กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
พฤษภาคม 2566
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
16 พฤษภาคม 2566
space
space
space

ฝึกเป็นอริยบุคคล

ฝึกทำกับประสบการณ์ตรง  450

    ภาวนามยปัญญา    ปัญญาเกิดจากภาวนา คือการปฏิบัติบำเพ็ญ  ทำให้เป็นให้มีขึ้นได้จริง โดยลงมือทำกับประสบการณ์ตรง   (หมายถึงปัญญาที่พัฒนาต่อจากสุตมยปัญญา และจินตามยปัญญาสองอย่างแรกนั้น คืออาศัยปัญญาสองอย่างแรกนั้น)   พัฒนาต่อไปด้วยการมนสิการที่ตัวสภาวะ   จนเกิดปัญญารู้แจ้งจริงที่สำเร็จเป็นมรรคให้บรรลุผล


ตัวอย่างไหนก็ได้ในนี้  ได้ทุกตัวอย่าง  ตัวอย่างนี้แล้วกัน  450

   เพิ่งปฏิบัติมาได้ไม่นานเท่าไรค่ะ  แต่ว่าในบางครั้งที่นั่งสมาธิอยู่ๆ ก็จะมีเสียงพูดขึ้นมาสอนบ้าง หรือพูดประโยคบางประโยคซึ่งมั่นใจว่า  ไม่ได้คิดไปเองแน่นอน  (เพราะดิฉันไม่น่าจะคิดคำ พูดแบบนั้นได้แน่ๆ) และก็ไม่ได้เป็นการได้ยินจากข้างนอกนะคะ  มันไม่ได้เป็นการกระทบ หรือรับรู้จากภายนอก  แต่เป็นการได้ยินจากข้างในค่ะ   (ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี)   หรือในบางครั้งที่ดิฉันนอนหลับอยู่ และตื่นขึ้นมา  ก็เคยได้ยินจิตมันร้องเพลงขึ้นมาเองได้  ซึ่งอาการไม่ได้เหมือนเราร้องเพลงในใจนะคะ คือ แบบว่า เราไม่ได้คิดนะ  แต่จิตมันร้องออกมาเองได้  ซึ่งเป็นเพลงที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย (เป็นเพลงธรรมะ)   รบกวนผู้รู้อธิบายด้วยคะ ดิฉันพยายามอธิบายเพื่อให้เข้าใจที่สุดแต่ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ขอบคุณค่ะ


นั่น 451ประสบการณ์ตรง  ไม่เพ้อฝันเลื่อนลอย  ไม่พูดเอาแต่ได้  แต่ต้องผ่านให้ได้ ผู้ที่ผ่านได้คือผู้ชนะตนเอง 

วิธีแก้ก็ไม่มีอะไรมากมาย   เพียงกำหนดรู้ตามที่มันเป็นทุกครั้งทุกขณะ  รู้สึกยังไง  เป็นยังไง  กำหนดยังงั้น


จิตท่านเปรียบเหมือนมายากล  นี่เขาหลุดจากปัจจุบันอารมณ์  หลงไปไกลล่ะ 450



เกิดสภาวะ จิตหดเล็กลงแล้วพุ่งออกไปผ่านรู สว่างไสวเป็นสายยาวดังรูป ลักษณะคล้าย “รูหนอน”

นักปฏิบัติหลายท่าน เมื่อเจริญกรรมฐานจนจิตสงบ เมื่อปีติ สุข ลมหายใจ กายและความคิดดับสนิท เหลือแต่ ผู้รู้และจิตตั้งมั่น เกิดสภาวะ จิตหดเล็กลงแล้วพุ่งออกไปผ่านรู สว่างไสวเป็นสายยาวดังรูป ลักษณะคล้าย “รูหนอน” (ที่เรียก “รูหนอน” เพราะไม่รู้จะเอาสมมุติบัญญัติใดมาอธิบายสภาวะธรรมนั้น)

