- 30 SEPTEMBRE 10 เรื่องบ้านๆ

เรื่องบ้านๆ

Photobucket
กลับระยองมาสามสี่วันแล้ว ถึงจะตั้งใจกลับบ้านมาเป็นเด็กดีของพ่อแม่ แต่อยู่ไม่เท่าไหร่ฉันก็ดีแตก ตั้งท่าช่วยเช็ดถูบ้านอยู่ได้วันเดียว แล้วก็เลี้ยวหาที่หลบซ่อนตัวในโลกใบเดิม โลกหนังสือ

อารามอยากจะให้เวลาผ่านไปเร็วๆ ฉันตระกรุมตระกรามอ่านหนังสือทำสถิติจบเล่มห้าร้อยหน้าภายในสี่ชั่วโมง เล่มแรกเป็นนิยายชวนฝันอ่านง่ายๆ ไหลๆ เล่มต่อไปเป็นวรรณกรรมค่อนข้างหนัก แต่ก็จบในอัตราความเร็วไล่เลี่ยกัน เล่มที่สามเป็นความเรียงอัตชีวประวัติ ชั่วบ่ายเดียวก็พลิกถึงหน้าสุดท้าย

ไม่ได้ภาคภูมิใจอะไร แค่แปลกใจนิดๆ นี่ฉันเป็นหนักขนาดนี้เชียว หรือเป็นเพียงสิ่งแวดล้อมรอบตัว ฉันมานั่งอยู่ในบ้านเก่าที่เคยอาศัยอยู่ก็จริง แต่ไม่มีเงา ไม่มีเศษเสี้ยวความเป็นฉันอยู่ในบ้านนี้อีกแล้ว ยิ่งกลับมาเป็นเด็กอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ ไม่มีหน้าที่ความรับผิดชอบชี้ชัดกำกับ จึงฉวยโอกาสล่องลอย ทำตัวไร้ค่า เหมือนเวลาไหลย้อน หากไม่ได้ไหลย้อนที่ ณ เวลาแสนสุข แต่กลับไปอยู่ในช่วงข้อต่อผกผันชวนใจสั่น แต่ก็นั่นล่ะ มานึกๆ ดูแล้ว ฉันนึกไม่ออกจริงๆ ว่าชีวิตของฉันช่วงไหนเป็นช่วงเวลาแสนหวานที่ฉันอยากย้อนกลับไปที่สุด ...

อืม อ่านแล้วรันทดดีนะ ฉันเองยังตกใจเลย เอาเหอะ ช่างมัน ชีวิตฉันมันดีกว่าคนอีกหลายสิบล้าน คงเป็นเพราะอย่างนี้มั้ง ฉันเลยไม่ค่อยอยากย้อนไม่ว่าจะย้อนกายไปที่เดิมๆ หรือย้อนใจไปคิดถึงเรื่องในอดีตสักเท่าไหร่ ส่งต่อเป็นนิสัยไม่ค่อยพกความรักความแค้นในอดีตติดตัวมาด้วย หลายคนคิดว่าฉันเป็นคนมองโลกในแง่ดีเวลาเจอใครมาเอาเปรียบ แต่จริงๆ แล้วฉันไม่ได้เป็นแม่พระ ฉันแค่อยากตัดคนเหล่านั้นออกไปจากใจจากชีวิตของฉันให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน และวิถีทางที่จะตัดได้ง่ายที่สุดคือทำใจมองในแง่บวก องุ่นเปรี้ยวมะนาวหวานไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ลืม ส่วนเพื่อนเก่าๆ ที่เพิ่งมาเจอกันใหม่ ฉันจะปฏิบัติตัวกับเขาหรือเธอที่อยู่ตรงหน้า ไม่เคยลากอดีตมาสวมทับปัจจุบัน เพราะคนเปลี่ยนแปลงทุกวัน ฉันในวันนี้กับฉันในวันนั้นไม่ใช่คนเดียวกัน เขาหรือเธอในวันนี้ก็ไม่ใช่คนในวันนั้น การมาเจอเพื่อนเก่าแล้วจะต่อติดหรือไม่ติด จึงอยู่ที่เขาหรือเธอคนนั้นรับความเป็นตัวฉันในวันนี้ได้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่ว่าในอดีตฉันเป็นอย่างไร

