- 10 MARS 09 - เลื่อนขั้น - เทศกาลสีสัน- อินเดีย

เลื่อนขั้น

Je suis devenue la photographe du village…

    อินเดียเป็นประเทศที่มีเทศกาลมากมายตามจำนวนเทพและเทพีนับร้อยพัน ในช่วงสองสามวันนี้ ในระดับชาติเป็นเทศกาล Holi หรือเทศกาลแห่งสีสัน ผู้คนทาหน้าและเนื้อตัวด้วยสีสันต่างๆ นอกจากนั้นยังมีธรรมเนียมท้องถิ่น เช่น ในหมู่บ้านละแวกที่ฉันอยู่ก็มีพิธีของตัวเอง


     มีเรื่องเล่าขานกันว่าในช่วงนี้ฝนจะตกเพื่อต้อนรับเทศกาลนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในหน้าฝน มันจุฬาบอกว่าเมื่อคืนตอนห้าทุ่มมีฝนนอกฤดูตกปรอยๆ และในวันสองวันนี้ก็จะมีฝนตกเช่นกัน ... จริงหรือไม่จริงต้องลองดูกัน ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

     กลับมาที่พิธีประจำหมู่บ้านกันต่อ เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงขบวนแห่แหน เสียงกลองเสียงปี่ดังลั่นอยู่ในถนน แต่ไม่ได้ออกไปดู สอบถามได้ความว่าการเฉลิมฉลองจะทำยืดยาวต่อเนื่องจนถึงพรุ่งนี้ โดยมีพิธีเดินผ่านแผงถ่านร้อนๆ ที่วัดใกล้ๆ เป็นไฮไลท์ของงานตอนเที่ยงคืน

     ช่วงระหว่างเทศกาล เช่นวันนี้ ชาวบ้านจะมารวมตัวกันเดินขบวนไปตามท้องถนน ตีกลอง เป่าปี เริงระบำ เล่นตลก ลาก...เอ่อ เรียกว่าอะไรดีล่ะ รถขบวนละกัน แต่ไม่ได้เป็นรถขบวนที่แต่งบนรถกะบะอย่างที่เห็นในขบวนแห่เข้าพรรษาบ้านเรา เป็นรถขบวนสูงใหญ่คล้ายซุ้ม ติดล้อไม้ มีโซ่ให้บรรดาชายหนุ่มแก่รวมทั้งเด็กๆ มาช่วยกันดึงขยับไปทีละนิดหยุดเป็นระยะๆ ภายในมีพราห์มกระมัง คอยรับถาดบูชาจากผู้หญิงที่รอถวายอยู่ตามบ้านรายทาง ในถาดมีกล้วยมีมะพร้าว ดอกไม้มาลัย

     ฉันเอง ถ้าบ่ายนี้ไม่ได้ออกไปซื้อกับข้าว คงพลาดขบวนแห่นี้ไปอย่างแน่นอน ขากลับจากจ่ายตลาด นั่งแหงกอยู่ในรถติด พอใกล้ๆ ประตูหมู่บ้านวอร์เตอร์วูตส์ ก็ลงรถข้ามถนนเดินเข้าบ้าน ปล่อยให้วิโนจขับรถยูเทิร์นเข้ามาในภายหลัง

     ที่จริงพอกลับถึงบ้านแล้ว ฉันก็ลังเลว่าจะนั่งทำงานต่อดีหรือเปล่าก่อนจะไปเข้าคอร์สโยคะ แต่สุดท้ายเสียงปี่เสียงกลองเร้าใจ จนฉันอดไม่ไหว คว้าแคนดี้กล้องตัวเก่งคู่ใจออกจากบ้าน วิ่งแร่ไปที่ถนนหน้าที่พัก



(คลิกที่ลูกศร เพื่อดูสไลด์ภาพถ่าย)


     ทันเวลาพอดี ถ่ายรูปบรรยากาศมาได้ไม่น้อย ชาวอินเดียท้องถิ่นสะกิดให้ดูหญิงต่างชาติคล้องกล้องติดเลนส์ตัวเบ้อเริ่มกันใหญ่ แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาห้าม หนำซ้ำยังชี้ชวนกันดูชอบอกชอบใจกันดี

