-:- Just alright, My life is Great -:-
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2566
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
24 สิงหาคม 2566
 
All Blogs
 
Soft Power ในการ์ตูนญี่ปุ่น

ซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) หากนิยามแบบกว้าง ๆ ซอฟต์ พาวเวอร์ก็คืออำนาจโดยปราศจากกำลังทางทหาร (Non-military power) ไม่ว่าจะเป็นอำนาจทางวัฒนธรรม ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ซอฟต์ พาวเวอร์คืออิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อพฤติกรรม ความนิยมชมชอบ มุมมอง แนวคิดของผู้คน

ซอฟต์พาวเวอร์ มีลักษณะสำคัญคือการที่ทำให้คนอื่นชื่นชอบ ด้วยการเชิญชวน ไม่ใช่ด้วยการบังคับให้ต้องชอบ หรือยัดเยียดให้คนอื่นต้องเห็นคล้อยตาม แต่ต้องทำให้มีความน่าสนใจ น่าตื่นตาตื่นใจ จนคนหลงใหลไปกับมัน

ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้ซอฟต์พาวเวอร์ได้ค่อนข้างเก่ง โดยเฉพาะในการ์ตูนอนิเมชั่น ซึ่งในปัจจุบันได้มีการส่งออกไปทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ทางตะวันตกอย่างในยุโรป อเมริกา ซึ่งมันก็ได้ผล ทำให้คนที่ได้รับชมเห็นแล้วรู้สึกอยากไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ อยากทาน หรืออยากทำอะไรก็ตามแบบในการ์ตูน เพื่อตามรอยการ์ตูนเรื่องที่ตนเองชอบ ดังจะเห็นได้จากโตเกียวโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งนักกีฬาหลายๆ คนแสดงออกอย่างชัดเจน




"แผนที่ท่องเที่ยวตามรอยการ์ตูนอนิเมะ"




คุณคิดว่าคนญี่ปุ่นจริงจังกับเรื่องที่ดูเหมือนเรื่องเล่นๆ แบบนี้มากแค่ไหน? เขามีเป็น เว็ปไซด์ หรือจะโหลดเป็น App ไปใช้เพื่อตามรอยการ์ตูนเลยก็สามารถทำได้

จุดที่น่าสนใจคือ สถานที่ท่องเที่ยว เราจะเห็นได้ว่าการ์ตูนแต่ละเรื่อง เนื้อเรื่องตั้งอยู่บนภูมิภาคที่แตกต่างกัน ซึ่งในส่วนนี้ส่งผลดีในการเซตตำแหน่งของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทัศนศึกษา การท่องเที่ยว ถ้าเป็นทางฝั่งคันโตที่พานักเรียนไปเที่ยว เกียวโต โอซาก้า นารา ไปชมวัดทองคำ คิโยมิสึ ดูกวาง หรือทางคันไซพาไปเที่ยว ฮอกไกโด หรือโอกินาว่าซะเลย เรามักจะเจอฉากเหล่านี้ในการ์ตูนหลายเรื่อง

ที่กล่าวมาข้างต้นการนำตัวละครไปเที่ยวในสถานที่ยอดนิยมที่มีอยู่ แต่ความยอดเยี่ยมในการเที่ยวตามรอย คือการไปในสถานที่ซึ่งแต่เดิมเป็นสถานที่ที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีชื่อเสียง หรือเป็นแค่ฉากหนึ่งที่ตัวละครในการ์ตูนเดินผ่านเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นพื้นที่ผู้คนมากมายเดินทางไปชมไปสัมผัสด้วยตัวเองต่างหาก หลายคนเที่ยวตามรอยการ์ตูน โดยไม่สนแหล่งท่องเที่ยวหลักทั่วไปก็มี ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นและไม่ใช่แค่ผู้ชมในประเทศ แม้แต่คนต่างชาติก็ตามรอยกันไม่น้อยเลย คนไทยก็มีนะ ที่ไปเที่ยวตามรอย


ตัวอย่างจากกระทู้ในพันทิป แค่เข้าไปดูก็สนุกตามแล้วครับ
ความทรงจำของเคียวอนิ อนิเมเปื้อนยิ้ม และความอบอุ่น Lucky Star, Maid Dragon
อนิเมชั่นของญี่ปุ่นที่ใช้สถานที่จริงเป็นต้นแบบภาพในเรื่อง
ฉลองอนิเมภาคสองของ Yuru Camp



หรือแม้แต่ เส้นทางแสวงบุญที่ย่านอากิบะในโตเกียว ที่ปกติมีคนไปเที่ยวมากอยู่แล้วก็ยิ่งตอกย้ำให้กลายเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่หากจะกล่าวถึงงานที่เป็นอีเว้นต์การ์ตูนซึ่งเป็นงานที่เฉพาะทางมากๆ อย่างงาน คอมิเกะ ก็มีคนต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่ตามรอย คนไทยไปลุยด้วยตัวเองก็ยังมีเลย

ประสบการณ์เที่ยวComiket


"อันนี้เจ๋งดีครับ ทำเป็นคลิปตามรอย Love Live! Sunshine!! เลย มี 4 ตอน"






สิ่งหนึ่งที่ผมเสียดายแทนคนไทย คือ โรงภาพยนตร์สกาล่าของไทย ที่ไปโผล่ในอนิเมะนิจิกะซากิ! ครับ ญี่ปุ่นช่วยสร้างจุดขายเพิ่มให้โดยโยงกับอนิเมะ แต่เรากลับทำลายทิ้งเสียได้ โดยในอนิเมะเรื่อง Love Live! Nijigasaki High School Idol Club ซีซั่น 2 ตอนที่ 13 ชื่อตอนว่า "ความตื่นเต้นเร้าใจ จงก้องกังวาน" ได้มีการนำโรงภาพยนตร์ของประเทศต่างๆ ที่เคยฉายคอนเสิร์ต「First Live "with You"」มาไว้ในตอนนี้ด้วย แน่นอนว่าที่ประเทศไทยฉายที่โรงภาพยนตร์สกาล่า ก็มีโรงภาพยนตร์สกาล่าปรากฎให้เห็น โดยคอนเสิร์ตคนแสดงจริงชื่อ「First Live "with You"」ฉายที่โรงภาพยนตร์สกาล่าในวันที่ 5 มกราคม 2563 ส่วนคอนเสิร์ตเวอร์ชั่นอนิเมะก็ใช้ชื่อ「First Live "with You"」เช่นกัน



