เทียบภาคปฏิบัติ ผู้ที่ฝึกหัดปฏิบัติทางจิตใหม่ๆ
(จิตพอเป็นสมาธินิดหน่อย) ความรู้สึกไม่ชัดพอ เบลอๆ ก็จะเห็นนั่นเห็นนี่ ได้ยินเสียงนั่นนี่ สภาวะนั่นนี่ปรากฏ ก็หวาดกลัว คิดฟุ้งไป เราเป็นอะไร จะเป็นอะไรไหม หลุดจากกรรมฐานตามปัจจุบันอารมณ์ไม่ทัน เพราะมัวแต่คิดฟุ้งอยู่
เพราะฉะนั้น ท่านจึงให้กำหนดจิตตามเป็นจริง ไม่เลี่ยงหนี เพื่อให้สติสัมปชัญญะแข็งแรง
ตัวอย่างเทียบไม่ชัดอีก - นั่งสมาธิแล้วเหมือนมีอีกร่างอยู่ในตัว
- >รบกวนผู้รู้ชี้แนะด้วย
1. มีความรู้สึกมีอีกร่างอยู่ในตัวเรา แต่เราจะควบคุมอีกร่างไม่ได้ อีกร่างเหมือนกับจะพยายามออกมา จากร่างเรา รู้สึกว่าเค้าจะยืดออกทางหน้าซ้ายบ้าง สักพักก็มาทางขวา แต่ไม่เคยออกได้ ปกติเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจะพยายามไม่ สนใจค่ะ ถูกต้องรึเปล่าค่ะ หรือควรจะทำอย่างไรกรุณาชี้แนะด้วยค่ะ
2. นั่งไปสักพัก
จะไม่รู้สึกตัวเหมือน
เราหายไป แต่รู้ว่าไม่ได้หลับ สักพักก็กลับมาเหมือนเดิม เหมือนหายไปแปล๊บเดียว แต่ค่อนข้างจะนานค่ะ ควรจะทำอย่างไรหรือปล่อยไปแบบนี้ค่ะรบกวนชี้แนะ ด้วย
ทั้งสองเหตุการณ์ จะไม่เกิดพร้อมกัน ถ้าวันนี้เกิดเหตุการณ์ที่ 1 วันต่อมาก็จะเกิด เหตุการณ์ที่ 2 สลับกันค่ะ หรือบางวันก็ไม่เกิดอาการทั้ง 2 เลยค่ะ
3.
เคยนอนหลับตอนกลางวันที่บ้าน แล้วมีความรู้สึกว่าไม่ง่วงไม่นอนละ แล้วก็ลุกขึ้นมาทำอะไรตามปกติ เช่น กวาด บ้าน เดินอยู่ในบ้าน สักพัก
สะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์แล้วก็งงว่า เมื่อกี้เราไม่ได้หลับนี่ ยังทำอะไรตามปกติอยู่เลย แล้ว
ทำไมมาสะดุ้งตื่นนอนบนที่นอนอย่างนี้
รบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะแนวทางที่ควรจะปฏิบัติต่อไปด้วย ปกตินั่งสมาธิแบบ
อานาปานสติอย่างเดียวเลยค่ะ ก่อนนอนก็
จะนอนภาวนาตลอดเลยค่ะ
เขาไม่กำหนดจิตตามที่เป็นตามที่รู้สึก
ปล่อยสภาวะผ่านไปเรื่อยเปื่อย
ตัวอย่างไม่ชัดอีก ผู้ปฏิบัติไม่กำหนดสภาวะที่เห็น ได้ยินเป็นต้น->
เดินจงกรมซักพัก แว้บนึงก้มไปมองที่เท้า เห็นว่า
เท้าที่เดินอยู่ไม่ใช่ตัวเรา ความรู้สึกเหมือนเรามองศพคนอื่น แต่ว่า
พอเห็นเช่นนั้นความกลัวผุดขึ้น จิตมันก็เลยถอยออกมาจากความรู้สึกนั้น ที่เห็นเช่นนี้ ปฏิบัติถูกต้องไหมครับ ? ถ้าผิด/ถูก ควรทำอย่างไรต่อไป?
อีกสักตัวอย่าง - ถามท่านผู้รู้ค่ะว่า
->วันนี้ ได้
เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ ?
การกำหนดอารมณ์ในขณะนั้น คือว่าจงกรมไม่ชัด วิธีแก้คือ เห็นปุ๊บกำหนดปั้บ เห็นหนอๆๆๆ กำหนดทันแต่ละขณะๆนั่นแหละสติสัมปชัญญะสมาธิค่อยๆเกิดแล้วปฏิบัติทำนองนี้เรื่อยไป แล้วไม่ต้องเรียกหาสติหาอะไรอย่างที่ต้องการแล้วผลมันเกิดเอง ไม่ใช่ปล่อยอารมณ์เลื่อนลอยเรื่อยเปื่อย