-06 NOVEMBRE 10 Sartre et Papa

Sartre et Papa



หลังจากรออยู่สองวันเต็ม วันนี้ไอ้ลูกหมามีอีแม่กับป่ะป๊าไปเยี่ยม ท่าทางตื่นเต้นดีใจเกินเหตุ สองพ่อแม่ดูท่าทางกระหือรือกินเนื้อต้มแครอทของไอ้ลูกหมาประกอบกับหุ่นที่ดูเหมือนจะผอมเพรียวลงแล้วคาดกันว่าไอ้ลูกหมาน่าจะปฏิเสธ เชิดไม่ยอมกินอาหารเม็ด จะกินแต่อาหารที่แม่เอามาให้เพราะอร่อยกว่า (แน่ล่ะ) พอเจอแม่เบี้ยวไม่ไปส่งปิ่นโตเข้าสองวันรวด เลยหิวซ่ก




>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 22:25:45 น.
Counter : 850 Pageviews.  

- 05 NOVEMBRE 10 คั่นเวลา ฆ่าเวลา

คั่นเวลา ฆ่าเวลา

Clock
ปลีกเวลาจากงานแปลมาอัพบล็อก

วันนี้เวลาเยอะ ทั้งที่ตื่นไม่เช้า แต่ได้เวลาเพิ่มมาเพราะไม่ต้องไปเยี่ยมลูกหมาเนื่องจากฝนตกตลอดทั้งวันแถมอากาศหนาว ที่จริงเรื่องแค่นี้ไม่ใช่อุปสรรคหรอก ฝนตกก็กางร่ม หนาวก็ใส่เสื้อ คำถามสุดท้ายคือ ถ้าไปถึงแล้วจะพาไอ้ลูกหมาออกไปวิ่งเล่นที่ไหน บริเวณที่เขาจัดให้ไม่มีหลังคา มิต้องตัวสั่นงันงก ตัวเปียกกันทั้งแม่ทั้งลูกหรือ ถ้าเกิดป่วยไปจะคุ้มมั้ย

เป็นอันว่าวันนี้ไอ้ลูกหมาต้องชะเง้อคอยแม่เก้อต่ออีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้แถมโบนัสให้ละกันให้เจอป่ะป๊าด้วย เหอะๆๆๆๆ

พอไม่ได้ไปเยี่ยมไอ้ลูกหมา ชั้นเรียนโยคะที่ตั้งใจจะไปยืดเส้นยืดสายก็พับไปโดยปริยาย สรุปว่าได้เวลาเพิ่มมาประมาณห้าชั่วโมง

ตื่นมาจัดข้าวของในห้องน้ำ จัดของสะสมเป็นพวกเครื่องใช้ในห้องน้ำตามโรงแรมเข้ากล่องใส่ลิ้นชัก ปีหน้าท่าทางจะไม่ค่อยได้สะสมของอะไรพรรณนี้เพิ่มเท่าไหร่ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นของจากโรงแรมทาชในอินเดียที่เราตระเวณไปพักเพราะมีบัตรสมาชิกลดแลกแจกแถมสะสมพ็อยต์ พอมาอยู่ฮ่องกง ตอนแรกวาดหวังกันไว้ว่าจะไปเที่ยวเมืองจีนกันเสียหน่อย ปรากฎว่ามีปัญหาเรื่องวีซ่าและเป็นครั้งแรกที่ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากการเป็นคนไทยของฉัน แต่ดันเป็นสัญชาติฝรั่งเศสของหวานใจ เห็นว่าตอนนี้จีนเคืองกับฝรั่งเศส เลยไม่ออกวีซ่าท่องเที่ยวให้คนฝรั่งเศส ออกให้แต่วีซ่าธุรกิจ ก็คงต้องรอจังหวะให้หวานใจต้องไปเมืองจีนเรื่องงานก่อน แต่ส่วนใหญ่ทริปงานพวกนี้จะไม่ค่อยรู้ล่วงหน้านานนัก ถ้ากระทันหันเกินไป คนที่จะมีปัญหาขอวีซ่าอาจจะเป็นฉันเอง