"โรงภาพยนตร์สกาล่าในอนิเม แต่เปลี่ยนชื่อเพื่อไม่ให้โดนฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์"



"โรงภาพยนตร์สกาล่า ที่เป็นสถานที่จริง ปัจจุบันทุบทิ้งไปแล้ว"




อาหาร ก็จัดเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในการ์ตูนญี่ปุ่นก็มีให้เห็นมากมาย ความจริงแล้วมันก็เป็นแค่อาหารที่คนทั่วไปกิน และหาซื้อได้ทั่วไปนี่แหละ อาหารบางอย่างพอเราเห็นแล้วเรานึกถึงตัวละครบางตัวขึ้นมาเลยก็มี



"อาหารบางอย่างก็ไม่ใช่อาหารญี่ปุ่น แต่ก็สามารถใส่เข้าไปได้"


จากตัวอย่างที่เห็น ผมเห็นอิสุมิผมนึกถึงช็อกโกโคโรเน็ตทันที ภาพมันลักษณ์มันติดตา เมื่อผ่านร้านขายขนมปังยามาซากิผมซื้อทานเลยครับ ช่วงนั้นยังไม่มีแบบ ช็อกโกโคโรเน็ต มีแต่โคโรเน็ตครีม ก็ซื้อแบบครีมนี่แหละ คือมันอยากรู้ว่าความรู้สึกที่อิสุมิมันกิน มันรู้สึกอย่างไร



"ค่อนข้างหลากหลายเลยนะ ทั้งที่มันก็เป็นแค่อาหารทั่วไป"


ภาพในส่วนนี้เห็นได้ค่อนข้างชัดจากขนม โดรายากิ ที่หลายๆ คนเรียก ขนมโดราเอมอน มันเป็นที่รู้กันไปแล้วว่าพูดถึงขนมชนิดนี้จะนึกถึงโดราเอมอนขึ้นมาก่อนเลย



"บางครั้งก็มีความร่วมมือระหว่างแบรนด์ แบบกรณี PIZZA HUT หรือจะเรียกมีฮาร์ดเซลล์ก็ไม่ทราบ"


พูดถึงซีทู ก็ยากที่จะไม่นึกถึง PIZZA HUT ในการ์ตูนอาจดูฮาร์ดเซลล์ไปหน่อย หรือจะมองว่าเป็นความร่วมมือกัน ก็อาจมองแบบนั้นได้เหมือนกัน มีช่วงหนึ่งที่ญี่ปุ่น แข่งกัน 2 เจ้าแบบรุนแรงมาก แน่นอนว่าพี่ไทยก็รับในส่วนนี้มาด้วย โปรโมชั่น นารายณ์พิซเซอเรีย

แต่ภาพของอาหารบางอย่างก็ไม่ชัดเจนเหมือนกัน เนื่องจากตัวละครที่กินอาหารประเภทนั้นๆ มีเยอะ อย่างเช่น กรณีของราเมนที่หลายๆ คนอาจนึกถึง นารูโตะมากกว่า



"เต้าหู้ อูด้ง ก็ยังใส่มาได้ ของพื้นๆ นี่แหละ"


จากภาพที่เห็นอาหารก็เป็นอาหารทั่วๆ ไปที่สามารถหาซื้อได้สะดวก ใครจะไปบ้ากินซูชิกันทุกวัน มันแพงนะ คนญี่ปุ่นยังไม่ทำเลย ก็ไม่ต่างจากของไทยหรอกใครจะบ้ากินต้มยำกุ้งทุกวัน แม้จะมีก็เถอะ แต่มันไม่ใช่วิถีปกติที่วิญญูชนจะทำหรอก






"เมดคาเฟ่ @home ที่ญี่ปุ่น"


วัฒนธรรมที่ยืมมา ของหลายอย่างที่หยิบมาขายไม่จำเป็นต้องเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของท้องถิ่น มันขึ้นอยู่กับวิธีการที่จะหยิบมาใช้เสียมากกว่า เช่น วัฒนธรรมเมด การเปิดร้านเมดคาเฟ่ ซึ่งไม่ใช่ของญี่ปุ่น แต่คนญี่ปุ่นกลับหยิบมาใช้จนกลายเป็นว่า ถ้าพูดถึงเมด ผู้คนไม่น้อยก็จะนึกถึงประเทศญี่ปุ่น

สาวใช้ในการ์ตูน
[รีวิว] Maid café maidreamin


สิ่งที่จะเอามาขายมันไม่จำเป็นต้องเป็นของไทย 100% หรอก มันอยู่ที่ว่าเราจะหยิบอะไรมาขาย อย่างเช่น เสื่อโยคะ ที่ผลิตที่อเมริกา ทั้งที่โยคะเป็นของอินเดีย อีกอันที่ผมมองว่าเหลือเชื่อคือ โรตีราดนมโรยน้ำตาล ที่ขายในจีน คนจีนติดป้ายเลยว่าของไทย คุณอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกแต่รู้หรือไม่ว่า เหล้าชื่อดังอย่างเหล้า อะวาโมริ ของจังหวัดโอกินาวา กลั่นจากข้าวเจ้าไทย น่าขำจริงๆ สำหรับเรื่องนี้