     ตลอดเวลาที่ฉันวิ่งไล่ตามขบวนคอยถ่ายรูป ช่วงที่ประทับใจมากคือ ตอนที่พยายามจะถ่ายการเต้นเล่นจำอวดที่มีคนรุมล้อมดูแน่นอยู่กลางถนน ขณะกำลังละล้าละลังว่าจะแหวกฝูงชนที่เป็นผู้ชายล้วนๆ เข้าไปยังไงดี ก็มีฮีโร่เป็นหนุ่มน้อยสองสามคนมาช่วยเกลี่ยเปิดทางให้ฉันเข้าไปอยู่กลางวงจนสำเร็จ และเมื่อนักเต้นสาวเห็นฉันกับกล้อง ก็หยิบหมวกสูงสีสดใสตระการตามาใส่แบบรีรันและแอ็คท่าให้ฉันถ่ายสบายๆ รวมไปถึงมือกลองของคณะนั้นทุกคน

     วินาทีนั้น ฉันรู้สึกเหมือนได้รับการยอมรับจากคนในหมู่บ้านให้สามารถถ่ายรูปได้ดังใจเลยล่ะ เป็นการถ่ายรูปที่สนุกและมีสีสันเร้าใจกว่าพิธีเล็กๆ น้อยๆ ที่ชาววอเตอร์วูดส์ทำกันในวงคนรวยแคบๆ ที่เคยถ่ายมาเสียอีก ยิ่งกว่านั้น พอถ่ายเสร็จ นักเต้นหญิงที่อยู่กลางวงยังช่วยแหวกเหล่าบุรุษอินเดียมุงให้ขยับเปิดทางให้ฉันออกไปอย่างสะดวกสบายด้วยนะ


     นับเป็นประสบการณ์การถ่ายรูปที่ฉันประทับใจมากครั้งหนึ่งเลยทีเดียว และพรุ่งนี้ มันจุฬาจะพาไปวัดใหญ่แห่งหนึ่ง ถ้าได้ถ่ายรูปแบบวันนี้อีกครั้งคงเยี่ยมยอด เพราะใช่ว่าจะหาโอกาสสัมผัสใกล้ชิดอย่างนี้ได้ง่ายๆ ...



     ส่วนฝนศักดิ์สิทธิ์ที่ว่า วินาทีนี้แล้ว จะตกหรือไม่ตก... ก็ช่างปะไร


ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 10 มีนาคม 2552    
Last Update : 10 มีนาคม 2552 22:18:12 น.
Counter : 830 Pageviews.  

- 09 MARS 09 - เผ(ล)อเรอ

เผ(ล)อเรอ

Le retour de travail


Danger Women on work ถึงแม้จะรู้ว่าอะไรสำคัญกว่า อะไรสำคัญรองลงมา แต่ฉันก็ยังไม่วายเผ(ล)อเรอ

เผ(ล)อเรอ ในความหมาย พลั้งพลาดด้วยความไม่ตั้งใจหรือไม่ได้ระมัดระวัง ไม่ใช่ เผลอเรอ เอิ๊กกก..ออกไป ตามความหมายตามตัวอักษร

เพราะเรื่องเรอกับฉัน ไม่ต้องเผลอ ฉันก็เรอดังโฮกฮาก ต่อหน้าหวานใจผู้เริ่มชินแต่ก็ยังอดตัดพ้อไม่ได้ว่า โอ้โหที่รักจ๋า ช่วยควบคุมกิริยานิดนึงสิ

พอได้ยินอย่างนั้น ฉันก็จะย้อนกลับไปว่า เรื่องนี้แจ้งแล้วตั้งแต่ก่อนแต่งงานนะคะ และจะให้คุมยังไงเหรอ เรอเบาๆ เอามือปิดปากอย่างที่สุภาพสตรีทำกันน่ะเหรอ ทำไม่เป็นหรอก มันไม่สะใจ แถมท้ายด้วยการเรอ เอิ๊กกก อีกรอบนึงปิดท้าย

