2-8 เม.ย. 61 มาชมงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย ปี 2561 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
เมื่อคุณนายอุ้มสีทำงานเสร็จตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จล่ะ นางก็มุ่งหน้ามาวัดพระแก้วในวันที่ 2 เมษายน 2561 เพราะว่าเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2561เป็นวันคล้ายวันเกิดของคุณแม่จิราพร วิเสโส แม่ชอบมาวัดพระแก้ว...อุ้มว่างวันนี้ก็เลยมาทำบุญวันเกิดให้คุณแม่ค่ะ มานั่งสวดมนต์หน้าวัดพระแก้วมรกตเสร็จสรรพแล้ว เพ-ลาต่อไปในใจคุณนายอุ้มสีนึกอยากจะไหว้พระพิฆเนศที่อยู่ภายในวังหน้า ว่าแล้วก็ให้ว่องอย่ามัวช้าอยู่ใยก็จรลีในบัดดลเจ้าค่ะออเจ้า ซึ่งเมื่อคราวเกือบจะ 25 ปีที่แล้ว เป็นการทำงาน OUTDOOR ครั้งแรกในชีวิตการทำงาน อุ้มเคยมาครอบครู ณ ที่นี่เลยโดยร่างทรงที่ใบหน้าละม้ายคล้ายพระพิฆเนศเลยค่ะ รู้สึกว่าจะเป็นวันคล้ายวันครบรอบกรมศิลปากร เพราะฉะนั้นถ้าผ่านมาแถวโรงละครแห่งชาติ ท้องสนามหลวง เดินเลยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร จะเห็นพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส หรือวัดพระแก้ววังหน้า ปัจจุบันวัดบวรสถานสุทธาวาส เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม เพราะฉะนั้นบอกรปภ.หน้าประตูว่าจะมาไหว้พระพิฆเนศที่อยู่ด้านหลังค่ะ จากหน้าประตูเดินเลี้ยวซ้ายแล้วก็เลี้ยวขวาเดินตรงมาจนสุดทางก็จะเจอพระพิฆเนศค่ะ ถ้าจะนำดอกไม้-พวงมาลัยมะลิ-นม-น้ำแดง จัดเตรียมเข้ามาเลยนะคะ องค์พระพิฆเนศวร มีขนาดสูง 250 เซ็นติเมตร มีสี่พระกร ทรงวัชระ ปาศะ ทันตะ งาหัก บ่วงบาศ ชามขนมและหม้อน้ำ ประทับนั่งในลักษณะแยกพระชงฆ์ออกจากกันโดยที่ฝ่าพระบาททั้งสองข้างหันเข้าหากัน ทรงเครื่องเทวพัสตราภรณ์ประดับด้วยหัวกะโหลก สวมสายธุรำเป็นรูปงู ด้านหลังเทวรูปเป็นแผ่นหินทรงกลมอันหมายถึงจักรวาลและความรู้อันยิ่งใหญ่ ซึ่งถือเป็นลักษณะทางประติมากรรมที่ได้รับอิทธิพลจากชวา ออกแบบโดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี โดยมีนายชิ้น ชื่นประสิทธิ์เป็นผู้หล่อ โดยหล่อจากวัสดุปูนซีเมนต์ทั้งพระองค์ ประดิษฐานตั้งแต่ปี พ.ศ.2477 นับเป็นประติมากรรมองค์พระพิฆเนศวรที่งดงามอย่างยิ่ง และเป็นต้นแบบของพระพิฆเนศวรที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ทั่วประเทศนำไปเป็นต้นแบบเพื่อประดิษฐานยังวิทยาลัยนั้นๆ และอุ้มก็สงสัยในตัวเองว่าทำไมวันนี้ถึงได้นึกอยากไหว้พระพิศเนศองค์นี้ขึ้นมา ต้องโปรดติดตามอ่านไปเรื่อยๆ ค่ะ พอเดินเลี้ยวขวาออกจากโรงละครแห่งชาติ ริมรั้วอุ้มก็มองเห็นป้ายนี้ค่ะ ที่น่าสนใจอุ้มเพิ่งสังเกตว่าเป็นปีนใหญ่หัวจุ่มลงดินน่ะค่ะ ติดกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สนามหลวงนั่นเลยค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะมาชมงานนี้เลยนะคะ ขอ-บอกด้วยความสัตย์จริง ไหนๆ ก็มีกล้องถ่ายรูป ไหนๆ ก็ไหนๆ แวะชมงานสักหน่อยละกันเนาะออเจ้าอุ้มคิดแค่นี้ ชมฟรีค่ะ งานเริ่มวันนี้ 2-8 เมษายน 2561 เวลา 17.00-20.00 น. ยังไม่ถึงเวลาลงทะเบียน...