กล่าวถึงมุมมองการ์ตูนญี่ปุ่นไปแล้ว มาดูที่การ์ตูนหรือภาพยนตร์ของไทยบ้าง หลายเรื่อง มันไม่มีมิติเลย มีแต่จะยัดความเป็นไทยเข้าไปจนมากล้น ซึ่งมันไม่ใช่แล้ว แบบนั้นมันไม่ใช่ซอฟต์ พาวเวอร์แล้ว

ถ้าดูการ์ตูนแนว Slice of Life (เยียวยาจิตใจ) เยอะ จะเห็นเลยว่าเขาไม่ได้พยายามใส่วัฒนธรรมเข้าไปเท่าไหร่เลย ก็แค่การใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป โดยที่ยังดูมีมิติของเรื่องราวไม่ใช่ยัดห่า ในขณะที่ของบ้านเราเรื่องราวเกิดที่พื้นไหน (ก็ไม่ทราบ) อยู่บ้านทรงไทย (แสดงว่ามีฐานะ ไม้สักทั้งหลัง แต่ทำไมดูจน) ใส่ชุดไทย (แต่เดินตามท้องถนนไม่ค่อยเจอนะ) คือมันขัดแย้งไปหมด มันดูไม่มีมิติของความเป็นเรื่องราวจนทำให้ดูเฟค



สำหรับการ์ตูนแนว Slice of Life เราจะตัดประเด็น "Cute Girls Doing Cute Things" (ต่อไปนี้จะเรียก CGDCT) เพราะถือเป็นจุดร่วมในแต่ละเรื่อง โดยเราจะเข้าไปดูเรื่องราวว่าในเรื่องนั้น ตัวละครในเรื่องทำอะไรกันบ้าง หลายคนอาจไม่ค่อยชอบแนว CGDCT แต่ผมมองว่า ดูของสวยๆ งามๆ หรืออะไรที่มันน่ารักดีกว่าดูอะไรที่น่าเกลียดนะครับ




"เครื่องดนตรีแต่ละชิ้นในเรื่อง มีอยู่จริงนะ"


เค อง
สำหรับเค องเป็นเรื่องราวของเด็กสาวที่ต้องการจะก่อตั้งชมรมดนตรี K On ขึ้นมา ในเรื่องไม่ค่อยเล่นเกี่ยวกับตนดรีเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่เราจะเห็นในเรื่องนี้คือ เครื่องดนตรีทุกชิ้นในเรื่องมีของจริงครับ ไม่ใช่วาดออกมามั่วๆ เรียกได้ว่าถ้าอยากจะเล่นดนตรีตามในการ์ตูนก็สามารถทำได้ แต่ราคาต่างหากที่อาจเป็นปัญหา

เครื่องดนตรีของ Yui : กีต้าร์ Gibson 1999 Les Paul Standard SB ราคาอยู่ที่ราวๆ 250,000.- เยน
เครื่องดนตรีของ Mio : เบส Fender AMERICAN VINTAGE '64 JAZZ BASS ราคา 262,500.- เยน
เครื่องดนตรีของ Ritsu : กลองชุด Yamaha Hipgig ราคา 237,300.- เยน
เครื่องดนตรีของ Tsumugi : คีย์บอร์ด Korg Triton Extreme 76-key ราคา 160,259.- เยน
เครื่องดนตรีของ Azusa : กีต้าร์ Fender Japan Mustang MG69MH ราคา 74,760.- เยน (เหมือนจะถูกสุดแล้ว)



"ตะเกียงที่นาเดชิโกะซื้อ เทียบกับของจริง"


Yuru Camp
เป็นเรื่องราวของสาวๆ ที่ชื่นชอบการตั้งแคมป์ โดยเน้นที่ชิมะ ริน ผู้ชอบเดินทางตั้งแคมป์ค้างแรมในทะเลสาปใกล้ภูเขาไฟฟูจิเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงาม เธอออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ มีครั้งหนึ่งเธอได้พบกับ นาเดชิโกะ สาวน้อยที่พึ่งย้ายมาใหม่ และสนใจการตั้งแคมป์เหมือนกัน จึงเริ่มสนิทกันภายหลัง

เรื่องนี้สิ่งที่แทรกเข้าไปคือเรื่องการตั้งแคมป์อย่างไม่ต้องสงสัยเลย พวกอุปกรณ์แคมป์ในเรื่องก็มีขายจริง ซึ่งราคาก็ไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกัน แน่นอนว่าจุดตั้งแคมป์ในเรื่องก็เป็นของจริง รวมไปถึงทริคบางอย่างในการตั้งแคมป์ในเรื่องก็แทรกเข้ามาได้อย่างแยบยล



"ร้านขายขนมแบบสมัยก่อนของญี่ปุ่น"


สาวใสหัวใจบ้านทุ่ง
เป็นเรื่องราวของอิจิโจว โฮตารุที่ต้องย้ายบ้านจากโตเกียวเมืองหลวงที่แสนเจริญ ไปอยู่ชนบท ซึ่งสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากในเมืองอย่างสิ้นเชิง ทำให้เธอได้พบเจอกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่สามารถหาได้ในเมือง

เรื่องนี้ดูไม่มีอะไรขายได้เลย ขายความบ้านนอกครับ บรรยากาศบางอย่างแบบยุค 90 ที่หาไม่ได้จากในเมือง เล่นกับเพื่อน ร้านขนมที่ไม่ใช่ห้าง ที่สำคัญมีสถานที่จริงในเรื่องเช่นเดียวกับการ์ตูนเรื่องอื่นๆ




เรามาดูเรื่องอื่นที่ไม่ใช่แนว Slice of Life กันบ้าง



"เสื้อคลุมที่มีเอกลักษณ์ของเรื่องดาบพิฆาตอสูร"