เขาได้แต่ส่ายหน้าหัวเราะก๊าก อันนี้ยังไม่รวมการจามเสียงดังสนั่นราวทหารหาญแห่งกองทัพนโปเลียน อย่างที่หวานใจค่อนแคะอย่างเอ็นดูนะ

จบเรื่องประจานตัวเอง กลับมาเรื่องเผ(ล)อเรอประจำวันนี้กันดีกว่า ... หลังจากไปเที่ยงแคมป์ตกปลาสี่วัน เช้านี้ ทำโยคะนิดๆ หน่อยๆ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง ยกถังน้ำรดต้นไม้ทั้งห้าระเบียงน้อยใหญ่เรียบร้อยแล้ว ฉันก็เริ่มเปิดคอมพ์ เพื่อทำงาน อีเมลน้อยใหญ่ไหลเข้ากล่องไม่ขาดสาย ฉันค่อยๆ ไล่ตอบทีละเรื่อง เรื่องไหนรอปรึกษาพลพรรคในการประชุมวิสามัญวันพุธนี้เมื่อฝนกลับมาจากฮ่องกงได้ก็ติ๊กธงทำตัวแดงไว้ เรื่องไหนต้องตอบด่วนก็ตอบไปทันท่วงที

อีเมลที่เข้ามา มีทั้งข่าวดี ข่าวดีมากๆ ข่าวดีน้อย ข่าวไม่ค่อยดี ฉันถึงข่าวร้าย แม่มันจุฬามาทำงานสายยี่สิบกว่านาที แล้วยังมาเซ้าซี้ถามว่าหวานใจชอบของขวัญเป็นพระพิฆเนศเรืองแสงที่เธอให้เป็นของขวัญหรือเปล่า ในช่วงระหว่างที่ฉันกำลังติดพันตอบอีเมลฉบับหนึ่งอยู่ ฉันเลยเหวกลับไปว่า ฉันกำลังทำงานอยู่ไม่เห็นรึไง

เธอหน้างุดเดินออกไปทำงานของตนเงียบๆ บรรยากาศมาคุเข้าครอบงำนิดๆ แต่ฉันไม่มีเวลาใส่ใจเพราะต้องแปลข่าว พอส่งงานเสร็จ ฉันเข้าไปในครัวหยิบแคปซูลเนสเพรสโซเพื่อทำกาแฟถ้วยที่สองของวัน มันจุฬานั่งจัดดอกไม้ที่เธอซื้อมาและคาดว่าเป็นต้นตอการมาสายใส่แจกัน ฉันพูดเรียบๆ กับเธอว่า เมื่อเช้าต้องขอโทษด้วยนะ เธอเงยหน้าขึ้นมาน้ำตารื้นบอกว่า เธอเสียใจที่ฉันโมโห จนคิดว่าพรุ่งนี้จะไม่มาทำงานแล้ว

โห... อ่อนไหวอะไรขนาดนี้หนอแม่คุณ แต่สุดท้ายเมื่อฉันกล่าวคำขอโทษซ้ำอีกครั้ง เธอก็ยิ้มออก

งานการประจำวันนี้ ปฏิบัติการกำมะหยี่ ต่อด้วย งานเกลาต้นฉบับแปล ปิดท้ายวันนี้ด้วยคอร์สโยคะ ที่เริ่มเข้มข้นดึงเอ็นซับซ้อนขึ้นทุกขณะ กลับมาเตรียมอาหารค่ำ เมนูคืนนี้ หมูทอดกระเทียมพริกไทยของโปรดสามี กินร้อนๆ กับข้าวหอมมะลิที่อุตส่าห์หอบไปจากเมืองไทย แนมกับกะหล่ำปลีผัดกระเทียม

บทเรียนในวันนี้สอนให้รู้ว่า อีเมลต่างๆ รอได้ คนที่รอรับได้รับคำตอบกลับช้าอีกสักนาทีสองนาทีก็คงไม่ขาดใจตาย สำหรับคนใกล้ตัวที่อยู่ตรงหน้าตัวเป็นๆ สองสามนาทีที่ฉันผละจากงานไปเสวนาปราศรัยด้วย เป็นช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ ที่จำเป็นกับการสร้างความอุ่นใจและบรรยากาศอันดีต่อกันตลอดทั้งวัน



