไม่ต้องอ้อมเรียนรู้ข้อผิดพลาดของตัวเองก่อน

ในขณะเดียวกันก็แปลกดี ฉันไม่อยากให้เด็กหญิงต้องเจอสภาพหลงทาง เสียเวลาลองผิดลองถูกอยู่นานเหมือนกับฉัน แต่ฉันยังอดรับวิิธีการสอนแบบดั้งเดิม เคร่งครัด เป็นเวลา ต้องเรียนเก่งๆ อย่างที่เคยถูกอบรมบ่มสอนเข้ามาใช้ อาจจะเป็นเพราะถูกฝังหัวมาว่าเป็นวิธีที่ดี อาจจะเป็นเพราะไม่เคยเห็นวิธีเลี้ยงดูแบบอื่นๆ

ไม่รู้สิ เป็นเพราะฉันได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างนั้นมั้ง ฉันยังหยั่งใจอยู่ว่า ฉันควรเลี้ยงเด็กคนนี้อย่างไรดี เลี้ยงแบบปล่อยๆ หรือเลี้ยงแบบเคร่งครัด คงต้องใช้เวลาอีกนิด ใส่ความตั้งใจลงไปอีกหน่อย

ทำไปเรื่อยๆ ลองผิดลองถูก เดี๋ยวก็คงรู้เอง




>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 08 มิถุนายน 2554    
Last Update : 8 มิถุนายน 2554 1:12:55 น.
Counter : 1004 Pageviews.  

- 05 JUIN 11 บันทึกแม่หมา : ลูกหมาไม่กลัวน้ำ

บันทึกแม่หมา : ลูกหมาไม่กลัวน้ำ

chien de mer
วันนี้เปิดบ้านรับแขก ยกโซฟาไปตั้งที่สนามหลังบ้าน ก่อเตาบาบีคิวท้าอากาศร้อนจัดของฮ่องกง แขกส่วนใหญ่เป็นครอบครัวชาวฝรั่งเศส มีเด็กๆ มาด้วย รวมทั้งหมด 10 คน

ฉันมีประสบการณ์จัดเตรียมอาหาร เตรียมบ้านรับแขกแบบนี้แล้วสองครั้ง เลยไม่ค่อยเกร็งเท่าไหร่ว่าต้องทำอะไร อย่างไร ในปริมาณมากน้อยแค่ไหน แต่ลืมไปว่าสองครั้งนั้น ไอ้ลูกหมายังไม่ได้ตามมาจากอินเดีย จึงไม่เจอปัญหาเรื่องหมาเข้าไปนัวเนียเด็ก เรื่องเด็กกลัวหมาหน้าดุ (แต่ใจดี) จนร้องจ้า

พอจับไอ้ลูกหมาเข้าห้องเก็บตัว คราวนี้เสียงร้องจ้ามาจากไอ้ลูกหมา เห่าหอนโหยหวนจนต้องปล่อยออกมา แล้วหันไปกักบริเวณเด็กๆ แทน ให้เด็กหญิงชวนเด็กๆ เข้าห้องนอนไปเล่นกันตามประสาเด็ก

จะว่าไป ฉันเข้าใจเด็กๆ ที่ไม่มีหมาอยู่ในบ้านว่าจะกลัวเวลาหมาเข้ามา "เล่น" ด้วย ยิ่งหมาหน้าย่นๆ ดูโหดๆ ตัวบึกๆ อย่างไอ้ลูกหมาด้วยแล้ว ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ต้องใช้เวลาอยู่กับมันสักพัก ถึงจะรู้ว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด อย่าว่าแต่เด็กเลย แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างฉัน ถ้าไม่ได้เลี้ยงหมาหรือคลุกคลีกับหมาในช่วงหลังๆ เมื่อก่อน เวลาเห็นหมาฉันก็กลัวเหมือนกัน และยิ่งกลัว หมาก็ได้กลิ่นความกลัวของเรา ก็เลยได้ใจวางท่าข่มขู่

