-12 OCTOBRE 07

คำบอกรักกับนักแปล

--- J'aime mon epoux... ---

     เหลือเวลาอีกแค่ 21 วันเท่านั้น ฉันก็จะได้ไปอยู่ฝรั่งเศสกับหวานใจ ผู้เป็น...แฮ่ม... สามี (ยังไม่ค่อยชินกับคำนี้เท่าไหร่ แต่ชักจะเริ่มชอบขึ้นมาแล้วล่ะ) สุดที่รักแล้ว

     ความรู้สึกตอนนี้น่ะหรือ มีอยู่อย่างเดียวคือ

     คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง คิดถึง     Il me manque.Il me manque.Il me manque.Il me manque.Il me manque.

      แม้ว่าหวานใจจะป๋ามาก (ใช้โทรศัพท์ของบริษัท)โทร.มาหาวันละสองครั้ง คือ ตอนเริ่มต้นวัน (เช้าก่อนเข้างานแปดโมงของเขา ... ตอนบ่ายๆ ก่อนเริ่มงานของฉัน) กับตอนสิ้นสุดวัน (หลังเลิกงานเย็นๆ ค่ำๆ ของเขา เที่ยงคืน-ตีหนึ่ง ก่อนเข้านอนของฉัน)

      ถ้าไม่ใช่เวลานั้น หวานใจจะแอบหลบออกจากห้องประชุม (แบบมาราธอน มันประชุมอะไรกันนักหนาวะ) แว่บมาโทรศัพท์ทางไกลข้ามประเทศหาภรรยา ถ้าเป็นกรณีนี้ คุยกันแป๊บๆ คุณสามีจะขอตัวไปประชุมต่อ

     หวานเนอะ น่าชื่นใจ... แต่ให้ตายเถอะ แค่เสียงน่ะ มันไม่พอหรอก ต้องเจอตัวเป็นๆ ได้กลิ่นอยู่ข้างๆ ได้ทำอะไรต่ออะไรด้วยกัน (มีใครคิดลึกไปถึงไหนหรือเปล่า --คิดได้เลยนะคะ มันมีเรื่องนั้นผสมอยู่ด้วย ...เป็นส่วนใหญ่เสียด้วย) ... ไม่งั้นฉันจะแต่งงาน เอ้ย.. จดทะเบียนสมรสไปทำHaอะไร


      บทสนทนาน่ะหรือ ไม่มีอะไรมากมาย เราสองคนไม่มีใครคุยเก่ง รายงานเล่าสภาพชีวิตของกันละกันให้รับรู้แบบวันต่อวัน หวานใจระบายความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก ช่วงนี้ตลาดการเงินยุโรปกำลังแย่ๆ เจ้านายอารมณ์เสีย วันนี้ว้ากใส่เจ้านาย ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ก็โทรมาบอกว่าตกปลาได้กี่ตัว (พ่อคุณกำลังเห่อตกปลา) กินอะไรบ้าง (เอามายั่วน้ำลายเล่น)

     ส่วนฉัน ฉันเล่าว่าวันนี้ทำงานอะไรไปบ้าง อ่านหนังสืออะไรอยู่ ตอนนี้งานต่างๆ ที่ถืออยู่ก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว วันนี้แอบซื้อเสื้อผ้ามาอีกแล้วล่ะ เดี๋ยวจะออกไปซื้อเบียร์มากิน ฯลฯ

     หรือไม่ก็คุยกันว่าจะทำอะไรกับอพาร์ทเมนต์บ้าง เช่น ต้องเอาโปสเตอร์งานของบิลัลที่ฉันซื้อไปเข้ากรอบ เข้ากรอบทองๆ มีลายแกะนูนแบบบาร็อคดีกว่า บ้าดี ... เรื่องทาสีเอาไว้ก่อน เดี๋ยวกลับไปทาด้วยกัน

