 |
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
 |
 |
|
|
 |
 |
|
- นี่ก็พุทโธ
- นั่งสมาธิไปสักพักหายใจไม่ออก
- นั่งสมาธิแล้วเห็นคนเห็นพระมาคุยด้วย
- นั่งสมาธิแล้วหายใจไม่ออก
- เรียนรู้จากประสบการณ์
- อาการแบบนี้นี้ที่เกิดขึ้นขณะนั่งสมาธิคืออะไรคะ
- นั่งสมาธิตัวสั่นโยกอย่างเร็วแล้วหยุด
- ดวงตาเห็นธรรม คืออะไรสำคัญสำหรับชีวิตคนเราไหมคับ ?
- อวิชชา, วิชชา
- ใช้สอบอารมณ์ตนเอง
- อยากฟังประสบการณ์คนนั่งสมาธิค่ะ
- อันตรายที่ซ่อนอยู่ ต้องเห็นชัดด้วยปัญญาจึงละได้
- นั่งสมาธิแล้วตัวหด
- ง่วงเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติธรรม ผ่านไปไม่ได้
- นั่งก็นั่ง สมาธิก็สมาธิ
- บีบกด VS เป็นไปเอง
- ฌาน
- ตัวอย่าง รู้ตามที่เราอยากให้มันเป็น ๒
- ตัวอย่าง รู้ตามที่เราอยากให้มันเป็น ๑
- ใกล้ตายจิตสงบง่าย
- สมถะวิปัสสนายาใจยามเจ็บ
- นั่งสมาธิวันละ 40 นาที 4 เดือนแล้วไม่เกิดอะไรเลย
- นั่งสมาธิแล้วลมหายใจหายทำไงต่อ
- ภาวนาพุท/โธ โดยไม่ดูลมหายใจได้ไหมคะ ?
- อวิชชา คือความไม่รู้ตามความเป็นจริง
- เมื่อทุกข์ ค้นหาเหตุ กำจัดเหตุ ทุกข์ดับ
- นั่งสมาธิแล้วรู้สึกกลัวเหมือนกำลังจะตาย
- ถึงนิมิตแล้วจะผ่านไปได้อย่างไร ,
- ภาวนาตัวสั่น ตัวหาย
- คนที่เริ่มภาวนา เคยพบบางสิ่งกันไหม มีวิธีออกจากสิ่งเหล่านั้นอย่างไร?
- สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย
- ธรรมสากัจฉาเรื่อง "โอภาส" แสงสว่าง
- อาจารย์สำนักหนึ่งแนะนำ วิ ธี บ ร ร ลุ ธ ร ร ม
- ทำกรรมฐานแล้วหูแว่วแก้ยังไงดีคะ
- เหตุใด ผู้ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน หลายคนจึงนิมิตเห็นหลวงปู่มั่น ?
- นั่งสมาธิเกิดปรากฏการณ์ทางจิตแปลกๆ ,
- ภาวะที่เป็นอวิชชา ก็คือการไม่มองเห็นไตรลักษณ์
- นั่งสมาธิเหมือนมีอะไรกดดันที่คอจนได้เลิกนั่ง
- การนั่งสมาธิกับความคิด ,
- พูดปฏิบัติแบบโยงศัพท์ทางธรรม
- นั่งสมาธิมีเสียงในหัวหยุดความคิดไม่ได้
- อ่านแล้วรู้สึก VS เข้าถึงแล้วรู้สึก
- กัดฟันสู้ VS สู้อย่างรู้เข้าใจ
- เห็นนั่นนี่โน่น พื้นๆ
- ๒ แนวปฏิบัติ สมถะ กับ วิปัสสนา
- กำหนดพุทโธพร้อมลมหายใจ หายใจเร็วและถี่ ควรแก้ไขอย่างไรครับ
- ทุกข์เป็นสภาวะด้านหนึ่งของชีวิต
- นั่งสมาธิแล้วลมหายใจสั้นแผ่วหาย
- ทำสมาธินานๆ แล้วเห็นแสงมีจริงหรือครับ
- นั่งสมาธิตัวสั่นโยกเร็วแล้วหยุด ,
- มหัศจรรย์ ครั้งแรกในชีวิตกับการภาวนา
- ลมหายใจหาย อึดอัดทนไม่ไหว
- การนั่งสมาธิที่ถูกต้องต้องทำอย่างไร
- ญ รัก ช.มักต้องการให้เขาเป็นคนดี แต่ ช. รัก ญ มักตามใจจนเสียคน
- จุดตายโกก้า
- ความหมาย วิปัสสนา
- ???