ตอนเย็นๆ พาไอ้ลูกหมาไปนั่งเรือ ครั้งนี้เป็นการออกทะเลครั้งที่สองของไอ้ลูกหมา ครั้งแรกคือเมื่อวานนี้ ก่อนหน้านี้ ฉันกริ่งๆ เกรงๆ ว่า ไอ้หนูจะตื่นเต้นดิ้นพราดๆ ปรากฎว่านั่งนิ่งเรียบร้อย เงยหน้าสูดอากาศปลอดโปร่ง และยังชอบว่ายน้ำ ผิดวิสัยบูลด็อกตามที่เคยได้ยินกิตติศัพท์ว่าไม่ชอบลงน้ำเหมือนหมาพันธุ์อื่นๆ แถมว่ายอึด ว่ายได้ไกลเกินคาด วันนี้หวานใจโยนลงน้ำกลางทะเล ห่างฝั่งเกือบสองร้อยเมตร ไอ้ลูกหมาตะกุยขามุ่งหน้าเข้าสู่ฝั่งอย่างแข็งขัน โดยมีฉันสวมวิญญาณแม่หมาจ้วงพายตามไปแบบไม่คิดชีวิต ในใจคิดว่า ถ้าไอ้ลูกหมาหมดแรงจมน้ำตายกลางทาง ความผิดของสามีจะร้ายแรงถึงขั้นบ้านแตก!






>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 05 มิถุนายน 2554    
Last Update : 5 มิถุนายน 2554 22:00:34 น.
Counter : 1233 Pageviews.  

- 02 Juin 11 เริ่มเข้าที่ เริ่มเข้าทาง

เริ่มเข้าที่ เริ่มเข้าทาง

Photobucket
ชีวิตเริ่มเข้าที่เข้าทาง ภาวะเรื่อยเฉื่อยควันหลงจากการไม่ต้องหยิบจับงานเริ่มจางไป ฉันกลายเป็นนักพักร้อนประสบการณ์สูง นอกจากสามารถปล่อยวางงานการแล้ว ยังสามารถสงบใจไม่วิตกกังวลปล่อยใจไพล่คิดเรื่องงานได้ด้วย

นอกจากพักร้อนแบบได้ทั้งปริมาณและคุณภาพ ฉันยังเป็นนักทำงานที่มีเที่ยวบินสูงขึ้นด้วย คือ ไม่ตื่นตระหนกตกอยู่ในความเครียด เมื่อกลับมาเจองานกองรออยู่ ตั้งสติเริ่มเคลียร์งานที่ค้างกองพอกหางหมูอยู่ออกไปได้ทีละน้อย เสียอย่างเดียวที่เป็นการโหมทำงานที่ทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมค่อนข้างแย่ คือ เร่งทำงานจนดึกดื่น ตื่นสาย ไม่ออกกำลังกาย ไม่มีกะใจจะทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่งาน ไม่มีช่วงผ่อนคลายเว้นพัก ให้เวลาตัวเองอยู่ในสภาพนี้แค่ช่วงสั้นๆ พอ

เมื่อวานพองานที่ควรคืบหน้าได้คืบหน้าแล้ว ฉันเลยขอเจ้านาย (ฉัน) หยุดพักหนึ่งวัน พาเด็กหญิงเข้าเมืองไปดูหนัง ไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำในเมือง ไปเช่าดีวีดีมาดูกับหวานใจ เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนเรื่องให้คิดติดตามและตั้งใจจดจ่อแบบง่ายๆ

วันนี้ตืื่นมาส่งต่องานที่คืบหน้าให้ผู้ร่วมงานดูแลต่อ มีเวลานั่งนิ่งๆ คิดถึงเรื่องอื่นๆ วางแผนให้กับการผลิตหนังสือเล่มอื่นๆ ที่เข้าคิวรอ

ความคืบหน้าด้านอื่นๆ : ฝั่งซูเปอร์แม่เลี้ยง - วันนี้มีครูหนุ่มชาวอังกฤษมาสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กหญิง นอกจากสอนการพูดให้สำเนียงถูกต้องยังมีการเล่นเกมด้วย ดูเด็กหญิงสนุกสนานเป็นอันดี ครูเองก็ชมว่าเด็กหญิงฉลาดและร่าเริง มีสมาธิยาวสามารถเรียนในช่วงเวลานานๆ หนึ่งชั่วโมงครึ่งได้โดยไม่เบื่อ เด็กลิ้นอ่อนเลียนแบบคำที่ครูพูดได้ค่อนข้างเร็ว แต่คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะล้างสำเนียงอังกฤษแบบไทยๆ ที่ติดตัวมาออกไปได้ วันนี้เด็กหญิงพาเด็กสาวข้างบ้านมาชมบ้านและห้องนอน (ที่ไม่เคยไปนอนเลย) ของตัวเอง วิ่งเล่นกันกรี๊ดกร๊าด โดยมีไอ้ลูกหมาวิ่งไล่ตาม เด็กมีเพื่อนเล่นอย่างนี้ก็ดีหน่อย จะได้ไม่หงอยเหงา สรุปว่าสถานการณ์ด้านนี้ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ต้องอาศัยความอดทนรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ยไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งหวังรอดอกออกผลในชั่ววันสองวันนี้

