- 05 Mai 08 - แกะรอยแกะมาแกะดาว

แกะรอยแกะมาแกะดาว

La chase du mouton sauvage étoilé

     วันนี้ตั้งใจจะตื่นสาย หมายใจว่าจะไม่ปล่อยให้มีสิ่งภายนอกมาบังคับให้ต้องลุกขึ้น งานการรอได้ งานบ้านรอได้ แต่ก็ดันมีเหตุภายในทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ บีบบังคับให้ต้องลุกจากแตียง นั่นคือ ฝันร้าย กับ ปวดฉี่

     ลืมตาปิดสวิตช์ฝันร้าย ลุกจากเตียงไปปลดทุกข์แล้วเปิดคอมพ์ งานช่วงนี้มีอะไรบ้างหนอ มีงานแปลเอกสารจากสมาคมฝรั่งเศสสองสามหน้าที่ต้องส่งวันพร่งนี้ มีตรวจแก้ต้นฉบับแปล มีติดต่อตามเรื่องลิขสิทธิ์ มีอีเมลให้เขียนถึงนักแปลสำหรับการทำงานเล่มใหม่ๆ มีหนังสือเล่มใหม่รอเริ่มต้นแปล มีคอลัมน์ให้เขียนสองชิ้น มีเรื่องให้เขียนลงบล้อก

     เฮ้อ...มีความสุขจัง เวลารู้ว่ามีงานให้ทำ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันอยู่ในช่วงพักรอเริ่มงานชิ้นใหม่ รอนักแปลส่งต้นฉบับกลับมาดูรอบสุดท้าย รอสนพ.ตัดสินใจเรื่องหนังสือที่จะให้แปล รู้สึกว่างเปล่าเสียไม่มีดี พอนักแปลส่งต้นฉบับกลับมาให้ พอเริ่มทำงานอีกครั้ง พอสมาธิเริ่มเข้าสู่เนื้องาน จิตใจก็สงบ ไม่เผลอแว่บไปคิดถึงเรื่องที่รบกวนหัวใจในช่วงหลังๆนี้เลยแม้แต่น้อย

     ฉันเลยได้ฉุกคิดเล็งเห็นว่า การทำงานเป็นการทำสมาธิของฉัน ฉันต้องมีงานมาให้ยึดเหนี่ยว ถ้าให้อยู่เฉยๆ สำรวมจิตใจหลับตาทำสมาธิ ฉันไม่สามารถปัดเรื่องต่างๆออกไปได้อย่างหมดจด เมื่อวันศุกร์ ฉันตัดสินใจคลี่คลายความขัดแย้งที่รบกวนปัจจุบันเพื่อให้จิตใจได้มีความสงบสุข ...ได้ผล ความปรองดองกลับคืนมาอีกครั้ง ฉันตัดเรื่องชวนเศร้าหมองออกไปได้ แต่ก็สงบสบายใจอยู่ได้ไม่นาน จิตใจที่ไม่เคยชินกับความสงบยามไม่ได้ทำงานของฉันเริ่มควานหาเรื่องโน้นเรื่องนี้มากองสุมๆให้รกหัวใจเล่นๆ ความกังวลถึงอนาคตคืบคลานเข้ามา สลับกับความละอายใจและคำหยามเยาะการกระทำของตัวเองในอดีต ... ดูสิคนเรา

     เอาน่า ... เรื่องของอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่ไม่นอน อาจจะร้ายได้ แต่ก็อาจจะดีได้เช่นกัน ส่วนเรื่องในอดีต มันผ่านไปแล้ว คิดไปก็ไลฟ์บอย เหมือนเกาแผลเป็นแสบๆคันๆ แต่อย่าไปคิดถึงมันเลยจะดีกว่า




     อัพเดทชีวิตกันเหอะเนอะ

     เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นสุดสัปดาห์ของการ "ตามล่าแกะ เอามาแกะดาว" ตากล้องประจำสนพ.กำมะหยี่ คือ หวานใจ สามีของฉันเอง เกิดอยากจะถ่ายรูปไฟแช็กที่มีรูปแกะดาวสลักอยู่ตามที่ปรากฎในเรื่อง "แกะรอยแกะดาว" มาใช้เป็นปกของหนังสือเล่มนี้ที่เราจะตีพิมพ์ในอีกไม่กี่เดือนนี้