ไม่เป็นไร เข้าจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ได้ ก็เลาะๆ ตามเกาะแก่งแถวๆ นี้ละกัน สองเดือนก่อนไปญี่ปุ่นมาแล้ว เดือนหน้าจะไปไต้หวัน และหวานใจอาจจะต้องไปเรื่องงานที่เกาหลี ซึ่งถ้าถึงเวลาจริงๆ ก็ต้องกะตารางเวลาให้ดีๆ ไม่ให้สั้นกุดเกินไปไม่คุ้มค่าตั๋วเครื่องบินของฉัน หรือหวานใจต้องทำงานตลอด ปล่อยฉันผจญภัยในต่างแดนอยู่คนเดียว

รายงานภารกิจการจัดบ้านของแม่ศรีเรือนต่อจากเมื่อวานกันสักนิด ตอนนี้กล่องพลาสติกที่ร้านมาส่งเมื่อวานนี้หมดเกลี้ยง นี่ขนาดยังไม่ได้แกะลังกระดาษชั้นล่างออกมาเลยนะ ท่าทางต้องซื้อเพิ่มอีกสามเท่าถึงจะใส่สมบัติบ้าของสามีภรรยาคู่นี้ได้ครบหมด อย่างไรก็ตามกองกล่องกระดาษที่แปะอยู่ด้านหลังที่นั่งทำงานได้สลายไปแล้ว ตอนนี้มีตู้เตี้ยเหล็กสีแดงสดมาตั้งแทน ดูดีสะอาดตาขึ้นมานิดนึง

ไม่เป็นไร ยังมีเวลา ค่อยๆ จัดไปเรื่อยๆ จัดเสร็จตอนครบสัญญาสามปีแล้วให้คนมาเก็บย้ายไปประเทศอื่นต่อก็ยังได้ เห็นมั้ย อากาศเย็นๆ ฉันเริ่มเป็นคนคูลขึ้นมาขั้นนึงแล้ว

ภาพประกอบบล็อกที่ดูเหมือนจะเข้ากับเรื่องที่บันทึกมากกว่าปกติรูปนี้ ถ่ายด้วยกล้องไลก้า เอ็ม 8 เชียวนะคะทุกท่าน พอทราบอย่างนี้แล้วไม่รู้ว่าทำให้ภาพดูดีมีสง่าขึ้นเล็กน้อยหรือไม่ หึหึหึ น่า มือใหม่หัดถ่ายก็อย่างนี้ล่ะค่ะ ต้องอาศัยการเอ่ยอ้างกันเล็กน้อย กว่าจะหมุนปรับให้ลงโฟกัสได้ต้องถึงกับกลั้นหายใจกันเลยทีเดียวเชียว ไหนจะเรื่องกรอบภาพที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ กดลงไปแล้ว ดูรูปบนหน้าจอไม่ยักกะหมือนที่เห็นผ่านรูมองบนกล้อง

ลุ้นดี สนุกไปอีกแบบ





>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2553 13:18:32 น.
Counter : 961 Pageviews.  

- 04 NOVEMBRE 10 หมวกไหน หมวกนั้น หมวกใคร หมวกมัน

หมวกไหน หมวกนั้น หมวกใคร หมวกมัน

Photobucket
ทฤษฎีส่วนตัวของฉันที่ว่า "สิ่งดีๆ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ" เริ่มพิสูจน์ให้เห็นในช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตของฉันดีขึ้นทีละน้อย และการเปลี่ยนแปลงมันเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ธรรมดาสามัญ เช่น กล่องพลาสติกใส

เช้านี้ตื่นมาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะบ่ายนี้ IKEA จะมาส่งกล่องพลาสติกใสที่ไปซื้อกันไว้เมื่อวันอาทิตย์ พอได้กล่องพวกนี้มาแล้วจะได้รื้อของออกจากลังกระดาษ เลือกทิ้ง เลือกเก็บให้เป็นสัดส่วน กะจะวางกล่องใสเหล่านี้เรียงขึ้นสูงชิดเต็มผนังห้องกระจกหลังบ้าน น่าจะสวยงามประหนึ่งงานศิลปะอินสตอลเลชั่นแถมยังสามารถเห็นสิ่งของที่เก็บอยู่ข้างในสะดวกสบาย หาง่ายหยิบสะดวก กันน้ำก็ได้ กันความชื้นก็น่าจะดีกว่า

ภารกิจประจำวันนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ หาแผ่นโปรแกรม Snow Leopard ให้เจอ จะได้เอามาบูตเครื่องไอแม็คน้องปอมม์ที่ตอนนี้เกเรบูตไม่ขึ้นไม่ยอมให้เข้าไปทำงาน คิดว่าแผ่นโปรแกรมน่าจะนอนนิ่งอยู่ในตู้โต๊ะทำงานนี้ล่ะ แต่เดี๋ยวรอกล่องใสมาใส่ของที่ตอนนี้อุดๆ อยู่ข้างในก่อน จะได้ไม่ต้องรื้อเข้าแล้วก็รื้อออก เปลี่ยนที่วาง ย้ายที่รก เอาไปกระจุกตามจุดต่างๆ ชั่วคราว รอเวลาเก็บให้เป็นเรื่องเป็นราวเหมือนที่ผ่านมา หลังจากนั้น คุณ ก. ก็จะเก็บลังกระดาษพับมัดเตรียมเอาออกไปขายกับรถรับซื้อที่จะมาจอดหน้าประตูใหญ่ทุกเที่ยววันเสาร์ โรงรถที่ตอนนี้มีกล่องกองท่วมก็จะโล่งสะอาดตา

พอบ้านสวยสมใจเข้าที่เข้าทางแล้ว ฉันจะได้อนุมัติให้หวานใจเชิญเพื่อนข้างบ้านมาทำความรู้จักปิ้งบาบีคิวที่บ้านได้ เชิญเพื่อนๆ ที่ทำงานมากินมื้อค่ำที่บ้านได้ นั่นแน่ ช่วยพัฒนามนุษยสัมพันธ์ได้อีกต่างหาก

การมีบ้านสะอาดจัดเรียบร้อยสบายตาจะทำให้จิตใจของคนอยู่พลอยโล่งไปด้วย ลดสาเหตุของความหงุดหงิดไปได้ส่วนหนึ่ง ฉันมีความเชื่อส่วนตัวลึกๆ ด้วยว่า บ้านที่สะอาดจะไม่มีจิตวิญญาณร้ายหรือเร่ร่อนมายุ่มย่าม ไม่มีความสกปรกโสมมที่ดึงความเลวร้ายเข้ามา คนที่อยู่ในบ้านก็จะเจริญรุ่งเรือง สงบสุข สบายใจสบายกาย

แต่คนเราจะเอาทุกอย่างก็คงไม่ได้หรอกเนอะ วันนี้เตรียมตัวใส่หมวกแม่ศรีเรือน ก็เลยต้องวางหมวกแม่หมาเอาไว้ก่อน วันนี้คงไม่ได้ไปเยี่ยม รอพรุ่งนี้ละกันนะลูก ตอนนี้ไอ้ลูกหมาดูจะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ได้แล้ว ไม่ต้องห่วงว่ามันจะเหงามันจะหงอยซึมเศร้าอีกแล้ว

หันมาดูทางด้านการงานกันบ้าง เมื่อวานฉันเริ่มประสานงานการออกแบบปกสำหรับเล่ม "ซามูไรสีม่วง" แล้ว เปิดโปรแกรมไลท์รูม เลือกรูปที่ถ่ายตอนไปญี่ปุ่นไว้จำนวนหนึ่งแล้วส่งให้ภาณุที่มารับหน้าที่ออกแบบปกเล่มนี้ไปทำงานต่อ พอเปิดไลท์รูมแล้ว ก็ให้นึกครึ้มใจว่าน่าจะศึกษาการใช้โปรแกรมนี้ให้คล่องๆ ทะลุๆ เสียที จะได้พัฒนาความรู้ความสามารถในเรื่องการถ่ายภาพให้เพิ่มพูนขึ้นจนถึงกระบวนการ "ล้างและอัดรูป" ระยะหลังตั้งแต่มีไอโฟน 4 เนี่ย ฉันไม่จับกล้องใหญ่แม่แคนดี้เลย ยิ่งลูมิกซ์ยิ่งวางเอาไว้เฉยๆ นอกจากในวาระพิเศษ ที่อยากเก็บภาพเป็นพิเศษจริงๆ เช่นตอนที่ลูกเลี้ยงมาเที่ยวที่บ้าน แต่เชื่อไหม จนผ่านนี้ฉันยังไม่ได้อัพโหลดรูปที่ถ่ายไว้ออกมาเข้าเครื่องคอมพ์เลย