คนเลยยังไม่มาเข้าคิวค่ะ ว่าแล้วก็เดินชมบรรยากาศภายในงานเนาะออเจ้า ขาประจำแฟนคลับของกรมศิลปากรมากันเพียบค่ะ ราชรถใช้ในการแสดงโขนเรื่องอัทภุตรามายณะ ตอนสีดาออกศึก ระหว่างรอเปิดงานก็มีวงดนตรีบรรเลงเพลงไทยและเพลงสากลให้ฟังไป เลือกซื้อหนังสือของกรมศิลปากรไปอย่างมีความสุข เพลงส่งท้ายก่อนจะเข้าเปิดงานคือเพลงจากละครบุพเพสันนิวาสค่ะออเจ้า ครั้นได้เวลาเปิดให้ลงทะเบียนก็มากันเยอะมากเลยค่ะ อุ้มไม่รู้ว่าประชาชนคนทั่วไปจะได้รับเหมือนกันไหม พอลงทะเบียนสำหรับข้าราชการ-เจ้าหน้าที่และสื่อฯ ก็จะได้ 4 อย่างค่ะ ตามที่ถือน่ะค่ะ มีเข็มกลัด -กระเป๋า-อาหารกล่อง-สูจิบัตรเล่มสีม่วง ขอพี่เขาถ่ายรูปน่ะค่ะให้ถือของที่ระลึกโชว์น่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ งานใกล้จะเริ่มแล้วค่ะ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ถ่ายภาพร่วมกับนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมด้วยผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันค่ะ พิธีกรคือ ดร.ไพโรจน์ ทองคำสุก ราชบัณฑิตสาขาศิลปกรรมนาฎศิลปไทย-ผู้อำนวยการสถาบันโขนแห่งชาติ จากนั้นพิธีกรเรียนเชิญนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ขึ้นจุดเทียนบูชาครูค่ะ จากนั้นนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวรายงาน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเปิดงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2528 วันที่ 2 เมษายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เป็นวันอนุรักษ์มรดกไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเป็นแบอย่างในการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์มรดกของชาติ ด้วยพระวิริยอุสาหะตลอดมา ตลอดจนสร้างความรู้ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักในความสำคัญของการอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมแก่สาธารณชน เนื่องในวันอนุรักษ์ไทยกระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร จึงกำหนดจัดงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย พ.ศ.2561 ระหว่างวันที่ 2-8 เมษายน 2561 เพื่อให้ประชาชนได้ชมการแสดงนาฏศิลป์และดนตรีฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เวลา 17.00-20.00 น. เป็นการส่งเสริมให้เกิดความตระหนักในคุณค่าศิลปะของชาติอีกด้วย จากนั้นลั่นฆ้องเปิดงานและถ่ายภาพหมู่ จากนั้นเป็นการบรรเลงดนตรีไทย-เพลงโหมโรงเทิด สธ.