กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
บุญ
ข้อธรรมะที่ถาม,ถกเถียงกันบ่อย
หลักปฏิบัติ
สภาวธรรม
ชีวิต เป็นอย่างไร.ไตรลักษณ์
ชีวิต เป็นไปอย่างไร.ปฏิจจสมุปบาท
ชีวิตควรให้เป็นอย่างไร.วิชชา,นิพพาน
ปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง
ผู้ พิ พ า ก ษ า ตั้ ง ตุ ลา ใ ห้ สั ง ค ม ส ม ดุ ล
คติธรรมสั้นๆ
ภาษาธรรมวันละคำ
รู้เขา รู้เรา
คำพูดของคนใกล้สิ้นลม
ความเป็นมาของการบวช
การทำวัตรสวดมนต์
ทำยังไงจึงจะมีอายุยืนและมีความสุข
นิพพาน-อนัตตา ฉบับเพียงเพื่อไม่ประมาท
พลังดันคน
ที่ทำงานของจิต
บรรลุธรรมอะไร?
พุทธปรัชญาในสุตตันตปิฎก
ธัมมาธิบาย
สวดมนต์
ค ว า ม จ น เ ป็ น ทุ ก ข์ ใ น โ ล ก
เรียนบาลีเพื่อรักษาพุทธพจน์
ศีล-ธรรมไม่มาโลกาจะพินาศ
หลักธรรมสำหรับผู้ยังไม่นับถือศาสนาใดๆ
วันแห่งความรัก.
ชีวิต ควรเป็นอยู่อย่างไร.มัชฌิมาปฎิปทา
ชีวิต ควรเป็นอยู่อย่างไร.ปรโตโฆสะที่ดี
ชีวิต ควรเป็นอยู่อย่างไร.โยนิโสมนสิการ
ชีวิตควรเป็นอย่างไร.ไตรสิกขา
อริยสัจ
ชีวิตที่ดี เป็นอย่างไร.โสดาบัน
ศีลกับเจตนารมณ์ทางสังคม
เรื่องเหนือสามัญวิสัย.
ปัญหาเกี่ยวกับแรงจูงใจ
ความสุข.ฉบับแบบแผน,ประมวลความ
ชีวิต คืออะไร. ขันธ์ ๕
อายตนะ ๖
กรรม
ก่อนศึกษาพุทธธรรม
<<
พฤษภาคม 2566
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
16 พฤษภาคม 2566
ฝึกเป็นอริยบุคคล
หลักพระอรหันต์แท้ๆ
เป็นกิเลส ไม่ใช่ฤทธิ์
จิต
สภาวะของมัน
เจตนา เป็นตัวกรรม
ประสบการณ์จากการฝึกสมาธิ
วิปัสสนูปกิเลส
ฝึกเป็นอริยบุคคล
หลักพระอรหันต์แท้ๆ
มีเสียงพูดเสียงสอน
ออกจากสมาธิแล้วคิดอะไรไม่ออก
จิตก็ต้องมีอาหารกิน
ถูกนักมายากลหลอก
สภาวะปีติ
ประสบไตรลักษณ์อย่างไม่รู้เท่าทัน กลับทำให้เกิดทุกข์
สภาวะทางกาย
นี่ใช้พุท-โธ
ใช้สอบอารมณ์ตนเองได้
ถูกทางแต่ยังไม่สุดทาง
กำลังเดินทาง
ปักธง
ติดสุข
สวดมนต์ เจอกิเลสมาร
ปฎิบัติธรรมเอง แล้วทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะอะไร
