กินซูชิทุกวัน___แล้วเป็นไง(อย่างไร)
ภาพ: ปฏิกริยา "ตามอง(หน้า)... หางถอย(หนีศัตรู)" สบายๆ สไตล์กุ้ง [ Wikipedia ] ถ้ากลุ่มการเมืองหัวรุนแรงในไทยรู้จัก "ถอยคนละครึ่ง" แบบกุ้ง... คนไทยจะเดือดร้อนน้อยลงไปแยะเลย . ภาพ: ภาพวาดซูชิ สมัยเอโดะ ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งวิเคราะห์ว่า "ตู้เย็น-ตู้แช่" รวมทั้งการทำตู้เย็นประดิษฐ์จากแท่งน้ำแข็ง ทำให้การขนส่ง-เก็บรักษาอาหารทะเลสดๆ ดีขึ้น, เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีการทำซูชิขายอย่างเป็นระบบได้ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตีพิมพ์บทความสุขภาพออนไลน์เรื่อง "กินซูชิทุกวัน 20 ปี__ แล้วเป็นไง (อย่างไร)", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ ปลาและหอยมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ แถมยังมีกรดไขมันชนิดดีพิเศษ หรือโอเมกา-3 สูง โอเมกา-3 ดีกับสมอง ตา และหัวใจ . ทว่า... ข่าวดีก็มักจะมาคู่กับข่าวร้าย คล้ายคำกล่าวที่ว่า วิกฤติกับโอกาส มักจะมาในเวลาไล่เลี่ย (ใกล้เคียง) กัน อาหารทะเลมีจุดอ่อนที่มีสารปรอท (methylmercury) ขนาดต่ำๆ สารนี้มีพิษต่อสมอง . คนที่ต้องระวังมากหน่อย คือ คนที่ตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก ปลาที่พบว่า มีการสะสมสารปรอทสูงมากได้แก่ [ ศูนย์วิจัยประมงฯ จันทบุรี ] - ปลาฉลาม หูฉลาม (= ครีบปลาฉลาม)
- ปลาฉนาก (swordfish)
- ปลาอินทรีย์ (king mackerel)
. คนอเมริกันกินปลาเฉลี่ย = 4 ออนซ์/สัปดาห์ = 120 กรัม/สัปดาห์ เทียบเท่า 1 + 1/3 กระป๋องปลาไทย (3 ออนซ์ = ปลากระป๋องไทย 1 กระป๋อง) ต่ำกว่าคำแนะนำด้านสุขภาพที่นั่น คือ 8 ออนซ์/สัปดาห์ = 240 กรัม/สัปดาห์ = 2 + 2/3 กระป๋องปลาไทย . ขอเทียบหน่วยออนซ์ในเรื่องนี้ คือ - 1 ออนซ์ = 30 กรัม
- 3 ออนซ์ = 90 กรัม = ไพ่ 1 สำรับเล็กน้อย (เนื้อขนาดนี้ = 80 กรัม) + 1 ช้อนกินข้าวไทย (ช้อนพูน ไม่ปาดให้เรียบ)
- 3 ออนซ์ = ปลากระป๋องไทยแบบบ้านๆ (กระป๋องเล็ก) มีเนื้อปลาประมาณ 93 กรัม
. การศึกษาใหม่ ทำในกลุ่มตัวอย่าง 10,673 คน พบว่า คนอเมริกันชอบกินอาหารทะเลไม่เท่ากัน คือ - กุ้งใหญ่ = 46%
- ปลาทูน่า = 34%
- ปลาแซลมอน = 27%
- ปลาที่มีปรอทสูง เช่น หูฉลาม ปลาฉนาก ปลาอินทรีย์ (โดยเฉพาะในอ่าวเม็กซิโก) ฯลฯ = 2%
. สรุป คือ คนอเมริกันชอบกินกุ้ง (ส่วนหนึ่งมาจากบังคลาเทศ เวียดนาม ไทย ฯลฯ) ข่าวดี คือ คนที่กินอาหารทะเลเกือบทั้งหมด มีระดับสารปรอทอยู่ในเกณฑ์ปกติ ที่ระดับสารปรอทสูง คือ พวกกินปลานักล่า-ตัวใหญ่-อายุยืน เช่น ฉลาม หูฉลาม (= ครีบฉลาม), อินทรีย์, ฉนาก ฯลฯ . . เร็วๆ นี้ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ตีพิมพ์เรื่องของ อ.ริเชิร์ด เกวฟอนด์ หัวหน้าผู้บริหาร (CEO) กลุ่มโรงหนัง 3 มิติไอแม็กซ์ (IMAX) อ.เกวฟอนด์ ชอบซูชิมาก กินติดต่อกัน 2 ครั้ง/วัน, 20 ปี และแล้ว... วันหนึ่งก็มีอาการชา การทรงตัวไม่ค่อยดี (เช่น เดินโซเซ ฯลฯ), มือทำงานประสานกันไม่ดี (เช่น ทำงานทะเอียด การฝีมือ ฯลฯ) ไม่ได้ . ทั้งหมดนี้เป็นอาการของโรคสารปรอทเป็นพิษ ระดับสารปรอทของท่าน = 72 หน่วยไมโครกรัม/ลิตร (microgram/litre) ไมโคร = 1/ล้าน; ไมโครกรัม = 1/1,000,000 กรัม) = 12 เท่าของขีดความปลอดภัย (ปกติไม่เกิน 6 หน่วย) . วิธีเลือกปลา-อาหารทะเลให้ปลอดภัย คือ (1). หลีกเลี่ยงปลานักล่า-อายุยืน-ตัวใหญ่... ปลาพวกนี้จะสะสมสารเคมีไว้ในชั้นไขมันและที่ตับสูงมาก เช่น ปลาฉลาม หูฉลาม ฯลฯ . (2). ไม่ควรเกิน 6 ออนซ์ = 180 กรัม = 2 กระป๋องต่อสัปดาห์ - ปลาทูน่า
- ปลากระตัก (anchovies) = ปลาตัวเล็กตัวน้อย
การที่ปลาตัวเล็กตัวน้อยมีสารเคมี-โลหะ สะสมสูงกว่าปลาขนาดกลาง น่าจะเป็นผลจากการอาศัยอยู่บริเวณใกล้ปากอ่าว เช่น ป่าชายเลน ฯลฯ ทำให้มีโอกาสได้รับสารพิษ-โลหะ มากกว่าปลาที่อยู่กลางทะเลกว้าง . (3). ไม่ควรเกิน 12 ออนซ์ = 360 กรัม = 4 กระป๋องต่อสัปดาห์ ปลากลุ่มนี้ คือ ปลาทู + ปลากระป๋องส่วนใหญ่ในไทย - ปลาแมคเคอเรว (mackerels), ปลาทู
- ปลาซาร์ดีน
. บทเรียนจากเรื่องนี้ คือ อะไรที่ว่า "ดี" ไม่พอ ต้องขอ "พอดี" ด้วย (มากไป น้อยไป... ไม่ได้ผลดีจริง) จึงจะได้ผลรวมออกมา... ดีที่สุด . ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ . Thank Harvard Health Publications > //www.health.harvard.edu/blog/make-smart-seafood-choices-minimize-mercury-intake-201404307130
Thank Source by HHP > May issue of The American Journal of Clinical Nutrition .
Create Date : 08 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 8 พฤษภาคม 2557 15:10:18 น. |
|
1 comments
|
Counter : 577 Pageviews. |
|
|
|