และเพลงเทพสมภพ รำถวายพระพร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นการร่ายรำของพระ-นาง 7 คู่ VIDEO ขอขอบคุณ MV รำถวายพระพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ และวันอนุรักษ์มรดกไทย 2 เมษายน 2561 จัดแสดงโดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ในวันเปิดงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย ประจำปี 2561 ณ เวทีกลางแจ้ง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ประพันธ์บทโดย อ.เสรี หวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติ จากนั้น ดร.ไพโรจน์ ทองคำสุก ขึ้นมากล่าวคั่นรายการเพราะต่อไปคือละครเบิกโรงเรื่อง พระคเณศเสียงา นี่แหละ....อุ้มล่ะหายสงสัยเลยค่ะว่า ทำไมมีอะไรดลใจให้อุ้มเดินเข้ามางานนี้ ไหนจะอยากไหว้พระพิฆเณศที่วังหน้า แล้วมาได้ดูละครเบิกโรงเรื่องพระคเณศเสียงา ถ้ามีพระพิฆเณศที่ไหนเป็นต้องเห็นอุ้มที่นั่นเสมอ ด้วยความศรัทธาค่ะ คนพากย์ พระพิฆเณศ หรือ พระพิฆเนศวร เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งทรงมีเศียรเป็นช้าง และเป็นที่เคารพบูชาของศิลปินน้อยใหญ่ ว่าพระองค์เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปวิทยาการทั้งปวง อีกทั้งยังเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ช่วยขจัดปัดเป่าอุปสรรคนานัปการ ในตอนพระคเณศเสียงานี้อาจารย์เสรี หวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติ ได้จัดทำบท โดยตัดต่อมาจากบทละเครเรื่อง "พระคเณศเสียงา" พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงหยิบใจความได้จาก "พรหมไววรรตปุราณคัมภีร์" และนำมาทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใหม่เพื่อให้เหมาะแก่การแสดงเป็นละครเบิกโรงดึกดำบรรพ์ พราหมณ์ปรศุรามเคยขึ้นเฝ้าพระอิศวรได้เสมอ แต่มาวันหนึ่งถูกพระคเณศห้ามไว้ เหตุด้วยพระอิศวรและพระอุมายังบรรทมอยู่ พราหมณ์ปรศุรามไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น พราหมณ์ปรศุรามได้ขว้างขวานไปหมายสังหาร พระคเณศเห็นว่าเป็นขวานประทานของพระอิศวรพระราชบิดาจึงก้มเศียรรับขวาน ได้พลาดไปถูกงาซ้ายหัก และขณะต่อสู้กันนั้นพระอิศวรและกับพระอุมาได้เสด็จออกมาดู เมื่อเห็นดังนั้นพระอุมาก็ทรงพิโรธจึงสาบปรศุรามให้หมดฤทธิ์นอนแข็งเป็นท่อนไม้อยู่กับที่ พระอิศวรทรงสงสารบอกให้ปรศุรามตั้งจิตคิดถึงพระนารายณ์แล้วท่านจะมาช่วย ปรศุรามทำตาม พระนารายณ์จึงทรงแปลงกายเป็นพราหมณ์น้อยแสร้งมาร้องไห้คร่ำครวญสงสารปรศุราม เวลาเศร้าได้ยินเสียงปี่นี่รันทดจริงๆ เลยนะคะ พระอุมาทรงเวทนาพรามณ์จึงรับสั่งว่าขออะไรจะให้ พราหมณ์น้อยจึงทูลขอให้ปรศุรามให้มีกำลังดังเดิม พระอุมาก็ทรงประทานให้ พระนารายณ์จึงทรงแบ่งกำลังและฤทธิ์ของปรศุรามออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคืนให้ปรศุราม อีกส่วนหนึ่งถวายพระพิศเณศ กับทั้งพระนามให้ว่า "พระวินัยบดี ศรีศิลปะ" เทพเจ้าแห่งศิลปวิทยาการทั้งปวง ว๊าวววว....