สำนักข่าวรอยเตอร์ตีพิมพ์เรื่อง "เดินเพิ่มอีกนิด พิชิต (ลดเสี่ยง ป้องกัน) อัมพาตเท่าไร", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

ภาพที่ 1: สโตรค หรือกลุ่มโรคหลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต สมองเสื่อมจากการขาดเลือด

(1). สโตรคเป็นความพิการที่ป้องกันได้ อันดับ 1 ของโลก

(2). พบสโตรคมากที่สุดในเขตเอเชีย โดยเฉพาะจีน รัสเซีย และยุโรปตะวันออก

ตารางทางขวา แสดงสถิติคนเป็นสโตรค (คน) ต่อแสน/ปี

= คน 100,000 คน เป็นสโตรคกี่คนต่อปี

(3). คนบนโลก 6 คน มีโอกาสเป็นสโตรค 1 คน = 1/6 (ถ้าอายุยืนมากพอ)

(4). คนบนโลกเป็นสโตรค 15 ล้านคน, เสียชีวิต 6 ล้านคน > โอกาสตาย = 6/15 = 40%

(5). มีคนเสียชีวิตจากสโตรค 1 คน ทุกๆ 6 วินาที

.

ภาพที่ 1: สโตรค 

(1). เป็นสาเหตุการตายอันดับ 4, พิการอันดับ 1 ในสหรัฐฯ

(2). คนอเมริกันเป็นสโตรค 795,000 ราย/ปี, ตาย 128,000 ราย/ปี = โอกาสตาย = 16% (ตายน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ซึ่ง = 40%)

(3). คนอเมริกันที่เสียชีวิตจากสโตรค > 60% เป็นผู้หญิง, 40% เป็นผู้ชาย (อาจเป็นผลจากผู้หญิงมีอายุยืนกว่า เป็นโรคตอนอายุมากกว่า)

(4). 80% = ป้องกันได้

(5). ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุด คือ ความดันเลือดสูง

• ถ้าลดความดันเลือด (ปรับเปลี่ยนแบบแผนในการใช้ชีวิต +/- ใช้ยา) ตัวบนลง 20 มิลลิเมตรปรอท, ตัวล่างลง 10 มิลลิเมตรปรอท > จะลดความเสี่ยงสโตรค + โรคหัวใจได้ = 50%
  

.

สโตรค (stroke) เป็นกลุ่มโรคหลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต อาจทำให้สมองเสื่อมจากสมองขาดเลือด หรือเสียชีวิตได้

การศึกษาใหม่จากยูนิเวอร์ซิที คอลเลจ ลอนดอน อังกฤษ (UK)ทำโดยการวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาโรคหัวใจระยะยาว (20 ปี) ในคนอังกฤษ (long-term British heart study)

ติดตามกลุ่มตัวอย่างผู้ชาย 2,995 คน ไปอีก 11 ปี (รวมเป็น 31 ปี)

ผลการศึกษาพบว่า ผู้ชายสูงอายุที่เดินวันละหลายชั่วโมง ลดเสี่ยง (ป้องกัน) กลุ่มโรคสโตรคดังนี้ (เทียบกับคนที่เดินไม่เกิน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์)

(1). เดิน 4-7 ชั่วโมง/สัปดาห์ = 5.5 ชั่วโมง/สัปดาห์ = 0.8 ชั่วโมง/วัน = 47 นาที/วัน > ลดเสี่ยง 11%

(2). เดินมากกว่า 3 ชั่วโมง/วัน > ลดเสี่ยง 2/3 = ประมาณ 67%

.

ความเร็วในการเดิน (walking pace) ก็มีผลเช่นกัน

คือ คนที่เดินเร็ว (brisk walker) ลดเสี่ยง 38% เมื่อเทียบกับคนที่เดินช้า (slow walkers)

การศึกษาจากสเปน ทำในปี 2555 พบว่า ผู้หญิงที่เดินเร็วอย่างน้อย 3.5 ชั่วโมง/สัปดาห์ มีความเสี่ยงต่อกลุ่มโรคสโตรค (อัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ) ลดลง

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) รายงานว่า คนอเมริกัน 317 ล้านคน เป็นโรคกลุ่มสโตรค = ประมาณ 800,000 คน/ปี

.