     พ่อเจ้าประคุณลงทุนซื้อไฟแช็กดูปองด์ เพียรหารูปแกะเพื่อนำมาเป็นแบบให้ช่างสลักแต่ก็ไม่ถูกใจ สุดท้ายเลยตัดสินใจออกตามล่าถ่ายรูปแกะมาแกะดาวด้วยตนเอง และแกะที่ออกตามล่าก็ใช่ว่าจะเป็นแกะที่ไหนก็ได้นะคะ ต้องเป็นแกะที่เลี้ยงในทุ่งเค็ม (Pré salé lamb)อันเป็นทุ่งหญ้าที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ได้รับลมเค็มๆจากทะเล เนื้อแกะที่เลี้ยงแบบนี้เลยนุ่มหวาน มีกลิ่นหญ้าหอมกรุ่น อร่อยกว่าเนื้อแกะทั่วไป

     โชคดี อ่าวลาซอมม์ (baie de la Somme) หนึ่งในสถานที่เลี้ยงแกะทุ่งเค็มอันเลื่องชื่อของฝรั่งเศสอยู่ในจังหวัดเดียวกับบ้านต่างจังหวัดที่บุสซี คืนวันศุกร์ แวะกินกุสกุสร้านประจำรองท้องก่อนแล้วเราสองคนก็เริ่มออกเดินทาง กระโดดขึ้นจิ๊บจิ๊บมุ่งหน้าขึ้นเหนือในทันที

     เช้าวันรุ่งขึ้น จิ๊บจิ๊บพาตระเวนดูทั่วอ่าวลาซอมม์อยู่พักใหญ่ เราสองคนสอดส่ายสายตามองหาฝูงแกะแต่ก็ไม่เห็นมีสักกะตัว สัตว์ที่กินหญ้าอยู่ในทุ่งหญ้าข้างทางมีแต่สัตว์อื่นๆ เช่น วัว กระทิง ม้า ละเลียดกินหญ้าเหมือนเยาะเย้ย หวานใจเริ่มร้อนรนจนถึงขั้นหมดหวัง หรือว่าช่วงนี้เป็นช่วงของการล้มแกะ เลยไม่มีแกะตามทุ่งหญ้าหนอ

     แวะจิบเบียร์ กินอาหารกลางวันที่อูร์เดล (Hourdel)ซึ่งเป็นบริเวณแหลมที่ยื่นออกไปไกลที่สุดของอ่าวลาซอมม์ กินอิ่มท้องแล้ว หวานใจเริ่มอารมณ์ดีขึ้น ปลงแล้วว่าคงจะหาแกะไม่เจอ งั้นขับรถเล่นถ่ายรูปกันเพลินๆดีกว่า แกะเกอะช่างมัน

     เลี้ยวรถเข้าไปในถนนแคบๆ เลาะเข้าหมู่บ้านเล็กๆ ถ่ายรูปบ้านเรือนเก่าแก่จะพังมิพังแหล่ แวะเข้าห้องน้ำที่ศูนย์แคมปิ้งแห่งหนึ่ง สั่งเบียร์มาดื่มที่ลานหน้าร้านรับแสงแดดจ้าจัดต้นฤดูใบไม้ผลิกันคนละแก้ว หวานใจเดินวนถ่ายรูปรอบๆ

     ที่ลานหน้าร้านนั้นมีกลุ่มนักแคมปิ้งประมาณสิบกว่าคนนั่งดื่มเหล้าเรียกน้ำย่อยกันตั้งแต่บ่ายสอง ส่งสำเนียงพื้นถิ่นปิการ์ดีเฮฮา พอเราสองคนลุกขึ้นเตรียมจะออกจากที่นั่น ก็มีคนหนึ่งในกลุ่มร้องว่า ถ่ายรูปหน่อย แน่ล่ะว่าเขาร้องบอกหวานใจเพราะเห็นถือกล้อง ส่วนแคนดีกล้องของฉันนอนนิ่งอยู่ในกระเป๋า

     กล้องของหวานใจเป็นกล้องฟิล์มมามิยะ ถ่ายรูปขนาดกลางสำหรับคอลเล็คชั่นปิกาดีบ้านเกิด จะเอามาใช้ถ่ายพร่ำเพรื่อคงไม่เหมาะ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้จะปฏิเสธก็คงไม่ได้ ในเมื่อนานๆจะมีคนที่อยากให้ถ่ายรูปตัวเองที ฉันเลยเปิดกระเป๋าหยิบแคนดี้ขึ้นมาถ่ายให้ ก่อนจะกลับไปขึ้นจิ๊บจิ๊บแวะเข้าไปซื้อขาแกะทุ่งเค็มที่ร้านขายเนื้อในหมู่บ้าน

