happy memories
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
27 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 

เสพงานศิลป์ ๖




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี






MusicPlaylistView Profile
Create a playlist at MixPod.com






"อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ ๓"


วันที่ ๑ – ๖ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ศนูย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. จัดแสดงสินค้าศิลปหัตถกรรมไทยในงาน“อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ ๓” ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ น้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคณุในการส่งเสริมและฟื้นฟกูารผลิตสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านท่ัวทกุภาค พร้อมท้ังเป็นการอนุรักษ์สมบัติอันล้ำค่าของประเทศให้คงอยู่ต่อไป


งาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ ๓” กําหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๑ – ๖ สิงหาคม ศกนี้ ณ ลานพารค์พารากอน ศูนยก์ารค้าสยามพารากอน โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ มหกรรมงานแสดงสินค้าหัตถศิลป์สุดยิ่ิงใหญ่ ที่รวมผลิตภัณฑ์และงานฝีมือระดับคุณภาพหลากหลายรปูแบบจากสมาชิกศิลปาชีพ และผู้ประกอบการจากทั่วประเทศ ผ่านการแสดงสินค้าออกเป็น ๔ ภาค ทั้งเหนือ กลาง ใต้ และ ตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้เยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภาคได้อย่างเต็มที่ พร้อมชมนิทรรศการผลงานของครูช่างศิลป์ที่ได้รบัการยกย่องให้เป็น ”ผลงานอัตลักษณ์แห่งสยาม” ซึ่งในการจัดงาน ๒ ครั้งท่ีผ่านมาได้รับการตอบรับจากผู้สนใจ รวมทั้งนักท่องเที่ยวท้ังชาวไทยและต่างชาติเข้าชมและซื่อสินค้าภายในงานเป็นจํานวนมาก





พิมพาพรรณ ชาญศิลป์ แถลงข่าวการจัดงาน "อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ ๓" ที่
โดยมี อ.ประสาท ทองอร่าม, อ.เผ่าทอง ทองเจือ, สิริพร หฤทัยวิญญ และ รฐา โพธิ์งาม มาร่วมงาน



พิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) กล่าวว่าอัตลักษณ์แห่งสยาม หมายถึงศิลปหัตถกรรมไทยที่จะสื่อถึงศิลปวัฒนธรรมของชาติที่สวยงาม ล้ำค่า และมีเอกลักษณ์ โดยในครั้งนี้มีกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมกิจกรรมร่วมลงนามถวายพระพร และไฮไลท์คือนิทรรศการผลงานของครูช่างศิลป์แห่งแผ่นดิน ที่มีผลงานโดดเด่นในรูปแบบแตกต่างกัน ผู้เข้าชมจะได้ชื่นชมการสาธิตผลงานโดยครูช่างศิลป์และลูกศิษย์ ซึ่งเป็นช่างฝีมือที่ร่วมสืบทอดและสืบสานผลงานผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ของไทยให้ได้ชมกันอย่างเต็มที่


พร้อมกันนี้ภายในงานยังได้เชิญตัวแทนครูช่างศิลป์แห่งแผ่นดิน กล่าวเรื่องราวของอัตลักษณ์และความเป็นไทยผ่านผลงานของตัวเอง โดย ครูเบญจพล สิทธิประณีต ผู้เชี่ยวชาญมุ่งมั่นอนุรักษ์ พัฒนาสร้างสรรค์ศิลปะงานตัดฉลุลวดลายล้านนาบนกระดาษด้วยกรรไกร จากภาคเหนือ กล่าวว่า การพัฒนาศิลปหัตถกรรมจากลวดลายเครือล้านนา มาจากความสนใจส่วนตัวที่อยากจะเรียนรู้ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยได้มีโอกาสเข้าศึกษาจากพ่อครูสิงห์แก้ว มโนเพ็ชร ซึ่งเป็นพ่อครูระดับฝีมือเอกท่านหนึ่ง ทำให้ได้รับความรู้พื้นฐานเป็นที่มาของการพัฒนาสู่งานหัตถศิลป์ใหม่ ๆ






