.
.
.
ภาพ: ขออภัยยังไม่มีรูปแก้วน้ำ... ขอให้คิดว่า แก้วทางขวามือ แถวล่าง เป็นแก้วน้ำก็แล้วกัน
.
.
.
.
ภาพ: ท่าบริหารกล้ามเนื้อโครงสร้างที่น่าทำเป็นประจำ
.
.
การศึกษาใหม่ (ตีพิมพ์ใน Human Neuroscience) จากมหาวิทยาลัยอีสต์ ลอนดอน อังกฤษ
.
ทำการทดลองในกลุ่มตัวอย่าง 34 คน
.
ทดลองให้กินอาหารเช้าที่มีแต่แท่งธัญพืชเปล่าๆ (cereal bar = แท่งธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ฯลฯ มักจะมีผลไม้ และมีน้ำตาลปนอยู่สูง ไม่ใช่อาหารลดความอ้วน), ก่อนวัดการทำงานของสมอง
.
หลังจากนั้นทดลองซ้ำด้วยการให้กินอาหารเช้าที่มีแท่งธัญพืช กับน้ำ 1 ขวด, แล้ววัดการทำงานของสมอง
.
ผลการศึกษาพบว่า ภาวะขาดน้ำทำให้ปฏิกริยาตอบสนอง (reaction time) ของสมองตกลงมากถึง 14%
.
ปฏิกริยาตอบสนองมีความสำคัญในการแก้ไขภาวะวิกฤติ ฉุกเฉิน
.
ถ้าจะให้รถหยุดก่อนชน... คนที่เหยียบเบรคได้เร็ว น่าจะได้เปรียบคนที่เหยียบเบรคช้า
.
การศึกษาอีกรายงานหนึ่ง ทำโดยการให้อาสาสมัครวัยรุ่นปั่นจักรยานหนักจนเหงื่อแตก 1.5 ชั่วโมง
.
กลุ่มตัวอย่างเสียเหงื่อประมาณ 2 ปอนด์ = 9.1 ขีด = 0.91 กิโลกรัม
.
นำกลุ่มตัวอย่างไปตรวจด้วยเครื่องสแกนสมอง
.
พบว่า สมองเหี่ยวลงคล้ายๆ สมองคนแก่
.
ข่าวดี คือ พอดื่มน้ำเข้าไป ไม่นานสมองที่เหี่ยวก็เปล่งปลั่งออกมาแบบเดิม
.
.
ช่วงเวลาที่คนเราเสี่ยงขาดน้ำมากเป็นพิเศษ คือ ช่วงหลังตื่นนอน และช่วงเช้า
.
ถ้าฝึกล้างมือด้วยสบู่หลังตื่นนอน บ้่วนปากหลายๆ ครั้ง แล้วดื่มน้ำ 1-2 แก้วน่าจะดี
.
การสังเกตความถี่ของปัสสาวะ (ฉี่) มีส่วนช่วยบอกภาวะขาดน้ำได้
.
ถ้าปัสสาวะ (ฉี่) น้อยกว่า 2 ชั่วโมง/ครั้ง... น่าจะขาดน้ำ
.
.
ถ้าปัสสาวะ (ฉี่) บ่อยกว่า 1 ชั่วโมง/ครั้ง... น่าจะกินน้ำมากเกินไป
.
ภาวะขาดน้ำมีส่วนทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น
.
การฝึกไม่นั่งนานเกิน 1 ชั่วโมง/ครั้ง ให้ลุกขึ้นยืนสลับนั่ง หรือเดินไปมาสลับนั่ง ช่วยป้องกันโรค "นั่งนาน" ได้หลายอย่าง
.
เช่น ป้องกันโรคปวดหลัง ปวดเมื่อย ปวดคอ น้ำตาลในเลือดหรือโคเลสเตอรอล(ไขมันในเลือด)สูงจากการนั่งนาน ฯลฯ
.
.
และถ้าลุกขึ้นไปล้างมือด้วยสบู่ บ้วนปากหลายๆ ครั้ง, ดื่มน้ำด้วย จะเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีมากในระยะยาว
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
. > [ Twitter ]
- ขอขอบพระคุณ / Thank
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์. 22 กรกฎาคม 56. ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ได้ โดยอ้างที่มา และไม่จำเป็นต้องขออนุญาต... ขอบคุณครับ > CC: BY-NC-ND.
- ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค; ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูง จำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้