ภาพที่ 3: สโตรค = กลุ่มโรคหลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต สมองเสื่อมจากการขาดเลือด

สถิติอังกฤษ (UK) ซึ่งมีประชากรใกล้เคียงกับไทย (น้อยกว่าเล็กน้อย)

(1). เป็นสาเหตุการตายอันดับ 3 > รองจากโรคหัวใจ และมะเร็ง ตามลำดับ

(2). เป็นโรค 150,000 ราย/ปี > ตาย 53,000 ราย/ปี = โอกาสตาย = 35.3%

(3). ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ ความดันเลือดสูง ดื่มหนัก กินเกลือมากเกิน น้ำหนักเกิน-อ้วน สูบบุหรี่

(4). เสียค่าใช้จ่าย 412,261 ล้านบาท/ปี

(5). คนไข้ในโรงพยาบาลอังกฤษ

• คนไข้เฉียบพลัน > 20% เป็นคนไข้สโตรค
  
• คนไข้นอนนาน > 25% เป็นคนไข้สโตรค
  

(6). 25% พบในคนอายุน้อย > การตรวจเช็คความดันเลือดเป็นประจำตั้งแต่เด็ก และรักษาโรคต่อเนื่อง (ถ้ามี) ลดเสี่ยงได้มากกว่าปัจจัยข้ออื่นๆ

(7). อังกฤษ (UK) มีคนพิการรุนแรงจากสโตรค = 450,000 ราย

.

ภาพที่ 4: แผนที่สหรัฐฯ > แถบที่มีคนเป็นสโตรค (อัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ) คือ ทางตะวันออกเฉียงใต้

ยังไม่ทราบแน่ว่า เป็นผลจากอะไรแน่ > ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า อาจเป็นผลจากการกินปลาทอด - อาหารทอดมาก

การทอดทำให้อาหารแคลอรีสูงขึ้น เสี่ยงน้ำหนักเกิน-อ้วน, ทำให้น้ำมันส่วนหนึ่งเสื่อมสภาพ เช่น กลายเป็นสารโพลาร์, สาร PAH ฯลฯ

การทอดทำให้น้ำมันปลาซึมออก น้ำมันที่ใช้ทอดซึมเข้า แถมน้ำมันปลาที่เหลืออยู่ส่วนหนึ่งเสื่อมสภาพ เปลี่ยนจากน้ำมันชนิดดีกลายเป็นน้ำมันชนิดร้าย

.

สโตรค หรือกลุ่มโรคหลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นสาเหตุของความพิการรุนแรงอันดับ 1 ในสหรัฐฯ

องค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุม-ป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) แนะนำให้ผู้ใหญ่ออกกำลังหนักปานกลาง เช่น เดินเร็ว ฯลฯ อย่างน้อย 2.5 ชั่วโมง/สัปดาห์ หรือ 30 นาที/ครั้ง, 5 ครั้ง/สัปดาห์

การศึกษานี้บอกเราว่า การเดินป้องกันสโตรคได้ไม่เท่ากัน

(1). เดินมากดีกว่าเดินน้อย > ลดเสี่ยง = 11-67%

(2). เดินเร็วดีกว่าเดินช้า > ลดเสี่ยง = 38%

.
เพียงเดิน...

• ให้มากขึ้น > ขอสะสมเวลาให้ได้ 40 นาที/วัน
• ให้เร็วขึ้น
  
• ขึ้นลงบันได 4 นาที/วัน
  
• และเดินไปตรวจเช็คความดันเลือดเป็นประจำ
  

ท่านจะลดเสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาตไปได้มาก

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

.

ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ-ป้องกันโรคได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต > CC: BY-NC-SA.

Thank Reuters & source by Reuters > //www.reuters.com/article/2013/11/22/us-walking-stroke-idUSBRE9AL12A20131122 > Stroke, online November 14, 2013.

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2556 22:18:31 น.		0 comments
Counter : 1074 Pageviews.
Share Tweet