- ปล่อยวางความแค้นในอดีต ได้ยังไง
- นั่งสมาธิเห็นสิ่งที่ไม่ใช่คน
- มือไม้ ลูกกะตา ปาก ขา ทั้งร่างกาย เคลื่อนไหวเอง
- ประสบการณ์จากการฝึกสมาธิ
- วิธีแผ่เมตตาจิต
- อยากหยุดความรู้สึกที่ไม่ดี
- จิตจะพัฒนาไปเรื่อย
- นั่งสมาธิแล้วเกิดนั่นนี่โน่น กลัวค่ะ ,
- นั่งสมาธิแล้วเหมือนโดนไฟช็อต
- นั่งสมาธิจงกรมแล้วอารมณ์ยังเหวี่ยงง่าย
- เป็นวิปัสสนูปกิเลส
- นั่งสมาธิแล้วเหมือนมีแมลงไต่
- นั่งสมาธิแล้วภาพ สัตว์ แมลงลอยให้เห็น ,
- ประสบการณ์จากการฝึกสมาธิ ,
- วิปัสสนูปกิเลส
- ฝึกเป็นอริยบุคคล ,
- หลักพระอรหันต์แท้
- นั่งสมาธิมีเสียงพูดเสียงสอน
- ออกจากสมาธิแล้วคิดอะไรไม่ออก
- จิตส่งเสียงคล้ายคนสวดมนต์
- จิตบอกให้หยุดหายใจ ,
- สภาวะปีติ ๕
- ประสบไตรลักษณ์อย่างไม่รู้เท่าทัน ,
- นั่งสมาธิแล้วร่างกายสั่นจริง
- นี่ใช้พุท-โธเป็นไง ดู
- หลักสอบอารมณ์ตนเอง
- ลมหายใจหาย
- ภาวนาแล้วรู้สึกกายใจสกปรก
- ธงชัยพระอริยบุคคล
- นั่งสมาธิแล้วมีความสุขมาก
- สวดมนต์ เจอกิเลสมารคิดชั่วร้ายกับครูอาจารย์
- ปฎิบัติธรรมเอง แล้วทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะอะไรหรอคะ ?
