กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
 
เมษายน 2564
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
space
space
12 เมษายน 2564
space
space
space

คำภาวนาใดๆ ไม่ใช่สาระ




   235จะเรียก ปฏิบัติกรรมฐาน, ปฏิบัติธรรม, นั่งสมาธิ, ภาวนา สำนักไหนคนใดจะใช้ชื่อยังไงก็แล้วแต่ ชื่อไม่ใช่สาระสำคัญ จะบัญญัติเรียกยังไงก็ได้ นี่อย่างหนึ่ง

     อีกอย่างหนึ่ง คือ คำภาวนา จะเรียกคำบริกรรมแล้วแต่ ใช้ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ก็ได้ ใช้หนอก็ได้  (พองหนอ - ยุบหนอ คือ ใช้อาการท้องพอง กับ อาการท้องยุบ เป็นที่ทำงานของจิต คือ เป็นกรรมฐาน. ส่วนผู้ใช้คำบริกรรม พุทโธ ส่วนใหญ่ใช้ อานาปานะ คือ ลมหายใจเข้า-ออก เป็นกัมมัฏฐาน)  จะใช้วิธีนับตัวเลข ก็ได้ ไม่ใช้คำบริกรรมใด ๆ เลยก็ยังได้

     ที่สำคัญ คือ ปฏิบัติแล้วๆเล่าๆ จิตเริ่มสงบ ความฟุ้งซ่านลดลง สภาวธรรมปรากฏ เอาแล้วทีนี้แหละ ไปไม่ถูกแล้ว ปัจจุบันตั้งกระทู้ถาม  ตามบอร์ดธรรมะ ผู้แนะนำไม่เคยปฏิบัติวิธีใดๆมาเลย เพียงได้ยินอาจารย์ของตนๆว่ามา ก็ว่าไปตามที่ได้ยินนั่น


ตัวอย่าง  450

     ขอถาม..คนที่เคยบริกรรมภาวนาพุทโธ ต้องพบเจอกับสิ่งบ้าง?

     อยากเริ่มต้นฝึกภาวนาพุทโธแบบจริงจัง เลยอยากทราบว่าต้องพบเจอกับสิ่งใดบ้างที่ขัดขวางทำให้จิตไม่มั่นคงแล้วแก้ไขอย่างไรคะ


https://pantip.com/topic/40637459


     ดู คคห. ที่ 1 มโนล้วนๆ ไม่มีแววเคยปฏิบัติเลย อย่างนี้แหละจะทำให้ผู้ปฏิบัติเพี้ยน (ดูลิงค์ข้างล่าง) ให้เกิดความกลัวกับผู้คิดจะปฏิบัติด้วย



     - ดู ตย. คนใช้พุทโธ เขาทำยังไง แล้วเป็นยังไง เขาทำยังไงอีก แล้วเป็นยังไงอีก (อ้างสติปัฏฐาน ๔ ข้อด้วย)


ยาวหน่อยอ่านดู 450


235  ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

     วันแรกๆ ก็ไม่เป็นอะไร  พอวันที่สามนั่งไปซักพักประมาณสิบนาทีเริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจนเวียนหัวจึงนั่งต่อไม่ได้ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น  เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก  จนมาถามพระพี่เลี้ยงท่านบอกเหมือนจิตกำลังจะได้เข้าสู่ความสงบให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้  แต่มันก็ได้แบบแปปๆแล้วก็หมุนอีกหมุนอีก

     จนลาสิกขามาก็เริ่มมาหาอ่านเอง  จนได้อ่านบันทึกกรรมฐานของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ให้พิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรม   คราวนี้ก็ทำตามหนังสือ  หายใจตอนแรกก็ยาว    ก็ตามไปซักพัก เริ่มพิจารณาตามสติปัฐฐาน    คราวนี้หมุนเร็วเลยหมุนแรงมากจนรู้สึกจะอาเจียนเลย

     ผมก็พิจารณาว่าเป็นทุกขเวทนา ก็ดีขึ้นแปปก็หมุนอีกเรื่อยๆ   จนตอนนี้ยังแก้ไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง  ล่าสุดเมื่อคืนหมุนจนจะอ้วกจนถอนสมาธิออกมา  ยังมีอาการเวียนหัวจะอ้วกมาอีกซักสิบห้านาทีค่อยดีขึ้น

