สำนักข่าวบิสเนซ อินไซเดอร์ ตีพิมพ์เรื่อง "วิธีจับโกหก โดยผู้เชี่ยวชาญคดีอาชญากรรม อดีตสายลับมืออาชีพ",

ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

.

อ.สเตซี ดิททริช ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรม อดีตสายลับตำรวจรัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ กล่าวว่า

วิธีจับโกหกที่ำสำคัญได้แก่

.

(1). โทร.แจ้ง(สายด่วน 911)เร็วผิดปกติ

.

เช่น ถ้ามีผู้ชายโทร.ไปแจ้งว่า แฟนหายตัวไปใน 2-3 ชั่วโมง พร้อมแต่งเรื่องเสร็จสรรพว่า ก่อนหน้านี้อยู่กันดี ให้สงสัยไว้ก่อนว่า น่าจะโกหก ฯลฯ

คนส่วนใหญ่มักจะโทร.แจ้งเหตุ "ญาติหาย-แฟนหาย" ช้ากว่านั้น เช่น 6-8 ชั่วโมง ฯลฯ

.

(2). น้ำเสียงไม่เข้ากับเรื่อง

.

เช่น ถ้ามีคนโทร.แจ้งว่า มีคนบุกรุก หรือโจรเข้าบ้าน แล้วน้ำเสียงดูสบายๆ ไม่เครียดอะไร ให้สงสัยไว้ก่อนว่า น่าจะโกหก

คนส่วนใหญ่จะมีอาการตื่นตระหนก ตกใจ หรือไม่ก็ประสาทเสียกับเรื่องบ้านมากเป็นพิเศษ

.

(3). ไม่ตอบคำถามว่า ใช่หรือไม่ใช่

.

ถ้าถามอะไรไปตรงๆ เช่น คุณเกี่ยวข้องกับฆาตกรรม(การฆ่ากันตาย)หรือเปล่า

คนโกหกมักจะไม่ตอบว่า ใช่หรือไม่ใช่

และจะยกแม่น้ำทั้งห้า หรือไม่ก็สาบานอะไรไปเรื่อยว่า ไม่ได้เกี่ยวข้อง

.

(4). รายละเอียดมากไป

.

คนโกหกมักจะต้องคิดมากขึ้น และคิดไปข้างหน้า (แต่งเรื่อง)

เช่น ถ้าถามว่า บ่ายวันนี้คุณทำอะไรบ้าง

.

คนทั่วไปจะตอบได้ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่

คนโกหกจะตอบได้ละเอียดถี่ถ้วนเกินจริง

.

(5). โกหกเรื่องเล็กๆ

.

ลองใช้รายการ TV เป็นเครื่องเช็คว่า พูดจริงหรือไม่

เช่น ถ้าผู้ต้องสงสัยบอกว่า เย็นนี้ดู TV

.

ให้ลองถามว่า วันนี้มีเรื่องอะไรบ้าง

บางทีก็จับโกหกได้ เพราะรายการ TV วันนั้นเลื่อนไป หรือไม่ก็เปลี่ยนเรื่องพอดี

.

(6). ค้นเรื่องคนหาย

.

คนที่มีญาติหาย หรือคนในครอบครัวหายไป เกือบทั้งหมดจะเครียด ไม่สบายใจ และคาดหวังว่า จะได้พบกันอีกตอนมีชีวิต (ญาติไม่เสีย ไม่ตาย)

คนที่ญาติหาย หรือคนในครอบครัวหายไป แล้วพูดแต่เรื่องดีๆ หรือเรื่องความสุข

เช่น รักอีกฝ่ายหนึ่งมาก ฯลฯ หรือพูดุถึงแต่เรื่องดีๆ

เช่น ชีวิตแต่งงานของเรามีความสุขมาก ฯลฯ มีแนวโน้มจะโกหก

.

(7). พูดถึงคนหายในอดีตกาล

.

ภาษาอังกฤษมีคำกำหนดเวลา (อดีต - ปัจจุบัน - อนาคต),

คนที่มีญาติหาย หรือแฟนหายไป มักจะพูดถึงอีกฝ่ายหนึ่งในรูปปัจจุบันกาล

เพราะหวังว่า จะได้พบกันอีก (ในอนาคต)

คนโกหกมีแนวโน้มจะพูดถึงคนรักในอดีตกาล (เช่น ใช้คำ 'loved' แทน 'love' ฯลฯ)

.

(8). พูด 'huh?' = ออกเสียง "ฮะ" หรือ "ฮึ"

.

บางทีตำรวจจะถามไปตรงๆ ว่า (ของนี้) ขโมยมาหรือเปล่า

คนโกหกมักจะทำเป็นไม่ได้ยิน (คำถาม) แล้วไม่ตอบ (ว่า ใช่หรือไม่ใช่)

.

และอาจจะทำเสียงแข็งกลับมา เช่น ฝรั่งจะพูดว่า "ฮะ (ดังๆ)" หรือ "ฮึ (ดังๆ)"

หรือไม่ก็ถามหาเรื่องกลับ เช่น (นี่)คุณหมายความว่ายังไง

.

(9). จับแพะ (รับบาป)

.

เช่น ถ้าตำรวจสืบสวนผู้ต้องสงสัยคดีลักพาตัว

ผู้ต้องสงสัยมักจะรีบหาคนอื่นมาเป็นแพะ เช่น เห็นคนก้มๆ เงยๆ ในกระบะหลังรถ ฯลฯ

.

ถ้าคนที่เอ่ยถึงมีตัวตน คงจะเป็นเรื่องจริง

แต่ถ้าไม่มีตัวตน มีความเป็นไปได้ว่า คนโกหกกำลังหาคนอื่นมาเป็นแพะ (รับบาป) แทน

.

ทั้งนี้และทั้งนั้น, โลกเบี้ยวใบนี้ก็ยังมีคนหลายคนที่เป็น "มืออาชีพ"

แม้ตำรวจหรือนักสืบอาชีพก็ยังพลาดได้

.

ดังมีคำกล่าวว่า โลกนี้ไม่มีอะไร 100%

ถ้าไม่จำเป็น...

1. อย่าเป็นหนี้เกินตัว
2. อย่าดื่มหนักจนขาดสติ
   
3. อย่าเ่ล่นการพนัน
   

.

เพราะ 3 อย่างนี้ อาจทำให้คนดีกลายเป็นผู้ร้าย หรือโจรได้

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

.

Thank BusinessInsider > //www.businessinsider.com/police-detective-reveals-how-she-can-tell-suspects-are-lying-2012-4

Read more: //www.businessinsider.com/police-detective-reveals-how-she-can-tell-suspects-are-lying-2012-4#ixzz2jwLZvtwV

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2556 15:41:08 น.		0 comments
Counter : 1085 Pageviews.
Share Tweet