- มิจฉาปฏิปทา
- นั่งสมาธิแล้วร่างกายคล้ายๆมวลสาร สารพัด
- ธัมมุทธัจจ์ ๑๐
- ถามสภาวะที่เกิดจากนั่งสมาธิ
- นั่งสมาธิแล้วเหมือนประจุไฟฟ้าแล่นไปแล่นมา
- นั่งสมาธิฟุ้งซ่านมากแก้ไขอย่างไรดีคะ
- กลัวการนั่งสมาธิค่ะ
- มีปัญหาในการนั่งสมาธิค่ะ กลัวมาก
- ไปปฏิบัติธรรมแล้วสามีมีอาการเหมือนคนบ้า
- วิปัสสะนึก ต่อ
- วิปัสสะนึก
- อารมณ์สมถะ - วิปัสสนา ,
- นั่งสมาธิแล้วลมหายใจหาย ต้องทำไงต่อ
- นั่ ง ส ม า ธิ แล้วเหมือนมีแมลงไต่
- นั่งสมาธิแล้วหยุดหายใจ
- วิธีล้างเจ้ากรรมนายเวรออก
- วิบเดียว มีตัวอย่างประกอบ
- จิตเกิด-ดับรวดเร็ว มีตัวอย่างประกอบ
- นั่งสมาธิแล้วเกิดอาการชาๆตึงๆ
- ธรรมะไม่ถูกใจคน ,
- นั่งสมาธิแล้วรู้สึกมีลมเย็นพัดผ่านหลัง
- ธัมมะธัมโมโฮ่กันอยู่ได้
- นั่งสมาธิเห็นเป็นคนมาล้อม, กลัว
- กำหนดรู้ตามที่มันเป็นเพื่อให้รู้เห็นชัด ,
- นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงคนพูด
- ตัวอย่างเทียบ กท. ล่าง ,
- เห็นเทวดาพนมมือรับบุญ
- โทสะกำลังเกิดคนไม่รู้ตัว มันดับไปแล้วจึงรู้
- สวดมนต์นั่งสมาธิ ได้ยินเสียงนั่นนี่โน่น
- รู้จัก อานาปานสติ
- อ่านเข้าใจแล้วต้องไปปฏิบัติ
- ชาวพุทธเข้าใจคำว่าธรรม ว่าหมายถึงอะไรกันบ้างเหรอครับ ,
- ขอคำอธิบาย จากผู้รู้ ว่าการภาวนา การทำสมาธิ มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
- นั่งสมาธิแล้วลมหายใจชอบหาย
- การปฎิบัติธรรมทำให้เราเห็นโลกอีกมิติ จริงไหมคะ
- นั่งสมาธิ กับ บารมี ๑๐
- ใช้คำว่า ดับไม่กลับมาอีกเลย
- ผู้ปฏิบัติแท้จะไม่หวั่นนิมิตใดๆ ทั้งทางกาย ทางใจ ,
- ทำอย่างไร จึงจะทำให้จิตนิ่งและแข็งขึ้นดีคะ
- เห็นสัจธรรมแล้วทุกข์คลายเอง
- หากต้องการเข้าถึงความจริง มนุษย์ต้องเข้าใจตัวเขาเอง ,
- ขณะจิตบรรลุมรรคผล
- นั่งสมาธิแล้ว เ บื่ อ ทุกอย่าง
- ชอบถามธรรมะระดับแก่น
- นั่งสมาธิแล้วหายไปทั้งตัว
- มีใครนั่งสมาธิแล้วเพี้ยน เป็นบ้าบ้างคะ ?
- นั่งสมาธิได้ยินเสียงสิ่งที่มองไม่เห็น
- นั่งสมาธิตัวหาย กายสั่น
- จะทำยังไงให้ไม่คิดแค้นหรือโกรธใครคะ
- ใช้ พอง-ยุบ เป็นกรรมฐาน
- ประสบการณ์ชีวิตเยอะ ธรรมารมณ์ก็เยอะ
- นั่งสมาธิแล้วรู้สึกเหมือนจะตาย
- อย่าฝืน อย่าต้านสภาวธรรม
- นั่งสมาธิเหมือนมีคนจับหน้าบิดไปมา
- ผู้ปฏิบัติดู Blog นี้แล้ว ดู Blog ภาคปฏิบัติด้วย