ฉันว่าเหตุผลข้อแรกที่ทิ้งการถ่ายภาพไปเลย คือ ความเห่อไอโฟน อันนี้คงแน่นอน ก็มันสะดวก ถ่ายแล้วอัพขึ้นเฟซบุคได้เลย จะแต่งภาพเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำได้ ถ่ายวิดีโอก็ได้ ตัดต่อวิดีโอก็ได้ ถ้าการถ่ายภาพมีไว้เพื่อการอัพบล็อกและอัพเฟซบุค แค่นั้นจริงๆ ไม่คิดจะฝึกฝีมือเรื่องแสงเงา องค์ประกอบ และอื่นๆ เพิ่มเติม ตั้งใจจะเป็นมือสมัครเล่น ถ่ายเล่นๆ ไปเรื่อยๆ เครื่องเล็กเครื่องนี้เครื่องเดียวก็พอแล้ว

แต่ฉันไม่ได้อยากหยุดแค่นั้นนี่ ฉันโชคดีมีหวานใจคอยสอน คอยให้คำปรึกษา คอยซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ให้ ยิ่งอยู่ฮ่องกงของยิ่งถูกกว่าที่อื่น แต่ฉันก็เบื่อแบกกล้องใหญ่ๆ หนักไล่ลู่ เทอะทะแบบแคนดี้แล้ว และกล้องลูมิกซ์ จะเก่งกาจให้ตายยังไงก็เป็นกล้องคอมแพ็ค

แล้วสายตาก็แว่บเหลือบไปเห็น เดอะ ด็อก กล้อง Leica M8 ของหวานใจนอนหมอบนิ่งอยู่บนโต๊ะทำงาน


ทันใดนั้น รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมก็ปรากฎขึ้น





>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2553 11:17:36 น.
Counter : 848 Pageviews.  

- 02 NOVEMBRE 10 แล้วอีกวันหนึ่งก็ผ่านมาเพื่อผ่านไป

แล้วอีกวันหนึ่งก็ผ่านมาเพื่อผ่านไป

วันนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำก่อนอื่นใดคือการไปหาไอ้ลูกหมา ไม่รอถึงตอนบ่ายอย่างเคย พุ่งออกจากจากบ้านตั้งแต่ตอนเช้า กะเวลาให้พ้นช่วงเร่งด่วนคนแออัดในรถไฟใต้ดินแล้วโทรเรียกแท็กซี่มารับไปส่งที่สถานี เรียกทุกวันจนพนักงานรับโทรศัพท์ของแท็กซี่รู้แล้วว่าถ้าโทรจากบ้านนี้ให้ไปส่งที่ไหน

วันนี้ไม่มีอุปกรณ์ปิดโลก ไม่ได้เอาหูฟังไปเสียบฟังเพลง ไมไ่ด้ติดหนังสือไปอ่านระหว่างเดินทางเหมือนเคย เลยนั่งสังเกตการณ์มองรอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ แค่ความหลากหลายของผู้โดยการ การเปลี่ยนถ่ายผู้คนในแต่ละสถานีก็มีความเคลื่อนไหวให้ชวนนำมาเล่าถึงมากมาย นั่งมอง นั่งนึกไปเรื่อยๆ กะจะเก็บมาเขียน แต่พอถึงเวลานั่งอยู่หน้าจอจริงๆ กลับเขียนไม่ออก จับต้นชนปลายไม่ถูก เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยกระเด็นหล่นหายไปตามทาง จากที่นึกตรึกตรองกรองไว้ยืดยาวเอาไปแปะไว้เป็นโน้ตในเฟซบุค เหลือแค่

ประตูกระจกสองบานแยกตัวออกจากกัน ต่อด้วยประตูอีกสองบานของตู้ขบวน ไม่มีผู้โดยสารข้างในออกมา เธอขยับกระเป๋าสะพายที่ไหล่แล้วเดินเข้าไป ตากวาดหาที่นั่งว่าง ที่นั่งว่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดินที่ไหน มักจะว่างแบบสับหว่าง ที่ว่าง ที่ไม่ว่าง ที่ว่าง ที่ไม่ว่าง ไม่ว่าคนชาติไหนก็เลือกจะนั่งแบบไม่ต้องติดกับใครถ้าไม่จำเป็น หากในตู้ขบวนนี้ดูเหมือนจำนวนคนจะมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนที่นั่ง เธอจึงจำเป็นต้องทรุดตัวลงนั่งที่นั่งว่างที่อยู่ระหว่างที่นั่งไม่ว่าง
 
บนที่นั่งไม่ว่าง คนที่นั่งอยู่บ้างนั่งว่างๆ บ้างนั่งไม่ว่าง ตามองตรง ตามองข้าง หลับตา ตาจับจ้องอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ แขนกอดกระเป๋า แขนกอดเด็กน้อยบนตัก แขนกอดอก ขาวางตรง ขากาง ขาชิด ขาไขว่ห้าง
 