อืม... ไหนๆ ก็หมกมุ่นกับตัวเองมาชั่วพักนึงแล้ว ลองขุดต่อไปให้ถึงที่สุดเลยแล้วกัน ลากมันออกมาแล้วไม่ต้องมานั่งสงสัยอีกว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ถอนพิษออกไปทีเดียว รู้เท่าทันตัวเองแล้วจะได้ไม่ต้องทำอีก

ถ้าจะให้วิเคราห์จริงๆ ตามหลักการละครที่เรียนมานานมากแล้ว จึงอาจจะคลาดเคลื่อนได้ แต่ก็แอบมั่นใจจากประสบการณ์ที่ผ่านเจอ สรุปได้ว่า มนุษย์หรือตัวละครแต่ละคนจะมี Theme หรือ ประเด็น ฝังใจของตัวเอง ไอ้ประเด็นประจำตัวนี้ล่ะที่กำหนดพฤติกรรม แนวความคิด ทัศนคติ และเป็นตัวขับดัน เป็นแรงจูงใจให้ทำอะไรต่างๆ ดีบ้าง เลวบ้าง ไม่ว่าจะทำตัวยอกย้อนวกวนไปในทางใด สุดท้ายมันจะย้อนกลับมาที่ประเด็นเดิม ประเด็นประจำตัวนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้คนเรามีตัวตนและแตกต่างกัน ถึงแม้จะมีแรงบันดาลใจฉาบฉวยผิวหน้าเหมือนกันเป๊ะ อย่างเช่น คนอยากดังหรือคนเห็นแก่เงินแต่ละคนมีเหตุผลเบื้องหลังเบื้องลึกต่างกัน และบ่อยครั้งชื่อเสียงหรือเงินทองก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ไม่อาจคลี่คลายประเด็นลึกๆ ได้

ถ้าจะลองขุดรากลึกๆ ฉันคิดว่า ประเด็นจริงๆ ที่ขมวดจนฉันมีสภาพเหมือนแกว่งไปแกว่งมาในตอนนี้ คือ การโหยหาบ้านของตัวเอง ความต้องการมีพื้นที่ของตัวเอง ไม่ต้องแบ่งพื้นที่ขยับหลบใคร ไม่ต้องตกอยู่ใต้สายตาใคร ไม่ต้องตั้งรับการตัดสินจากใคร ไม่ว่ามันจะเกิดจากความห่วงใยหรือไม่ก็ตาม ฉันออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไปอาศัยอยู่หอพักบ้าง บ้านญาติบ้าง บ้านพ่อแม่บ้าง ฉันไม่เคยมีความรู้สึกเป็นส่วนตัวจริงๆ ได้แต่อาศัยเกาะแอบอิงคนอื่น

โชคดีที่มาเจอหวานใจ เพราะเรานิสัยใจคอคล้ายๆ กัน เราต่างหวงแหนและเคารพความเป็นส่วนตัวของตัวเองและอีกฝ่ายเท่าๆ กัน ชีวิตคู่ของเราจึงแบ่งเป็นสามโลก โลกของเธอ โลกของฉัน และโลกของเรา ถ้าเราอยากมีความสุข เราก็แค่ประคองโลกทั้งสามให้มีสมดุล ไม่เอนเอียงไปทางโลกไหนมากเกินไป

เขียนมาถึงตรงนี้ ฉันแริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมหวานใจถึงบอกว่าเขาไม่อยากเห็นเครื่องประดับบ้านห้อยแขวนแบบอินเดียที่ฉันชอบในห้องนั่งเล่นที่ฮ่องกง คงเป็นเพราะเขาอยากมีพื้นที่โล่งตาแบบที่เขาชอบ เพราะถึงเขาจะรักฉัน ตามใจฉัน ปล่อยให้ฉันแต่งบ้านเอง แต่เขาก็คงอยากจะมีมุมที่เขารู้สึกว่าเป็นพื้นที่กลางๆ ไม่เอนเอียงไปตามรสนิยมของฉันมากนัก... โอเค รู้อย่างนี้จะได้หายน้อยใจ