- ทำสมาธิแล้วได้ยินเสียงสวดมนต์
- ตัวอย่าง ใช้พองหนอ ยุบหนอ
- ตัวอย่าง ไม่ใช้คำภาวนาใดๆ
- คำภาวนา ไม่ใช่สาระ
- นั่งสมาธิแล้วลมหายใจชอบหาย
- แยก สมมุติ กับ สภาวธรรม ให้ชัด
- ตัวอย่างใช้ พุทโธ
- ความหมาย สภาวธรรม ตัวอย่าง
|
|
 |
|
ตัวอย่าง รู้ตามที่เราอยากให้มันเป็น ๑ |
|
ตัวอย่างนี้ เรียก "รู้ตามที่เราอยากให้มันเป็น" นึกๆคิดๆเอาตามที่อยากได้อยากเอาอยากมีอยากเป็น ไม่ใช่ของจริง ไม่ใช่รู้ตามที่มันเป็น 
- วันนี้มีเวลาว่างอยู่บ้างจึงขอเล่าประสบการณ์ตรงว่า
- > ผมได้อะไรจากการเรียนรู้ สติปัฏฐานสี่จากพระอาจารย์ปราโมทย์ เอาจริงตอนนั้นผมไม่รู้จักสติเลยก็ว่าได้ สติคืออะไร อะไรคือระลึกได้ ได้แต่อ่านแต่ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นในจิตใจเราบ้าง ผมไม่รู้จักกับมันจริงๆ มันแยกไม่ออก ได้แต่รู้ในปริยัติ ไม่รู้ในการปฎิบัติว่ามันเป็นอย่างไร จนได้ปฏิบัติจริง ถึงจะแยกได้จริงจากการปฏิบัติ
โดยผมเริ่มจากเวทนา คืออารมณ์ทุกข์ที่มาจากการโกรษ โมโห มันเห็น ง่ายที่สุดสำหรับผม ผมเป็นคนขี้โมโห เลยจับที่โมโห เมื่อใดหงุดหงิด สักนิดผมก็จะรู้ตัวว่ากำลังโมโห หงุดหงิด เวทนานี้ก็ดับไปแบบเห็นๆเลยว่ามันดับ เกิดเมื่อไหร่ก็รู้ ดับเมื่อไหร่ก็รู้
เดือนแรกผมเริ่มที่เวทนาตัวเดียว โกรษตัวเดียว หงุดหงิดก็รู้ มันก็ดับไปเอง ตอนนั้นสนุกมากๆ ที่เราหาตัวโกรษได้ ทำจนมันหายไป (เวทนานุสติปัฏฐาน)
คำถามแล้วไงต่อ ล่ะ จิตมันบอกว่าก็ต่อด้วย จิตตานุสติปัฏฐาน สิ ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าคืออะไร ทำแบบโง่ๆ คือ จิต มี เวทนา สัญญา สังขาร ที่เห็น
ผมเลยปฏิบัติ อะไรเกิดขึ้นที่จิตรู้ เวทนาเกิดก็รู้ สัญญาเกิดก็รู้ สังขารปรุงแต่งเกิดก็รู้ เช่น
เราโกรษก็รู้ แล้วมันก็ดับ ถ้ามันไม่ดับมันไปต่อจะเห็นว่ามันกำลังคิด เราก็รู้ว่านี่คือสังขารปรุงแต่ง เมื่อรู้ว่าปรุงแต่ง ปรุงแต่งก็หยุดไป
อยู่ๆจิตมันก็นึกถึงคนๆนึ่ง พอนึกเราก็รู้นี่คือสัญญาความจำ เมื่อเรารู้มันก็ดับไป มันวนมาตลอดเวลาใน 1 วัน ผมทำทุกครั้งที่มีสติ ทำตั้งแต่ตื่น จนหลับ หลับจนตื่น อยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ รู้แค่ เวทนา สัญญา สังขาร เท่านั้น