ฉันไม่ควรจะเผ(ล)อเรอลืมตัวใส่คนใกล้ตัวเช่นนี้อีก ส่วนเรื่องเผลอลืมตัวเรอใส่สามี สักวันหนึ่งคงจะแก้ไขปรับตัวได้ล่ะน่า


ป.ล. แก้เขิน สะกด เผอเรอ เป็น เผลอเรอ เลยแอบมาใส่วงเล็บฮ่ะ

>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 09 มีนาคม 2552    
Last Update : 13 มีนาคม 2552 17:54:23 น.
Counter : 867 Pageviews.  

- 08 MARS 09 - บล้อกใหม่อีกแล้วขอรับท่าน

บล้อกใหม่อีกแล้วขอรับท่าน

Un autre blog .... en anglais -> cliquez ici

เพิ่งกลับมาจากแคมป์ตกปลาหมาดๆ ไปตั้งแต่วันพฤหัสเช้า แคมป์อยู่กลางป่า ห่างจากบังกาลอร์ไป ๑๐๐ กิโลเมตร ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีสัญญาณมือถือ ไม่มีสัญญาณจีพีเอเอสสำหรับเช็คเมลกับไอโฟน สัญญาอินเตอร์เน็ตนั้นหรือไม่ต้องพูดถึง

ทริปฉลองกันเกิดหวานใจครั้งนี้จึงเป็นการตัดขาดจากโลกภายนอก เข้าสู่โลกนักตกปลาตัวยงอย่างแท้จริง


ตัวฉันเองนั้น ยังไม่ถึงกับขั้นรักใคร่ "กีฬา" ประเภทนี้นัก ฉันเป็นคนที่ต้องลองก่อนแล้วถึงจะบอกว่าได้ชอบไม่ชอบ ไม่ได้หน้ามืดตามัวเพราะความรัก ต่อให้เป็นของโปรดของสุดที่รักที่สุดในโลก ฉันก็ยังไม่สมัครใจรับไว้ในอ้อมใจง่ายๆ ถ้าไม่ได้ลงมือจับต้องก่อน และขอเวลาย่อย จับทางอีกสักหนสองหน ไปคราวนี้ส่วนใหญ่คือจับตาดูความตื่นเต้นของสามีและพลอยชื่นชมยินดีไปด้วย ขณะเดียวกันก็มองหากิจกรรมทำระหว่างทาง เช่น ถ่ายรูป ฝึกโยคะ ใคร่ครวญและตัดใจปลงเรื่องต่างๆ ในชีวิค

ไป "เที่ยว" คราวนี้ ฉันติดปอมปอม แม็คบุคไปด้วย กะว่าจะเกลา "ทุกสิ่งอันที่เราไม่ได้เอื้อนเอ่ยต่อกัน"หนังสือที่แปลค้างอยู่ต่อสักนิด แต่พอไปถึงเปิดคอมปุ๊บ ก็ได้ตระหนักว่าไม่ได้เอาไฟล์ต้นฉบับแปลไปด้วย ฮ่า

แก้เขินแก้ขัด ไหนๆ ก็เอาน้องปอมปอมไปแล้วจะทิ้งนิ่งเฉยสูญเปล่าได้อย่างไรเล่า ต้องหาอะไรทำเสียหน่อยไหนๆ ก็ขนไปแล้ว

และอะไรที่ว่านั่น ก็เป็นบล้อก "การเดินทางกับน้องปอมปอม" สร้างจากโปรแกรม ไอเว็บ ที่ติดมากับปอมปอมนั่นเอง หลังอาหารเที่ยง ฉันทะยอยปลีกเวลานั่นพักยามบ่ายมาอัพรูปกีอกแก๊ก พร้อมคำพยายามบรรยายเป็นภาษาปะกิตที่เรื้อไปนานชาติมากๆ แล้ว จุดมุ่งหมายหลักก็คือ เก็บรายละเอียดากรเดินทางเท่าที่จะทำได้ จุดมุ่งหมายรองคือจะได้รื้อฟื้นภาษาไปด้วย (เป็นการบอกทางอ้อมว่า อย่าคาดหวังภาษาสูงส่ง ศัพท์สวยๆ ไวยากรณ์แป๊ะๆ นะคะ เพราะบางทีเขียนๆ อยู่สติไม่ค่อยจะสมประกอบ เพราะเบียร์คิงฟิชเชอร์ แฮ่)

