6 เรื่องน่ารู้__กับวิตามิน D ที่แสนดี
จดหมายข่าวเฮวต์บีท (HEALTHbeat Archive) ของสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐฯ ตีพิมพ์เรื่อง "6 เรื่องน่ารู้__คู่วิตามินดี(D)", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ ภาพที่ 1: แหล่งที่มาของวิตามิน D - แสงแดดอ่อน ตอนเช้า-เย็น = สำคัญที่สุด
- แสงแดดจ้า = เพิ่มเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง ต้อกระจก ผิวเสื่อมเร็ว
แสงแดดที่ผ่านกระจก ไม่มี UVB = ไม่ช่วยสร้างวิตามิน D + ทำให้ผิวเสื่อม แหล่งวิตามิน D ในอาหาร คือ - ปลาทะเลน้ำลึก (เช่น แซลมอน ฯลฯ), ตับปลา = มีสูงมาก
- ปลาทะเลน้ำตื้น (เช่น ปลากระป๋องทูน่า ซาร์ดีน ฯลฯ) = มีปานกลาง
- ไข่แดง = มีเล็กน้อย
ประเทศตะวันตกบังคับให้เสริมวิตามิน D ในผลิตภัณฑ์นม เนยเทียม ไม่แนะนำให้กินเนยเทียม เพราะมีไขมันทรานส์ . ภาพที่ 2: แหล่งวิตามิน D ที่สำคัีญ คือ แสงแดด ผิวหนังสร้างวิตามิน D จาก UVB (อัลตราไวโอเล็ต บี / ultraviolet B ผ่านกระจกไม่ได้) วิตามิน D ไปเปลี่ยนโครงสร้างที่ตับ และไต > คนที่มีโรคตับเรื้อรัง หรือโรคไตเรื้อรัง อาจต้องการวิตามินนี้เสริม เรื่องที่น่ารู้ คือ ตับมีวิตามิน D สูง แต่ถ้ากินมากเกิน หรือบ่อยเกิน จะเสี่ยงพิษจากการได้รับวิตามิน A สูงเกิน . คนเราอาจจะกินน้ำมันปลานานๆ ได้, แต่ไม่ควรกินน้ำมันตับปลานานๆ เพราะวิตามิน A ที่สูงจนเป็นพิษ อาจทำให้ปวดกระดูก หรือปวดหัว จากความดันในกะโหลกสูงขึ้นได้ 6 เรื่องน่ารู้__ คู่วิตามินดี (D) ได้แก่ . (1). ยิ่งไกลเส้นศูนย์สูตร ยิ่งเสี่ยงขาดวิตามิน D เขตร้อนก็เสี่ยงได้ ถ้าไม่โดนแดดเลย (90% มาจากแสงแดด, 10% มาจากอาหาร), ทายากันแดดทั้งตัว, ใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิด หรือกางร่ม หรืออยู่ในอาคารตลอดวัน . อยู่ห้องกระจก หรือในรถติดแอร์นานๆ ก็เสี่ยงขาด เพราะกระจกกันยูวีบี (UVB / ultraviolet B) ที่ช่วยผิวหนังสังเคราะห์วิตามิน D . กระจกยอมให้ยูวีเอ (UVA / ultraviolet A) ที่ทำให้ผิวดูแก่เร็ว หรือผิวเข้มผ่าน, แต่ไม่ยอมให้ UVB ที่ช่วยสังเคราะห์วิตามิน D ผ่าน การศึกษาเร็วๆ นี้พบว่า เด็กไทยขาดวิตามิน D ซึ่งอาจเป็นเพราะการได้รับแสงแดดอ่อนน้อย ออกกำลังกลางแจ้งน้อย . (2). คุณภาพอากาศ หมอกควันจากการเผาไร่นา เผาป่า เครื่องยนต์ควันดำ โรงงาน บดบัง UVB ได้มาก ทำให้ผิวหนังสังเคราะห์วิตามิน D ได้น้อยลง . (3). ยากันแดด (sunscreen) การศึกษาจากออสเตรเลียรายงานหนึ่ง เปรียบเทียบผู้ใหญ่ที่ทายากันแดดตลอดฤดูร้อนปีหนึ่ง กับทายาหลอก (placebo) อีกปีหนึ่ง พบว่า ระดับวิตามิน D ไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม, ถ้าต้องการได้รับวิตามิน D เต็มที่... ช่วงเช้ากับช่วงเย็น ควรให้ผิวหนังส่วนปกปิดได้รับแสงแดดอ่อนบ้าง เช่น สวมเสื้อแขนสั้น-กางเกงขาสั้น รับแสงแดดอ่อน ฯลฯ . (4). สีผิว สีผิวที่เข้มมากๆ เช่น คนอาฟริกา ฯลฯ ได้รับ UVB น้อยลง, สังเคราะห์วิตามิน D ได้น้อยลง . (5). น้ำหนักตัว วิตามิน D ละลายในน้ำมัน ไม่ละลายในน้ำ . เช่น ถ้าเรากินวิตามินรวมที่มีวิตามิน D พร้อมนมไร้ไขมัน, วิตามิน D จะดูดซึมได้น้อยมาก จนถึงดูดซึมไม่ได้ ถ้าเรากินวิตามินรวมที่มีวิตามิน D พร้อมอาหารที่มีน้ำมัน, วิตามิน D จะดูดซึมได้ดี . วิตามิน D สะสมได้มากในไขมัน - ช่วงไหน 'น้ำหนักขึ้น' ไขมันมากขึ้น > วิตามิน D ในเลือด จะออกไปสะสมในมวลไขมันเพิ่มขึ้น
- ช่วงไหน 'น้ำหนักลง' ไขมันลดลง > วิตามิน D ที่สะสมในมวลไขมัน จะออกมาสู่กระแสเลือดมากขึ้น
จึงมีสำนวนว่า "คนอ้วนเสี่ยงขาดวิตามินดี (D)" วิตามิน D ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากทางเดินอาหาร . ถ้ามีระดับวิตามิน D ต่ำ, กินแคลเซียมไปก็จะดูดซึมได้น้อย เสี่ยงโรคกระดูกโปร่งบาง หรือกระดูกพรุน เสี่ยงกระดูกหัก เวลาหกล้มเบาๆ (คนปกติ ไม่หัก) การศึกษาเร็วๆ นี้พบว่า ภาวะวิตา่มิน D ต่ำ ทำให้ภูมิต้านทานโรคลดลง อาจเสี่ยงโรคติดเชื้อ หรือมะเร็งเพิ่มขึ้น . ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ . Thank HealthBeat > //www.health.harvard.edu/healthbeat/6-things-you-should-know-about-vitamin-d
Create Date : 03 ธันวาคม 2556 |
Last Update : 3 ธันวาคม 2556 15:49:08 น. |
|
0 comments
|
Counter : 915 Pageviews. |
|
|
|