(ตอนนี้นไปกราบพระอาจารย์ปราโมทย์ ท่านบอกว่า ให้รู้ซื่อๆ ผมเลยฝึกแบบรู้ซื่อๆ คือ รู้ว่าสิ่งนี้คือเวทนา รู้ว่าสิ่งนี้คือสัญญา รู้ว่าสิ่งนี้คือสังขารคิดปรุงแต่ง รู้เพียงแค่นี้ อะไรเกิดขึ้นในจิตก็รู้)
วันหนึ่งในขณะดูจิตดูใจ จิตมันร้องตะโกนบอกว่า 
"อ้าว เวทนา สัญญา สังขารนี่ไม่ใช่เรานี่หว่า" สิ่งนี้มันไม่ใช่เรา
(จุดนี้ผมได้เรียนรู้จากหลายๆท่านบอกว่า ขันธ์ 5 ไม่ใช่เรา เเล้วท่องไปไก่เป็นนก แต่อย่างไรก็ดูก็ยังเป็นเรา เราทุกข์ เรารู้ เราคิด ท่องอย่างไรก็เป็นเราอยู่ดี) ผมมีคติ 1 ข้อ คือผมไม่โกหกตนเอง
แต่ตอนนี้ไม่ใช่ จิตมันบอกของมันเอง มันเห็นเองว่า ทุกข์ไม่เราทุกข์ สัญญาความจำมันก็ไม่ใช่เรา ความคิดมันก็ไม่ใช่เรา มันบอกของมันเอง
ทำให้ผมเห็นจิตว่าไม่ใช่เราด้วย
ตอนนั้น ผมก็มองหาว่า จิต เวทนา สัญญา สังขาร นี้ อยู่ตรงไหนของร่างกาย ทำอย่างไรก็หาไม่เจอ มันไม่ใช่สมอง มันไม่ใช่ร่างกาย ตอนนั้นหาไม่เจอว่ามันอยู่ตรงไหน
คืนนั้นผมก็นั่งสมาธิ ผมก็เห็นจิตนี้ไปวิ่งจับที่กาย มันก็กระโดดไปจับที่โน้นนี่นั้นของมันในร่างกาย แล้วจู่ๆ มันไปจับที่ข้อแขนขวา ช่วงเวลานั้นนิดเดียวมาก
ผมเห็นหนัง โดนกรีดด้วยมีดคมกริบ เห็นหนัง เนื้อเอ็น กระดูก เส้นเลือด น้ำเหลือง ในข้อแขน มันน่าเกลียดน่ากลัวมาก ภาพที่เห็นยังติดตาอยู่เลย
แล้วจิตมันก็ตะโกนบอกว่า ร่างกายนี้ก็ไม่ใช่ของเรานี่หว่า มันไม่ใช่เรา
จุดนี้เอง ทำให้ผมถึงบางอ้อ
มันคือการแยกขันธ์ 5 เอง แต่ตอนนั้นผมแยกได้ 4 ขันธ์ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร แต่ตอนนั้นผมยังไม่เห็นวิญญาณขันธ์ว่ามันเป็นอย่างไร แต่ในใจบอกว่าช่างมัน เดี๋ยวก็เห็น ตอนนั้นจึงไม่สนใจ (แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าวิญญาณขันธ์คืออะไร
ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นในจิตในใจผมรู้ ว่าสิ่งใดทำงานอยู่อย่างเห็นได้ชัดเจน
จุดนี้ทำให้ผมได้คำตอบกับตัวเองที่เมื่อก่อน ผมถามกับตัวเองว่า ปวดท้อง อะไรปวด ท้องปวด หรือเวทนาปวด สิ่งใดเป็นตัวปวดท้อง ทำให้ผมรู้แล้วว่าอะไรปวด (ในเบื้องต้น)
สิ่งนี้คือประสบการณ์ส่วนหนึ่ง ยังมีอะไรที่ได้จากพระอาจารย์ปราโมทย์อีกเยอะมาก กับสติปัฏฐานสี่ ไว้จะมาเล่าให้ฟังในตอนที่ 2 ครับ
Facebook
ขำตอนจิตตะโกนบอกอ้าว เวทนา สัญญา สังขาร กาย ไม่ใช่เรานี่หว่า มันไม่ใช่เรา ใช่เท่านั้นจิตยังกระโดดไปเกาะแขนเกาะขาอีก

