happy memories
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 

เสพงานศิลป์ ๑o




ภาพจากเวบ deviantart.com







"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี







Romance - ‪Yuhki Kuramoto‬










“ศิลปกรรมเทิดพระเกียรติ”


นิทรรศการศิลปกรรมเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช "อัครศิลปิน" สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ "องค์เอกอัครอุปถัมภ์มรดกช่างศิลป์ไทย" และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อให้พสกนิกรได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงตรากตรำพระวรกายเพื่อบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานับปการ รวมถึงงานด้านศิลปวัฒนธรรม เปิดให้ชมวันนี้ - ๓๑ สิงหาคม จันทร์ - ศุกร์ เวลา ๑o.oo -๑๗.oo น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา o๙.oo - ๑๖.oo น. ที่หอศิลป์วังหน้า ถ.ราชินี เขตพระนคร


ภาพและข้อมูลจาก
คอลัมน์ตลาดนัดงานศิลป์ คม ชัด ลึก ๑๒ ส.ค. ๒๕๕๕
fed.bpi.ac.th














"ศิลปะเทิดไท้องค์ราชันย์ไว้เหนือเกล้า"


อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ ขอเชิญชมงานนิทรรศการศิลปะชุด “เทิดไท้องค์ราชันย์ไว้เหนือเกล้า” ผลงานของ ชมรมวาดภาพสีน้ำสมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษาในพระบรมราชูปถัมภ์ และ กลุ่มคนรักษ์ศิลป์ ระหว่าง วันที่ ๓ – ๓๑ สิงหาคม ศกนี้ ตั้งแต่เวลา o๙.oo – ๒๑.oo น. ณ บริเวณลานนิทรรศการ ชั้น ๓ ของโรงแรมฯ รายได้จากการจำหน่ายภาพนำ ทูลเกล้าถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี โดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อ “กองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร”


ชมรมวาดภาพสีน้ำ สนตอ. และ กลุ่มคนรักษ์ศิลป์ ประกอบด้วย วิชาดา อัคนิทัต, ธัญญา ศิริเวทิน, นภาพร ศรจิตติ, ม.ร.ว. พันธุ์เพ็ญ สนิทวงศ์, พรทิพย์ อมาตยกุล, ฉวีพันธ์ ฮันตระกูล, อุษา เหลืองทวีบุญ และฯลฯ โดยมี อ. วชิระ ก้อนทอง หัวหน้าภาคศิลปะสากล วิทยาลัยช่างศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์เป็นผู้สอนเทคนิคการวาดภาพสีน้ำและสีอะคริลิค ดังนั้นในการแสดงนิทรรศการครั้งนี้จึงมีผลงานทั้งสีน้ำและสีอะคริลิค






“เทิดไท้องค์ราชันย์ไว้เหนือเกล้า” เป็นการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อการกุศลครั้งที่ 3 ที่กลุ่มศิลปินได้ร่วมกับโรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ จัดขึ้นเพื่อหารายได้ สมทบทุน “กองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร” และในครั้งนี้ศิลปินทั้งหมดได้สร้างสรรค์ผลงานด้วยต้องการถวายความรัก, ความจงรักภักดี และ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฎิบัติพระราช กรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม โดยถ่ายทอดผ่านปลายพู่กันในเทคนิควาดภาพเฉพาะตัวของแต่ละศิลปิน


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ณิชยา ชัยวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์
ณัฐมณญ์ ธรรมธาดา ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
สมเกียรติ อินทร์สวา เจ้าหน้าที่ประสานงานประชาสัมพันธ์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. o๒-๖๕๓-๙ooo ต่อ ๕o๒o-๑


ภาพและข้อมูลจากเวบ
newswit.com

bsnnews.com












"สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถกับงานประณีตศิลป์"


วันที่ ๒๓ ส.ค. ที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการพิเศษ เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถกับงานประณีตศิลป์” ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย โดยมีนางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นาย สมชาย เสียงหลาย ปลัด วธ. นาง โสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร และคณะผู้บริหาร วธ. เฝ้าฯรับเสด็จฯ






นางสุกุมล กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการอย่างละเอียดนานกว่า ๓o นาที และทรงรับสั่งให้กรมศิลปากรไปศึกษาองค์ความรู้เกี่ยวกับกระจกเกรียบว่าโบราณ ทำอย่างไร เพราะงานเหล่านี้ต้องอาศัยฝีมือ ถ้าหากงานเหล่านี้หลงเหลืออยู่จะได้นำมาศึกษากรรมวิธีต่าง ๆ แล้วอนุรักษ์ให้คงอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตามอยากเชิญชวนให้ประชาชนมาชมนิทรรศการ






