ไขมันประเภทไหน___ร้ายที่สุด
บิสเนซ อินไซเดอร์ตีพิมพ์เรื่อง "5 แหล่งสุดไขมันอันตราย (ไขมันทรานส์)", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ . ภาพที่ 1: ไขมันทรานส์ ส่งผลร้าย 2 อย่างพร้อมๆ กัน - เพิ่มโคเลสเตอรอล (ไขมันในเลือด) ชนิดร้าย (LDL)
- ลดโคเลสเตอรอล (ไขมันในเลือด) ชนิดดี (HDL)
. โคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) ทำให้มีการสะสม พอกพูนคราบไขมันที่ผนังหลอดเลือดมากขึ้น-เร็วขึ้น โคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ช่วยกำจัดคราบไขที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดสะอาดขึ้น คราบไขพอกพูนน้อยลง-ช้าลง . ไขมันอิ่มตัว เพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) + ไม่ลดโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ไขมันทรานส์ เพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) + ลดโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) . ทำให้ไขมันทรานส์มีอันตรายกว่าไขมันอิ่มตัวประมาณ 10 เท่า โดยไปเพิ่มเสี่ยงโรคหัวใจ-หลอดเลือด เช่น อัมพฤกษ์-อัมพาต, โรคหัวใจ ไตเสื่อม ฯลฯ . ภาพที่ 2: อาหารที่มีไขมันทรานสูงได้แก่ อาหารทอด อาหารสำเร็จรูป เช่น ขนมปิ้ง ขนมปังกรอบ แครกเกอร์ เนยเทียม ครีมเทียมหรือคอฟฟีเมต อาหารจากโรงงาน ขนมใส่ถุง ฟาสต์ฟูด ฯลฯ . คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (US FDA) ประกาศว่า จะลดระดับไขมันทรานส์ในอาหาร เครื่องดื่ม ขนม จากระดับ 'GRAS (generally recognized as safe)' = ระดับที่ยอมรับว่าปลอดภัย ให้น้อยลงไปอีก เนื่องจากไขมันทรานส์ หรือไขมันแปรรูป ไม่มีระดับที่ปลอดภัยจริง . ไขมันทรานส์พบได้เล็กน้อยในเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์นม พบมากในไขมันแปรรูปจากโรงงาน ซึ่งทำโดยการเติมไฮโดรเจน เพิ่มไปในน้ำมันพืช . น้ำมันพืชเป็นของเหลว มีความใส ไม่ทนต่อออกซิเจน ทำให้มีกลิ่นเหม็นหืนง่าย เก็บไว้ได้ไม่นาน น้ำมันพืชหลายชนิดมีจุดเกิดควันต่ำ ไม่ทนความร้อนสูง . หลังแปรรูปเป็นไขมันทรานส์จะขุ่นขึ้น แข็งขึ้น ทำเป็นผงได้ ทนต่อออกซิเจน เก็บไว้ได้นาน ไม่เหม็นหืนง่าย คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (US FDA) บังคับให้ระบุจำนวนไขมันทรานส์ในฉลากอาหาร ตั้งแต่ปี 2006/2549 . คนอเมริกัน กินไขมันทรานส์ = 4.6 กรัม/วัน ในปี 2003/2546 ลดเป็น 1 กรัม/วัน ในปีนี้ (2556) . คำแนะนำใหม่ของ FDA คือ กินให้น้อยทีสุด (as low as possible) ถ้าอ่านฉลากอาหารจะพบคำ "partially hydrogenated oil" = "น้ำมันเติมไฮโดรเจนบางส่วน" . คำนี้ = ไขมันทรานส์ (trans fat) . ภาพที่ 3: สุดยอดอาหารที่มีไขมันทรานส์ หรือไขมันแปรรูปจากโรงงานสูง 5 รายการในสหรัฐฯ (หน่วยกรัม/เสิร์ฟ หรือส่วนบริโภค) . อาหารในสหรัฐฯ ที่พบมีไขมันทรานส์สูงที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ [ ต่อหน่วย Servings / Sv = ส่วนบริโภค / จำนวนเสิร์ฟ) . (1). ปอปคอร์น (แบบใส่ในไมโครเวฟ) > 4-5 กรัม/เสิร์ฟ (2). คุกกี้-แครกเกอร์ (crackers = ขนมปังแข็ง ขนมปังกรอบ) > 3.5 กรัม/เสิร์ฟ (3). แป้งขนมปังผสมสำเร็จ (dough), พายกรอบ > 2-3 กรัม/เสิร์ฟ (4). เนยเทียม > 2 กรัม/เสิร์ฟ (5). คอฟฟี่เมต-ครีมเทียม > 0.1-0.7 กรัม/เสิร์ฟ . ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ข้อควรระวังในเรื่องฉลากอาหารไขมันทรานส์มีอีก 2 เรื่องได้แก่ (1). ผลิตภัณฑ์-อาหาร-เครื่องดื่ม ที่เขียนว่า มีไขมันทรานส์ 0 กรัม ไม่ใช่ไม่มีไขมันทรานส์ = จริงๆ แล้ว คือ น้อยกว่า 0.5 กรัม/เสิร์ฟ (ตามกฎหมายสหรัฐฯ) (2). อย่าลืมนำจำนวนเสิร์ฟไปคูณตัวเลขในฉลากอาหาร เช่น ขนมกรุบกรอบอาจเขียนว่า มีไขมันทรานส์ 1 กรัม/เสิร์ฟ แต่ถ้าดูดีๆ จะพบว่า 1 ถุง อาจมี 3 เสิร์ฟ นำ 1*3 = 3 กรัม/ถุง . วิธีลดไขมันทรานส์ที่น่าจะดีตอนนี้ คือ ลดอาหารกลุ่มฟาสต์ฟูด ขนมใส่ถุง คอฟฟี่เมตหรือครีมเทียม เนยเทียม เบเกอรี คุกกี้ ฯลฯ ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ . Thank BusinessInsider > //www.businessinsider.com/5-foods-that-will-change-when-trans-fats-are-banned-2013-11
Thank Live Science, source by BusinessInsider > //www.livescience.com/41034-trans-fat-food-reformulated.html#ixzz2kG2ptiIE
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2556 |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2556 13:24:40 น. |
|
0 comments
|
Counter : 544 Pageviews. |
|
|
|