คำถามครับ

       1. ผมควรแก้ปัญหานี้ยังไงดี   ฝืนนั่งไปเรื่อยๆจนหายหรือต้องกำหนดอะไรยังไง

       2. จุดมุ่งหมายจริงๆ   คือวิปัสสนากรรมฐานคืออะไรครับ     

     ไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเก่งนะครับ  พอดีผมเรียนแพทย์เลยเข้าใจพวกสรีระร่างกายมนุษย์ อยู่แล้ว  เมื่อมาเรียนรู้ทางธรรมพิจารณาตามขันธ์ 5 ก็เข้าใจว่ามันไม่ได้มีตัวตนจริงๆของเรา     เหมือนเท่าที่อ่านการฝึกวิปัสสนา  ทำให้เราเข้าใจว่า  ทุกอย่างมีเกิด-ดับของมัน เป็นธรรมดา ไม่ให้เรายึดติด   แต่ถ้าผมอ่านแล้วเข้าใจแล้วจะทำไปเพื่ออะไร  หรือว่าให้จิตเราแข็งแกร่ง   จะได้มีสติรู้เท่าทันทุกการกระทำ   หลังสึกออกมาทุกวันนี้     เวลาจะโกรธใครก็เหมือนมีสติมาห้ามทัน   แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง    ซึ่งก่อนหน้านี้จะตอบโต้แทบจะทันทีเพราะเป็นคนใจร้อน.


  235 ขนาดเรียนแพทย์เข้าใจอวัยวะมนุษย์แล้ว หนังสือธรรมะก็อ่าน  ขันธ์ ๕ เกิดดับ ไม่มีตัวตน ไม่ให้ยึดติด ก็ยังรู้  แต่ยังถามว่า  ปฏิบัติไปเพื่ออะไร ?  เพราะแก้ปัญหาภาคปฏิบัติไม่ตก 

     สังเกตตรงเขาลืมตา พอลืมตาสภาวะก็คลาย หลับตาภาวนาสภาวะปรากฏอีก  ตรงนี้ผู้ปฏิบัติต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง  เช่น หลับตาภาวนาสภาวะแรง (สติอ่อนไป) ก็ให้ลืมตาเบาๆ ภาวนาไปๆ  แล้วก็ลองหลับตาภาวนาใหม่  สภาวะแรงอีก  ให้ลืมตาภาวนาบ้าง  ทำไปๆ พอเราจับไต๋ได้   ทีนี้หลับตาภาวนาเลย  เป็นไงเป็นกันอ้วกเป็นอ้วก   แต่ต้องกำหนดนะ  อ้วกหนอๆๆ (อย่าปล่อยเรื่อยเปื่อย)  นี่วิธีพิสูจน์ธรรมระดับแก่น   
   
     แต่โดยทั่วไปขาดมรรควิธี  ถ้ามีวิธีเล่นกับมันแล้วสนุกดี  เราพิสูจน์ได้  ส่วนพระพี่เลี้ยงพูดใช้ได้แล้ว  ขาดแต่วิธีปฏิบัติเท่านั้น (มรรควิธี)   


ที่ให้ดูก็ลิงค์นี้

https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/10/Y9785609/Y9785609.html


 451 อาจมีคำถามว่า  เขาปฏิบัติผิดไหม ?   ตอบ.  ไม่ผิด  เขาทำถูกทีเดียวแหละ  แต่ก็อย่างที่ว่า  ปฏิบัติไปๆจนพอจิตสงบหน่อย  ความฟุ้งซ่านลดลง   สภาวธรรมปรากฎ  ที่นี้ไปไม่เป็น  ตอนนี้แหละจะทำให้เพี้ยน  (ขาดผู้มีประสบการณ์ตรงจากภาวนามัยแนะนำดังตัวอย่างนี้) 

จขกท. เล่า คคห. 6  450

  235 ตอนแรกดิฉันมีอาการผิดปกติทางกายแล้วไปถามผู้สอน    แล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลย จึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน

     คราวนี้พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก  ต่อมาทั้งตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ  ก็คิดว่าตัวเองวิเศษ ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีก เพราะขาดความไว้วางใจ แถมหลงในสิ่งลวงนั้นแล้วด้วย    เป็นหนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล และก็รักษาจนรู้ตัวและเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง   แต่ยังมีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หาย  คือ  ใจแว่ว   (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะเพราะมันคลายหูแว่วแต่เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา) กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย    ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร  เสียงที่ได้ยินบอกว่าไม่หายหรอกต้องเป็นคนจิตผิดปกติไปตลอดบ้างละ ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ ฟังไปก็งงไปเรื่อยค่ะ เข้าใจว่ามันเป็นอาการจิตเภทแบบที่หมอบอก  แต่ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไปสุดวิธีรักษาแบบคนเป็นโรคจิต หรือ ควรกลับมาทางทำสมาธิแทน แต่กลัวตอนที่ร่างกายผิดปกติ กลัวเป็นอีกแล้วจะไม่หายคราวนี้. 