ดาบพิฆาตอสูร
เรื่องนี้แนวแฟนตาซีเลยครับ ปราบปีศาจ เรื่องนี้ถือว่าแยบยล และน่าสนใจในส่วนของสินค้าที่ผลิตออกมาวางจำหน่าย เช่นพวกเสื้อคลุมที่มีการตัดแปลงและใส่เอกลักษณ์ใหม่ๆ ลงไปจนเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องซึ่งเห็นแล้ว หลายๆ คนจะนึกถึงตัวละครในเรื่องนี้ทันที ในขณะที่วัฒนธรรมของไทยเรานั้น หยิบจับดัดแปลงแทบไม่ได้ แล้วเราจะขายอะไร? แค่ทศกัณฐ์หยอดขนมครกแทบไม่ได้ดัดแปลงอะไร ยังเป็นเรื่องเลย



"วัฒนธรรมไอดอล"


เลิฟไลฟ์
เรื่องนี้เนื้อเรื่องจะประมาณว่าโรงเรียนกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตเนื่องจากมีนักเรียนสมัครเข้าเรียนน้อยลง จนอาจจะต้องปิดตัวลง จึงมีนักเรียนที่เรียนอยู่ร่วมมือกับเพื่อนๆ เพื่อหาหนทางที่จะช่วยให้มีนักเรียนเข้ามาสมัครมากขึ้น หนทางนั้นก็คือ การที่พวกเธอจะต้องเป็นสคูลไอดอลที่โด่งดังให้ได้!

ซีรี่ย์เลิฟไลฟ์ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือขายวัฒนธรรมไอดอล ซึ่งดัดแปลงจากไอดอลในสมัยก่อนจนแทบไม่เหลือภาพเดิมๆ เลย จะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมที่พึ่งสร้างก็อาจจะเรียกแบบนั้นได้




จะเห็นได้ว่าการ์ตูนแต่ละเรื่อง มันมีจุดที่ดึงออกมาขายได้ โดยการใส่ความสมจริงลงไปบ้าง แต่ไม่ต้องพยายามจะขายจุดสำคัญในเรื่องให้มากนัก แค่กล่าวถึงบ้างเป็นบางครั้งก็พอ ที่สำคัญของใช้ที่ในเรื่องที่ต้องการจะขาย มันต้องเป็นของที่มีอยู่จริง ไม่ใช่ของสมมติ สถานที่ส่วนมากก็ควรเป็นสถานที่จริง แต่อาจเอามาดัดแปลงก็เท่านั้น จะบอกเป็นเมืองสมมติก็ได้ แต่ต้องให้คนดูรู้ไว้หน่อยว่ามันอยู่ในพื้นที่บริเวณไหนของโลก

อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ การดัดแปลงวัฒนธรรมเดิมพวกลายเสื้อคลุมที่ดูแปลกตา การดัดแปลงลักษณะนี้มันคือความก้าวหน้า คนเห็นแล้วก็จะนึกถึงเสื้อคลุมแบบเก่า (คนไม่ลืมของเก่าหรอก) และของใหม่ก็สามารถขายได้ด้วย เรียกได้ว่า โคตรจะวินวินเลย วัฒนธรรมที่แตะต้องไม่ได้ดัดแปลงอะไรไม่ได้เลย มันก็คือวัฒนธรรมที่ตายแล้ว ขาดก็แค่รอให้คนรุ่นใหม่ลืมมันไปก็เท่านั้น

ที่กล่าวมายังไม่รวมวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่พึ่งสร้างของเรามีในส่วนนี้หรือไม่เป็นคำถามที่ผู้มีอำนาจทั้งหลายควรนำไปขบคิด ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย เราพยายามเน้นความเป็นไทยเหลือเกิน จนกลายเป็นยัดเยียดสิ่งที่ต้องการขายแบบนี้ยิ่งกว่าฮาร์ดเซลล์อีก ทั้งที่คุณดูสิ มิลลิกินข้าวเหนียวมะม่วง มันก็แค่ข้าวเหนียวมะม่วง ของพื้นๆ มาก มันสำคัญที่การไม่พยายามยัดเยียดเข้าไปเพื่อทำการขาย


"ฝาท่อตัวละครต่างๆ ของเรื่อง Love Live! Sunshine! ในเมือง"


แค่ฝาท่อ กับเรื่องราวในการ์ตูนก็สามารถขายได้แล้ว กับการตามหาฝาท่อ Love Live! Sunshine! แล้วคิดว่าคนที่เป็นแฟนจะพลาดหรือ? ต่อให้ไม่ใช่แฟนเห็นยังอยากตามให้ครบเลย บล็อกตามรอยฝาท่อ มีคนตามรอยจริงด้วยนะ




"จังหวัดกิฟุ ชิราคาว่า"




อีกอันหนึ่งที่ผมมองว่าน่าสนใจ และมองว่าทางญี่ปุ่นประยุกต์การท่องเที่ยวกับการ์ตูนได้ดี คือ โปรเจค Always with you จากเรื่อง "ขาดคุณนางฟ้าข้างห้องไป ผมคงมีชีวิตต่อไปไม่ได้อีกแล้ว" ซึ่งนำตัวละครอย่าง มาฮิรุ นางเอกของเรื่องไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ลองคลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้เลย เขาถ่ายภาพสวยนะ แค่เข้าไปดูอย่างเดียวก็เพลินแล้ว (แต่มันดันทำให้เรารู้สึกอยากไปเที่ยวด้วยนี่สิ)

ไหนๆ ก็พูดถึงจังหวัดกิฟุ ชิราคาว่า หมู่บ้านนี้เป็นต้นแบบของหมู่บ้านแถบชนบทที่ชื่อว่าฮินามิซาวะ จากเรื่องยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้องด้วยนะครับ





