- 11 MARS 08

ตัวใครตัวมัน


-- Chacun sa vie...---


     ขณะนี้เป็นเวลา 09.19 น. คุณแม่บ้านยังไม่มากดกริ่งเปิดประตูขึ้นตึกเลย จะมาหรือไม่มาก็ไม่บอก มาสายแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แถมทุกครั้งเจ้าหล่อนเลิกตรงเวลาแป๊ะ

     ฉันนั่งพิจารณาพฤติกรรมของตัวเองที่ผ่านมา เวลามีคนเอาเปรียบฉัน ใช้ประโยชน์จากฉันอย่างนี้ ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก เรื่องที่คนทำรู้ตัวและไม่รู้ตัว รู้ตัวและละอาย ไม่รู้ตัวทั้งยังคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนเอาเปรียบและถูกเอาเปรียบ

      ทุกครั้ง ฉันจะเพิกเฉย พยายามไม่ใส่ใจ ให้อภัย ให้โอกาส ถือว่าซื้อบทเรียนให้ตัวเอง อย่างดีที่สุดก็คือพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้วงจรอุบาทวนกลับมาอีก ยืดเวลาที่จะต้องกลับมาปฏิสัมพันธ์กันออกไปให้นานที่สุด ย่นเวลาที่จำเป็นต้องปฏิสัมพันธ์กันให้สั้นที่สุด และพยายามระมัดระวังไม่ลงเรียนชั้นเรียนเดิมอีก


     จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ เท่าที่ผ่านมา ฉันได้เรียนรู้ว่า ไม่มีใครอยากทำผิดไปจากที่ควรทำหรอก ทุกคนล้วนมีเหตุผลของตัวเอง และรู้อยู่แก่ใจดี ไม่จำเป็นต้องตอกย้ำซ้ำความรู้สึกผิดจิตตกเข้าไปอีก มันไม่มีประโยชน์อะไร บอกแจ้งไปก็ใช่ว่าจะมีการปรับปรุง รังแต่จะทำให้หมองใจ เกิดความเสียหายทางสัมพันธ์ภาพส่วนตัว เลยลามไปถึงเรื่องการงาน (มีคนไม่กี่คนหรอกที่แยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวได้เด็ดขาด)

     ไม่หรอก อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้เป็นคนที่แสนจะเข้าใจผู้คนและมีจิตใจเมตตาหรอก ฉันถือคติ "ตัวใครตัวมัน ชีวิตใครดูแลกันเอง" ฉันไม่รักใคร ฉันไม่ผูกวัว ไม่ถือไม้เรียวไล่ปรับพฤติกรรมของใคร เพราะฉันรู้ว่าคนที่ทำผิดกับฉันจะได้บทเรียนที่เจ็บปวดในอนาคต ไม่ช้าก็เร็ว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ถ้าสังคมไม่ลงโทษ ถ้าไม่ไปเจอคนที่ไม่ยอมให้เอาเปรียบและตอกกลับเอาเปรียบคืนอย่างเจ็บปวด จิตสำนึกดีๆที่น่าจะหลงเหลืออยู่บ้างก็จะลงโทษก่นด่าตัวมันเองไปตลอดชีวิต


     ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงสรุปกับตัวเองว่าฉันทำถูกแล้วที่ไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรออกไป ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่ากำลังถูกเอาเปรียบ บางครั้งฉันถึงกับทำดีกับคนๆนั้นยิ่งขึ้นไปอีก (ฉันเพิ่งเสนอให้คุณแม่บ้านกินขนมปังกับแอ้ปเปิ้ลรวมถึงกาแฟได้ เพราะสังเกตเห็นว่าเธอไม่ได้กินอาหารเช้ามา และเมื่อครั้งที่แล้วเธอทนหิวไม่ไหว ถึงกับตัดใจขอแอ้ปเปิ้ลในตะกร้ากับฉัน) เพราะการมาเอาเปรียบคนอย่างฉัน จะมีผลดีได้ประโยชน์แค่ระยะสั้น (คดกินไม่นานหรอก โบราณว่าและฉันเห็นด้วย)ไม่ใช่ในระยะยาว คนที่เอาเปรียบฉันไม่อาจนับว่าเป็นคนโชคดี จัดอยู่ในข่ายคนโชคร้าย



     จนถึงน่าสงสาร


>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 11 มีนาคม 2551
Last Update : 11 มีนาคม 2551 16:36:58 น. 3 comments
Counter : 796 Pageviews.

 
ทางธรรมะ เค้าจัดประเภทว่าเป็นการให้เกียรติคนค่ะ ทำอย่างนี้ได้บุญ อย่าลืมแผ่เมตตาให้เค้าด้วยนะคะ


โดย: natpatcha IP: 125.24.94.86 วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:16:35:46 น.  

 
ที่บ้านหนูก็มีว่ะพี่มิว --- แต่มันเป็นญาติ อยู่ในสภาพน้ำท่วมปาก ได้แต่รอให้ออกไปให้พ้นๆ

หนังสือ Persepolis นี้ก็อยากอ่านค่ะ
เพื่อนไปดูหนังมา บอกว่า "สุดยอด"


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:17:15:10 น.  

 
(ฉันเพิ่งเสนอให้คุณแม่บ้านกินขนมปังกับแอ้ปเปิ้ลรวมถึงกาแฟได้ เพราะสังเกตเห็นว่าเธอไม่ได้กินอาหารเช้ามา และเมื่อครั้งที่แล้วเธอทนหิวไม่ไหว ถึงกับตัดใจขอแอ้ปเปิ้ลในตะกร้ากับฉัน)

จำได้ว่าอ่านบล็อกคุณครูหมีข้างบน ที่แปลหนังสือแล้วมีเรื่องหิวๆนี่ล่ะทำให้น้ำตาซึม

อ่านประโยคข้างบนของคุณมิว..
ไม่ว่าคุณแม่บ้านจะเป็นไง แต่คุณได้ใจเราไปแล้ววววว...


โดย: SevenDaffodils (SevenDaffodils ) วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:22:12:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.