สุดยอดเลยค่ะ ดีใจที่ได้มาชมละครเบิกโรงเรื่อง พระคเณศเสียงา อุ้มได้รู้เรื่องราวว่าทำไมพระพิคเณศถึงมีงาข้างเดียว จบลงด้วยภาพนี้ค่ะต่อไปเป็นโขน เป็นครั้งแรกที่อุ้มมานั่งดูเป็นเรื่องเป็นราว เพราะแต่ก่อนเคยดูแล้วคิดว่าเยิ่นเย้อน่าเบื่อ ปัจจุบันมาดู..เห็นการดำเนินเรื่องกระชับ บทต่อบทสวยงาม และสอดประสานความเป็นไทยลงตัว ดูแล้วสนุกไม่หลับเลยนะคะ ที่สำคัญ การดำเนินเรื่องฉับไว เปลี่ยนฉาก เปลี่ยนเวทีเป็นมืออาชีพ อยากให้คนไทยได้มาเห็นกันเยอะๆ ค่ะ เป็นงานดีดีที่ฟรีที่ต้องห้ามพลาด ขอชื่นชมค่ะ ดร.ไพโรจน์ ทองคำสุก ออกมาพูดคั่นรายการให้ฝ่ายเวทีจัดฉากไป เพราะองค์ต่อไปก็คือการแสดงโขนเรื่อง "อัทภุตรามายณะ ตอนสีดาออกศึก" เป็นเรื่องราวที่อุ้มไม่เคยรู้มาก่อน ว๊าวววว น่าสนใจ นางสีดามีมุมนี้ด้วยหรือคะ ที่สำคัญหากคุณๆ มางานนี้ สูจิบัตรเล่มนี้แจกฟรีค่ะ กระดาษอาร์ตอาบมันสี่สีอย่างดี เป็นภาพพระรามค่ะ เกริ่นนำก่อนนะคะ หยิบจากสูจิบัตรงานสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย พ.ศ.2561 หน้า 14 พระฤาษีวาลมีกิ รจนาเรื่องรามายณะไว้ 2 ฉบับ กล่าวคือ ฉบับหนึ่งมีความยาวสองหมื่นสี่พันโศลกเป็นฉบับสำหรับมนุษย์อ่าน อันได้แก่ฉบับที่เป็นบ่อเกิดแห่งรามายณะทั้งหลาย รวมทั้งที่ไทยเรานำมาปรับปรุงดัดแปลงเป็นเรื่องรามเกียรติ์ฉบับภาคภาษาไทยต่างๆ นั้นด้วย อีกฉบับหนึ่งคือ "อัทภุตรามายณะ" มีความยาวเป็นโศลกถึงพันล้านเป็นฉบับสำหรับเทวดาอ่านจึงมีเรื่องพิเศษออกไปอีกมาก นั่งดูไปคิดถึงเจ้าน้องอุ้มเป็นอย่างมาก นางชอบโขน เสียดายไม่รู้มาก่อน ไม่งั้นจะชวนมาดูด้วยกันเนาะออเจ้า สรุปเนื้อเรื่องเบื้องต้นได้ว่า พระฤษีนารทและพระฤษีบรรพต ต่างอยากได้นางศรีมตีราชธิดาของท้าวอัมพริศเป็นชายา แต่ถูกพระวิษณุทำอุบายแย่งชิงนางศรีมตีไปเสีย ฤษีทั้งสองโกรธแค้นเป็นกำลัง จึงสาปให้พระวิษณุลงไปเกิดเป็นมนุษยืเชื้อสายท้าวอัมพริศ ส่วนนางศรีมตีนั้นสาปให้ไปบังเกิดอยู่ใต้ดินจนท้าวชนกไปพบและนำไปเลี้ยงเป็นราชธิดา ต่อไปให้ถูกพญารากษสลักตัวไป และให้พระวิษณุต้องออกติดตามจนได้รับความทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตนได้รับ เมื่อพระวิษณุลักพานางศรีมตีหลบหนี พระวิษณุและนางศรีรตีรับคำสาปนั้นแล้วลงมาอุบัติตามที่คำสาปพระฤษีกำหนด พระวิษณุไปเกิดเป็นรามาวตารโอรสของท้าวทศรถ พระกรขวาเกิดเป็นพระอนุชาชื่อว่าพระภรต พระกรซ้ายไปเกิดเป็นพระอนุชาชื่อว่าพระศัตรุฆน์ ส่วนเศษะพญานาค เทพบัลลังก์เกิดเป็นพระอนุชาชื่อพระลักษณ์ เรื่องต่อๆ ไปก็เป็นทำนองอย่างเรื่องรามายณะ หรือเรื่องรามเกียรติ์ของไทย เช่นกล่าวว่า