กลับมาดูที่ประเทศเราบ้าง อาหารไทยอย่าง ต้มยำกุ้ง คุณกินประจำเหรอ? เราเน้นในส่วนนี้เกินไปหรือไม่ทั้งที่ถ้าดูในชีวิตประจำวันแล้ว อาหารที่คนไทยกินประจำคืออะไร? ข้าวราดแกง ข้าวเหนียวหมู่ปิ้ง กล้วยแขกไงครับ ผลไม้รถเข็นไงครับ นี่แหละวิถีชีวิตจริงที่ไม่เฟค นวดไทย คุณนวดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? คนไทยนวดบ่อยแค่ไหน? กี่มากน้อย? มวยไทย ทุกคนรู้จักทุกคนทราบ แต่ความหมายท่ารำ ท่าต่างๆ ชื่อท่า ความสนุกในการรับชม มีคนรู้ข้อมูลนี้มากน้อยเพียงใด ในเมื่อมวยไทยแทบจะไม่ได้อยู่ในชีวิตประจำวันเลยถ้าคุณไม่ได้เป็นคนชอบดูมวย กิจกรรม หรือวิชาพละในโรงเรียนยังไม่มีเรียนเลยด้วยซ้ำ

ละครไทย ภาพยนตร์ไทย หลายเรื่องตัวละครไร้มิติมาก แม้ว่าตอนนี้เราจะขายในเอเชียได้มากขึ้นก็ตาม (ซีรี่ย์ Y แต่รัฐก็ไม่ค่อยสนับสนุน) คำถามคือเราจะเปิดตลาดใหม่ได้อย่างไร ข้อนี้มันก็วนไปที่เรื่องที่ได้กล่าวมา ละครไทย หลายเรื่องเดินเรื่องส่วนไหนของประเทศไทย ในเรื่องไม่ได้กล่าวถึง หรือแม้แต่คนเขียนบทยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดในเรื่องการตามรอยเลย





ซอฟต์ พาวเวอร์ไทย ถ้าอยากขายได้ต้องปรับปรุงอีกมาก ที่สำคัญเราดัดแปลงวัฒนธรรมที่จะเอาไปขายได้หรือไม่? ตัวอย่างพวกโขนหรือท่ารำ แค่ดัดแปลงนิดเดียวก็จะเป็นจะตายกันแล้ว ถ้าเรายังติดอยู่ในจุดนี้ก็ยากที่จะเอาไปขายได้อย่างที่ภาครัฐวาดฝันไว้ ที่ออกมาพูดในส่วนนี้ไม่ได้ต้องการให้ผู้อ่านหมดกำลังใจ แต่เพื่อเป็นการชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ และความยากลำบากในการผลักดันซอฟต์ พาวเวอร์ไทย เรายังคิดแต่จะขายแต่ของเก่าๆ ไม่ขายของใหม่เลยอย่างนั้นหรือ? อะไรก็ตามที่ไม่มีการพัฒนา มันก็แค่การนับถอยหลังไปสู่จุดจบ ก็เหมือนคอมพิวเตอร์น่ะแหละไม่อัปเกรด นานไปมันก็ใช้ไม่ได้ก็แค่นั้น

สุดท้าย คำว่าซอฟต์ พาวเวอร์ของไทย มันจะไปได้ไกลแค่ไหน ส่วนหนึ่งก็มาจากภาครัฐนี่แหละ ที่ผ่านมาภาคเอกชนทำเอง ชงเองกินเองเยอะแล้ว ถ้าทางภาคเอกชนได้รับการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐที่ไม่ทำตัวหัวโบราณ เราจะขายอะไรได้อีกเยอะ สวัสดี


Create Date : 24 สิงหาคม 2566
Last Update : 24 สิงหาคม 2566 0:35:04 น. 35 comments
Counter : 1515 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse, คุณกะว่าก๋า, คุณเริงฤดีนะ, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณปรศุราม, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณ**mp5**, คุณnonnoiGiwGiw, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณThe Kop Civil, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSweet_pills, คุณRain_sk, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณtuk-tuk@korat, คุณเนินน้ำ, คุณสองแผ่นดิน, คุณชีริว


 
คำชี้แจง


บล็อกนี้อยู่ในหมวด
Cartoon Blog เป็นหนึ่งในบล็อกที่ภูมินำเสนอมากที่สุดบล็อกหนึ่งในรอบปีนี้เลยครับ เห็นด้วยไม่เห็นด้วย สามารถถกกันในบล็อกนี้ได้


โดย: คุณต่อขอชี้แจง (toor36 ) วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:0:06:26 น.  

 

ไม่คิดว่าโรงหนัง สกาล่ายังอยู่

จังหวัดกิฟุ ชิราคาว่า ดูน่าอยู่


โดย: newyorknurse วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:2:39:44 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ

ประเทศที่ทำโครงการแบบนี้เก่งมากๆ
พี่ก๋าเห็นชัดสุดน่าจะมีญี่ปุ่นกับเกาหลีนี่ล่ะครับ
สร้างรายได้มหาศาลเข้าประเทศ

ญี่ปุ่นบางเมืองที่เคยไป
มีตามรอยสึบาสะด้วย
แล้วไม่ใช่ลงทุนอะไรเยอะนะครับ
แค่ทำป้ายอธิบาย มีรูปปั้น มีจุดเช็คอิน
เท่านี้ย่านนั้นก็คึกคักแล้ว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:5:22:10 น.  

 
สวัสดีคะคุณต่อ..

ชอบการ์ตูนตาโต..อิอิ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:5:46:07 น.  

 
ตามรอย .. มีให้เห็นเป็นระยะ... เช่นฝาท่อเหล็ก
ที่ญี่ปุ่นเขาทำสวยเป็นสัญญาลักษณ์

ดูจะหนาไม่เป็นสนิมแบบ แหะ ๆ ที่ไทยเหยียบ
แล้วหลุดลงบาดขาพี่ ปอ..พี่ร่วม ต้องรีบมาช่วย

แต่ก็ดีนะผมว่าการนำสิ่งที่แปลกมาช่วยการท่องเที่ยวเกิดจินตนาการไม่มีที่สิ้นสุด..


