|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
Little Lord Fauntleroy (anime) เซดี้ เจ้าชายน้อย
 วันนี้ขอเขียนเกี่ยวกับการ์ตูนอีกครั้ง การ์ตูนญี่ปุ่นแนวนี้ปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยม แต่การ์ตูนแนวนี้เป็นการ์ตูนแนวที่ผู้เขียนชื่นชอบ คือ การ์ตูนที่สร้างมาจากวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงของทางยุโรป
เชื่อว่าหลายคนที่มีช่วงอายุไม่ต่างจากผู้เขียนน่าจะเคยได้ยินชื่อ หรือเคยรับชมแน่นอน เรื่องนี้เคยฉายทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ด้วย ถือเป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน
ชื่อเรื่อง Little Lord Fauntleroy หรือ Little Prince Cedie (ภาษาอังกฤษ) 小公子セディ(ภาษาญี่ปุ่น) 小公子西迪 (ภาษาจีน) เซดี้ เจ้าชายน้อย (ภาษาไทย)
การ์ตูนเรื่องนี้สร้างจากวรรณกรรมของอังกฤษ ประพันธ์โดย ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนทท์ ซึ่งวรรณกรรมสำหรับเด็กหลายเรื่องที่เธอเขียนเป็นที่จดจำกันมาก
สำหรับฉบับการ์ตูนนั้นผลิตโดย Nippon Animation ฉายครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ทางสถานีโทรทัศน์ Fuji TV ในช่วงระหว่าง 10 มกราคม 1988 25 ธันวาคม 1988 จำนวนตอนทั้งหมด 43 ตอน เป็นการ์ตูนแนวดราม่า
 แนะนำตัวละคร
เซดริก เออร์รอล (เซดี้) อายุ 7 ปี เกิดที่นิวยอร์ก เป็นเด็กที่มองโลกในแง่ดี ชื่นชอบเบสบอล นอกจากนี้ยังชื่นชอบการตกปลา และยังสามารถเป่าฟลุตได้ด้วย เซดี้ถูกเรียกมาที่อังกฤษเพื่อให้รับตำแหน่งท่านลอร์ด และดูแลปราสาทพร้อมที่ดินข้าทาสบริวาร
เจมส์ เออร์รอล พ่อของเซดี้ เป็นลูกชายคนรองของตระกูล มีอาชีพเป็นทหารเรือ เมื่อตอนที่เขาอายุพอๆ กับเซดี้ แม่ของเขาก็เสียชีวิต เนื่องจากเขาเข้ากับพ่อไม่ค่อยได้จึงได้ออกจากบ้านไป เจมส์เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา จากการที่เขาทำงานอย่างหนักทำให้เขาเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ
แอนนี่ เออร์รอล แม่ของเซดี้ พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก เธออยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่บอสตัน จนเมื่ออายุ 15 ปี เธอได้มาอยู่กับคู่สามีภรรยาสูงอายุชาวอินเดีย เมื่ออายุ 18 ปี กองทัพเรือโทอังกฤษมาที่อินเดีย ทำให้เธอได้พบกับเจมส์ หลังจากที่เธอยอมรับคำขอแต่งงานแล้ว เมื่อพวกเขาเดินทางไปอเมริกาก็แต่งงานกันในที่สุด

ท่านเอิร์ลแห่งโดรินคอร์ท (จอห์น อาร์เธอร์) คุณปู่ของเซดี้ พ่อของเจมส์ เมื่อลูกชายคนแรกแรกเสียชีวิต เขาตัดสินใจให้ลูกชายคนรองกลับมารับตำแหน่ง แต่เมื่อลูกชายคนรองก็เสียชีวิตด้วย เขาจึงไม่มีทางเลือกต้องเรียกหลานตัวเองมาเพื่อให้รับตำแหน่ง
เขาไม่ไว้วางใจใครเลย ด้วยความที่ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า และความเป็นคนมียศทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใคร และไม่ไว้ใจใครสักคนที่สำคัญในชีวิต ทำให้ถูกคนอื่นมองเป็นคนแก่ อารมณ์ร้าย ไม่มีเหตุผล จอมเผด็จการ ชอบใช้อำนาจ
คอกกี้ อายุ 5 ปี เป็นเด็กที่อาศัยอยู่ที่บ้านที่แม่ของเซดี้อาศัยอยู่ เซดี้มองเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง
แคเธอรีน เพื่อนเซดี้สมัยอยู่ที่อเมริกา ดูๆ ไปแล้วเหมือนพี่สาวเซดี้ และดูเหมือนเธอจะชอบเซดี้อยู่เหมือนกัน (ซึนนิดๆ)
บรีฌิต อายุ 8 ปี ญาติห่างๆ ของเซดี้ ได้รับการเลี้ยงดูมาในลักษณะของชนชั้นสูง เป็นเด็กที่มีความอวดดี เย่อหยิ่ง และชอบแกล้งเซดี้อยู่เสมอ (เป็นพวกแอบซึนนิดๆ)
เมลลอน หัวหน้าเมด ประจำตระกูลฟอนเติ้ลรอย เป็นหญิงชราที่มีจิตใจอ่อนโยน
เจฟเฟอร์สัน หัวหน้าบัสเลอร์ประจำตระกูลฟอนเติ้ลรอย
เจน เมดรับใช้ของเซดี้ มีหน้าที่ดูแลเซดี้โดยเฉพาะ ทำหน้าที่เป็นเมดเลี้ยงเด็ก (Nursery maid) เป็นสาวใช้จิตใจดี เธอรู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้มาทำหน้าที่นี้
วิลเลี่ยม ทนาย ทนายประจำตระกูล ฟอนเติ้ลรอย
ไลล่า แมวของคอกกี้
เจ้าชายน้อย ม้าลักษณะดีสีขาวที่คุณปู่มอบให้เซดี้
ด็อกเกอร์ สุนัขของคุณปู่ในตระกูลฟอนเติ้ลรอย สนิทสนมกับเซดี้มาก

เนื้อเรื่อง เป็นเรื่องราวของหนูน้อยวัย 7 ขวบ ที่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลจากประเทศสหรัฐอเมริกามายังประเทศอังกฤษ โดยมารับตำแหน่ง "ท่านลอร์ด" เพื่อที่จะเป็น "ท่านเอิร์ลแห่งโดรินคอร์ท" ในอนาคต
แต่เรื่องไม่จบง่ายๆ เพราะแม่ของเซดี้เป็นชาวอเมริกันที่ "ท่านเอิร์ล" ดูหมิ่นดูแคลนและรังเกียจ จนทำให้สองแม่ลูกต้องแยกจาก แต่ด้วยความสดใสน่ารัก บริสุทธิ์ เฉลียวฉลาดของเซดี้ทำให้สามารถชนะใจคุณปู่ไปได้ในตอนหลัง

ข้อคิดที่ได้จากการ์ตูนเรื่องนี้ การ์ตูนเรื่องนี้ข้อคิดน้อยเน้นดูสนุกสนานมากกว่า แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีข้อคิดแทรกเข้ามาตามประสาการ์ตูนที่สร้างขึ้นมาจากวรรณกรรมของทางยุโรป
การทำงานหนักเพื่อครอบครัวเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามากเกินก็จะก่อให้เกิดผลร้ายเหมือนกรณีของเจมส์ที่เสียชีวิตจากโรคหัวใจ จะเห็นได้ว่าไม่ว่ายุคสมัยใดสุขภาพก็สำคัญที่สุด
การทำหน้าที่ของเจ้าของสำนักพิมพ์เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เจมส์ต้องการใช้เงินจึงขอเบิกเงินเดือนล่วงหน้าซึ่ง เจ้าของสำนักพิมพ์ปฏิเสธไม่ให้เบิก แต่ถ้าเป็นการยืมส่วนตัวเขาให้ยืมได้ จะเห็นได้ว่าเจ้าของสำนักพิมพ์ไม่เอาผลประโยชน์ของบริษัทมาใช้ในเรื่องส่วนตัว จุดนี้นับว่าน่าชื่นชม
คำสอนที่สำคัญของเจมส์ พ่อของเซดี้ คือ "ไม่เครียดแค้นคนอื่น และให้ลุกขึ้นมาให้ได้จากสถานการณ์ที่ยากลำบาก" เป็นคำสอนที่สอนให้รู้จักปล่อยวาง และไม่ท้อแท้
คำสอนที่สำคัญของแอนนี่ แม่ของเซดี้ คือ" ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะต้องไม่สิ้นหวัง ขอแค่เราพยายามที่จะมีชีวิตต่อไป สักวันหนึ่งจะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่" เป็นคำสอนที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความหวัง
เราควรมองคนในแง่ดี และพร้อมที่จะให้อภัยเมื่อเขาสำนึกผิด

ความรู้สึกเมื่อการ์ตูนเรื่องนี้จบ เป็นการ์ตูนที่ดูแล้วได้รำลึกความหลังเมื่อครั้งยังเด็ก จำได้ว่าสมัยก่อนดูตอนแรกเป็นตอนที่เซดี้กับแม่พึ่งเดินทางมาถึงอังกฤษ แล้วตอนจบโดนจับแยกกันอยู่ ความรู้สึกในตอนนั้นรู้สึกเศร้ามาก ถึงตอนนี้ได้ดูอีกครั้งก็ยังรู้สึกเศร้าไม่ต่างจากตอนนั้น การแยกแม่ลูก (เด็กอายุแค่ 7 ปี) เป็นเรื่องที่โหดร้ายมากในความรู้สึก
