กาแฟ__กับเบาหวาน(+)น้ำตาลในเลือด
. ภาพ: อาทิโชค (artichoke)... มีสารคุณค่าพืชผักดีๆ คล้ายกาแฟ เป็นทางเลือกสำหรับท่านที่ไม่ชอบกาแฟ . . ภาพ: มะเขือม่วง (eggplant = มะเขือยาว ส่วนใหญ่สีม่วง) มีสารคุณค่าพืชผักดีๆ คล้ายกับกาแฟเช่นกัน . ดร.เดวิด ราเคิว สรุปการศึกษา เกี่ยวกับ "กาแฟ-กาเฟอีน (caffeine)" ใน PractiveUpdate ไว้สั้นๆ ง่ายๆ สบายๆ, ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ การศึกษาใหม่ รวมสถิติจากกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 1 ล้าน พบว่า การดื่มกาแฟ ทั้งชนิดมีกาเฟอีน (caffeinated), และชนิดสกัดกาเฟอีนออก (decaffeinated), มีส่วนช่วยป้องกันโรคเบาหวาน . คนที่ดื่มกาแฟ 6 ถ้วย/วัน ลดเสี่ยงเบาหวานได้ = 33% = 1/3 สารออกฤทธิ์สำคัญ น่าจะเป็นกรดคลอโรเจนิค (chlorogenic) สารนี้ออกฤทธิ์ต้านเอนไซม์ (glucose-6-phosphatase) - ทำให้ลำไส้ดูดซึมน้ำตาลกลูโคสช้าลง + ดูดซึมไขมันช้าลง
- ทำให้ตับสร้างน้ำตาล (จากโปรตีน ไขมัน) น้อยลง
- ทำให้การเผาผลาญไขมันเพิ่มขึ้น
. กาแฟทั่วไป... ส่วนใหญ่เป็นกาแฟที่ผ่านการคั่วแล้ว ทำให้เหลือกรดคลอโรเจนิคน้อยลงไปกว่าครึ่ง ข่าวดี คือ กรดคลอโรเจนิค พบในพืชอื่นได้แก่ - ลูกพลัม
- ลูกพรุน
- กีวี
- artichoke = อาทิโชค
- eggplant = มะเขือยาว ส่วนใหญ่สีม่วง
. ข้อควรระวังในการดื่มกาแฟ คือ "น้อยไว้ละดี" หรือถ้ามีทุนทรัพย์พอ... กาแฟที่สกัดกาเฟอีนออก น่าจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า เพราะสารกาเฟอีนในกาแฟ อาจเพิ่มเสี่ยงต่ออะไรอีกหลายอย่าง เช่น - วิตกกังวล เครียด นอนไม่หลับ
- ความดันเลือด
- หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ (ในบางคน โดยเฉพาะคนสูงอายุ)
. ดร.ราเคิว แนะว่า ถ้าจะให้ปลอดภัยจริงๆ (และรวยพอ), ให้ทำอย่างนี้ - แก้วแรก > เป็นกาแฟแท้ๆ
- แก้วต่อไป > เป็นกาแฟแบบสกัดกาเฟอีนออก (แพง... แต่ดี)
และอย่าลืม... - ดื่มก่อนเที่ยงวัน > เสี่ยงนอนไม่หลับน้อยกว่าหลังเที่ยงวัน
- ถ้าเป็นเบาหวานแล้ว > กาเฟอีน อาจเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้ (บางคน)
. ทางเลือกที่น่าจะดีสำหรับกาแฟ คือ ให้หลีกเลี่ยงกาแฟซื้อ เช่น กาแฟสด มักจะมีน้ำตาล 6-12 ช้อนชา/ถ้วยใหญ่ ฯลฯ - ชงเองแทนซื้อ > ใช้น้ำตาลเทียมครึ่งหนึ่ง เช่น ลินน์ ฮาล์ฟชูการ์, ไลท์ ชูการ์ ฯลฯ
- หลีกเลี่ยงครีมเทียม > ใช้นมจืด นมไขมันต่ำ หรือนมไร้ไขมันแทน เพื่อให้ได้แคลเซียม โปรตีนเสริม
. ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านแนะนำให้ดื่มกาแฟก่อน แล้วออกกำลัง เช่น เดินเร็ว ฯลฯ ถ้าไม่มีโรคประจำตัว หรือมีความเสี่ยงต่อโรคสูง (เช่น โรคหัวใจ ฯลฯ) เนื่องจากกาแฟมักจะทำให้ออกกำลังได้ "อึด" หรือมีความอดทนมากขึ้น กาแฟก็เหมือนกับอีกหลายๆ เรื่องในชีวิตที่ว่า "น้อยไว้ละดี" . สรุปความรู้สำหรับกาแฟ คือ - ดื่มก่อนเป็นเบาหวาน + ดื่มพอประมาณ (ไม่มากเกิน) > น่าจะดี
- ดื่มหลังเป็นเบาหวาน > เสี่ยงน้ำตาลในเลือด +/- ความดันเลือดเพิ่ม > น่าจะไม่ดี
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ . Thank Practiceupdate.com > //www.practiceupdate.com/journalscan/8056
Create Date : 27 เมษายน 2557 |
Last Update : 27 เมษายน 2557 9:11:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1075 Pageviews. |
|
|
|