บนที่นั่งว่างตรงหน้า เธอมองเงาจางๆ ของตนที่สะท้อนอยู่บนกระจกตู้ขบวนไหลเคลื่อนไปตามการวิ่งของรถไฟ  ในใจบรรยายฉากชีวิตจริงที่เห็นตรงหน้า เธอต้องรวบรวมสมาธิแข็งกล้าเพื่อตะเบ็งเสียงในใจให้ดังกว่าเสียงพูดโทรศัพท์ ของชายชาวฮ่องกงที่นั่งข้างๆ
 
เธอนึกถึงกฎหมายการห้ามพูด โทรศัพท์มือถือในรถไฟใต้ดินที่ญี่ปุ่น เธอนึกถึงกฎหมายการห้ามสูบบุหรี่ในร้านอาหารในฮ่องกง เธอนึกถึงร้านอาหารในญี่ปุ่นที่เราสามารถสูบบุหรี่ได้
 
เธอนึก สงสัยว่า การสูบบุหรี่ในร้านอาหารนั้นรบกวนและเป็นอันตรายต่อคนที่อยู่รอบข้างมากกว่า หรือน้อยกว่าการพูดโทรศัพท์มือถือในรถไฟใต้ดินกันแน่


ไอ้ลูกหมาสบายดี ไม่ได้มีอาการแง่งอนที่ฉันไม่ได้ไปหาเมื่อวานอย่างที่นึกกริ่งเกรงไว้ แถมยังดูสบายอกสบายใจ ไม่ลุกลี้ลุกลนวิ่งพล่าน ยอมอยู่นิ่งๆ ให้เช็ดหน้าเช็ดตัว มีช่วงทอดเวลานั่งเคียงข้างๆ ให้ลูบหัวสงบๆ สายตาที่ทอดมองมาบ่งบอกความผูกพันธ์รักใคร่อย่างไร้เงื่อนไข และยิ่งส่งประกายวิบวับจับใจเมื่อเห็นแครอทกับเนื้อที่ฉันต้มไปฝาก

กลับมาถึงบ้าน นั่งทำงานแปล "ตัวตน" ไปได้สองสามหน้าแล้วหยุด ขยับดึบๆ ดีกว่าไม่ได้ทำเลย





>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2553 17:07:33 น.
Counter : 929 Pageviews.  

- 01 NOVEMBRE 10 ดีบ้าง เลวบ้าง

ดีบ้าง เลวบ้าง



รู้สึกตัวรุมๆ ร้อนๆ หนาวๆ มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เช้านี้ลุกไม่ขึ้น กว่าจะยันตัวจากเตียงได้ก็สิบโมงครึ่ง อากาศเย็น ผิวแห้ง กล้ามเนื้อตึงขึงเหนื่อยล้า ความคิดแว่บแรกที่เข้ามา จะฝืนกายไปเยี่ยมไอ้ลูกหมาไหวหรือเปล่า

ไหวก็คงจะไหวอยู่ แต่กลัวว่าถ้าฝืนสังขาร เดี๋ยวทรุดป่วยหนัก จะแย่ไปใหญ่ ตัดสินใจอยู่บ้านพักผ่อน

ขอโทษนะลูก วันนี้คงต้องชะเง้อคอยเก้อไปก่อน ให้แม่พักผ่อนรวบรวมพละกำลังวันนึง เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปหาแต่เช้าเลย --- ถ้อยคำพร่ำซ้ำวนในสมองทั้งวันเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง

เสียงเครื่องตัดหญ้าดังแต่กๆๆๆๆ ทั้งวันจากข้างบ้าน เครื่องหน้าตายังไงเนี่ย ทำไมเสียงดังลั่นขนาดนี้ ถ้าไม่เคยชินจากการก่อสร้างรอบบ้านตอกเปรี้ยงๆ ปึงปัง ตอนอยู่อินเดียมาเป็นปี สงสัยจะได้มีหงุดหงิด