นางโสมสุดา กล่าวว่า นิทรรศการจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๓ สิงหาคม - ๒๒ ตุลาคม เวลา o๙.oo - ๑๖.oo น. (ยกเว้นวันจันทร์-วันอังคาร) ภายในนิทรรศการได้จัดแสดงโบราณวัตถุงานช่างศิลปกรรมไทย ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รวม ๑๑ หมวด ที่พระองค์ทรงสืบสาน และอนุรักษ์จากมรดกจากงานช่างในอดีตตั้งแต่สมัยอยุธยา เรื่อยๆมาจนถึงรัตนโกสินทร์จนเกิดเป็นงานศิลปาชีพในปัจจุบัน ได้แก่ ๑. ผ้าปัก ๒. ผ้าทอ ๓. เครื่องถมเงิน ถมทอง ๔. ไม้แกะสลัก ๕. เครื่องทองเครื่องเงิน ๖. เครื่องแต่งกายโขน ๗. เครื่องคร่ำเงินคร่ำทอง ๘. เครื่องจักรสาน ๙. งานจักรสานย่านลิเภา ๑o. เครื่องปั้นดินเผา และ ๑๑. ตุ๊กตาชาววัง






“โบราณวัตถุและศิลปวัตถุที่นำมาจัดแสดงมีทั้งหมด ๑๙o ชิ้น นำออกมจากกรุภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 8 แห่งทั่วประเทศ แต่ละชิ้นล้วนเป็นมรดกชาติที่มีความพิเศษล้ำค่าอย่างยิ่ง อาทิ สุวรรณมาลาทองคำถัก, พระที่นั่งบุษบกเกริน, แท่นพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์, ตุ๊กตาชาววัง ดินเผา, กรรไกรไทย คร่ำเงิน คร่ำทอง, กระเป๋าย่านลิเภา, ผ้าปักไหมสี, พนักกัญญาเรือพระที่นั่งประจำทวีปเงินถมทอง สมัยรัชกาลที่ ๕, หัวโขนหนุมานหน้ามุก ในสมัยรัชกาลที่ ๒, ชุดหัวโขน เครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับโขน”นางโสมสุดา กล่าว







นายอนันต์ ชูโชติ ผอ.สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในการจัดนิทรรศการครั้งนี้ ภาชนะเครื่องปั้นดินเผาก้นกลม ประดับตกแต่งลวดลาย ด้วยวิธีเขียนลาย ด้วยวิธีเขียนลายเส้นสีแดงบนพื้นสีนวล แบบวัฒนธรรมบ้านเชียง จากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง อายุประมาณ ๒,๓oo ปี ถือว่าเป็นโบราณวัตถุที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในการนำมาแสดงในครั้งนี้



ข้อมูลจากเวบ
dailynews.co.th
manager.co.th












ภาพจากเวบ tsdmag.com



“สยามนิทรรศน์รัชมงคล”


สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเป็นองค์ประธานเปิดงาน “สยามนิทรรศน์รัชมงคล” นำคนไทยร่วมย้อนอดีต ชื่มชมภาพแห่งประวัติศาสตร์ ในนิทรรศการ “ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท” ที่บันทึกพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งประทับในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อกว่า 70 ปีก่อน เปรียบเทียบกับภาพปัจจุบันของสถานที่ต่างๆ ที่เคยประทับ ทรงศึกษา และเคยเสด็จประพาส เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา พร้อมฉลอง 80 ปีแห่งความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 23 สิงหาคม นี้ เวลา 10.00 น. ที่บริเวณชั้น 1 สยามพารากอน โดยนิทรรศการจะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2555





กอบลาภ โปษะกฤษณะ นายกสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ฯ
และ คริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ออท.สวิสฯ



สมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย จัดงาน “สยามนิทรรศน์รัชมงคล” เพื่อ ให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป พร้อมสานความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งหาทุนเพื่อสมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล อันเป็นมูลนิธิที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งขึ้นด้วยพระราชทรัพย์ ส่วนพระองค์เพื่อสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาของนักเรียนที่มีศักยภาพ