ฝั่งคุณนายของบ้าน - วันนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เปลี่ยนแม่บ้าน ดูจากพฤติกรรมช่วงหลังๆ ที่มีการปรับปรุงตัวมากขึ้น ทำให้เห็นด้านดีมากกว่าด้านเสีย เห็นว่าชีวิตอันรกรุงรังของฉันน่าจะง่ายกว่า ไม่ต้องเจอเซอไพร๊ซ์แย่ๆ เช่น ทำความสะอาดไม่เกลี้ยง ไม่รักสัตว์ ไม่รักเด็ก จากอดีตว่าที่แม่บ้านที่ไปดูตัววันก่อน เอ้า หมดไปเรื่องนึง

ฝั่งการดูแลตัวเอง - สอบตกอย่างรุนแรง นั่งแปะหน้าคอมทั้งวัน ไม่มีเวลาไปเรียนโยคะเลย รู้สึกอึดอัด อ้วน ขาดความกระชุ่มกระชวย อาทิตย์หน้าตั้งใจว่าจะเกาะท้ายสกูตเตอร์ของหวานใจไปเรียนตอนเช้าอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะได้โบนัสตามมา คือ ตื่นเช้ามาดูแลอาหารเช้าให้สามีได้ ช่่วงเย็นอาจจะปูเสื่อที่บ้าน ทำโยคะกับเด็กหญิงเป็นบางวัน หลังจากงัดตัวเองออกจากหน้าจอพาไอ้ลูกหมาไปปลดทุกข์

ทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาของมัน ฉันมั่นใจ เพราะแม้แต่ไอ้ลูกหมาเอง ก็มีพัฒนาการ เริ่มเคยชินกับการมีแขกแปลกหน้า รู้จักนั่งนิ่ง ไม่วิ่งถลาเข้าไปเกาะแกะตลอดเวลาเหมือนก่อนดังที่เห็นในรูปประกอบวันนี้



>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 02 มิถุนายน 2554    
Last Update : 25 สิงหาคม 2554 19:09:05 น.
Counter : 959 Pageviews.  

- 01 Juin 11 ท่วมท้น ล้นไปหมด

ท่วมท้น ล้นไปหมด

Photobucket
อืม งึมงำ งึมงำ ไม่ได้อัพบล็อกหลายวันมาก

คิดถึงนะจ๊ะ ไม่ใช่ไม่คิดถึง แต่อย่างที่เขาว่า มาช้า ดีกว่าไม่มา

ตอนนี้ตีสองกว่าๆ เพิ่งอีดิตนิยายแปลเล่มเด็ดเพิ่มเติมอีกห้าบท หมดแม็กซ์ฮ่ะ เมื่อคืนอุตส่าห์พรินต์ต้นฉบับก่อนตรวจออกมาอ่าน หวังว่างานการจะคืบหน้าเร็วกว่าเดิมเมื่อได้อ่านบนกระดาษก่อน แต่ที่จริงก็ไม่ได้ร่นเวลามากมายนัก

ฉันอาจอยู่ในภาวะมิวเทชั่นสมชื่อ อ่านหน้าจอก็ได้ อ่านบนกระดาษก็ไม่ต่างอะไร โดยเฉพาะในขั้นตอนการตรวจขั้นแรกๆ ที่อ่านเอาความ เอาเรื่องราวที่เกิดขึ้น ช่วงจับผิดลีลาประจำตัวของนักแปลที่ควรปรับแก้ให้หลากหลาย ตอนที่อ่านในกระดาษ มือคันยิบๆ อยากคว้าปากกามาเขียนแก้ แต่ก็รู้ว่าเดี๋ยวพอเปิดไฟล์มานั่งไล่อ่านอีกรอบก็จะเจอจุดนั้นๆ และแก้แบบเดิมๆ ตามจริต โดยไม่่ต้องชำเลืองมองกระดาษ

เรื่องของเรื่องก็อยากทำงานห่างจากหน้าจอ เอากระดาษต้นฉบับนั่งอ่านนอนอ่าน ชิวๆ แต่ถึงเวลา ก็มานั่งอ่านกระดาษหน้าจอคอมพ์อยู่ดี ฮ่วย

ช่างเถอะ ได้รับรู้อย่างนี้ก็ดีแล้ว คราวหน้าไม่ต้องเปลืองกระดาษ เปลืองต้นไม้ พรินต์เอาท์ออกมา

