- 31 JANVIER 08

กลับ บ้าน เรา

Je suis rentrée chez moi.


     กลับถึงบ้านระยองแล้วตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นๆ มอบของฝากให้คุณนายแม่กับคุณท่านพ่อ คุณนายแม่ยิ้มแป้นชอบกระเป๋ากับสบู่ก้อนโตที่ฉันซื้อมาฝาก ส่วนคุณท่านพ่อ เห็นเครื่องเฮลิคอปเตอร์บังคับแล้วบอกว่าที่ตลาดนัดก็มีขาย ทำเอากร่อยๆ ไปเล็กน้อย

     ได้แต่จำเอาไว้ในใจว่า คราวหน้าถ้าซื้อของฝากจากฝรั่งเศสต้องดูให้เป็นสินค้าเมดอินฟร๊านซ์ ไม่ใช่เมดอินไชน่าที่ส่งขายทั่วโลก

     สิ่งที่แตกต่างระหว่างบ้านระยองกับบ้านเนยยี่ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ อากาศที่นี่อบอุ่นแสนสบายไม่หนาวสั่นอย่างที่โน่น ที่สำคัญ อยู่ที่นี่ ฉันนอนอุตุสิบกว่าชั่วโมงรวดได้ โดยไม่รู้สึกว่ามีอะไรต้องให้ลุกขึ้นมาทำ

     การไม่มีอะไร "ต้องทำ" หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "หน้าที่" เนี่ย ช่างเป็นชีวิตที่สบายดีจริงๆ นะ สามวันที่อยู่กรุงเทพฯ ถึงจะมีภารกิจที่ต้องติดต่อให้ทำ แต่ไม่ต้องทำหน้าที่การงาน ไม่ต้องแตะงานเขียนงานแปลงานแก้ตรวจใดๆ รู้สึกว่าโลกไหลไปเอื่อยๆ หัวเบาลง มีเวลาดูแลลงครีมใบหน้าเนื้อตัว มีเวลานั่งละเลียดไปเรื่อยๆ หน้าตาสดใสขึ้นตั้งเยอะ

     สงสัยต้องมีการกำหนดช่วงเวลาการกลับมาเป็น "โสดและไม่มีงานทำ" ไม่มีหน้าที่ศรีภรรยาคอยจิ้มหลัง ไม่มีหน้าที่นักแปลคอยกระทุ้งข้างแบบชั่วครู่ชั่วยามอย่างนี้ปีละครั้งสองครั้งเสียแล้ว ..ฮ่าๆๆ

     เมื่อคืนหวานใจโทรมาบอกว่า ตอนนี้มีการกำหนดย้ายไปทำงานที่บังกาลอร์ ประเทศอินเดียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เราจะย้ายไปอยู่ที่อินเดียกันในเดือนกรกฎาคม ... ได้ยินแล้ว ใจหนึ่งรู้สึกยินดี เพราะจะได้ไปอยู่ในประเทศใหม่ที่มีอากาศอบอุ่น ไม่ต้องทนทรมานใส่เสื้อสามสี่ชั้น (แล้วก็ยังหนาวสั่น) เหมือนที่ฝรั่งเศส

     ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น รู้สึกใจหาย เหมือนกับต้องกลับออกมายืนอยู่บนชานชลารถไฟ รอการเปลี่ยนแปลงและการเดินทางไปยังที่อื่นอีกครั้ง ไม่ได้ลงหลักปักฐานใช้ชีวิตนิ่งๆ เสียที นี่ฉันจะต้องอยู่ในช่วงรอการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเพื่อจะได้เจอกับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งแบบนี้ไปตลอดชีวิตหรือไง

     แต่เมื่อหวานใจบอกว่าเขาอยากเดินทาง อยากไปทำงานต่างประเทศ เขาไม่อยากทำงานท่ามกลางฝูงฉลามในอากาศเย็นๆ แบบนี้ ฉันก็ได้แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไรหรอก ชีวิตจะได้มีรสชาติไง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำซากดี อินเดียเองก็เป็นประเทศเก่าแก่ที่น่าสนใจ แถมยังพัฒนาก้าวหน้า



     ฉันจะได้เรียนรู้ชีวิตและวัฒนธรรมใหม่ๆ ได้ลองใส่ส่าหรีไงล่ะ



ป.ล. ภาพข้างบนเป็นภาพตอนที่เพื่อนรักสาวโสดของฉันทั้งสองคนมาเยี่ยมชมห้องพักเมื่อคืนก่อน ภาพสามสาวสามสไตล์นี้มีประวัติ เมื่อตอนเรียนอยู่ ปี 4 ด้วยกันย้อนหลังไปเมื่อ... เอ่อ... 15 ปีก่อน เราสามคนมีรูปที่ถ่ายสามคนด้วยกันแบบนี้หนึ่งรูป และต่อมาทุกครั้งที่เจอกัน เมื่อมีกล้อง และที่สำคัญเมื่อมีพี่เลิศ ตากล้องคนเดิมอยู่ด้วย เราก็จะกรี๊ดกร๊าดเข้ากล้องโพสท่าเดิมถ่ายรูปด้วยกันทุกครั้งไป เดี๋ยววันหลังจะเอารูปที่ถ่ายสามคนในแต่ละโอกาสแต่ละยุตมาเปรียบเทียบให้ดูว่าใครเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง




>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2551 18:50:39 น. 0 comments
Counter : 793 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.