บางท่านจิตพุ่งไปไม่สุด “รูหนอน” ก็ถอนจิตกลับมาแต่เมื่อท่านไปจนสุด “รูหนอน” จะพบความว่างที่ไร้สมมุติบัญญัติ ความว่างที่สว่างไสวเกิดจากจิตผสมผสานไปความว่างนั้น เหมือนร่องรอยกลางอวกาศความว่าง ไร้ทิศ ไร้ทาง ไร้กาลเวลา ไม่สัมผัสถึงความรู้สึกทางกาย ลมหายใจ ความคิดใดๆ มีแต่สภาวะรู้และปัญญาสว่างไสวเกิดขึ้นเท่านั้น

https://pantip.com/topic/42021814

ปล่อยเขา 451 แต่ถ้าใครนอกนี้ปฏิบัติถึงทำนองนี้  พึงกำหนดอารมณ์ตามที่เห็น  ตามทีได้ยิน  ตามที่คิด  เห็นยังไง  ได้ยินยังไง  คิดยังไง  กำหนดยังงั้นๆ    ถ้าไม่กำหนดได้กู่ไม่กลับ แก้ไขก็ยาก 


มีตัวอย่างเทียบ จขกท. modran

https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/10/Y9785609/Y9785609.html

ฉายภาพ คคห. 6 450 ให้ดู  นี่เขาครบเครื่อง

ตอนแรกดิฉันมีอาการผิดปกติทางกายแล้วไปถามผู้สอน  แล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลยจึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน
คราวนี้พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก
ต่อมาทั้งตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ
ก็คิดว่าตัวเองวิเศษ ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีกเพราะขาดความไว้วางใจ แถมหลงในสิ่งลวงนั้นแล้วด้วย
เป็นหนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล และก็รักษาจนรู้ตัวและเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง
แต่ยังมีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หายคือใจแว่ว  (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะ เพราะมันคลายหูแว่วแต่เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา)  กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร
เสียงที่ได้ยินบอกว่าไม่หายหรอกต้องเป็นคนจิตผิดปกติไปตลอดบ้างละ  ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ  ฟังไปก็งงไปเรื่อยค่ะ   เข้าใจว่ามันเป็นอาการจิตเภทแบบที่หมอบอก  แต่ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไปสุดวิธีรักษาแบบคนเป็นโรคจิต หรือควรกลับมาทางทำสมาธิแทน
แต่กลัวตอนที่ร่างกายผิดปกติ   กลัวเป็นอีกแล้วจะไม่หายคราวนี้


ปีติที่เกิดทางกายดังกล่าว คคห. 8 450

แล้วอาการทางกายล่ะคะ   คุณเคยได้ยินว่ามีคนผิดปกติทางกายจากการฝึกสมาธิแล้วไม่หายไหมคะ  เพราะมันเป็นเหตุนึงที่ดิฉันกลัว  จึงไม่กล้าทำอีก  เพราะตอนที่เป็นนั้น  เหมือนมีคนมาจับหน้าเราบิดแรงๆไปมาตลอดเวลา ตอนออกจากสมาธิก็ยังเป็น
ตอนนั้นค่อนข้างหวั่นใจ   แต่ก็อดทนนั่งจนหายไป   ใช้เวลาช่วงนั้นราวสองวันค่ะ
กลัวว่าคราวนี้ทำอีกแล้วเกิดมันเป็นอีก แล้วไม่หายจะแย่ ....
(หากเรื่องที่เขาพูดกันว่าหมดวาสนาทางนี้เป็นเรื่องจริง เพราะมีคนพูดใส่เราแบบนั้นเช่นกัน
แต่ดิฉันเองไม่อยากจะเชื่อ ผลของทุกอย่างย่อมเกิดจากเหตุ
แต่ดิฉันไม่รู้ว่าเหตุใด ร่างกายเราเกิดอาการผิดปกติเช่นนั้นจากการทำสมาธิ
แล้วจะไปป้องกัน หรือเลี่ยงมันได้อย่างไร )

 


Create Date : 16 พฤษภาคม 2566
Last Update : 19 พฤษภาคม 2566 16:59:23 น. 0 comments
Counter : 169 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

BlogGang Popular Award#19


 
สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space