.
ภาพที่ 1: ยุงลาย (Aedes Egypti) พาหะนำโรคไข้เลือดออก (เดงกี่), ไข้เหลือง
.
สัปดาห์ก่อนมีข่าวใหญ่ (ตีพิมพ์ใน Science) คือ การพัฒนาวัคซีนมาลาเรีย (ไข้จับสั่น) สำเร็จ
ปี 2554 วัคซีนมาเลเรียสร้างภูมิต้านทานในอาสาสมัคร = 2 ใน 44 ราย = 3.7%
.
ปีนี้ (2556) วัคซีนมาลาเรียนชนิดฉีดเข้าทางเส้นเลือด (เพื่อเลียนแบบยุงกัด) 5 ครั้ง ได้ผลในอาสาสมัคร = 6 ใน 6 ราย = 100%
คนทั่วโลกติดเชื้อมาลาเรียประมาณ 220 ล้านคน, ตายจากโรคนี้ 660,000 ราย/ปี (ปี 2010/2554)
.
ภาพที่ 2: แสดงยุงจอมยุทธ... เจ้านี่ดูดเลือดด้วย กรองน้ำเลือดออกมาทิ้งด้วย เพื่อให้เก็บเม็ดเลือดได้เต็มกระเพาะฯ จรืงๆ
.
วัคซีนมาลาเรียอีกชนิดหนึ่ง (RTS, S) ทดลองในคน (ปี 2554) ป้องกันโรคในทารก (อายุไม่เกิน 1 ปี) = 31%, ป้องกันโรคในเด็กอายุเกิน 1 ปี = 56%
กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตจากมาลาเรียสูงสุด คือ เด็กอาฟริกา
.
การศึกษาทำในหนูทดลองพบว่า การฉีดเชื้อมาลาเรียเข้าเส้นเลือดโดยตรง (65%) ทำให้ติดเชื้อต่ำกว่ายุง 5-10 ตัวกัด (88%)
กลไกที่เป็นไปได้ คือ การติดเชื้อตามธรรมชาติ เริ่มจากเชื้อผ่านปากยุงไปสู่ผิวหนัง หรือชั้นใต้ผิวหนัง อย่างน้อย 5 นาที
.
ภาพที่ 3: โฆษณากาแฟในสหรัฐฯ
การศึกษาเร็วๆ นี้พบว่า การดื่มกาแฟไม่เพิ่มเสี่ยงยุงกัด แต่ถ้าดื่มเบียร์... เพิ่มเสี่ยง (ยุงชอบ)
.
หลังจากนั้น (หลังจากยุงกัด เชื้อไปอยู่ที่ผิวหนัง หรือชั้นใต้ผิวหนัง 5 นาทีขึ้นไปแล้ว) จึงผ่านระบบท่อน้ำเหลืองฝอยเป็นส่วนใหญ่ ผ่านหลอดเลือดฝอยเป็นส่วนน้อย
มีความเป็นไปได้ว่า เชื้อมาลาเรียจะชอบสิ่งแวดล้อมอะไรบางอย่างในท่อน้ำเหลืองมากกว่าในหลอดเลือด
.
สารเคมีหลายชนิดในน้ำลายยุง น่าจะมีส่วนช่วยให้เชื้อมาลาเรียแพร่กระจายเข้าสู่คน (หรือสัตว์) ได้มากขึ้น
ถ้ามองภาพรวม ทั้งมาลาเรีย ไข้เลือดออก และไข้สมองอักเสบญี่ปุ่นบี ซึ่งติดต่อผ่านยุง จะต้องโดนยุงกัดขั้นต่ำ (ครั้ง) จึงจะเป็นโรคดังนี้
.
(1). มาลาเรีย > 5-10 ครั้งขึ้นไป
(2). ไข้เลือดออก > 4-5 ครั้งขึ้นไป
การศึกษาในคนจากเวียดนามพบว่า จำนวนครั้งที่ยุงกัดในหนูทดลองกับในคนแล้วเป็นโรค มีขนาดพอๆ กัน
(3). ไข้สมองอักเสบญี่ปุ่นบี > 250 ครั้งขึ้นไป
สรุป คือ คนส่วนใหญ่ต้องโดนยุงกัด 5-10 ครั้งขึ้นไป จึงจะติดเชื้อไข้จับสั่น (มาลาเรีย)
.
ภาพที่ 4: เชื้อไวรัสโคโรนา (corona = มงกุฎ) มีหนามแหลมคล้ายมงกุฎ
ไวรัสโคโรนาคล้ายไข้หวัดใหญ่ซาส์ใหม่ที่พบมากในซาอุดี อาระเบียตอนนี้ พบว่า อูฐอาจเป็นพาหะ และพบเชื้อในค้างคาวด้วย
.
การลงทุนติดมุ้งลวดทั้งบ้าน เป็นการลงทุนประกันชีวิตที่ดี
และอย่าลืม... ติดมุ้งลวดห้องน้ำด้วย
.
เพราะห้องน้ำที่ไม่ติดมุ้งลวด เพิ่มเสี่ยงโรคติดต่อจากยุงด้วย โรคฉี่หนู
แถมยังป้องกันค้างคาวเข้าบ้าน (เผื่อจะมีโรคแปลกๆ ใหม่ๆ แบบซาอุฯ ที่มากับค้างคาว) ด้วย
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
- ยินดีให้ท่านนำบทความนี้ไปใช้ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต ตามแบบครีเอทีฟ คอมมอนส์
- CC: BY-NC-SA
- บทความนี้เป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค, ไม่ใช่การวินิจฉัยหรือรักษาโรค
- ท่านที่มีความเสี่ยงต่อโรคสูง หรือมีโรคประจำตัว, จำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
Thank Sources