     เป็นการแก้แค้นเล็กๆ ถึงไม่ได้รูป ได้กินก็ยังดี



     ซื้อขาแกะแล้ว ขับรถออกจากหมู่บ้านนั้น ข้างทางมีลานเปิดขายผลไม้ ฉันบอกให้หวานใจแวะเข้าไป ขณะกำลังชะลอรถเลี้ยวเข้าไปเตรียมจะจอด ฉันกับหวานใจก็ร้องกรี๊ดออกมาแทบจะพร้อมกัน เพราะภาพที่เห็นตรงหน้าในทุ่งหญ้าข้างๆลานขายผลไม้ มีฝูงแกะกำลังกินหญ้าเป็นร้อยๆตัว

     พอจอดรถได้ ฉันรีบกระโดดลง ตั้งกล้องเล็งยิงแกะทันที ถึงเลนส์ที่ฉันใช้จะไม่ได้เป็นเลนส์ซูม ภาพที่ได้เป็นแค่ภาพจิ๊บๆจ๊อยๆก็ตาม ส่วนหวานใจเตรียมเลนส์ซูมมาแล้วน่าจะยิงได้ภาพดีกว่า แต่ก็เจออุปสรรคด้านเวลา เพราะยังไม่ได้ประกอบเลนส์กับตัวกล้อง แถมเก็บกล้องไว้ท้ายรถ กว่าจะเปิดท้าย กว่าจะประกอบกล้องเสร็จ

     พอหันกลับไปหาแกะ เราสองคนก็ต้องร้องกรี๊ดขึ้นมาพร้อมกันอีกรอบ เพราะหมาไล่แกะวิ่งเข้ามาต้อนแกะให้ไปจับกลุ่มรวมตัวกินหญ้าห่างออกไปจากริมถนนที่เราจอดรถอยู่


     -- ความพยายามอยู่ที่ไหน แกะอยู่ที่นั่น -- เราไม่ย่อท้อ ออกรถเลียบริมถนนเล็งหาจุดมีแกะอยู่ใกล้ถนนมากที่สุด พอเจอจุดนั้นก็จอดรถ หวานใจปีนขึ้นหลังคาจิ๊บจิ๊บ ยกกล้องติดเลนส์ซูมขนาดมหึมา เล็ง แล้ว ยิง ยิง ยิง จนสาสมใจ


     ไม่นานนัก ภารกิจก็สำเร็จดั่งใจหมาย สองสามีภรรยาเริงร่าขับรถกลับบ้าน จุดเตาผิง ยกเก้าอี้โซฟาหนังออกไปตั้งริมสนาม ละเลียดเบียร์




     รอรับประทานขาแกะอร่อยติดดาว





ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 05 พฤษภาคม 2551
Last Update : 5 พฤษภาคม 2551 17:48:07 น. 2 comments
Counter : 822 Pageviews.

 



สวัสดีบ่ายวันอังคารค่ะ

มาเจิมเลยนะนั่น

อากาศเป็นยังไงบ้างคะ
ที่นี่
ฝนตก พรำ พรำ

เหงาเป็นบ้า

วันสีชมพู เลยต้องหม่นหม่น นิดหน่อย

คิดถึงค่ะ

หวังว่า
คงสบายดี

ตากลม
ก็ยังสบายดี ตามอัตภาพ

ยังไม่ตาย




นอกเรื่อง

คุณมิวเตขา

คำว่า

" เธอไม่เคยคิดจะรักฉันเลย"

ภาษาฝรั่งเศส เปิ้นว่าจะไดเจ้า

จะเอาไปตัดพ้อคนซะหน่อย

รบกวนด้วยนะฮ้า


โดย: มิว ซิค ค่ะ (ก ร ะ ต่ า ย ต า ก ล ม ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:27:58 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณตากลม

อากาศที่นี่กำลังเย็นสบายค่ะ ประมาณ 25 องศา
แดดจ้าจัด


"เธอไม่เคยคิดจะรักฉันเลย"
ภาษาฝรั่งเศสน่าจะประมาณ "Tu n'as jamais pensé à m'aimer. " กระมังคะ


โดย: Mutation วันที่: 7 พฤษภาคม 2551 เวลา:2:25:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.