ฯพณฯ เอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย นางคริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ กล่าวว่า “การจัดงานสยามนิทรรศน์รัชมงคลในครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนไทยที่สนใจได้เห็นและรู้จักสวิตเซอร์แลนด์ในแง่มุมใหม่ เกิดความสนใจและเข้าใจกันมากขึ้นซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ แน่นแฟ้นขึ้น”





คณะผู้จัดงาน อาทิ กอบลาภ โปษะกฤษณะ นายกสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ฯ
คริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ออท.สวิสฯ พิไลพรรณ สมบัติศิริ สัณหพิศ โพธิรัตนังกูร
ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน



กอบลาภ โปษะกฤษณะ นายกสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ฯ และ คริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ออท.สวิสฯ
นางกอบลาภ โปษะกฤษณะ นายกสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ในพระอุปถัมภ์ฯ กล่าวเสริมว่า “นิทรรศการ ‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ ซึ่งเป็นไฮไลต์ของงานสยามนิทรรศน์รัชมงคล จะนำโลกแห่งอดีตเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับเพื่อทรงศึกษาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาเปิดเผยให้เราได้เห็นว่า ทรงใช้ชีวิตอย่างไร และในปัจจุบันสถานที่ต่างๆ แฟลตที่เคยประทับ โรงเรียนที่เคยทรงศึกษานั้นมีสภาพอย่างไร และเกิดแรงบันดาลใจที่จะดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง รู้ค่าและทำประโยชน์ให้แก่สังคม ‘ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท’ ของพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก”


นิทรรศการ “ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท” ประกอบด้วย นิทรรศการแสดงภาพนิ่งที่นำเสนอทั้งในรูปของบอร์ดนิทรรศการ และทัชสกรีนคอมพิวเตอร์ ให้ผู้เข้าชมงานได้ชมภาพอย่างเต็มอิ่ม ภาพเหล่านี้คณะผู้จัดงานได้ไปถ่ายทำจากสถานที่จริงในปัจจุบันที่ประเทศสวิต เซอร์แลนด์ และนำมาเปรียบเทียบกับภาพเก่าสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังประทับอยู่เมื่อกว่า 70 ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีวีดิทัศน์ที่นอกจากจะมีภาพสถานที่ต่างๆ แล้ว ยังได้รวมถึงพระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่มีค่าอีกด้วย






มณีสุดา ศิลาอ่อน, สัณหพิศ โพธิรัตนังกูร, มร.เพอร์ลิน บรอย,
ภัทรา ศิลาอ่อน และ พิไลพรรณ สมบัติศิริ




บริเวณรอบๆ งานนิทรรศการ ยังมีการจัดกิจกรรมสาธิตด้านวัฒนธรรมเปรียบเทียบ อาทิ การทอผ้าแบบไทยและสวิส การแสดงดนตรีแอล์ปฮอร์น การแสดงภาพเขียนของศิลปินไทยและสวิส ตลอดจนงานออกร้านของบริษัทต่างๆ ที่น่าสนใจ อีกมาก พร้อมกันนี้ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ยังได้ให้ความร่วมมือนำต้นฉบับของจริงของสนธิสัญญาไมตรีและการค้าระหว่าง สยามและสวิตเซอร์แลนด์ อันเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ มาแสดงในงานนี้ด้วย โดยรายได้จาการจัดงานนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อสมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล





ฯพณฯ คริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ท่านทูตสวิสฯ และ กอบลาภ โปษะกฤษณะ นายกสมาคมนักเรียนเก่าสวิสฯ
กับงานจิตรกรรมที่จะประมูลในงาน



หลังเสร็จสิ้นการจัดงาน สมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ในพระอุปถัมภ์ฯ เตรียมจัดทำวีดิทัศน์เรื่อง “ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท” ออกแจกจ่ายให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการศึกษาเกี่ยวกับพระราชประวัติ ให้นักเรียนและเยาวชนรุ่นหลังได้มีความรู้ความเข้าใจและเกิดแรงบันดาลใจที่ จะดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง และสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมและมนุษยชาติ พร้อมกันนี้ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ยังได้ให้ความร่วมมือนำต้นฉบับของจริงของสนธิสัญญาไมตรีและการค้าระหว่าง สยามและสวิตเซอร์แลนด์ อันเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ มาแสดงในงานนี้ด้วย



ภาพจากเวบ
naewna.com
thairath.co.th













"ขัด รีด ร่ำ ดูแลผ้าแบบชาววัง"