วันนี้เปลี่ยนเครื่องคอมพ์ที่ใช้ทำงานมาเป็นเครื่องไอแม็คจอ 24 นิ้ว กว้างใหญ่เต็มตา แต่กระจกหน้าจอสะท้อนแสงที่เข้ามาผ่านกระจกหน้าต่างมากไปนิดนึง อาศัยขยับหลบมุมเอา พอถูไถ หน้าจอใหญ่สะใจ ขยายขนาดตัวหนังสือเป็นตัวเป้งๆ พิมพ์แล้วรู้สึกได้เนื้อได้หนัง สวมเสื้อเบอร์ห้านั่งแปลหนังสือขมีขมัน งานพุ่งพรวด แทบจะเหมือนสมัยที่ยังท็อปฟอร์มนั่งแปลได้ทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว

ไอแม็คเครื่องนี้หวานใจเพิ่งซื้อมาใช้เมื่อสองเดือนที่แล้ว เครื่องใหญ่ ความเร็วสูง เอาไว้ใช้ทำงานภาพถ่าย แต่เอาเข้าจริงๆ งานภาพถ่ายนานๆ ได้ทำที ไอ้ที่เขาใช้ทุกวันก็แค่เปิดเว็บไซต์ดูรายงานพยากรณ์อากาศตอนเช้า (จะได้รู้ว่าควรไปทำงานด้วยมอเตอร์ไซค์หรือจะขับรถยนต์ไป) เปิดแคตาล็อคอุปกรณ์ตกปลา ดูยูทูปสาธิตการพันแมลง เว็บอัพเดทการถ่ายภาพ และเนื่องจากหน้าจอใหญ่ ขณะที่เก้าอี้เตี้ย ทำให้เขาต้องเงยหน้าตั้งคอแทบจะตลอดเวลา ครั้นจะเปลี่ยนเก้าอี้มาใช้เก้าอี้สูงถูกสุขภาพแบบฉัน ราคาเก้าอี้ก็สูงเกินเลย จึงเริ่มสรุปได้ว่า ถ้าวันๆ ใช้แค่นี้จริงๆ เขาน่าจะเหมาะกับแล็บท็อปมากกว่า หน้าจอตั้งเตี้ยๆ อยู่ตรงหน้า ไม่ต้องแหงน พอไอแม็คสีขาวของฉันรวนบูตไม่ขึ้น เขาเลยยกเครื่องนี้ให้ฉันใช้ไปก่อน แล้วเดี๋ยวเขาจะไปสอยแม็คบุคโปรหลังจากนั่งเปรียบเทียบดูสเปคกับแม็คบุคแอร์รุ่นใหม่อยู่นาน

ภาพประกอบเป็นภาพชีวิตเมื่อวาน แวะไป IKEA ซื้อกล่องพลาสติกใสมาเก็บข้าวของที่อยู่ในลังกระดาษ จะได้เห็นชัดๆ ว่าอะไรอยู่ที่ไหน บ้านจะได้พ้นจากสภาพครึ่งๆ กลางๆ รอเวลาจัดให้ลงตัวเสียที พอแวะไปเลยได้โอกาสซื้อตู้เหล็กสีแดงเข้าชุดกับชุดลิ้นชักแดงที่มีอยู่ มาเก็บกล่องอุปกรณ์ทำแมลงตกปลาและอื่นๆ สารพันที่กองอยู่หลังโต๊ะทำงาน สลายอะไรต่อมิอะไรตรงนี้ให้เรียบร้อย

ตอนแรกหวานใจอยากได้เป็นตู้ไม้แบบสั่งทำซึ่งราคาเป็นหมื่น ขณะที่ตู้เหล็กนี้ราคาไม่ถึงพัน ประหยัดเงินไปได้ตั้งเยอะ เอาเงินที่เหลือไปซื้อกล้องแคนอนตัวใหม่ได้เลยนะเนี่ย ปะ ไปซื้อกันเลยละกัน --- สามีภรรยาบริโภคนิยมคุยกันขำๆ โดยในใจก็รู้ว่าอย่าเผลอให้มีจังหวะเจอนะ เรื่องขำๆ ได้กลายเป็นจริงแน่ๆ

ซื้อของเข้าบ้านเสร็จแล้วลองเส้นทางใหม่ ขับรถสำรวจฝั่งเกาลูนกันต่อ มุดเข้าอุโมงค์ทางตะวันตกไปเยี่ยมไอ้ลูกหมา

เฮ่อ เห็นรูปแล้วก็คิดถึง อดทนรอนิดนึงนะลูก ให้แม่รวบรวมพละกำลังก่อน พรุ่งนี้แม่จะไปหาแต่เช้าเลย




>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2553 16:14:20 น.
Counter : 925 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.