- ตอนที่ ๒ มาล่ะ
- เล่าประสบการณ์การเจริญสติปัฏฐานสี่แบบหลางพ่อปราโมทย์ ในตอนที่ 2 ครับ
- > หลังจาการที่ผมแยกขันธ์ของจิตได้ จิตมันเเยกของมันเอง เวทนาเกิดก็รู้ ดับก็รู้ สัญญาความจำเกิดก็รู้ ดับก็รู้ สังขารเกิดก็รู้ดับก็รู้ รู้มันไป สงสัยก็รู้ว่าสงสัย จึงเป็นการรู้ซื่อ ๆ อยู่ 2 วัน กราบขอบพระคุณหลวงพ่อเทียนที่ให้คำจำกัดความนี้ครับ
รู้ซื่อๆ ง่ายครับ แต่ทำยากอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้
แต่มีคำถามว่าแล้วไงต่อละ ตอนนั้นจิดคิดถึงหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์
ไตรลักษณ์คืออะไร 3 ลักษณะหรือ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป สิ่งนี้มันเป็นทุกข์มันบังคับไม่ได้ ไม่เข้าใจ และไม่เข้าถึงมันด้วยในขณะนั้น ได้แต่คิดวิเคราะห์ไปต่างๆนาๆ ว่าเป็นอย่างนี้โน่นนั้น คิดวิเคราะห์ ได้แต่คิดปรุงแต่งไปในขณะนั้น จิตมันบอกว่า นี่ไงหลงไปปรุงแต่ง ผมสดุ้งกลับมามีสติ อ้าว!!!! กรูหลงไปคืดเรื่องไตรลักษณ์นี่หว่า
ตอนนั้นผมเห็นว่าผมคิดเรื่องนี้ สังขารปรุงแต่งอยู่เรื่องไตรลักษณ์ แต่ผมได้ยินเสียงหลวงพ่อพุธ ท่านบอกว่า หยุดคิด เพื่อที่จะคิด เพราะความคิดนั้น เป็นทั้งสมถะ และวิปัสสนา เพราะวิปัสสนา ต้องอาศัยความคิด
(ผมถึงบางอ๋อ ในสิ่งที่หลวงพ่อพุธบอก หยุดคิดเพื่อที่จะคิด เพราะวิปัสสนาต้องใช้ความคิดนี้เอง เป็นอย่างนี้นี่เอง และตอนนี้เรา ผมจึงแยกพิจารณาว่า สิ่งนี้คือปรุงแต่ง สิ่งนี้คือเดือนวิปัสสนาได้แยกออกจากกันว่าสิ่งไหนคือปรุงแต่งสิ่งใหนคือวิปัสสนา แต่จะรู้ได้ด้วยตนเอง )
จากนั้นผมสังเคราะห์ความคิดต่อโดยการ
ผมก็มาดูจิตดูใจตนเองต่อ ว่าคืออะไร มันคืออะไรจริงๆ ผมจะเข้าให้ถึงมันให้ได้
สิ่งที่ผมเห็นคือ ขันธ์ 4 รูป เวทนา สัญญา สังขาร ที่อยู่ในตัวของผม มันเกิดขึ้นมาตลอด และดับไปตลอด เกิดดับตลอด ฟุ้งซ่านก็รู้ รู้ว่าฟุ้งซ่าน ผมกลับมาทำสมถะ ตอนนั้นสังเกตตัวเองตลอด จิตไม่ส่งออกนอกเลย
จิตไม่ส่งออกนอก คือ เมื่อเรากระทบสิ่งใดๆที่เข้ามาในจิต แล้วเรา คิดวิเคราะห์ไปสิ่งนั้นคือ จิตส่งออก เช่น เราได้ยินเสียงคนข้างบ้านทะเลาะกัน และเราคิดว่าทำไมเขาถึงทะเลาะกัน ต้องทะเลาะกันเรื่องนี้ ภรรยาเป็นฝ่ายถูก สามีต้องเป็นฝ่ายผิด สงสารลูกเขานะ บลาบลาบลา ไปเรื่อย นี้คือสิ่งปรุงแต่งที่จิตส่งออกนอกไปวิเคราะห์