มิจฉาปฏิปทา
ไม่ใช่ทาง
แค่แสงสว่าง ก็หลงก็ติดกันแล้ว
แปะไว้ก่อน
สภาวะที่เกิดจากการนั่งสมาธิ
เหมือนมีประจุไฟฟ้าแล่นไปตามขา
คิดฟุ้งซ่านมาก ตอนนั่งสมาธิ แก้ไขอย่างไร
โอภาส แสงสว่าง
พอจิตเริ่มๆมีสมาธิ เอาล่ะทีนี้
แทนที่จะดี กลายเป็นเสียงของ
ต่อจากวิปัสสะนึก
วิปัสสะนึก ไม่ใช่วิปัสสนา
อารมณ์สมถะ - วิปัสสนา
ลมหายใจหาย ไปไม่เป็น
นั่งสมาธิแล้วเหมือนมีแมลงไต่
รู้ตามที่มันเป็น
วิธีล้างเจ้ากรรมนายเวรออก
วิบเดียว
วิบ วิบ
ปฏิบัติเพื่อให้รู้เข้าใจชีวิต
ธรรมะไม่ถูกใจคน
ถามเกี่ยวกับการนั่งสมาธิค่ะ
ธัมมะธัมโมโฮ่กันอยู่ได้
ปฏิบัติแบบนี้ก็พอได้
กำหนดเพื่อให้รู้เห็นชัด
เสียงจากการนั่งสมาธิ
ตัวอย่างเทียบ กท. ล่าง
คำถามเรื่องสมาธิ
ขณะหลงไม่รู้ ขณะโกรธไม่รู้ ดับแล้วจึงรู้
ได้ยินเสียงนั่นนี่โน่นขณะนั่งสมาธิ-สวดมนต์
รู้จัก อานะ+อาปานะ+สติ
ปฏิบัติต้องลงมือทำ
ถามเจ็บ
100 ทั้ง 100
ทำ = ภาวนา. ภาวนา=ทำ. ทำ=ปฏิบัติ
ไม่ต้องตามหา เดี๋ยวมาเอง
ไม่รู้จะตั้งชื่ออะไร ดูเอง
เทียบนั่งสมาธิกับการบำเพ็ญบารมีสิบ
เห็น เกิด ดับ
ผู้ปฏิบัติแท้จะไม่หวั่นนิมิตใดๆทั้งทางกายทางใจ
อารมณ์ที่เกิดจากจิตซึ่งเป็นสมาธิแล้ว
เห็นสัจธรรมแล้วทุกข์คลายเองโดยอัตโนมัติ
หากต้องการเข้าถึงความจริง มนุษย์ต้องเข้าใจตัวเขาเอง
ขณะจิตที่บรรลุมรรคผล
ถึงอารมณ์เบื่อทุกอย่าง
เขาถามกันว่า
หายไปทั้งตัว
มีใครนั่งสมาธิแล้วเพี้ยน เป็นบ้าบ้าง
จิตร้องเพลง มีเสียงพูดเสียงสอน
ถามเกี่ยวกับสภาวะจากนั่งสมาธิ
กิเลสต้องเห็นชัดด้วยปัญญาจึงละได้
ใช้ หนอ
ประสบการณ์ชีวิตเยอะ ธรรมารมณ์ก็เยอะ
สมาธิล้ำองค์ธรรมอื่น
อย่าฝืน อย่าต้านสภาวธรรม
ทำสมาธิแล้วเกิดสภาวะทางกาย
ผู้ปฏิบัติดู Blog นี้แล้ว ดู Blog ภาคปฏิบัติด้วย
ทำสมาธิแล้วได้ยินเสียงสวดมนต์
นี่เขาใช้ หนอ
นี่ไม่ใช้คำภาวนาใดๆ
คำภาวนาใดๆ ไม่ใช่สาระ
ดูลมเข้า-ออก
แยก สมมุติ กับ สภาวธรรม ให้ชัด
ใช้พุทโธ.
