สำนักข่าวรอยเตอร์ตีพิมพ์เรื่อง "(เกิด)กำพร้าหรือบ้านแตก__ เสี่ยงโรคอะไร", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

ภาพที่ 1: สัญญาณไฟจราจร แสดงระดับความดันเลือด (ตัวบน/ตัวล่าง)

(1). สีแดง = อันตราย = 140/90 ขึ้นไป

(2). สีเหลือง = ระวัง = 121-139/81-89 ขึ้นไป

(3). สีเขียว = ปลอดภัย = 120/80 หรือน้อยกว่านั้น

ภาพที่ 2: อวัยวะที่ได้รับอันตรายจากโรคความดันเลือดสูง

(1). หัว = หลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต

(2). หัวใจ = หัวใจเสื่อม หัวใจวาย หัวใจขาดเลือด

(3). ไต = ไตเสื่อม ไตวาย

(4). ตา = ตาเสื่อม ตาบอด

ครูบาอาจารย์ท่านให้จำแบบคล้องจองกันว่า

• ความดันเลือดสูง > ทำร้าย "หัว-หัวใจ-ไต-ตา"
  
• เบาหวาน > ทำร้าย "หัว-หัวใจ-ไต-ตา-ตีน" = บวกเท้าขาดเลือด เป็นแผล ติดเชื้อ เสี่ยงถูกตัดนิ้ว-ตัดขา
  

ข่าวดี คือ เพียงรักษาความดันเลือดสูงให้ต่อเนื่องจะลดความเสี่ยงได้อย่างมากมาย

ยาลดความดันเลือดสูง จึงได้ชื่อว่า เป็นยาช่วยให้อายุยืนอย่างมีคุณภาพ

.

ภาพที่ 3: การรักษาควาัมดันเลือดสูง ส่วนใหญ่จะใช้ยาด้วย ใช้การปรับแบบแผนในการใช้ชีวิต หรือไลฟ์สไตล์ร่วมกัน

• ไม่กินยาเลย = ส่วนใหญ่คุมความดันเลือดไม่ได้
  
• คนไข้ส่วนใหญ่ที่คุมความดันเลือดได้ดี คือ กินยา + เพิ่มผัก ผลไม้ทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้), ถั่วไม่ทอด ปลาไม่ทอด ลดเกลือ-ลดเค็ม, ข้าวกล้อง ออกกำลัง = ใช้หลายๆ วิธีเสริมแรงกันทำอะไรดีๆ
  

ภาพที่ 4: ตารางแสดงความดันเลือด

• แนวดิ่ง = ความดันเลือดตัวบน
  
• แนวนอน = ความดันเลือดตัวล่าง
  

(1). สีแดง = อันตราย สูงเกิน

(2). สีเหลือง = ระวัง เริ่มสูงแล้ว แต่ยังไม่ต้องใช้ยา ให้ตรวจติดตามต่อเนื่อง

(3). สีเขียว = ปลอดภัย

(4). สีม่วง = ต่ำไป เสี่ยงหน้ามืด-เป็นลมง่าย

.

ถ้าไม่อยากเป็นลมง่าย...

(1). ดื่มน้ำให้พอตั้งแต่เช้า = ตื่นขึ้นมาให้ล้างมือด้วยสบู่ บ้วนปาก แล้วดื่มน้ำ 1-2 แก้ว

ภาวะขาดน้ำ ทำให้คนไทยเป็นลม "โดยไม่จำเป็น (น่าจะป้องกันได้)"

(2). ถีบไว้ให้มาก = แอคทีฟ / active = ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ เคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ไม่นั่งนานเกิน 1 ชั่วโมง/ครั้ง

ก่อนหน้านี้มีคำขวัญวันเด็กว่า "เด็กในวันนี้ คือ ผู้ใหญ่ในวันหน้า"

การศึกษาใหม่จากสหรัฐฯ พบว่า คำขวัญนี้น่าจะจริง

คือ เด็กป่วน (ปั่นป่วน ว้าวุ่น เครียด เศร้า เหงา เซง ฯลฯ) วันนี้ คือ ผู้ใหญ่ป่วนในวันหน้า

ประสบการณ์ (ดีหรือร้าย) ในวัยเด็ก อาจส่งผลไปจนเป็นผู้ใหญ่ได้

.