เดินผ่านกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำปรุงที่ติดอยู่ตามดอกกุหลาบหลายสิบดอกซึ่งเรียงร้อยห้อยลงมาจากเพดานเป็นแนวสวย เข้าสู่ห้องโถงสีนวลสะอาดตา จะพบกับผู้ดูแลนิทรรศการนุ่งโจงกระเบนคอยต้อนรับและอธิบายเรื่องราวให้ ผู้รับชมฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จึงไม่ขัดเขินนักหากจะรับชมนิทรรศการ 'ขัด รีด ร่ำ การดูแลผ้าแบบชาววัง' ด้วยความเพลิดเพลิน






เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘o พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระองค์ ในการช่วยเหลือพสกนิกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย นิทรรศการในครั้งนี้ ประกอบด้วย ๒ นิทรรศการย่อย ได้แก่ นิทรรศการ 'ขัด รีด ร่ำ การดูแลผ้าแบบชาววัง' ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๙ สิงหาคม - ๓o กันยายน ๒๕๕๕ ณ ห้องกิจกรรม ชั้น ๑ พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง และนิทรรศการ 'เป็น อยู่ คือ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ' จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๕ - ๓o กันยายน ๒๕๕๕ ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น ๕ ศูนย์การค้าสยามพารากอน






ท่านผู้หญิงอรนุช อิศรางกูร ณ อยุธยา คณะกรรมการบริหารพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ กล่าวว่า นิทรรศการ 'ขัด รีด ร่ำ การดูแลผ้าแบบชาววัง' เป็นการเผยแพร่เรื่องราวการดูแลรักษาผ้าอย่างชาววัง ตั้งแต่ขั้นตอนการซักไปจนถึงขั้นตอนการอบร่ำด้วยเครื่องหอมนานาชนิด พร้อมทั้งสาธิตขั้นตอนการนุ่งโจง นุ่งจีบ ห่มสไบ อย่างถูกวิธี เป็นเรื่องราวและความรู้ที่หาชมยากในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ จากผู้ทรงคุณวุฒิทุกสัปดาห์ อยากให้ผู้ที่สนใจมาชมกันมาก ๆ เปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ






ขั้นตอนแรกสำหรับการดูแลผ้าไทยแบบชาววังคือ การซัก คนไทยโบราณจะนำผ้าไปต้มในน้ำชะลูดเพื่อให้มีกลิ่นหอมและใส่ลูกซัดที่มี คุณสมบัติเป็นเมือก เมื่อแช่น้ำเข้าไปเพื่อเคลือบเส้นใยของผ้าเอาไว้จะทำให้ผ้านั้นคงรูปทรง เมื่อนำไปขัดจะขึ้นเงา สำหรับผ้าที่หนาและมีการสอดด้ายทองเข้าไปในเนื้อผ้าจะไม่นิยมขัด จึงไม่แช่ในน้ำลูกซัดแต่จะแช่ในน้ำมะพร้าวแทนเพื่อให้เนื้อผ้านุ่ม ก่อนนำไปล้างน้ำให้สะอาด เมื่อซักผ้าเสร็จแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการขัด ซึ่งจะใช้หอยเบี้ยโดยนำด้านกลมมนของหอยมาขัดไปตามแนวของเนื้อผ้า เพื่อให้เนื้อผ้าเงางาม ถือเป็นภูมิปัญญาของไทยโบราณโดยแท้จริง บางครั้งอาจใช้หอยโมรา กระสุนปืนโบราณ หรือขวดแก้ว เพราะยิ่งอุปกรณ์การขัดมีขนาดใหญ่มากเท่าไรงานขัดผ้าก็ยิ่งเสร็จเร็วมากขึ้น เท่านั้น






"การแสดงฐานะของคนไทยในสมัยก่อนจะดูจากรอยพับของผ้า หรือจีบของผ้า ถ้าผ้าที่ใครใส่มีรอยพับหรือสไบที่ใส่มีรอยจีบที่สวยงามแสดงว่าบ้านนั้นมีฐานะดี เพราะการจับจีบผ้าต้องใช้เวลานานและใช้กำลังคนทำมาก ผู้ดีไทยโบราณจึงต้องมีคนรับใช้เอาไว้เพื่อทำเรื่องเหล่านี้ให้" อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย กล่าวบรรยายขณะวิทยากรสาธิตวิธีการอัดผ้า ขั้นตอนที่ทำให้ผ้าเป็นรอยพับหรือรอยจีบ ถ้าเป็นสไบจะใช้รางจีบผ้าที่มีลิ้นเป็นชั้นอๆ อยู่ในราง ผู้จีบจะต้องพันผ้าไว้กับไม้ไผ่หลายชั้นมัดหัวท้ายใส่ลงในราง แล้วใช้ไม้ทับลงไปให้ผ้าอยู่ทรง