ที่ตัดสินใจเขียนอะไรเพิ่มอีกบล้อกนึง เพิ่มจากบล้อกซึ่งมีมากมายเกินกว่าจะอัพไหวแล้วเนี่ย เป็นเพราะเท่าที่ผ่านมา ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหน หลังจากกลับมา ฉันจะมีงานเรียงแถวต่อคิวให้ทำไปข้างหน้า ไม่มีเวลาเหลียวหลังมานั่งระลึกถึงช่วงที่อยู่ในระหว่างเที่ยวสักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่อยากจะเล่าใจจะขาด บางครั้งเวลาเขียนบล้อกรวบรัด พาลอึดอัดใจไม่หาย ได้อัพเล่าระหว่างทางเลยน่าจะดี ถึงจะสั้นๆ แต่น่าจะสดกว่า ดีกว่าไม่ได้เล่าอะไรเลย



บล้อกแรกๆ ยังเงอะงะ ไม่ค่อยมีลูกเล่นสักเท่าไหร่ แต่เป็นการเริ่มต้นที่ไม่เลวเลยทีเดียว ใครอยากดู ตามไปดูได้ --> ที่นี่ค่ะ





ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 08 มีนาคม 2552    
Last Update : 8 มีนาคม 2552 22:34:07 น.
Counter : 979 Pageviews.  

- 04 MARS 09 - นิ่ง

นิ่ง

Je suis calme, comme jamais. On va aller au fish camp pour l'anniveraire de mon Z'amour...

     ถึงจะมีงานราษฐ์งานหลวงมากมาย แต่ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าฉัน "นิ่ง" อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


     งานราษฐ์ คือ งานส่วนตัว งานแปลที่ตอนนี้คลานเขยือบกระดึบๆ จนน่าจะร้อนรน เพราะเลยกำหนดเมื่อสิ้นเดือนที่แล้วมาแล้ว และเฟส 1 ที่รรับปากว่าจะส่งให้ครึ่งเล่มก่อน ก็ยังเกลาไปไม่ถึงไหน เหลวไหลขนาดนี้ ฉันยังไม่รู้สึกอะไร คงเป็นความด้านชาทางอาชีพกระมัง


     ส่วนงานหลวง ก็คือ งานสำนักพิมพ์กำมะหยี่ "หลวง" ย่อมบอกอยู่แล้วว่า "ใหญ่" เป็นงานสำคัญที่ฉันให้ความสำคัญอันดับแรก งานราษฐ์ช้าได้ รอได้ แต่งานหลวง ฉันต้องให้ความสำคัญมากกว่า ทำงานราษฐ์และเล็มไปเรื่อยๆ พอมีประเด็นงานหลวงเข้ามา หยุดทุกอย่างไปดู

     เรื่องความนิ่งเนี่ย ส่วนหนึ่งฉันว่าเป็นเรื่องของอายุ ทักษะในการทำงาน และประสบการณ์ที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว เคยดีใจ เสียใจ ชื่นใจ เจ็บใจ พอมาถึงจุดหนึ่ง ฉันก็เริ่มเย็นลง เนื่องจากรู้แล้วว่า มันก็เป็นเช่นนี้แล โลกภายนอกจะเป็นอย่างไร ถ้าเราไม่อ่อนไหวโอนเอนไปกับมัน ก็ไม่มีใครเจาะเข้ามาทำอะไรเราได้ และถึงที่สุดแล้ว ก็อย่างที่ฉันเคยเขียนในบล้อกเมื่อไม่นานมานี้ว่า "ไม่มีอะไรสำคัญนักหนา"