การศึกษานี้อาจนำไปสู่กิจกรรมดีๆ 

เช่น ให้เด็กๆ ทุกคนปั่นจักรยานออกกำลังอยู่กับที่ 30-60 นาที ที่โรงเรียนทุกวัน

เพื่อปั่นไฟพลังงานทางเลือก + ให้ "เหงื่อตกกีบ" มากๆ ไว้

จะได้ลดป่วน (อาการปั่นป่วน ชวนทะเลาะ ฯลฯ)

.

การศึกษาใหม่ ทำในผู้ชายผิวดำ = เชื้อสายอาฟริกา (African American men), อายุเกิน 20 ปีที่เข้าร่วมการศึกษาครอบครัวหมาวิทยาลัยโฮวาร์ด สหรัฐฯ รวมมากกว่า 500 คน

ผลการศึกษาพบว่า คนที่อยู่กับพ่อแม่คนเดียว = พ่อแม่หย่ากัน (พบบ่อยในสหรัฐฯ), อยู่กับพ่อ หรือแม่ฝ่ายเดียว เพิ่มเสี่ยงโรคความดันเลือดสูง = 46%

• house = บ้าน
• household = ครัวเรือน
• single-parent household = บ้านที่มีพ่อหรือแม่ฝ่ายเดียว (ส่วนใหญ่หย่ากัน ส่วนน้อยตายไปฝ่ายหนึ่ง)
• two-parent household = บ้านที่มีพ่อและแม่ 2 ฝ่าย (อยู่ด้วยกัน)

คนอเมริกัน (สหรัฐฯ) เป็นโรคความดันเลือดสูงประมาณ = 1/3

สมมติไปเที่ยวสหรัฐฯ พบคน 3 คน จะเป็นโรคนี้ 1 คน

.

ประัเทศที่พบความดันเลือดสูงมากที่สุดในโลก คือ เยอรมนี

ส่วนที่ "ความดันทุรัง" สูง อาจอยู่ในอาเซียน

ความดันเลือดสูงเพิ่มเสี่ยงโรคหัวใจ ไตเสื่อม-ไตวาย สโตรค

สโตรค (stroke) = กลุ่มโรคหลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต สมองเสื่อมจากการขาดเลือด

.

ความดันเลือดที่ค่อนข้างดี = ค่อนไปทางต่ำ ดีที่สุด คือ

(1). ตัวบนน้อยกว่า 120

(2). เปลี่ยนท่าจากนั่งเป็นยืน คือ ลุกแล้วไม่หน้ามืดเป็นลม

การศึกษานี้พบว่า ผู้ชายเชื้อสายอาฟริกา ที่อยู่กับพ่อแม่ครบ 2 ฝ่ายในวัยเด็ก มีความดันเลือดตัวบนต่ำลง 4.4 หน่วย (มิลลิเมตรปรอท / mmHg) เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เคยอยู่กับพ่อแม่ครบ 2 ฝ่าย

.

กลไกที่เป็นไปได้ คือ ครอบครัวที่มีแม่ หรือพ่อฝ่ายเดียว (ส่วนใหญ่เป็นแม่) มักจะมี...

• ฐานะต่ำกว่า (ยากจนมากกว่า)
• มีความเครียดมากกว่า
• ขาดโอกาสเลือกอาหารสุขภาพ
• เพิ่มเสี่ยงอาหารประเภท "หวาน-มัน-เค็ม" หรืออาหารโรงงาน
  

ผู้ชายเชื้อสายอาฟริกาที่อยู่กับพ่อแม่ 2 ฝ่้ายมีโอกาสดีๆ ในชีวิตมากกว่า คือ

• โอกาสทางการศึกษามากกว่า
  
• โอกาสได้รับการจ้างงานมากกว่า
  
• ติดเหล้า - ยาเสพติดน้อยกว่า
  

.

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คนทุกคนควรได้รับการตรวจเช็คความดันเลือด + เบาหวานเป็นประจำ

ถ้ามีชีวิตวิกฤติมาก่อน เช่น ผ่านสงคราม, ดูข่าวการเมืองไทย, อยู่ 3 จังหวัดภาคใต้ ฯลฯ ยิ่งต้องตรวจความดันเลือดทุก 1/2-1 ปี

.

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

Thank Reuters & source by Reuters > //www.reuters.com/article/2013/12/02/us-blood-pressure-idUSBRE9B10W520131202 > SOURCE: Hypertension, online December 2, 2013.

Create Date : 03 ธันวาคม 2556
Last Update : 3 ธันวาคม 2556 11:58:58 น.		0 comments
Counter : 727 Pageviews.
Share Tweet