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:6:39:06 น.  

 
เอ็นทรีนี้นึกว่าเข้ามาผิดบล็อก
ต้องรียปัดมากูชื่อบล็อก
นึกว่าเป็นบล็อกคุณทุเรียนกวนฯ
คริ คริ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:6:47:59 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณต่อ

พี่แวะมาส่งกำลังใจยามเช้าค่ะ


โดย: tanjira วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:7:38:21 น.  

 
เพิ่งจะรู้ว่ามีโรงหนังไทยในการ์ตูนญี่ปุ่นด้วย
พิซซาแบบญี่ปุ่นนี่ไม่เหมือนพิซซาฮัทนะ
แนะนำให้คุณต่อไปลองกินที่ร้านออนเดอะเทเบิ้ลจ้า





โดย: หอมกร วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:7:51:51 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:10:03:24 น.  

 
จริงๆ Soft power สำคัญมากเลยครับ เรียกว่าเป็นการส่งผ่านวัฒนธรรมได้เลย
วัดทองที่เกียวโตนี่ผมเพิ่งคุยกับลูกค้าเองครับว่าคนไทยชอบไปเพราะอิคคิวซัง 55555

เพิ่งรู้ครับว่าสกาล่าไปอยู่ในอริเมะด้วย

อาหารนี่เรื่องจิงครับ โซจูของเกาหลีนี่เห็นๆ
ถึงผมจะไม่ใช่คนชอบกินอาหารญี่ปุ่นและก็เคยกินมาแล้วทุกอย่าง 5555
วันก่อนผมขับรถไปส่งหลานที่ รร ผ่าน โรงเรียนอื่นๆ เห็นเด็กใส่เสื้อคลุมเนสึโกะ หลายคนเลยครับ รร นั้นน่าจะมีงาน
ฝาท่อผมก็ชอบเดินดู
หมู่บ้านฮินามิซาวะ ชิราคาว่า หมู่บ้านโอชิน คนไทยก็ชอบไปเพราะโอชินนี่แหละครับ

ละครไทยยังเป็น soft power ไม่ได้จริงๆ ครับ พังพินาศ ตบดี ด่าทอ พระเอกขมขื่นนางเอก สุดท้ายรักกัน หือออออ
ยิ่งดูยิ่งปวดหัว


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:13:11:19 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องต่อ

อ่านจบนะ แต่ไม่ค่อยชินกับเรื่องราวที่ออก
มาเป็น การ์ตูนอนิเมชั่น แต่ก็ภูมิใจ นะ มีของไทย
เข้าไปร่วมด้วย คือ เรื่องเหล้าและโรงหนังสกาล่า
ครูก็เคยเข้าไปดูภาพยนตร์ที่ฉายที่โรงหนังนี้ น่า
เสียดาย ปัจจุบันนี้ รื้อทิ้งไปแล้ว
ได้ความรู้ คำศัพท์ คือคำว่าซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) วันนี้ได้รู้ความหมายที่แท้จริงของ
มันเพิ่มความรู้ขึ้นมา 1 คำ อิอิ
โหวดหมวด การ์ตูน


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:13:13:29 น.  

 
ยังแอบเสียดายโรงสกาล่าเหมือนกันนะครับ ญี่ปุ่นซอฟต์พาวเวอร์เค้าแรงจริง ๆ นะครับ บ้านเราผมว่าซอฟพาวเวอร์ด้านการท่องเที่ยวน่าจะโอเค ขอแค่รัฐสนับสนุนจริง ๆ จัง ๆ ด้วย ส่วนอาหารพอคุณต่อมาเขียน เออจริงเลยข้าวราดแกง ข้าวเหนียวหมูปิ้งนี่หละ ที่กินเป็นประจำเลย


โดย: The Kop Civil วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:15:32:29 น.  

 
วันนี้คุณต่อมาพร้อมข้อมูลแน่นมาก..
เราว่าบ้านเมืองเรามีหลายอย่างเลยที่สามารถ
เอาไปต่อยอดได้ แค่...เฮ้อออ

ไม่อยากจะพูดถึงเลย แต่เรื่องเดียว
ที่วุ่นวายอยู่ทั้งประเทศในตอนนี้คือ
เรื่องการเมืองมันห่วย เหมือนเราโดนคนกลุ่มนึง
ยึดเอาประเทศไปยำแล้วก็หาแดกกันแค่ในกลุ่มเขา
คนทั้งประเทศก็ทำอะไรไม่ได้ น่าเบื่อมาก
อย่างเกาหลี ยังสามารถ เอาร้านอาหารบ้านเรา
ไปใส่ในซีรี่ย์ให้คนมาตามรอยได้เลย

ละครบ้านเราความจริงโด่งดังไปหลายประเทศเหมือนกันนะ
แต่เค้าก็ไม่ได้ต่อยอดอย่างที่คุณต่อบอกแหละ
บทบางครั้งก็มีแต่ชิงรักหักสวาทตบตีน่าเบื่อมาก
(แม้หลังๆจะเห็นน้อยลงแล้วก็ตาม)


แต่ที่เราชอบมากที่สุด น่าจะเป็นเรื่องอาหารนี่แหละ
เราคิดว่าถ้าพวกละครต่างๆ เอาพวกนี้
ไปลงในเรื่องบ้าง น่าจะกระตุ้นนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น

จากบล็อก

ผัดวุ้นเส้นมันทำง่ายมากเลยนะคะเราว่า
มันเหมือนผัดผักเลยแค่ใส่ซีอิ๊วดำเพิ่มสีเข้าไป


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:16:10:46 น.  