ศรีมตีมาเกิดเป็นนางสีดาเป็นธิดาของพญาราพณ์ แล้วมีเรื่องราวการทำสงครามระหว่างพระรามกับทศกัณฐ์ุ คณะทีมขับทำนองเสนาะ สำหรับตอนสีดาออกศึก มีเนื้อเรื่องย่อกล่าวไว้ดังนี้ เมื่อพระรามทสงครามสังหารทศกัณฐ์ุหรือท้าวราพณ์ถึงแก่ความตายแล้ว พิเภกจึงอัญเชิญนางสีดามาเฝ้าพระราม พระรามทรงยินดีที่ได้นางสีดากลับมาครองแต่นางสีดากราบทูลว่า ปางนี้พระนารายณ์เสด็จอวตารมาปราบยักษ์แต่มิทันที่จะสิ้นวานวงศ์อสูรพาล กลับทรงยินดีเสียก่อนนั้นจึงมิควรการ เพราะถึงแม้ท้าวราพณ์จะสิ้นชีวิตไปแล้ว แต่ยังมีเผ่าพงศ์วงศ์วานที่กล้าหาญเหลืออยู่ โดยเฉพาะพญาราพณ์หรือท้าวราพณาสูรผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งมีชื่อเหมือนกับท้าวราพณ์ผู้เป็นน้อง แต่มีฤทธาอานุภาพมากกว่า และมิถึงพันนพักตร์ หากรู้ข่าวว่าพญาราพณ์ผู้เป็นน้องถูกพระรามฆ่าตาย คงจะโกรธแค้นยกกองทัพอันเกรียงไกรตามมาทำสงครามแน่นอน พระรามได้ฟังนางสีดาทูลก็เห็นจริง จึงตรัสให้พญาสุครีพจัดกองทัพ โดยมีพระพรต พระศัตรุฆน์ และพระลักษมณ์ สามพระอนุชาร่วมไปทำสงคราม และการศึกครั้งนี้นางสีดาขอตามไปในการสงครามปราบพญาราพณ์ผู้พี่ด้วย กล่าวฝ่ายพญาราพณ์ ครั้นแจ้งข่าวว่าพญาราพณ์ผู้เป็นน้องถูกพระรามฆ่าตายก็โกรธแค้น เมื่อรู้ข่าวว่าพระรามยกกองทัพมาทำศึกสงครามกับตน จึงสั่งเสนาให้เร่งจัดกองทัพยกออกไปสู้รบ ครั้นเมื่อเห็นไพร่พลยักษ์ถูกไพร่พลวานรเข่นฆ่าล้มตาย ทำให้พญาราพณ์ยิ่งคั่งแค้น ขึ้นศรแผลงไปต้องพระราม พระพรต พระศัตรุฆน์ และพระลักษมณ์ รวมทั้งไพร่พลวานรสลบไปทั้งกองทัพ ยกเว้นแต่นางสีดาไม่สลบนะคะออเจ้า เหลือนางสีดาคนเดียวเลยค่ะ ดังนี้ นางสีดาเห็นพญาราพณ์บังอาจทำเช่นนั้นก็กริ้วโกรธหาได้หวั่นกลัวไม่ จึงเชิญพระแสงศรพระรามขึ้นมาน้าวเหนี่ยวผาดแผลงไปต้องพญาราพณ์จนถึงแก่ความตาย ทำให้พระราม พระพรต และพระอนุชาทั้งสาม และไพร่พลวานรกลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมา ด้วยวีรกรรมอันหาญกล้าของนางสีดา Wonder Woman ของการศึกครั้งนี้ ว่าแล้วจลีกลับเมืองอโยธยาในบัดดลเป็นอันจบค่ะ สนุกดีค่ะ ตอนแรกยังงงเดาเรื่องไม่ถูกว่านางสีดาจะออกศึกได้อย่างไร GET เลยค่ะออเจ้า แฟ้มบุคคลขอปรบมือให้ในการเลือกเรื่องมานำแสดง สุดยอด การแสดงเล่นจบในเวลา 20.30 น. ประทับใจขอบคุณกรมศิลปากรที่มีงานดีดีแบบนี้ คิวการแสดงในแต่ละวันตั้งแต่วันที่ 2-8 เมษายน 2561 เวลา 17.00-20.00 น. ชมฟรี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ติดกับสนามหลวงนั้นแหละค่ะ เป็นงานดีดีที่อุ้มรีบมาบอกว่า....ต้องห้ามพลาดโดยเด็ดขาดเลยนะออเจ้า ขอขอบคุณ : สำนักการสังคีต กรมศิลปากร BG : คุณลักกี้ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat / Banner : คุณ oranuch_sri ของแต่ง BLOG : ป้ามด + น้องดอกหญ้าเมืองเลย + ป้าเก๋า ชมพร + น้องญามี่ + คุณเนยสีฟ้า