ส่วนผ้านุ่งทั่วไปจะใช้ เครื่องอัดผ้าที่ทำจากไม้หนาสองแผ่น ใส่ผ้าลงไประหว่างไม้สองแผ่นนั้น ตรงกลางมีแท่นหมุนเพื่อหมุนอัดให้ไม้สองแผ่นมาประกบกัน ทำให้ได้รอยพับผ้าที่สวยงาม สาวชาววังมีวิธีทำให้ผ้า 'หอมติดกระดาน' โดยการนำผ้าไปร่ำในดอกไม้หอมชนิดต่าง ๆ อาทิ กฤษณา จันทน์เทศ สารภี ประยงค์ จันทน์กะพ้อ กระดังงา มะลิลา การร่ำ คือการอบหรือปรุงผ้าให้มีกลิ่นหอม โดยนำผ้าใส่โถหรือหีบทึบปิดสนิทแล้วร่ำ ซึ่งทำได้หลายวิธี ทั้งร่ำควันเทียน ร่ำดอกไม้สด และร่ำด้วยน้ำปรุง จนกลิ่นติดเนื้อผ้าแล้วจึงนำไปรีดหรืออัดจีบให้สวยงาม






ภายในนิทรรศการยังสาธิตการจับจีบหน้านาง การนุ่งโจงกระเบน และการห่มสไบ ทั้งยังสามารถทดลองแต่งกายสีตามวันโดยมีผู้ดูแลนิทรรศการช่วยเหลือในการแต่งกาย ปิยะมน โพธิ์ชุม นักอนุรักษ์ผ้าของพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เล่าถึงจุดเด่นของนิทรรศการนี้ว่า "เน้นให้ผู้เข้าชมได้ลองปฏิบัติจริง โดยแต่งตัวตามแบบชาววังโบราณ พร้อมจัดทำเป็นภาพลายเส้นการ์ตูนที่เข้าใจง่ายโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ๆ"






ภาพช้อมูลจากเวบ
khaosod.co.th
facebook.com














“My love art exhibition of peach by Somchai Rattanasopon & Friends”



Somchai Rattanasopon & Friends ขอเชิญทุกท่านร่วมเข้าชมงานนิทรรศการงานศิลป์ภายใต้แนวคิด “ ความงามและความทรงจำของความรัก ” ผ่านมุมมองและปลายภู่กันของของสมชาย รัตนโสภณ ศิลปินแนว Abstract ผู้สั่งสมประสบการณ์และเดินทางหาแรงบันดาลใจไปทั่วโลกกว่า ๑o ปี ร่วมด้วยผลงานของเหล่าเพื่อนพ้องศิลปินอีก ๑๘ ชีวิตกับกว่า ๓o ชิ้นงาน ทั้งงานจิตรกรรมและประติมากรรมร่วมสมัย


จุดเด่นของภาพและผลงาน ทุกชิ้นอยู่ที่ “ความรักที่ไม่ได้ออกแบบ” แต่สามารถถ่ายทอดความรักได้ออกมาเป็นภาพและผลงานทางศิลปะ “อย่างลงตัว” ด้วยเทคนิคทางศิลปะที่หลากหลาย วันนี้ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมชมอีกหนึ่งผลงาน ที่เหล่าศิลปินบรรจงสร้างสรรค์เพื่อจรรโลงโลกและสังคมให้ไม่ปราศจากความงาม และความทรงจำของความรัก และรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดงานจะนำไปบริจาคเพื่อการกุศล


เปิดแสดงผลงานตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๒o - ๒๗ สิงหาคม เป็นต้นไป ณ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน (SIAM PARAGON) โซน Living Gallery 1 ชั้น ๓ รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อคุณเอ้ โทร. o๘-๗๕๑-๒๘๔๗ คุณรัก โทร. o๘๑-๘๒๗-๑๖๘๔ อีเมล์ luck6art@gmail.com



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thailand4.com













"ศิลปกรรม จิด-ตระ-ธานี เกิด จุติ ๑ วาดเส้น"


