กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
ธันวาคม 2566
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
space
space
2 ธันวาคม 2566
space
space
space

อยากหยุดความรู้สึกที่ไม่ดี

235 เรื่องมันมีอยู่ว่า   450

  - สงสัยเรื่องอาการตอนนั่งสมาธิ

-> ข้อมูลค่อนข้างยาว  ใครไม่ไหวข้ามได้เลย  แต่ถ้าหากมีผู้ที่จะอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือ ต้องขอขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

     หลังสวดมนต์ก่อนนอนเสร็จ ตอนแรกตั้งใจจะหลับตา และแผ่เมตตาให้กับคนที่เรารู้สึกไม่ดีด้วย เพราะอยากหยุดความรู้สึกที่ไม่ดีกับคนๆหนึ่งสักที  ก็พยายามนึกภาพหน้าเขา แล้วแผ่เมตตา ทั้งขออโหสิกรรมที่เราได้รู้สึกอกุศลด้วยต่างๆ นาๆ
หลังจากนั้นภาพคนนั้นก็หายไปแล้ว  เกิดเป็นภาพนามธรรมที่มีทั้งน่าเกลียดและมีทั้งว่างเปล่าสบายตา  (แต่ระหว่างนี้ก็ได้พยายามมุ่งหน้าแผ่เมตตาอยู่เรื่อยๆ)

     ระหว่างนั้นก็ได้สังเกตว่าพอความรู้สึกทางลบเกิดขึ้น  ภาพนามธรรมนั้นก็น่าเกลียด แล้วสลับกับความรู้สึกที่สบายใจจากการขอโทษในใจ  ภาพนามธรรมนั้นก็เปลี่ยนเป็นเรียบสบายตา แบบนี้สลับไปเรื่อยๆ  สังเกตได้อีกนิดว่า  รู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนยอดก้อนหินที่สูงเหมือนหน้าผา มีทั้งโหวงๆและสบายสลับกัน
(ตรงนี้ยอมรับว่า เราเพ่งมากๆไปที่อยากแผ่เมตตา และขออโหสิกรรม เพื่อให้หายเจ็บปวด เวลานึกถึงหน้าคนๆนี้)

     แล้วจากนั้นก็เกิดความรู้สึกเหมือนมันจะระเบิดออกมาจากกลางกาย  ตรงนี้ภาพคนนั้นหายไปแล้ว กลายเป็นทั้งอึดอัดละเหมือนในตัวมีแรงดันมากๆจนจะระเบิด

     เราเลยค่อยๆพยายามมองดูมัน  คิดในใจว่า ถ้าจะเกิดอะไรก็ให้มันเกิดไปเลย จะระเบิดจะตายก็ให้มันเกิดไปเลย  โดยเราพยายามกลับมาที่ลมหายใจดังเดิม

     จนน่าจะ 1 -2 นาที  ความรู้สึกตัวจะระเบิดก็เบาบางลงไป  กลับกลายเป็นอึดอัดตรงอก เหมือนจะอ้วก จะเรอ เวียนหัว นิดหน่อย ตรงนี้เรารับรู้ได้ว่าเป็นอาการทางกาย เลยเลือกที่จะหยุดทำสมาธิ แล้วลืมตา

     พอลืมตาเรากลับไม่ได้รู้สึกสบายใจเลย   เหมือนเศร้าจากเรื่องคนนั้นมีอยากร้องไห้ออกมา แต่ร้องไม่ออก และไม่สบายใจไม่พอ รู้สึกแน่นหน้าอกอึดอัดไปหมด

     เราสังเกตตัวเองได้ เลยพยายามเสิร์ชหาข้อมูล  เกี่ยวกับการแผ่เมตตาที่ถูกต้อง เขาให้เริ่มแผ่เมตตาให้ตัวเองก่อน   เพื่อให้ตัวเองสบายใจก่อนที่จะทำให้ผู้อื่นสบายใจ   (ตรงนี้เราเข้าใจ เพราะทุกคืนสวดมนต์แล้วมีบทแผ่เมตตานี้อยู่แล้ว)

     พอเราเริ่มแผ่เมตตาให้ตัวเอง จู่ๆใจก็เบาขึ้น  แล้วพอสวดจบ  ก็เรอออกมา  จนไม่แน่นหน้าอกแล้ว และรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง

คำถามคือ

     1. อาการทางสมาธิที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติที่คนเริ่มฝึกสมาธิเจอกันใช่หรือไม่  (ทุกวันนี้กำลังพยายามฝึกนั่งสมาธิให้สม่ำเสมอ ซึ่งตอนนี้สามารถดูจิตตัวเองได้ว่ากำลังคิดอกุศล หรือคิดและรู้สึกอะไรอยู่ได้)

     2. อยากหายทุกข์ใจจากคนๆหนึ่ง ให้แผ่เมตตาให้เขา จนกว่าจะหายใช่หรือไม่ (ตรงนี้เรามีพื้นฐานธรรมะเกี่ยวกับสัจธรรมและอริยสัจ 4 อยู่ แต่บางครั้งก็ช่วยให้หยุดคิดอกุศลเด็ดขาดไม่ได้ จึงทุกข์ใจอยู่ยาวๆ)

https://pantip.com/topic/42377303

ตอบ

     ๑. ใช่   (ไม่ต้องเก็บรายเอียดความคิด  แต่ให้กำหนดความคิดแต่ละขณะๆ เช่น โกรธ เกลียด ชอบใจ ไม่ชอบใจ ฯลฯ กำหนดรู้ตามที่มันเป็น เป็นยังไงกำหนดยังงั้น รู้สึกยังไงกำหนดยังงั้น ตรงๆ ไม่เลี่ยงหนี  โกรธหนอๆๆ  เกลียดหนอๆๆ  ชอบใจหนอๆๆ  ไม่ชอบหนอๆๆ อึดอัดหนอๆๆ ฯลฯ)  

     ๒. อยากหายทุกข์ใจจากการคิด คิด ... ในขณะนั้นๆ ให้กำหนดตามที่รู้สึกนั่นแล   (ไม่ต้องนึกเจาะจงเขา  ช่างเขาเถิดปล่อยเขาไป   121   ไม่ใช่พอจะลืมๆ เราก็ไปดึงเอามาแผ่เมตตาอีก ก็ไม่จบไม่สิ้นอย่างว่าซั่น)   กำหนดความคิด   คิดปุ๊ป  กำหนดปั้ป เช่น เสียใจ  แค้นใจ  เศร้าใจ  หงุดหงิด ฯลฯ  เสียใจหนอๆๆๆ  แค้นหนอๆๆๆ ดังนี้เป็นตัวอย่าง  กำหนดตรงสภาวะ ไม่เลี่ยงหนี (กำหนดตัดวงจรความคิดให้ขาด)

     ภาคสภาวะจากการเจริญสมาธิ  ดูตัวอย่างนี่ประกอบความเข้าใจอีก แล้วจะเข้าใจความคิดเพิ่มขึ้น
 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=21-06-2021&group=5&gblog=21

-   ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา  ทุกฺขา.  ไม่มีอะไรนอกจากนี้  ไม่ยึดก็ไม่ทุกข์   ยึดทีไรทุกข์ทุกที 


235 ตัวอย่างแผ่เมตตาแบบอัปปมัญญา (ไม่เจาะจง) 

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=02-12-2023&group=5&gblog=94


   เรื่องมันผ่านมาแล้ว  ไม่พูดได้ไหม  ไม่อยากนึกถึง  นึกถึงแล้วปวดหัว.   คำพูดตัวประกัน ญ. ที่ถูกปล่อยกลับถึงบ้านแล้ว ซึ่งนักข่าวถามถึงเหตุการณ์วันถูกจับตัว 

ฟัง

https://www.youtube.com/watch?v=TUIzH4xdXJI

235 จึงแนะนำว่า  อย่าพยายามนึกถึงหน้าเขาแล้วแผ่เมตตาเลย  ให้กำหนดตรงๆตามสภาวธรรมอย่างว่า  กำหนดตามนั้น ๓-๔ ครั้งแล้วปล่อย   (อย่าจมแช่อยู่กับอารมณ์นั้น)  ดึงสติมากำหนดกรรมฐานคือลมหายใจเข้า-ออก, พอง-ยุบ ไปใหม่  นี่คือวิธีพ้นทุกข์ โทมนัส อุปายาส
 


Create Date : 02 ธันวาคม 2566
Last Update : 27 กรกฎาคม 2567 20:56:57 น. 0 comments
Counter : 317 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

BlogGang Popular Award#20


 
สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space