ข้อดีมีเยอะ แต่ข้อเสียใช่ว่าจะไม่มี การอยู่กับหวานใจ ใช่ว่าจะราบเรียบสะดวกใจไปเสียหมด พอสถานที่อยู่อาศัยเริ่มจะกลายเป็นบ้าน พอเริ่มปรับใจปรับกายได้ ก็ต้องย้ายไปที่อื่น ลองคิดถึงหัวอกคนอยากมีบ้าน อยากลงหลักปักฐาน อยากกินผลไม้จากต้นไม้ที่ตัวเองปลูกกับมืออย่างฉันสิ อารมณ์ไม่ต่างกับการต้องอกหักทุกสองหรือสามปีทีเดียวเชียวล่ะ

น่าจะเป็นตรงนี้ล่ะ ที่ส่งผลกระทบกับพฤติกรรมของฉัน ตอนนี้ฉันยังไม่รู้สึกลงตัวกับที่อยู่ที่ฮ่องกงเท่าไหร่ ข้าวของยังจัดไม่เสร็จครึ่งๆ กลางๆ พักอยู่แป๊บๆ เดี๋ยวก็ต้องเดินทางทิ้งบ้าน ชีวิตฉันเลยเหมือนกับลอยๆ พอกลับมาบ้านพ่อแม่ที่ตอนนี้ปรับปรุงใหม่ เติมต่อจนเปลี่ยนไป ภาพที่เคยชินตาหายวับราวกับสายน้ำเปลี่ยนเส้นทาง ฉันจึงรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกที่เพียงแวะมาพักชั่วครู่ ไม่มีความผูกพัน ไม่มีความรู้สึกว่ามันเป็นบ้านของฉัน มาประเดี๋ยวประด๋าว เดี๋ยวก็ไปแล้ว

เพื่อจะได้ลืมว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในบ้านคนอื่น ในโลกของคนอื่น ฉันเลยทำตัวให้เล็กที่สุด เงียบที่สุด เคลื่อนไหวน้อยที่สุด ปิดตัวเองอยู่หลังหนังสือ พร้อมกับนับเวลาถอยหลัง รอวันกลับไปหาหวานใจ และภารกิจการทำพื้นที่สามชั้นแห่งนั้นให้เป็นบ้าน

เมื่อกายเข้าบ้านได้แล้ว ใจจะได้เข้าบ้านเสียที






>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







Create Date : 30 กันยายน 2553
Last Update : 30 กันยายน 2553 12:44:25 น. 3 comments
Counter : 943 Pageviews.

 
เอาความรักมาฝาก

Photobucket


โดย: Cheria (SwantiJareeCheri ) วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:12:48:55 น.  

 
เข้าใจความรู้สึกของคุณมิวเลยค่ะที่ต้องย้ายไปย้ายมา พอรู้สึกคุ้นเคยกับที่นั้นๆ ก็มีอันต้องจากไปอีกแล้ว ฉันเองอยู่บนเรือ ก็มีความรู้สึกคล้ายกัน ภายในเรือไม่ได้เปลี่ยนแต่สถานที่รอบๆเปลี่ยนไป พอกำลังจะชินกับสภาพแวดล้อมภายนอก ก็มีอันต้องล่องเรือไปที่อื่น แต่ฉันว่าสักวันเราจะชินค่ะ มองในแง่ดีว่าจะมีสักกี่คนที่มีโอกาสเหมือนเรา หลายคนอยากเปลี่ยนแต่ทำไม่ได้

โชคดีค่ะ


โดย: Mai (Tibou ) วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:16:22:27 น.  

 
:)


โดย: natpatcha IP: 125.24.154.233 วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:0:56:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.