Create Date : 03 เมษายน 2561
Last Update : 8 เมษายน 2561 21:20:26 น.
32 comments
Counter : 4881 Pageviews.
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmambymam , คุณnewyorknurse , คุณกะว่าก๋า , คุณเริงฤดีนะ , คุณkae+aoe , คุณหอมกร , คุณkatoy , คุณจารุพิชญ์ , คุณไวน์กับสายน้ำ , คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน , คุณข้ามขอบฟ้า , คุณคนผ่านทางมาเจอ , คุณวลีลักษณา , คุณสายหมอกและก้อนเมฆ , คุณ**mp5** , คุณhaiku , คุณALDI , คุณtoor36 , คุณRain_sk , คุณตะลีกีปัส , คุณสาวไกด์ใจซื่อ , คุณเจ้าหญิงไอดิน , คุณSweet_pills , คุณThe Kop Civil , คุณก้นกะลา , คุณKavanich96
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:6:27:06 น.
โดย: mambymam วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:7:20:43 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:8:23:33 น.
โดย: kae+aoe วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:8:34:21 น.
โดย: หอมกร วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:9:13:55 น.
โดย: ลุงแมว วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:10:11:28 น.
โดย: จารุพิชญ์ วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:10:25:52 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:18:19:04 น.
โดย: วลีลักษณา วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:19:29:04 น.
โดย: **mp5** วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:21:04:59 น.
โดย: ALDI วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:22:50:52 น.
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 เมษายน 2561 เวลา:23:23:41 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 เมษายน 2561 เวลา:6:27:46 น.
โดย: kae+aoe วันที่: 4 เมษายน 2561 เวลา:8:28:21 น.
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 4 เมษายน 2561 เวลา:15:10:16 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 เมษายน 2561 เวลา:21:39:49 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 เมษายน 2561 เวลา:6:27:21 น.
โดย: kae+aoe วันที่: 5 เมษายน 2561 เวลา:11:42:00 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 เมษายน 2561 เวลา:11:59:02 น.
โดย: blog pu วันที่: 5 เมษายน 2561 เวลา:12:00:02 น.
โดย: mambymam วันที่: 5 เมษายน 2561 เวลา:13:30:11 น.
โดย: ก้นกะลา วันที่: 5 เมษายน 2561 เวลา:18:00:56 น.
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 5 เมษายน 2561 เวลา:20:41:55 น.
โดย: Kavanich96 วันที่: 7 เมษายน 2561 เวลา:2:24:38 น.