แต่ถ้าส่งจิตไม่ส่งออกหมายถึง เมื่อได้ยินเสียงทะเลาะ ของคนข้างบ้าน รู้ว่าทะเลาะกัน เรารู้สึกอย่างไรกับเสียงนี้ เกิดอะไรขึ้นในจิตบ้าง เรารู้เพราะมันกระทบเรา ไม่มีบุคคลที่ 2 และถ้าจิตมีคำถามให้ปล่อยมันถาม ไม่ชอบการทะเลาะกัน ทำไมไม่ชอบ เพชรสะเกิดการขัดแย้งถึงทะเลาะกัน ทำไมต้องทะเลสะกัน เพราะตัณหาคนงามอยาก ที่ปักใจจะให้ดั่งใจตน พยายามบังคับ สิ่งที่บังคับไม่ได้ให้ได้ดั่งใจตน จนไปเกิดกิเลส คือความอยากให้เป็นดั่งใจเรา แต่่ไม่ได้ดั่งใจ จึงโกรธโทษะโมโห จากจิตใจ (มโนกรรมเกิดแล้ว ต่อด้วย วจีกรรม ที่ด่าทอกัน ตามด้วยกายกรรม ทำร้ายกัน เพราะ ความหลง)
อย่างนี้เรียกว่า จิตไม่ส่งออก และแถมมาด้วยวิปัสสนาญาณ จุดนี้ผมสังเกตุว่า สิ่งนี้ก็คือปรุงแต่ง แต่เป็นการปรุงแต่งให้จิตรับรู้ถึง กระบวนการของการเกิดกิเลสที่เกิดขึ้นในจิต ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ตรงนี้จะลงรายละเอียดเรื่อง กิเลส ตัณหา อุปาทาน ภพชาติ ในปฏิจจสมุปบาทในคราวต่อไปครับ ถ้าไม่ลืม
เรามาต่อเรื่องตอนที่เห็นไตรลักษณ์ต่อครับ ในขันธ์ 4 ผมต่อครับ เมื่อผมเฝ้าดูจิตเกิดดับ มันบังคับไม่ได้ เดี๋ยวมันก็เกิด เดี๋ยวมันก็ดับเอง ไม่ต้องรู้มันก็เกิดเองดับเอง มันก็เป็นอย่างนั้นของมัน มันเป็นอย่างนี้ 2-3 วัน จนผมมองว่า เริ่มไม่ไปไหนแล้ว แต่ช่วงนี้ผมจะเห็นสิ่งนี้จนชัดเจน
ผมเริ่มตั้งคำถามให้ว่า แล้วไงต่อล่ะ ไปอย่างไรต่อละ จิตมันบอกว่า ก็หากิเลสสิ ใช่ ไปหากิเลสสิ เพราะตัวนี้เราต้องฆ่ามันให้ได้ แต่ถ้าจะฆ่ามันได้ เราต้องรู้จักกิเลสก่อนว่ามันคืออะไร และมันอยู่ตรงไหน
ครั้งนี้ ผมเฝ้าดูแต่กิเลส แล้วครับ โดยการปล่อยขันธ์ 4 ไม่สนใจมันแล้ว ทิ้งขันธ์ 4 ที่เฝ้าดูมาเป็นเดือน ไม่สนใจแล้วเพราะเห็นและเข้าใจมันเเล้ว ครั้งนี้เป้าหมายคือเห็นกิเลสในใจตน
จุดนี้สนุกมากครับ ไว้เล่าในตอย 3 ครับ
Facebook
ตอนที่ ๒ ทิ้งขันธ์ ๔ ได้แล้ว จะตามหากิเลสคงสนุกอย่างว่าแน่ๆ หลวงพ่อมาแล้ว ๓ องค์ คือ หลวงพ่อเทียน หลวงพ่อพุธ หลวงพ่อเกษม
Create Date : 14 กันยายน 2567 |
Last Update : 16 กันยายน 2567 16:01:37 น. |
|
0 comments
|
Counter : 152 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
 |
|
|
|