หลังจากไปพักร้อนกลับมา งานท่วมหูท่วมหัวทุกด้าน งานบรรณาธิการ งานบริหารสำนักพิมพ์ (ยังไม่ได้แตะเลย) งานซูเปอร์แม่เลี้ยง งานคุณนายเจ้าของบ้านที่ต้องหาแม่บ้านคนใหม่ ที่จริง เมื่อวันเสาร์ไป "ดูตัว" แม่บ้านที่หางานอยู่คนหนึ่ง ต่อหน้าเอเจนต์ที่ออกแนว pushy เล็กน้อย ฉันไม่กล้าเอ่ยปากว่าขอคิดดูก่อน รับสัญญามาแต่ถ่วงเวลาไว้เล็กน้อย ใจลึกๆ ยังลังเลว่าควรเปลี่ยนหรือเปล่า แม่บ้านเดิม มีข้อเสียก็จริง แต่ข้อดีก็มี งานการไม่ต้องปากเปียกปากแฉะ ถ้าเธอ (มีแรง) ลงมือทำก็วางใจได้ รู้ใจรู้สไตล์กันแล้ว ข้อสำคัญคอเข้ากับ (หรือยอม) เด็กหญิงหลุยส์ได้ คงต้องตัดสินใจหยั่งวัดกันอีกสักนิด

ทางด้านเด็กหญิงหลุยส์ ตอนนี้ได้จักรยานไปขี่กับเพื่อนๆ เด็กๆ ข้างๆ บ้าน เมื่อวานก็ดูสนุกสนานกันอยู่ แต่วันนี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเด็กๆ หายเรียบ ไม่ออกมาเล่นกับแก เด็กหญิงหงอยไปถนัดตา (มีอะไรซ่อนอยู่ลึกๆ หรือเปล่า หรือพ่อแม่เด็กๆ ไม่อยากให้มาคลุกคลีกับเด็กของเรา --เริ่มดราม่าแตก) แต่สถานการณ์น่าจะดีขึ้นตามลำดับ เมื่อตอนค่ำมีผู้จัดการโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่บ้านมาคุยกับฉันเรื่องการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กหญิงที่บ้าน เพื่อปูพื้นฐานเตรียมเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติที่นี่ คงลงเริ่มการสอนกันวันพฤหัสนี้

อาจจะใช้เวลาหน่อย ถึงจะไม่ทันเปิดเทอมก็ไม่เป็นไร แต่ไม่มีคำว่าสายในการเล่าเรียน ถ้าตั้งใจเรียนจริงๆ เรียนทันกันอยู่แล้ว ฉันเชื่ออย่างนั้นเลยไม่ได้เร่งรัดอะไรมาก อีกอย่าง ตัวเด็กเองก็มีพรสวรรค์ทางศิลปะที่น่าสนับสนุนนอกเหนือจากการเรียนในระบบอยู่ (ถึงที่สุดแล้ว ไม่ต้องคิดเลขเก่งก็ได้ ไม่ต้องเขียนหนังสือถูกต้องก็ได้ ไม่ต้องอ่านหนังหสือแตกก็ได้ ไม่ต้องมีความรู้แตกฉานทั่วทิศก็ได้ ไม่ต้องรู้ทักษะอื่นๆ ก็ได้ ไม่ต้องพูดภาษาอื่นก็ได้ ไม่ต้องสื่อสารกับใครๆ ก็ได้ วาดรูปสวยๆ ขายได้ ก็พอแล้ว ฮ่าๆๆ) ตอนนี้อยากให้ปรับตัวปรับใจกับการอยู่ด้วยกันไปก่อน และเป็นเหตุสำคัญว่าถ้าเปลี่ยนแม่บ้านก็ต้องมาปรับตัวกันใหม่อีกรอบ แม่บ้านใหม่อาจจะเข้ากับเด็กไม่ได้ หรือเด็กไม่รู้สึกวางใจ ตรงนี้ก็คาดเดาไม่ได้เสียด้วยสิ

ส่วนไอ้ลูกหมา ไอ้อ้วนของฉันเป็นหนุ่มแล้ว มีน้ำคัดหลั่งซึมออกมาจากไอ้จู๋เป็นสัญญาณแสดงถึงวัยเจริญพันธุ์ เรื่องนี้ต่างหากที่รับมือไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรไปติดประกาศหาคู่ให้ "ปลดปล่อย" ดีหรือเปล่า






>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 01 มิถุนายน 2554    
Last Update : 1 มิถุนายน 2554 1:56:34 น.
Counter : 909 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.