การ์ตูนเรื่องนี้จัดได้ว่าเป็นการ์ตูนดูสบายๆ เด็กดูได้ผู้ใหญ่ชอบดูยิ่งกว่า ไม่มีเนื้อหาให้เครียด แต่มีเนื้อหาชวนให้เสียน้ำตามากกว่า ตัวละครในเรื่องถึงจะมีตัวที่นิสัยไม่ดี แต่ก็ไม่ถึงขนาดทำให้เรารู้สึกเกลียด
ภาพในเรื่องมีการใช้ภาพซ้ำเฟลมบ้าง สมัยก่อนการ์ตูนทำแบบนี้แทบทั้งนั้น แต่ Ost ถือว่าทำได้ดีมากในสมัยนั้น (ตามความรู้สึกของผู้เขียน)
ผู้เขียนสับสนกับชื่อตัวละครในเรื่องนี้มาก เนื่องจากดูแบบเสียงพากย์จีน ซึ่งคำทับศัพท์ที่เป็นชื่อคน ฟังแล้วไม่แน่ใจว่าชื่ออะไรกันแน่ทำให้ต้องเสียเวลาหาชื่อตัวละครอยู่นาน อีกทั้งข้อมูลเรื่องนี้ของไทยแทบไม่ได้เลย ต้องพึ่งข้อมูลของต่างประเทศเสียส่วนใหญ่ทำให้เสียเวลาอย่างมากในการเขียน

ข้อสังเกตเล็กน้อย - เรื่องราวในการ์ตูนเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงประมาณปี 1890 โดยเราจะสังเกตได้จากหลุมศพของ เจมส์ 1858-1890 - การมาอังกฤษของเซดี้ และครอบครัวในตอนแรกเป็นลักษณะเหมือนหลอกให้มาที่อังกฤษ เนื่องจากในตอนแรกพ่อของเจมส์ (ปู่เซดี้) เรียกเจมส์มาแค่คนเดียวเท่านั้น - การ์ตูนเรื่องนี้พยายามแทรกอารมณ์ขำตลอดเวลา เช่นแมวเล่นกับหมา โดยพยายามตบหางของหมาจนโดนหางฟาดใส่หน้า ซึ่งมุกเหล่านี้มักทำให้ผู้ชมยิ้มได้ตลอดเวลา - เรื่องราวในเรื่องเกิดในยุคที่การติดต่อสื่อสารยังไม่ทันสมัย จดหมาย โทรเลข ถือเป็นการสื่อสารที่สำคัญมาก - ในเรื่องเราจะเห็นมุกตลกแบบเด็กๆ เช่นการแลบลิ้นใส่
- รูปที่อยู่ในห้องคุณปู่คือรูปภรรยาของเขา หรือก็คือ แม่ของเจมส์นั่นเอง - จากเรื่องรูปในห้อง อีกเหตุผลที่คุณปู่ไม่ชอบแอนนี่ เออร์รอล อาจเป็นเพราะทำให้คิดถึงภรรยาที่เสียไปแล้วนั่นเอง - คนใช้ของตัวเอกทุกเรื่องมักซวย เจนก็ไม่พ้นชะตานี้ โดนกล่าวหาว่าทำแจกันแตก จนโดนไล่ออก แต่ตอนหลังก็ได้รับความช่วยเหลือจากเซดี้จนได้กลับมาทำงานอีกครั้ง - ในเรื่องมีกรณีดราม่าในตอนจบครั้งเดียวคือ กรณี "ทอม" ที่อ้างว่าเป็นคนที่ควรจะได้รับมรดก เพราะเป็นหลานคนโต (ลูกของลูกชายคนโต) - ในตอนจบของเรื่องคุณปู่ขอโทษแม่ของเซดี้
- เซดี้เป็นเด็กที่มีจิตใจที่ดีงามชอบช่วยเหลือผู้อื่น เขาพร้อมที่จะให้อภัยคนหลายๆ คนที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัย ทั้งที่คนบางคนควรจับส่งตำรวจให้กฎหมายจัดการจะดีกว่า นี่ถือเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน - ในสมัยนั้นคนอเมริกันไม่ชอบพวกชนชั้นสูงของอังกฤษ - ตัวอย่างตอนต่อไปของเรื่องนี้ หลังจากสปอยเรื่อง และชื่อตอนแล้วเซดี้จะพูดว่า "ต้องดูให้ได้นะ"

การเดินเรื่อง การ์ตูนเรื่องนี้เดินเรื่องอยู่ 2 ประเทศ และแบ่งเนื้อหาหลักๆ ดังนี้ - ตอนที่ 1-8, 10-12 เดินเรื่องในนิวยอร์ก - ตอนที่ 9 และตั้งแต่ตอนที่ 13 เดินเรื่องในอังกฤษ - ตอนที่ 21-22 บรีฌิตทำแจกันตกแตก ซึ่งตอนหลังเมื่อสารภาพผิดกับคุณปู่ตามที่เซดี้แนะนำ ก็เลิกแกล้งเซดี้ และเป็นเพื่อนกันในที่สุด - ตอนที่ 25 คุณปู่เริ่มใจอ่อนในหลายๆ เรื่อง ทั้งที่ปกติเป็นคนเข้มงวดมาก - ตอนที่ 30 แม่ของเซดี้ล้มป่วยเนื่องจากความเหนื่อยล้าในการช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งในตอนที่ 31 เซดี้มาเฝ้าไข้แม่ของเขา จากเหตุการณ์นี้ทำให้คุณปู่มอบรถม้าให้ในตอนที่ 32 - สองตอนสุดท้ายก่อนจบเนื้อหาดราม่าสุดๆ แต่จบลงได้ด้วยดี