ธานี ชินชูศักดิ์ (จิด-ตระ-ธานี) จิตรกร และผู้สอนศิลปะ รวบรวมผลงานภาพวาดลายเส้นจิตรกรรมไทย กว่า ๖๐ ภาพ ของตนเองและศิลปินรับเชิญฝีมือ ชั้นเยี่ยมหลายท่าน อาทิ อ.อนุเทพ พจน์ประสาท, อ.ภูษิต กาญจนศิริปาน และ ผศ.สุวัฒน์ แสนขัติยรัตน์ เป็นต้น พร้อมด้วยผลงานจากศิลปินไทยรุ่นเยาว์ และนักวาดภาพมือสมัครเล่น จากกลุ่ม “วาดเล่น ๆ กับ จิด-ตระ-ธานี” (www.jitdrathanee.com/Learning) มาจัดแสดง ณ ห้องศิลาทราย ชั้น ๔ ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ระหว่างวันที่ ๕ – ๑๔ กันยายน ๒๕๕๕ ในหัวข้อ “จิต-ตระ-ธานี เกิด-จุติ 1 วาดเส้น”


นิทรรศการศิลปกรรม “จิด-ตระ-ธานี เกิด จุติ ๑ วาดเส้น” เป็นนิทรรศการอิงธรรมะ ซึ่งธานี ชินชูศักดิ์ ศิลปินเจ้าของงานได้รวมผลงานภาพวาดลายเส้นของตนและเหล่าศิลปินรับเชิญ กว่า ๖o ภาพ ซึ่งล้วนเป็นเพื่อนๆ ๆ น้อง ๆ จากหลากหลายสถาบัน ที่มีโอกาสได้ทำความรู้จักผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ และในนิทรรศการครั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้กับนักวาดภาพมือสมัครเล่น จากกลุ่ม “วาดเล่น ๆ กับ จิด-ตระ-ธานี” ที่ศิลปินได้แนะนำๆให้ความรู้เป็นวิทยาทาน เกี่ยวกับหลักการที่ถูกต้องในการวาดภาพลายไทย ผ่านเว็บไซต์ “วาดเล่น ๆ กับ จิด-ตระ-ธานี” //www.jitdrathanee.com/Learning เป็นเวลานานกว่า ๕ ปีแล้ว นิทรรศการครั้งนี้จึงเป็นเสมือนการพบปะสังสรรค์ และทำบุญร่วมกัน โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการแสดงผลงาน ไปร่วมสมทบจัดพิมพ์หนังสือ ธรรมะ How to ? “ทางลัดสากลสู่การพ้นทุกข์” (ขยายความจาก “สักกปัญหสูตร”) ประกอบภาพวาดลายเส้นในนิทรรศการฯ โดยจะถอดเสียงพระธรรมเทศนา ของ พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณฺโณ (อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชิคาโก สหรัฐอเมริกา) ซึ่งรับนิมนต์ท่านมาแสดงธรรม ก่อนพิธีเปิดนิทรรศกาในวันเสาร์ที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๕ และหลังจากนั้นจะนำหนังสือดังกล่าวออกวางจำหน่าย เพื่อนำรายได้สบทบทุนสร้าง “ธรรมสถาน เพื่อการปฏิบัติภาวนา ของพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณฺโณ” ณ จ.ราชบุรี ต่อไป และขอเชิญร่วมพิธีเปิดนิทรรศการ ในวันเสาร์ที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๘.oo น. โดยได้รับเกียรติจาก คุณธารา แซ่เบ๊ นายกสมาคมเผยแพร่และส่งเสริมศิลปวัตถุ เป็นประธานในพิธี


ขอเชิญผู้รักในงานศิลปะ ร่วมพบปะสังสรรค์ และแลกเปลี่ยนมุมมองที่มีต่องานจิตรกรรมไทยกับศิลปินและผองเพื่อนได้ตามวันและเวลาข้างต้น


ภาพและข้อมูลจากเวบ eventpro.in.th












""มหกรรมเครื่องเงินน่าน"


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่(ริบผิดชอบพื้นที่ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์) เชิญชวนนักท่องเที่ยว และผู้สนใจร่วมงานมหกรรมเครื่องเงินน่าน ครั้งที่ ๒ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ตำนานเครื่องเงินน่าน เล่าขานสู่สากล” ระหว่างวันที่ ๓๑ สิงหาคม - ๒ กันยายน ๒๕๕๕ เวลา ๑o.oo - ๒๑.oo น. ณ ลานข่วงเมืองน่าน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน


นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ กล่าวว่าจังหวัดน่าน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน กำหนดจัด “งานมหกรรมเครื่องเงินน่าน ครั้งที่ 2” ระหว่างวันที่ ๓๑ สิงหาคม - ๒ กันยายน ๒๕๕๕ ณ ลานข่วงเมืองน่าน อำเภอเมืองจังหวัดน่าน เวลา ๑o.oo - ๒๑.oo น. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการผลิต และจำหน่ายเครื่องเงินเมืองน่าน ตลอดจนประชาสัมพันธ์เผยแพร่เครื่องเงินน่านที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน รวมทั้งอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นการผลิตเครื่องเงินของชาวน่าน ตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีตามโครงการ พัฒนาเครื่องเงินเมืองน่าน






การจัด “งานมหกรรมเครื่องเงินน่าน ครั้งที่ ๒” ครั้งนี้ กำหนดจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยกำหนดให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจต่าง ๆ มากมาย ประกอบด้วย การเดินแฟชั่นโชว์เครื่องเงินจาก ๑o นางแบบดัง และแฟชั่นโชว์ชุดพิเศษจากน้องมิว ลักษณ์นารา เปี้ยทา นางเอกจากละครดัง รักนี้หัวใจมีครีบ ชมมินิคอนเสิร์ตจากแหนม รณเดช วงศาโรจน์ ชมวิถีชีวิตจำลอง การทำเครื่องเงินชนเผ่าเมี้ยน ชมการแสดงดนตรี และสามารถเลือกซื้อเครื่องเงินน่านในราคาพิเศษ คุณภาพสินค้าส่งออก และยังมีบริการซ่อม - ขัดล้างเครื่องเงินฟรี


ททท.สำนักงานแพร่ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดน่าน และร่วมงาน “งานมหกรรมเครื่องเงินน่าน ครั้งที่ ๒” ณ ลานข่วงเมืองน่าน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน โทร. 0-๕๔๗๘-๓๖๘๑-๒ และ สอบถามข้อมูลเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดน่านได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทรศัพท์ 0-๕๔๕๒-๑๑๑๘, 0-๕๔๕๒-๑๑


ภาพและข้อมูลจากเวบ dailynews.co.th














"Making Friend"


“Making Friend” Workshop สำหรับคนอยากมีเพื่อน (แปลกๆ) be>our>friend ชวนคุณมาฝึกทักษะเรื่อง Conceptual Design ในการสังเกต คิด วิเคราะห์ และสร้างบุคคลจำลอง โดยการออกแบบหน้าตา อุปนิสัย ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงความสามารถพิเศษจากข้อมูลที่เรียนรู้จากเพื่อนร่วมกลุ่ม โดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่อย่างจำกัด


be>our>friend ก่อตั้งขึ้นโดยสมาชิก ๓ คนที่มีความเชี่ยวชาญต่างสาขา คือ มะลิ จาตุรจินดา (กราฟิกดีไซน์เนอร์) ปอม จิตรประทักษ์ (ศิลปินและนักวาดภาพประกอบ) และ ณัฐวุฒิ เลื่อนไธสง (โปรแกรมเมอร์) มีทีมงานที่เป็นส่วนผสมจากหลายอาชีพทั้งสถาปนิก นักออกแบบผลิตภัณฑ์ นักวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ และทีมบริหารจัดการโครงการ เพื่อรองรับงานที่มีขอบเขตกว้างขึ้น ปี ๒๕๕๓ สตูดิโอได้รับเชิญให้ไปแสดงงานที่ Gwangju Biennale ประเทศเกาหลี เป็น ๑ ใน ๓ สตูดิโอจากเอเชียที่ได้ทำงานร่วมกับ Converse Global และได้รับรางวัล Excellent Artwork จากงาน Science and Art Exhibition ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเวิล์ดเอ็กโปที่เซี่ยงไฮ้


นิทรรศการ : Making Friend
ศิลปิน : มะลิ จาตุรจินดา, ปอม จิตรประทักษ์, ณัฐวุฒิ เลื่อนไธสง
วันที่ : ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๕
เวลา : ๑o.oo – ๑๗.oo น.
สถานที่ : บี อาว เฟรนด์ สตูดิโอ


ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














"ไทยเท่…จากท้องถิ่นถึงอินเตอร์"


กทม.จัดนิทรรศการ “ไทยเท่ จากท้องถิ่นสู่อินเตอร์” นำเสนอศิลปะสมัยรัชกาลที่ ๙ ให้เป็นนิทรรศการศิลปะครั้งสำคัญที่สุดในรอบทศวรรษแห่งประวัติศาสตร์ไทยระหว่างวันที่ ๓o ส.ค.- ๔ พ.ย.นี้ ที่หอศิลป์กทม.