 
พี่ก๋าก็ต้องสู้ครับ
ถึงจะไม่ค่อยรู้ว่าจะสู้ยังไงก็ตาม 5555
ช่วงนี้การท่องเที่ยวเงียบกริบเลย
ก็ได้แต่หวังว่าการเมืองที่มีรัฐบาลแล้ว
จะมุ่งเป้าเบนเข็มมาที่การท่องเที่ยวบ้าง 5555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 สิงหาคม 2566 เวลา:23:44:54 น.  

 
เดิมจะเห็นเที่ยวหรือกินตามรอยภาพยนตร์ ตามรอยซีรีย์นะคะ
การเที่ยวตามรอยการ์ตูนแล้วทำให้สถานที่นั้นๆ
ยิ่งได้รับความนิยมขึ้นเป็นเรื่องที่ดีจังค่ะ
เป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยตรงเลย

ขอบคุณกำลังใจนะคะคุณต่อ



โดย: Sweet_pills วันที่: 25 สิงหาคม 2566 เวลา:0:52:54 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 สิงหาคม 2566 เวลา:5:28:56 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องต่อ
ขอบใจสำหรับเม้นท์และกำลังใจเมนูผัดดอก
กะหล่ำ กุ่ง หมูสับ จ้ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 25 สิงหาคม 2566 เวลา:11:39:40 น.  

 
ใช่ครับ
พี่ก๋าก็เชื่อนะ
ถ้าใจเราสู้
หนักยังไง
เราก็จะฝ่ามันไปได้

เหนื่อยหนัก
ก็แค่พักก่อน
พอหายเหนื่อย
ก็สู้ต่อไป



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 สิงหาคม 2566 เวลา:22:16:15 น.  

 
สกาล่าน่าเสียดายมาก ก็พยายามมองว่าเก่าไม่ไปใหม่ไม่มาแต่ก็น่าเสียดายอยู่ดี

เรื่องอาหารเห็นได้ชัดเลย บางอย่างไม่ใช่อาหารของญี่ปุ่นแท้ๆ แต่เขาก็เอามาขายได้ ยอมรับในเรื่องนี้ของเขาจริงๆ ญี่ปุ่นใช้ซอฟต์ พาวเวอร์ด้านนี้เก่ง

มีการ์ตูนเก่าเรื่องหนึ่งเรื่องสแลมดังก์ มีฉากหลายฉากที่เอามาจากของจริง คิดว่าคุณต่อน่าจะเคยเห็น เพียงแต่ไม่ได้นำเสนอในบล็อกนี้ อันนั้นเรายอมรับเลยว่า สร้างจากจุดที่ไม่มีอะไรจนกลายเป็นจุดขายที่ขายได้ทั้งคนใน และคนนอก


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 25 สิงหาคม 2566 เวลา:23:20:51 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 สิงหาคม 2566 เวลา:5:55:29 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ

ตอนเป็นวัยรุ่น
ความกลัวจะไม่ค่อยมีนะครับ
จะว่าบ้าบิ่นก็ได้
จะว่าความกล้าก็ได้
แล้วแต่ระดับควาหม้าวของแต่ละคนเลย 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 สิงหาคม 2566 เวลา:5:43:31 น.  

 
ใช่ครับ
ตอนนี้ได้รัฐบาลใหม่มาแล้ว
แม้อาจไม่ใช่รัฐบาลอย่างที่คิด
แต่ก็ยังดีกว่าการปล่อยประเทศให้ไม่มีนายกรัฐมนตรี
3 เดือนถึงจะตั้งนายกได้
มันนานมากๆเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 สิงหาคม 2566 เวลา:10:14:44 น.  

 
สวัสดีครับคุณต่อ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมครัวครับ

เข้ามาบล็อกนี้สะดุดตามากคืออาหารและเบเกอรี่ครับ น่ากินปหมดเลย

นึกถึงสกาลา เมื่อก่อนดูเป็นโรงหลักเลยครับ

วันที่ 1-3 ก.ย. เห็นเขามีงานเกี่ยวกับญี่ปุ่นที่พารากอน ด้วยนะครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 27 สิงหาคม 2566 เวลา:22:40:38 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 สิงหาคม 2566 เวลา:6:02:06 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณต่อ
ตอนไปญี่ปุ่นก็คิดว่าต้องไปทาน soft icecream
ราเมน เนื้อย่างอยู่ค่ะ
บ้านเราก็เริ่มมีอาหารจากมิชลินให้ต่างชาติตามทานมั่งแล้วเหมือนกันนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 28 สิงหาคม 2566 เวลา:14:07:52 น.  

 
จากบล๊อก

หุยยย ช่วงนี้ผมยุ่งจัดเลยครับ
ที่สำคัญต้องเตรียมงานตะพาบแล้ว 5555555 จำได้ครับๆ ไม่ลืมๆ


จิตใจชุ่มชื่นได้ด้วยความหวังครับ 55555 เราก็ปลื้นเค้าซะด้วย โฮมมี่น่ะ 55555

จริงๆ ผมส่วนไปเยอะมาก จนพี่ยุทธต้องร้องขอว่าให้่ใจเย็นๆ ที่เมิงด่านั่นแฟนกุ 55555



โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 28 สิงหาคม 2566 เวลา:22:50:16 น.  

 
ซอฟท์พาวเวอร์ มีผลต่อพฤติกรรมจริง ๆ ค่ะอยากตามรอยว่างั้นเถอะทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยว
อย่างที่คุณต่อบอกเช่น โดรายากิเราจะนึกถึงโดราเอมอนทันที


โดย: เนินน้ำ วันที่: 28 สิงหาคม 2566 เวลา:23:44:15 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2566 เวลา:5:07:19 น.  