ความแตกต่างระหว่างฉบับอนิเม ภาพยนตร์ และหนังสือ โดยพื้นฐานแล้วโครงเรื่องไม่ต่างกัน จะต่างกันในส่วนของรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในเนื้อเรื่อง และชื่อตัวละครบางตัวในเรื่องมากกว่า โดยส่วนตัวผู้เขียนเห็นว่าฉบับอนิเมดูสบายและเพลินกว่าฉบับภาพยนตร์ ถึงแม้จะมีบางส่วนที่ถูกเพิ่มเข้ามาบ้างก็ตาม (เทียบกับมินิซีรี่ย์ปี 1995) ส่วนฉบับหนังสือผู้เขียนไม่ขอวิจารณ์เนื่องจากไม่เคยอ่าน
 ผลิตภัณฑ์จากการ์ตูนเรื่องนี้ เนื่องจากการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนเก่า จึงไม่แปลกที่จะไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้ขายเท่าไหร่นัก ผิดกับการ์ตูนสมัยนี้ สมัยก่อนการ์ตูนขายกันที่คุณภาพจริงๆ (สมัยนี้เน้นต่อยอดขายของ) เท่าที่หาข้อมูลจะเป็น พวก ซีดี ดีวีดี สมุดระบายสี แล้วก็หนังสือเสียมากกว่า แต่ที่น่าสนใจและคาดไม่ถึงเลยก็คือ เกม
หนังสือการ์ตูน เท่าที่ลองหาข้อมูลนึกไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะมีพิมพ์เป็นฉบับหนังสือการ์ตูนด้วย แถมเป็นแบบ 4 สีอีกต่างหาก โดยตีพิมพ์เป็นภาษาญี่ปุ่น ปัจจุบันอย่าว่าแต่ที่ประเทศไทยเลย ที่ประเทศญี่ปุ่นตามร้านหนังสือมือสองก็คงหาได้ยากเต็มที สนใจรายละเอียดคลิก
เกม ไม่น่าเชื่อว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะมีเป็นเกมด้วย โดยเป็นเกมของเครื่อง Famicom ผลิตในปี 1988 สนใจไปหาโหลด Emulation มาเล่นได้ หาไม่ยากหรอก
เพลงประกอบของเรื่องนี้ การ์ตูนเรื่องนี้ได้ผลิตแผ่น CD OST ออกมาด้วย จำนวน 2 แผ่น เพลงเพราะมาก โดยเฉพาะเพลงตอนจบ

OST
เพลงเปิด : "My Cedie" (ぼくらのセディ Bokura no Sedi) เพลงปิด : "For the Sake of Loving Someone" (誰かを愛するために Dare ka wo Aisuru Tameni)
จากภาพปกแรกเป็นแผ่นที่มีดนตรีประกอบ OST ประกอบด้วยดนตรีทั้งหมด 24 เพลงบรรเลง ส่วนแผ่นที่สองทางด้านขวาเป็นแผ่น เพลงเปิดและเพลงปิดของเรื่องนี้
 หนังสือ อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น การ์ตูนเรื่องนี้สร้างจากวรรณกรรมของอังกฤษ ประพันธ์โดย ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนทท์ ซึ่งวรรณกรรมสำหรับเด็กหลายๆ เรื่องที่เธอเขียนเป็นที่จดจำกันมาก โดยเรื่องนี้พิมพ์ครั้งแรกในช่วงเดือนพฤศจิกายน 1885 - ตุลาคม 1886 ในนิตยสาร St. Nicholas Magazine และได้รับการตีพิมพ์รวมเล่มในปี 1886 ถือเป็นต้นฉบับแรกเริ่มก่อนที่จะมีฉบับอื่นๆ ผลิตตามออกมา อย่างฉบับการ์ตูนของญี่ปุ่นซึ่งอ้างอิงตามอนิเมที่ฉาย หรือแม้แต่อ้างอิงตามต้นฉบับ ซึ่งมีมากมายให้เลือก
สำหรับฉบับภาษาไทยเท่าที่หาข้อมูล ที่ผู้เขียนรู้สึกว่าน่าอ่าน จะเป็นของสำนักพิมพ์ดอกหญ้า ซึ่งปัจจุบันคงหาได้ยากเต็มที ใครมีครอบครองเก็บไว้ให้ดีๆ ล่ะ
 ฉบับภาพยนตร์ สำหรับคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์ หรือมินิซีรี่ย์ เรื่องนี้ก็มีให้ชมมากมาย ยังพอหาชมได้ตามเว็บไซด์วีดีโอทั่วไป มีตั้งแต่ภาพยนตร์ในรูปแบบหนังขาว-ดำ จนถึงในยุคปัจจุบัน ผลิตกันหลายประเทศ แต่ฉบับที่ผู้เขียนดูแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ และอยากแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจคงหนีไม่พ้น ฉบับปี 1995 ที่ฉายทางสถานีโทรทัศน์ BBC ของประเทศอังกฤษ เป็นมินิซีรี่ย์ จำนวน 6 ตอน ตอนละ 30 นาที