เมื่อวันที่ ๒o ส.ค. ๒๕๕๕ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานในการแถลงข่าว การจัดนิทรรศการ “ไทยเท่ จากท้องถิ่นสู่อินเตอร์” พร้อมด้วย ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ กรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกทม. และคณะผู้บริหารสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ร่วมงาน ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น ๑ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร






นางทยา กล่าวว่า การจัดนิทรรศการดังกล่าว ถือว่าเป็นการจัดนิทรรศการครั้งสำคัญที่มีความสมบูรณ์และยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ ๗ ทศวรรษแห่งประวัติศาสตร์ศิลปะไทย ประกอบไปด้วย การจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินที่อยู่ในสมัยรัชกาลที่ ๙ ในรูปแบบที่หลากหลายมากกว่า ๓oo ชิ้นจากศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติและศิลปินร่วมสมัยเกือบ ๓oo ท่าน พร้อมข้อมูลทางวิชาการที่น่าสนใจ ตลอดจนการนำเสนอลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญทางศิลปะไทย โดยเปรียบเทียบประเทศต่าง ๆ ทั้งในซีกโลกตะวันออกและตะวันตก ซึ่งถือเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ของวงการศิลปะอันมีคุณค่า






นางทยา กล่าวอีกว่า นิทรรศการไทยเท่ จากท้องถิ่นสู่อินเตอร์ เป็นการนำเสนอศิลปะในสมัยรัชกาลที่ ๙ ทีีมีความเป็นที่สุดของการจัดนิทรรศการศิลปะในประเทศไทยในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนและประเภทของชิ้นงาน จำนวนศิลปินเจ้าของผลงาน พื้นที่ในการจัดแสดงผลงาน รวมทั้งยังเป็นโอสกาสที่ดีที่จะได้ขื่นชมงานศิลปะร่วมสมัยที่มีคุณค่าจากศิลปินชั้นนำของประเทศ และศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้นำออกมาจัดแสดงให้สาธารณะชนได้ชม จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนจะได้ชมผลงานศิบปะที่ดีจากศิลปินชั้นนำดังกล่าว







นอกจากนี้ กทม.โดยสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว จะจัดทำหนังสือรวบรวมผลงานศิลปะในยุคสมัยรัชกาลที่ ๙ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะอัครศิลปินแห่งสยามประเทศ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านศิลปะในวงกว้าง โดยนำเสนอศิลปะกับวิถีชีวิตในรูปแบบต่างๆ สะท้อนผ่านผลงานศิลปกรรมของศิลปินหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๙ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะมีกำหนดจัดพิมพ์แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ จำนวน ๑,๕oo เล่ม พร้อมแจกจ่ายให้แก่หน่วยงาน องค์กร หรือสถาบันการศึกษาที่สนใจ และสามารถติดต่อขอรับหนังสือได้ที่สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม.


ทั้งนี้ นิทรรศการ “ไทยเท่ จากท้องถิ่นสู่อินเตอร์” ศิลปะในรัชกาลที่ ๙ จัดที่หอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชันที่ ๓, ๔, ๕, ๗, ๘ และ ๙ ระหว่างวันที่ ๓o สิงหาคม ถึง ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ตั้งแต่เวลา ๑o.oo - ๒๑.oo น.หยุดเฉพาะวันจันทร์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th
artbangkok.com









นิทรรศการภาพถ่าย "ไทยอินไซด์"


โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส เชิญชมนิทรรศการภาพถ่าย "ไทยอินไซด์" โดย ประีชา เจริญยศ เพื่อนำรายได้จากการจำหน่ายภาพมอบแก่มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในพระอุปถัมภ์ของ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ - ๒๓ ก.ย. บริเวณลอบบี้ชั้น ๑ สอบถามโทร o๒-๒๑๙-๓๗oo ต่อ ๒o๖๔๒ - ๔๖


ข้อมูลจาก คอลัมน์ตลาดนัดงานศิลป์ คม ชัด ลึก ๑๒ ส.ค. ๒๕๕๕



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




 

Create Date : 25 สิงหาคม 2555
0 comments
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2555 18:58:54 น.
Counter : 11139 Pageviews.


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.