 
การเกิดเป็นมนุษย์จึงเป็นโอกาสที่ดีมากๆเลยนะครับ
ในการได้คิด ได้ทำสิ่งต่างๆมากมาย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 สิงหาคม 2566 เวลา:22:43:04 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 สิงหาคม 2566 เวลา:4:49:06 น.  

 
ขอบคุณจ้าคุณต่อ
สรุปว่าชอบพิซซ่าแบบญี่ปุ่นมากกว่าจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 30 สิงหาคม 2566 เวลา:13:15:57 น.  

 
โชคดีที่ตอนเป็นวัยรุ่น
เวลาพี่ก๋าเกลียดใคร
ไม่เคยคิดแก้แค้นเลยครับ 5555

มีจำแน่นๆอยู่คนนึง
แต่สุดท้ายก็ให้อภัยไป



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 สิงหาคม 2566 เวลา:22:11:52 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 สิงหาคม 2566 เวลา:5:01:52 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาบล็อกนี้ครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 31 สิงหาคม 2566 เวลา:7:23:50 น.  

 
ญี่ปุ่นใช้ซอฟท์พาวเวอร์ผ่านการ์ตูนแบบได้ผลมากเลยครับ ชวนเอาคอการ์ตูนอย่างเราสนใจตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ยันประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

การที่ไปแตะต้องเรื่องราวในประวัติศาสตร์ก็ทำให้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย เวลาไปพิพิธภัณฑ์ในญี่ปุ่นแม้แต่พวกเด็กๆ ก็ตั้งใจอ่านข้อมูลของโบราณวัตถุทุกชิ้นเลยครับ
ตอนนี้อ่านเรื่อง "ย้อนเวลามากี่ที ทำไมวัดฮอนโนจิ ก็ไหม้อยู่ดีล่ะเฟ้ย!"
ให้โนบุนากะย้อนอดีตไปแก้ไขความผิดพลาดเพื่อไม่ให้ตัวเองโดนหักหลัง
ชวนให้ขบคิดมุมมองประวัติศาสตร์ได้หลายมุมและละเอียดมากด้วย
เมืองไทยควรมีคนเขียน "ย้อนเวลามากี่ที ทำไมกรุงธนบุรีก็ถูกยึดอยู่ดีล่ะเฟ้ย!"

...ไม่ได้สินะ

เพิ่งรู้ว่ามีโรงภาพยนตร์สกาล่าในอนิเมญี่ปุ่นด้วยนะเนี่ย ดีนะที่เคยไปก่อนมันทุบ ไม่ได้ไปดูหนังนะครับ ไปดูคอนเสิร์ตพงษ์เทพ
ตอนลิซ่ามาเที่ยวอยุธยา ทำเอาวัดแม่นางปลื้มคนทะลักไปเลย ดีเหมือนกันครับ โซนเหนือเกาะเมืองวัดดีๆเยอะ แต่ไม่ค่อยมีคนเที่ยวเลย
อาหารหลายอย่างก็อยากกินเพราะอ่านการืตูนเลย เช่น โดรายากิ เมล่อนปัง ราเม็ง เนื้อ A5 ฯลฯ
แต่ซาซ่านี่เป็นซอฟท์พาวเวอร์มันเผาได้เรอะ?!
ที่ตามหามาตั้งแต่เด็กคือสเต็กราดไข่ปลาคาร์เวียร์ เมนูที่ซูเนโอะสั่งตอนโลกใต้สมุทร แต่เอาจริงๆ มันก็ไม่ได้กินกันแบบนี้นี่หว่า!

คนผลิตสื่อไทยที่ใช้ซอฟท์พาวเวอร์เก่งๆ ผมว่าพวกแกรมมี่ GDH การ์ตูนไทยสตูดิโอ พวกนั้นแหละ ไม่ได้ยัดเยียด และไม่ได้การสนับสนุนจากโครงการรัฐแสนคร่ำครึแน่ๆ เขาเน้นตลาดพาณิชย์


โดย: ชีริว วันที่: 12 กันยายน 2566 เวลา:22:19:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

toor36
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 80 คน [?]




"สิ่งที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิด ย่อมไร้ซึ่งความหมาย"

-:-UPDATE-:-
23 เม.ย. 2567 - ตะพาบคลานแล้วววววว
/人◕ ‿‿ ◕人\


บล็อกก่อนบล็อกนี้
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 52
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349 "วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ"
ผลประกอบการในช่วง 1,000 Blog ที่ผ่านมา


ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348 "ฉุกละหุก"
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 347 "ติดเป็นนิสัย"
ไดอารี่ได้ศัพท์ Ep.21 ซื้อของขวัญหารกัน

个 เก้อไม่ได้ใช้ได้ทุกที่
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 346 "เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก"
ดื่มเหล้า เมาสุรา
[Nendoroid Story] ต้อนรับปีมังกร กับเมดมังกร
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 345 "ไฟแรง"
คำถามที่ยากจะตอบ

- โลกของ Bloggang XVII - ความเปลี่ยนแปลง
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 344 "ไม่เคยพอ"
- ควบคุม 控制
- อาจารย์ในการ์ตูน IV
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 343 "ไม่กิน"
- [รีวิวสั้น] การ์ตูนที่ได้ดูในช่วงระหว่างปี 2023 (1)



ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมาล้าง ดาบนี้คืนสนอง


天生我材必有用,千金散尽还复来

เริ่มนับ 08/07/2010
Free counters!



BNCt9S.jpeg
Itsuki-Y0701.jpegMatikanetannhauser-Y0702.jpeg
Komichi-Y0603.jpegKancolle-Y0602.jpeg
Shiori-Y0601.jpegBorn-Y0502.jpeg
Miku-chin-Y0501.jpegKobayashi-Y0401.jpeg
Miyo-Y301.jpegMiku-Magic-Y0201.jpeg








New Comments
Friends' blogs
[Add toor36's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.