โดยส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกว่าฉบับมินิซีรี่ย์ของทาง BBC เดินเรื่องเร็วมากซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนหนึ่งเพราะข้อจำกัดเรื่องเวลา และจำนวนตอน ทำในเนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
ความจริงผู้เขียนควรจะบอกว่าฉบับอนิเมของญี่ปุ่นยืดเรื่องมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูสนุกอยู่ดี ชอบแบบไหนคงเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล
นอกจากนี้เรื่องนี้ยังมีเป็นละครบอร์ดเวย์ด้วย ถือว่าเป็นวรรณกรรมที่โด่งดังพอตัวถึงขั้นมีละครบอร์ดเวย์เลยทีเดียว
 "ภาพตัวอย่างของฉบับมินิซีรี่ย์ที่ฉายทาง BBC"
 "ปัจจุบันยังพอหาชมได้ มีโอกาสต้องหามาชมให้ได้นะ"
ขอบคุณภาพ และข้อมูลบางส่วนจาก //www.ebay.com //zuiyo.mints.ne.jp/sound-m5/sound-m5.htm //thebookofchoice.com/Book18.html //www.kaizuland.com/vb/t9025.htmlm //thebookofchoice.com/Book18.html //zuiyo.mints.ne.jp/sound-m5/sound-m5.htm Crono Bloggang Little_Lord_Fauntlero
Create Date : 20 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2557 0:02:06 น. |
|
63 comments
|
Counter : 21338 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: คุณต่อขอชี้แจง (toor36 ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:0:03:02 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:0:33:36 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:0:46:04 น. |
|
|
|
โดย: schnuggy วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:0:47:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:5:59:43 น. |
|
|
|
โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:8:27:10 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:8:58:46 น. |
|
|
|
โดย: พรไม้หอม วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:11:55:11 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:15:24:23 น. |
|
|
|
โดย: AppleWi วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:16:14:19 น. |
|
|
|
โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:22:46:25 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 20 พฤษภาคม 2557 เวลา:22:54:13 น. |
|
|
|
โดย: anigia วันที่: 21 พฤษภาคม 2557 เวลา:0:45:06 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 21 พฤษภาคม 2557 เวลา:12:00:12 น. |
|
|
|
โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 21 พฤษภาคม 2557 เวลา:23:08:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2557 เวลา:5:51:53 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 22 พฤษภาคม 2557 เวลา:6:13:54 น. |
|
|
|
โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2557 เวลา:8:18:58 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 22 พฤษภาคม 2557 เวลา:10:52:03 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 22 พฤษภาคม 2557 เวลา:20:07:59 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 22 พฤษภาคม 2557 เวลา:20:51:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2557 เวลา:6:18:40 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 23 พฤษภาคม 2557 เวลา:7:57:24 น. |
|
|
|
โดย: phunsud วันที่: 23 พฤษภาคม 2557 เวลา:8:56:59 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 23 พฤษภาคม 2557 เวลา:15:41:33 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 23 พฤษภาคม 2557 เวลา:16:12:22 น. |
|
|
|
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 23 พฤษภาคม 2557 เวลา:22:21:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤษภาคม 2557 เวลา:6:34:02 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 24 พฤษภาคม 2557 เวลา:16:23:20 น. |
|
|
|
โดย: Tristy วันที่: 24 พฤษภาคม 2557 เวลา:19:18:57 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 24 พฤษภาคม 2557 เวลา:19:21:45 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 25 พฤษภาคม 2557 เวลา:0:10:40 น. |
|
|
|
โดย: tui/Laksi วันที่: 25 พฤษภาคม 2557 เวลา:3:13:52 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤษภาคม 2557 เวลา:6:04:30 น. |
|
|
|
โดย: ปรัซซี่ วันที่: 25 พฤษภาคม 2557 เวลา:16:28:59 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 25 พฤษภาคม 2557 เวลา:20:57:06 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 25 พฤษภาคม 2557 เวลา:22:00:07 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤษภาคม 2557 เวลา:22:39:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:6:18:30 น. |
|
|
|
โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:12:23:55 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:15:51:56 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:21:14:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤษภาคม 2557 เวลา:6:10:59 น. |
|
|
|
โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2557 เวลา:8:11:47 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 27 พฤษภาคม 2557 เวลา:8:27:44 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 28 พฤษภาคม 2557 เวลา:0:19:26 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 พฤษภาคม 2557 เวลา:0:58:19 น. |
|
|
|
|
|
|
|
1. หลายท่านอาจสงสัยว่าทำไมต้องมีชื่อเรื่องภาษาจีน ชื่อเรื่องภาษาจีนเป็น Key Word ที่ดีในการหาคลิปวีดีโอมาดู โดยเฉพาะเว็บไซด์ฝากคลิปของจีนจะมีครบทุกตอน
2. เพลงที่ใช้ในขณะที่เอนทรี่นี้เป็นหน้าหลัก คือเพลง "For the Sake of Loving Someone" เป็นปิดของเรื่อง
3. บล็อกนี้อยู่ในหมวด "การ์ตูน" ใช้เวลาเขียนค่อนข้างมาก หากชื่นชอบสามารถโหวตเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนได้ในหมวด "การ์ตูน"