อีกตัวอย่างหนึ่ง (น่าจะบอกวิธีปฏิบัติด้วยว่าเขาให้ทำยังไง ปฏิบัติแบบไหน)
ปฏิบัติธรรมเคร่งเกินไปจนกลายเป็นโรคทางจิตเวชแบบเฉียบพลัน
เราอยากให้สังคมได้ตระหนักถึงการปฏิบัติตัวในการเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมว่า ไม่ต้องสุดโต่งมากเกินไป ขนาดที่ว่า ถึงเวลานอนก็ไม่ยอมนอน ไม่งั้นอาจจะป่วยเหมือนสามีของเราได้
เรื่องมีอยู่ว่า เรากับสามีไปปฏิบัติธรรม แล้วสามีเรามีอาการเหมือนคนบ้า ทั้งที่ก่อนไปวัดเราใช้ชีวิตกันปกติ และไม่เคยมีอาการทางจิตมาก่อน เราตกใจมาก กับ อาการของสามี ทั้งหูแว่ว ประสาทหลอน หลงผิด ก้าวร้าว ร้องไห้ แทบจะไม่นอน จำสิ่งที่พึ่งทำไม่ได้
ไม่รู้เวลา สถานที่ และอาการอื่นๆ.......................
กลับบ้านมาเราพาสามีไปรักษาที่โรงพยาบาล ตอนแรกคุณหมอสงสัยว่าจะเป็นโรคสมองอักเสบ จากภาวะแพ้ภูมิต้านทานต่อตัวรับเอ็นเอ็มดีเอ (Anti-NMDAR Encephalitis)
แต่พอผลตรวจทุกอย่างทั้งผลเลือด/X-ray/MRI/น้ำไขสันหลัง ออกมาปกติดี และจากการรักษามาระยะหนึ่ง ทำให้คุณหมอวินิจฉัยได้ว่าสามีป่วยทางจิตแบบเฉียบพลันจากการปฏิบัติธรรมที่เคร่งเกินไป ซึ่งตอนนี้อาการกลับมาปกติแล้ว แต่ยังต้องรักษาต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง ยาที่กินก็จะมีผลข้างเคียงอยู่พอสมควร
จึงอยากจะเผยแพร่ข้อมูลนี้ออกสู่สังคม เพื่อเตือนสติคนที่จะไปปฏิบัติธรรม ให้ได้รับรู้ถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น หากปฏิบัติไม่ถูกวิธี สุดโต่ง เคร่งจนเกินไป เพราะไม่อยากให้ใครประสบเหตุการณ์แบบครอบครัวเราอีก
https://pantip.com/topic/41852545
การฝึกอบรมจิต,การปฏิบัติธรรม, การปฏิบัติกรรมฐาน, นั่งสมาธิ หรือใช้ชื่ออื่นๆทำนองนี้ ดี แต่ไม่สู้ดี เพราะผู้แนะนำเขา ไม่เข้าใจชีวิต (= ธรรม) ไม่รู้วิธีแก้อารมณ์ (สภาวธรรม) ซึ่งปรากฎขณะปฏิบัติ ขณะฝึกอบรมจิต เลยเสียของ แทนที่จะดีกลายเป็นเสียของไป
ให้ดูตัวอย่างหนึ่ง (blog นี้ มีตัวอย่างให้ดูให้ศึกษามากมาย กดๆดูเถอะ)
ดู
ประสบการณ์จากการฝึกสมาธิ
การขอคำปรึกษาเรื่องอาการที่เกิดจากการฝึกสมาธิในที่สาธารณะแบบนี้ถือว่าสมควรไหม มีความรู้เรื่องพุทธศาสนาน้อยมาก จึงกังวลไปทั่วทุกอย่างค่ะ ไปฝึกแล้วเป็นโรคจิต (ตามที่หมอบอกจากอาการที่เราเป็น) นั่งอ่านตามเว็บไซต์ ก็ไม่เห็นมีคนพูดกันว่าเจออะไรบ้าง จึงไม่แน่ใจว่ามันควรพูดไหม เดี๋ยวเจอข้อหาโทษศาสนา
https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/10/Y9785609/Y9785609.html
โฟกัสคำถาม จขกท. คคห. 6,8,11,15,19,39,47,51. ตรงนี้ให้ดู คคห. 6
ตอนแรกดิฉันมีอาการผิดปกติทางกายแล้วไปถามผู้สอน แล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลย จึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน คราวนี้พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก
ต่อมาทั้งตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ ก็คิดว่าตัวเองวิเศษ ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีกเพราะขาดความไว้วางใจ แถมหลงในสิ่งลวงนั้นแล้วด้วย เป็นหนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล และก็รักษาจนรู้ตัว และเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง แต่ยังมีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หายคือใจแว่ว (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะ เพราะมันคลายหูแว่ว แต่เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา) กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร เสียงที่ได้ยิน บอกว่า ไม่หายหรอกต้องเป็นคนจิตผิดปกติไปตลอดบ้างละ ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ ฟังไปก็งงไปเรื่อยค่ะ เข้าใจว่ามันเป็นอาการจิตเภทแบบที่หมอบอก แต่ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไปสุดวิธีรักษาแบบคนเป็นโรคจิต หรือควรกลับมาทางทำสมาธิแทน แต่กลัวตอนที่ร่างกายผิดปกติ กลัวเป็นอีกแล้วจะไม่หายคราวนี้
เรื่องนี้ ผู้แนะนำเขา ที่เรียกกัลยาณมิตรสำคัญมากมาย สภาวธรรมนั่นแหละที่ผู้สอนเขา ต้องรู้เข้าใจ มีประสบการณ์ตรง ตนเองก็ผ่านได้ผ่า่นแล้ว แต่ถ้ารู้แต่วิธีปฏิบัติ (ธรรม) ว่า เขาทำกันพูดกันอย่างนี้ๆ เช่น หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ นะ พุท-โธๆๆๆ นะ ยัง ยังไม่พอแก่การ. หายใจเข้าท้องมันพอง ว่า พองหนอ นะ ท้องแฟบท้องยุบ ว่า ยุบหนอ นะ. พองหนอ ยุบหนอ นะ ยัง ยังไม่พอ อย่างว่าว่าต้องรู้เข้าใจสภาวธรรมแก้ปัญหาแก้อารมณ์เป็น
มีตัวอย่างให้ดูอีก ว่าหลงไปไกลขนาดไหน ขนาดไหนก็ได้ทั้งนั้น
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=06-07-2022&group=43&gblog=8
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2566 |
Last Update : 5 ธันวาคม 2566 16:51:40 น. |
|
0 comments
|
Counter : 319 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|