 235  พอมองออกไหม  451 ในบางราย  มีเสียงพูดเสียงสอนให้ทำยังงั้นซี่ทำยังงี้นะ  จนผู้ปฏิบัติหลงเข้ารกเข้าพง  หลงเสียงนาง  110   เขาให้กำหนดสภาวะตรงๆ  เช่น  เห็น ก็เห็นหนอๆๆๆ  ได้ยินเสียง  ก็เสียงหนอๆๆๆ  แค่นี้ก็ไม่หลงไปตามจินตนาการของสังขารแล้ว.   ทำไมล่ะ    ก็เพราะสภาวะยังงั้นเช่นนั้น   ถูกการกำหนดตัดวงจรไปแล้ว   ความคิดก็ขาดตอน    ผู้ปฏิบัติใหม่ต้องกำหนดทุกขณะนะ   ไม่ใช่กำหนดครั้งสองครั้งเลิกกำหนดล่ะ  ไม่ใช่  กำหนดทุกขณะที่เห็น  ได้ยิน  ได้กลิ่น  ฯลฯ  คิดนี่นั่นร้อยแปดพันเก้า  ชักเบื่อตัวเอง  กำหนดอย่างเดียว มันไม่ตายหรอก 9 แต่สังขารมารมันหลอกว่าจะตายจะตายนะ มันหลอก   

     หากเป็นโยคีผู้หญิง    กำหนดบ่อยๆเข้า   ก็ได้ยินเสียงผู้ชายบอกว่า  "พอแล้ว ไม่ต้องกำหนดแล้ว"   หากเป็นโยคีเป็นผู้ชาย   ก็มีภาพผู้หญิงมาบอก   เสียงผู้หญิงมาเตือน    ทำไมมันเป็นยังงัั้น  ก็เพราะกิเลสมารมันล่อให้หลงให้เชื่อ

 
ชักยาว แต่ขออีก คคห. หนึ่ง ลิงค์นั่นแหละ  450


ความคิดเห็นที่ 39

     ขอบคุณมากสำหรับทุกๆ ความเห็นค่ะ

     แต่ว่าถ้าการฝึกสมาธิมันเสี่ยงกับการเป็นบ้า  ทำไมเราถึงสนับสนุนคนให้ฝึกกันละคะ เพราะก็ไม่มีใครรู้หรอก ว่าตัวเองมีเชื้อบ้าอยู่ในตัวไหม   น่าจะสนับสนุนให้ศึกษาธรรมมะให้เข้าใจก็พอแล้ว  คนที่เข้าใจธรรมมะจากการศึกษาก็พ้นทุกข์ได้   ไม่เห็นต้องมาเสี่ยงปฏิบัติ

     ดิฉันไม่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อมาก่อนไหม แต่รู้ว่าตัวเองสุขภาพจิตดีก่อนเกิดเหตุ  แต่เคยได้ยินว่าฝึกแล้วอาจจะบ้าได้ แต่เสียดายไม่เคยคิดเลยว่ามันใกล้ตัว ไปก็ไม่ได้เคร่งเครียดอะไรในการฝึก ทำไปตามปกติสบายสบาย   จนมันผิดปกติถึงได้พยายามแก้ไขเอง    นี่เองจุดหักเข้าสู้ความตาย พอเห็นอาการทางกายหายไป  แล้วดิฉันเริ่มหลง เพราะเห็นพระที่ดิฉันนับถือที่สุดในชีวิตเอาพระองค์เล็กๆใส่มาในตัวเรา ต่อจากนั้นก็รู้สึกไปว่าติดต่อทางจิตกับท่านตลอดเวลา...เจอมุขนี้ มือใหม่จะรับมือไหวได้ยังไง

    
  451ยังมีตัวอย่างทำนองเดียวกันอีก  คือว่า  พอภาวนาไปๆ  (อย่าติดคำพูดภาวนานะ)  โน่นไปพบกับหลวงปู่ที่ตัวเองนับถือบนสวรรค์  ตอนลากลับท่านได้มอบแหวนให้ด้วย ว่าซั่น คือจิตมันหลุดจากปัจจุบันอารมณ์คือกรรมฐานที่ใช้ไป   ใช้พอง-ยุบ ก็หลุดจากพอง-ยุบ   ใช้ลมหายใจเข้า-ออก ก็หลุดจากลมหายใจเข้า-ออก แต่ละขณะๆไป 





 




Create Date : 12 เมษายน 2564
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2566 19:45:09 น. 0 comments
Counter : 777 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space