สภาวธรรม หมายถึง
ฝึกเป็นอริยบุคคล
ฝึกทำกับประสบการณ์ตรง
ภาวนามยปัญญา
ปัญญาเกิดจากภาวนา
คือ
การปฏิบัติบำเพ็ญ ทำให้เป็นให้มีขึ้นได้จริง โดย
ลงมือทำกับประสบการณ์ตรง
(หมายถึงปัญญาที่พัฒนาต่อจากสุตมยปัญญา และจินตามยปัญญาสองอย่างแรกนั้น คืออาศัยปัญญาสองอย่างแรกนั้น)
พัฒนาต่อไปด้วยการ
มนสิการ
ที่ตัวสภาวะ
จนเกิดปัญญา
รู้แจ้งจริงที่สำเร็จเป็นมรรคให้บรรลุผล
ตัวอย่างไหนก็ได้ในนี้ ได้ทุกตัวอย่าง ตัวอย่างนี้แล้วกัน
เพิ่งปฏิบัติมาได้ไม่นานเท่าไรค่ะ แต่ว่าในบางครั้งที่
นั่งสมาธิอยู่ๆ
ก็จะมี
เสียงพูดขึ้นมาสอน
บ้าง หรือ
พูดประโยคบางประโยค
ซึ่งมั่นใจว่า ไม่ได้คิดไปเองแน่นอน (เพราะดิฉันไม่น่าจะคิดคำ พูดแบบนั้นได้แน่ๆ) และก็ไม่ได้เป็นการได้ยินจากข้างนอกนะคะ มันไม่ได้เป็นการกระทบ หรือรับรู้จากภายนอก แต่เป็นการ
ได้ยินจากข้างใน
ค่ะ (ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี) หรือในบางครั้งที่ดิฉันนอนหลับอยู่ และตื่นขึ้นมา ก็เคยได้ยิน
จิตมันร้องเพลงขึ้นมาเอง
ได้ ซึ่งอาการไม่ได้เหมือนเราร้องเพลงในใจนะคะ คือ แบบว่า เราไม่ได้คิดนะ แต่จิตมันร้องออกมาเองได้ ซึ่งเป็นเพลงที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย (เป็นเพลงธรรมะ) รบกวนผู้รู้อธิบายด้วยคะ ดิฉันพยายามอธิบายเพื่อให้เข้าใจที่สุดแต่ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ขอบคุณค่ะ
นั่น
ประสบการณ์ตรง ไม่เพ้อฝันเลื่อนลอย ไม่พูดเอาแต่ได้ แต่ต้องผ่านให้ได้ ผู้ที่ผ่านได้คือผู้ชนะตนเอง
วิธีแก้ก็ไม่มีอะไรมากมาย เพียงกำหนดรู้ตามที่มันเป็นทุกครั้งทุกขณะ รู้สึกยังไง เป็นยังไง กำหนดยังงั้น
จิตท่านเปรียบเหมือนมายากล นี่เขาหลุดจากปัจจุบันอารมณ์ หลงไปไกลล่ะ
เกิดสภาวะ จิตหดเล็กลงแล้วพุ่งออกไปผ่านรู สว่างไสวเป็นสายยาวดังรูป ลักษณะคล้าย “รูหนอน”
นักปฏิบัติหลายท่าน เมื่อเจริญกรรมฐานจนจิตสงบ เมื่อปีติ สุข ลมหายใจ กายและความคิดดับสนิท เหลือแต่ ผู้รู้และจิตตั้งมั่น เกิดสภาวะ จิตหดเล็กลงแล้วพุ่งออกไปผ่านรู สว่างไสวเป็นสายยาวดังรูป ลักษณะคล้าย “รูหนอน” (ที่เรียก “รูหนอน” เพราะไม่รู้จะเอาสมมุติบัญญัติใดมาอธิบายสภาวะธรรมนั้น)
บางท่านจิตพุ่งไปไม่สุด “รูหนอน” ก็ถอนจิตกลับมาแต่เมื่อท่านไปจนสุด “รูหนอน” จะพบความว่างที่ไร้สมมุติบัญญัติ ความว่างที่สว่างไสวเกิดจากจิตผสมผสานไปความว่างนั้น เหมือนร่องรอยกลางอวกาศความว่าง ไร้ทิศ ไร้ทาง ไร้กาลเวลา ไม่สัมผัสถึงความรู้สึกทางกาย ลมหายใจ ความคิดใดๆ มีแต่สภาวะรู้และปัญญาสว่างไสวเกิดขึ้นเท่านั้น
https://pantip.com/topic/42021814
ปล่อยเขา
แต่ถ้าใครนอกนี้ปฏิบัติถึงทำนองนี้ พึงกำหนดอารมณ์ตามที่เห็น ตามทีได้ยิน ตามที่คิด เห็นยังไง ได้ยินยังไง คิดยังไง กำหนดยังงั้นๆ ถ้าไม่กำหนดได้กู่ไม่กลับ แก้ไขก็ยาก