     ส่วนที่สองเป็นเพราะฉันได้ทำงานกับคนที่มีหลักการ และวิธีคิดคล้ายๆ กัน มองตรงไปข้างหน้าในทิศทางเดียวกัน ถึงแม้ความแตกต่างจะทำให้มีการเผลอไผลแฉลบเลี้ยวซ้ายเข้าซอยขวา ให้ต้องหยุดรถวนกลับตามหา หรือจอดรอข้างทางบ้าง ถึงเราจะสายล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้บ้าง แต่ฉันคิดว่าช่วงเวลาที่เหลียวมองหาหรือหยุดรอรับเปิดโอกาสให้เรารู้จัก รู้ใจ รู้ทางกันมากขึ้น ทำให้การเดินทางต่อราบรื่นมากขึ้น แค่ขยับเปลี่ยนเกียร์ก็เตรียมคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ได้เลย ไม่ต้องรอให้เอ่ยปาก


     ส่วนที่สามเป็นเพราะฉันมีกิจกรรมในชีวิตใหม่ที่ดูจะเข้ากับฉันได้เป็นอย่างดี นั่นคือ โยคะ ที่ช่วยให้รู้จักตัดความวุ่นวายในใจ กำหนดจิตและลมหายใจเป็นเหมือนการนั่งสมาธิชั้นดีที่ได้ออกกำลังกายลดความเหนียวหนืดของเนื้อตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่ได้ใจฉันไปมากๆ แทบจะเป็นการเปิดประตูชีวิตใหม่ให้ฉันเลยทีเดียว

     ด้วยปัจจัยทั้งสาม ฉันอาจจะนิ่งมาสักระยะนึงแล้ว แต่วันนี้เป็นวันที่ฉันรู้สึกตัวชัดเจนที่สุด อาจเป็นเพราะเมื่อเช้า ฉันเริ่มต้นวันด้วยโยคะครบสูตรอย่างมั่นใจในตัวเองเป็นครั้งแรก สองเดือนที่ผ่านมา ฉันเรียนรู้อาสนะหรือท่าต่างๆ รวมทั้งปรานายามะหรือการฝึกหายใจเข้าออก นับรวมแล้วได้ประมาณ 20 กว่าท่า และเป็นท่าที่ฉันเริ่มจำชื่อได้แล้วด้วย ... เย่ๆๆๆ

     หลังจากนั้น อาบน้ำสระผม เนื้อตัวสะอาดเอี่ยมโล่งเบา เปิดคอมพ์ทำงานราษฐ์สลับงานหลวงที่เข้ามาเป็นระยะๆ กับเพื่อนร่วมงานที่มีวุฒิภาวะและความตั้งใจเดียวกัน อันเป็นสภาวะการทำงานที่ฉันพอใจที่สุดตั้งแต่เริ่มการทำงานทั้งหลายแหล่ในชีวิต

     ตัวอย่างความนิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมที่สุด คือ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้จนถึงวันอาทิตย์ ฉันจะไม่อยู่หน้าจอแบบออนไลน์สีวันรวด เพราะจะไปฉลองวันเกิดหวานใจที่ค่ายตกปลา แต่ใจฉันก็ไม่เป็นห่วงงานหลวงที่ฝากฝังไว้กับเพื่อนร่วมงานเลยสักนิด เพราะรู้ว่าทุกคนคอยดูแล "ลูกคนต่อไป" ของเราทุกคนอย่างใกล้ชิด เป็นความโชคดีในเรื่องงานการของฉัน


     โชคดีจนอาจเรียกได้ว่าเป็น "การทำงานในฝันที่ไม่เคยกล้าฝันถึงมาก่อน"ได้เลยทีเดียว.... ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ




ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






 

Create Date : 04 มีนาคม 2552    
Last Update : 9 มีนาคม 2552 21:27:38 น.
Counter : 832 Pageviews.  