      และขณะที่พูดโทรศัพท์ เล่าเรื่อง หัวเราะฮาเฮกันอยู่ บางทีมันก็เกิดจังหวะเงียบๆ อึ้งๆ หลังจากใครสักคนพูดจบประโยค เราสองคนจะสลับกันอุดมันเอาไว้ด้วยด้วยประโยค "Je t'aime" บางทีคนนึงพูดไม่ทันจบประโยค อีกคนก็แทรกขึ้นมาว่า "Je t'aime" เป็นประโยคที่เหมือนกับเป็นคำพูดที่พูดซ้ำอยู่ข้างในความรู้สึกของเราตลอดเวลา แล้วมันล้นจนหลุดปากออกมา

     บางทีหลุดออกมาจังหวะเดียวกัน โพล่งแบบใจตรงกันก็มี



      "Je t'aime" เฌอ แตม แปลได้คร่าวๆ ว่า "ฉันรักเธอ" จะแปลว่า "กูรักมึงว่ะ" เหมือนในหนังก็ได้ เนาะแนะวัยรุ่นหน่อย "เค้ารักตัวเองนะ" ก็ยังไหว


      ในฐานะนักแปล ฉันอดไม่ได้ที่จะพยายามนึกหาคำแปลให้กับเจ้า "Je t'aime" ที่ล้นความรู้สึกออกมาลอยๆ ซึ่งฉันกับหวานใจพูดกันเป็นระยะๆ ตอนโทรศัพท์ในบริบทดังที่เล่าให้ฟังข้างต้น


      ถ้าเป็นไปได้ ควรจะเป็นประโยคบอกรักที่ฟังแล้วซึ้ง ไม่เลี่ยน เนียนๆ นุ่มๆ ไม่สะดุดหูหรือดูดัดจริต ต้องดูให้เข้ากับคาแรคเตอร์ของฉันกับหวานใจด้วย ครั้นจะให้แปลทื่อๆว่า "ฉันรักเธอ" ในกรณีนี้ ตามความรู้สึกของฉัน มันไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่


      รักเธอ --- รักอ่ะ --- รักจ้ะ --- รักนะ --- ไม่พอ ไม่ได้ความรู้สึกว่าหลุดปากมาจากก้นบึ้งของหัวใจ --- --


      .... รักเธอจังเลย ....


      ยาวไปนิดนึง ลองเอา "เลย" ออก อาจจะใช้ได้ ไหนลองพูดกระซิบๆ ลอยๆ ซิ .... รักเธอจัง ...




      อื้ม .. ไม่เลว



>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 12 ตุลาคม 2550
Last Update : 12 ตุลาคม 2550 20:38:20 น. 5 comments
Counter : 1007 Pageviews.

 
ข้าวใหม่ปลามัน มากๆ มิว

ปกหนังสือ "แนว" ดีจ้า
ขอให้ขายดีๆ


โดย: grappa IP: 58.9.198.144 วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:13:29:18 น.  

 
C'est...LAMOURRRRRRRRRRRRRRRRR

So sweet kha, whishing you both "Forever LOVE" kha.



โดย: kikou IP: 58.8.58.97 วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:21:52:48 น.  

 
เป็นคำที่พูดบ่อยๆ ทุกครั้งที่คุยกัน
ก่อนวางสาย จะต้องพูดว่า

je t'aime mon amour
bisouxxxxxx...jub jub jub แล้วพ่อคุณ ก็จุ๊บๆๆใส่มาตามสาย เธอไม่อายคนแถวๆนั้นเลยอ่ะ อิอิ


โดย: Sirinut วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:17:39:04 น.  

 
ไม่น่าแวะมาอ่านบล็อกนี้เลยยยยย

ตาร้อนผ่าวๆชอบกล อิอิ


โดย: สายลมอิสระ วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:18:23:02 น.  

 
ดีค่ะ รักกัน รักกัน อ่านแล้วอยากเจอแฟนตัวเองบ้างจัง


โดย: Bananarumba วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:11:13:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.