มีตัวอย่างเทียบ จขกท. modran
https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/10/Y9785609/Y9785609.html
ฉายภาพ คคห. 6
ให้ดู นี่เขาครบเครื่อง
ตอนแรกดิฉัน
มีอาการผิดปกติทาง
กาย
แล้วไปถามผู้สอน แล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลยจึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน
คราวนี้
พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก
ต่อมาทั้ง
ตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ
ก็
คิดว่าตัวเองวิเศษ
ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีกเพราะขาดความไว้วางใจ
แถมหลงในสิ่งลวง
นั้นแล้วด้วย
เป็น
หนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล
และก็
รักษาจนรู้ตัวและเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง
แต่ยัง
มีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หายคือ
ใจแว่ว
(ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะ เพราะมันคลายหูแว่วแต่
เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา
) กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร
เสียงที่ได้ยินบอกว่าไม่หายหรอก
ต้องเป็นคนจิตผิดปกติ
ไปตลอดบ้างละ
ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ
ฟังไปก็งงไป
เรื่อยค่ะ เข้าใจว่ามันเป็นอาการจิตเภทแบบที่หมอบอก แต่ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไปสุด
วิธีรักษาแบบคนเป็นโรคจิต
หรือควรกลับมาทาง
ทำสมาธิ
แทน
แต่กลัวตอนที่
ร่างกาย
ผิดปกติ กลัวเป็นอีกแล้วจะไม่หายคราวนี้
ปีติที่เกิดทางกายดังกล่าว คคห. 8
แล้ว
อาการทางกาย
ล่ะคะ คุณเคยได้ยินว่ามีคนผิดปกติ
ทางกายจากการฝึกสมาธิ
แล้วไม่หายไหมคะ เพราะมันเป็นเหตุนึงที่ดิฉันกลัว จึงไม่กล้าทำอีก เพราะตอนที่เป็นนั้น
เหมือนมีคนมาจับหน้าเราบิดแรงๆไปมาตลอดเวลา
ตอน
ออกจากสมาธิ
ก็ยังเป็น
ตอนนั้นค่อนข้างหวั่นใจ แต่ก็อดทนนั่งจนหายไป ใช้เวลาช่วงนั้นราวสองวันค่ะ
กลัวว่าคราวนี้ทำอีกแล้วเกิดมันเป็นอีก แล้วไม่หายจะแย่ ....
(หากเรื่องที่เขาพูดกันว่าหมดวาสนาทางนี้เป็นเรื่องจริง เพราะมีคนพูดใส่เราแบบนั้นเช่นกัน
แต่
ดิฉันเองไม่อยากจะเชื่อ
ผลของทุกอย่างย่อมเกิดจากเหตุ
แต่
ดิฉันไม่รู้ว่าเหตุใด ร่างกายเราเกิดอาการผิดปกติเช่นนั้นจากการทำสมาธิ
แล้วจะไปป้องกัน หรือเลี่ยงมันได้อย่างไร )
Create Date : 16 พฤษภาคม 2566
Last Update : 19 พฤษภาคม 2566 16:59:23 น.
0 comments
Counter : 169 Pageviews.
(โหวต blog นี้)
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
BlogGang Popular Award#19
สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
Bloggang.com