- 01 Mars 09 - วันอาทิตย์โล่งๆ

วันอาทิตย์โล่งๆ


Un dimanche avec un marriage indian et un restaurant chinois en Inde...
IndianBride


วันนี้ตื่นแต่เช้า ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งเจ็ดโมง เพราะฉันกับหวานใจต้องออกจากบ้านตอนแปดโมงเพื่อไปงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้อง ลูกสาวของน้าของมันจุฬา

งานแต่งงานของที่นี่ก็เหมือนกับที่เมืองไทยคือต้องรอฤกษ์งามยามดี วันดีๆ ถึงค่อยจัด วันนี้ตามรายทางจึงมีซุ้มใหญ่หน้าอาคารที่ประกาศว่ามีงานแต่งงานจัดที่นั่นอยู่เป็นระยะ

เมื่อคืนนี้ คุณนพดลส่งไฟล์ที่จัดหน้าแล้วของ "Firfly" มาให้ดูดราฟท์แรก ฉันเขียนความเห็นส่งอีเมลตอบกลับ ก่อนจะฉวยกล้องแคนดี และไอปอม ออกจากบ้าน  เราแวะรับมันจุฬากับแม่และเพื่อนบ้านของเธอที่หน้าหมู่บ้านของเธอ แล้วนั่งรถไปทางตะวันออกราวครึ่งชั่วโมงก็ถึงเมืองโคมาร์ อันเป็นจุดหมายปลายทางของเรา

คลิกไปดูภาพพิธีการแต่งงานได้ --> ที่นี่  <--  Cliquez ici pour voir le marrige indien

และก็ตามประสาฉัน  ไปในงานไม่ค่อยได้เสวนาปราศรัยกับใครเท่าไหร่ เอาแต่ถ่ายรูปไปทั่ว ดีอย่างที่มันจุฬารู้ใจไม่คิดมาก และคอยดูแลหาน้ำหาท่าให้ดื่ม  หลังจากแนะนำครอบครัวใหญ่โต ตั้งแต่คุณยายจนถึงคุณหลานๆ  ในวันนี้ฉันได้ประสบการณ์การถ่ายภาพงานที่มีคนเยอะๆ เพิ่มขึ้น   คลิกไปดูพัฒนาการในการถ่ายรูปผู้คนของฉันได้  --> ที่นี่  <--  Cliquez ici pour voir les invite's du marriage

สิบเอ็ดโมงกว่าๆ  ฉันกับหวานใจลากลับ แม่มันจุฬากับเพื่อนบ้านแวะลงกลางทางเพื่อไปร่วมงานแต่งงานอีกที่หนึ่ง ส่วนคุณแม่นั่งรถต่อจนถึงปากซอยเข้าหมู่บ้าน  ระหว่างทางเช็คเมล ตอบเมลเรื่องคำนำสำนักพิมพ์   สะดวกดีจริงๆ อยู่นอกบ้านก็ยังทำงานติดต่อกับคนที่อยู่ห่างข้ามประเทศได้

มื้อกลางวันวันนี้ ฉันกับหวานใจไปกินอาหารจีนกลั้วไวน์ขาวจากชิลีกันที่ร้านอาหารจีนในโรงแรมแห่งหนึ่ง  เสร็จแล้วแวะไปซื้อต้นไม้ที่เนิร์สเซอรีที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่นัก  ปรากฎว่าคนขายเป็นเพื่อนเก่าที่เคยเรียนด้วยกันที่โรงเรียนกับวิโนจ   กลับถึงบ้านวิโนจขนต้นไม้ขึ้นไปไว้ที่ระเบียงห้องนอน  หวานใจเห่อที่ฉีดน้ำใหม่รดน้ำต้นไม้เป็นการใหญ่  ส่วนฉันแอบเข้าไปนอนงีบบนเก้าอี้นวด  ตื่นลงมาส่งไฟล์ที่ตกค้างรับปากว่าจะส่งให้คุณนพดล

ส่งเสร็จ ได้คำตอบกลับมารวดเร็วทันใจ ทำให้อุ่นใจขึ้นว่าหนังสือจะเสร็จทันงานหนังสือแน่ๆ  



ขอขอบคุณผู้ร่วมงานทุกท่านที่ยังคงนั่งทำงานอย่างขมักเขม้นในวันอาทิตย์อย่างนี้ ทั้งพี่แป๊ดและคุณนพดล มา ณ ที่นี้ค่ะ


ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่








 

Create Date : 01 มีนาคม 2552    
Last Update : 2 มีนาคม 2552 10:43:45 น.
Counter : 881 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.