“ลายเครือล้านนา เป็นลวดลายที่มีเอกลักษณ์สวยงาม มีจุดเด่นในความเป็นลวดลายอิสระ อ่อนช้อย ไม่มีแบบแผนที่แน่นอน โดยได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะของประเทศจีน และอินเดีย ในสมัยพระเจ้าติโลกราช ซึ่งหลังจากที่ได้เรียนรู้และฝึกฝนจากพ่อครูสิงห์แก้วแล้ว ก็ได้เกิดแนวคิดที่จะนำมาประยุกต์กับหัตถกรรมต่าง ๆ กลายเป็นการเพิ่มความสวยงามและมูลค่าเชิงศิลปะมากยิ่งขึ้น และล่าสุด เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘o พรรษามหาราชินี ในปี ๒๕๕๕ นี้ จึงได้เชิญพระฉายาลักษณ์พระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาปรับเข้ากับลวดลายเครือล้านนา กลายเป็นพระฉายาลักษณ์พระราชกรณียกิจในรูปแบบผสมผสานกับลวดลายที่อ่อนช้อยใน แบบล้านนา โดยจะนำมาจัดแสดงในงานอัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ ๓ นี้ด้วย เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติในโอกาสมหามงคลดังกล่าว”


ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถร่วมงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม” ครั้งที่ ๓ ได้ในระหว่างวันที่ ๑ - ๖ สิงหาคม ๒๕๕๕ ที่ลานพาร์คพารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในเวลา ๑o.oo - ๒๑.oo น.


คุณตุ้ยเคยอัพบล็อกงานอัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ ๒ ไว้
คลิกเข้าไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ บล็อกคุณ tui/Luksi



ภาพและข้อมูลจากเวบ komchadluek.net
thailandexhibition.com













"พุทธศิลป์ในจินตนาการ ครั้งที่่ ๒"


หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับงาน “พุทธศิลป์ในจินตนาการ” ในการเปิดตัวห้องแสดงนิทรรศการศิลปะครั้งแรกของ โอ.พี. การ์เด้น อย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับจากผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ นักสะสม ศิลปินที่เข้ามาเยี่ยมชม






ล่าสุด ศูนย์การค้า โอ. พี. การ์เด้น ได้เตรียมจัดงานพุทธศิลป์ฯ ขึ้นอีกครั้ง โดยได้ร่วมกับศิลปินกว่า ๒o ท่าน สร้างสรรค์ผลงานพุทธศิลป์ฯ ขึ้น เพื่อสานต่อความสำเร็จในครั้งก่อน และเพื่อเฉลิมฉลองในวาระสำคัญ พุทธชยันตี ๒๖oo ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ในนิทรรศการ “พุทธศิลป์ในจินตนาการ” ครั้งที่ ๒ ซึ่งครั้งนี้ได้รวบรวมผลงานเกี่ยวกับพระอริยสงฆ์ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดและเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้ยั่งยืนมาจัดแสดงเพื่อแสดงความเคารพและระลึกถึงคุณงามความดีของพระอริยสงฆ์เหล่านั้น






ในนิทรรศการพุทธศิลป์ ในจินตนาการครั้งที่ ๒ ได้รวบรวมผลงานจิตรกรรม ประติมากรรม ทั้งในเนื้อหาที่สื่อถึงพระอริยสงฆ์ สะท้อนออกมาในรูปแบบงานศิลป์ที่งดงาม สร้างสรรค์โดยศิลปินชั้นนำ อาทิ อาจารย์ปัญญา เพ็ชรชู, อาจารย์วรวิทย์ ศุภจรรยา, เริงศักดิ์ บุณยวาณิชย์กุล, อาจารย์วัชระ ประยูรคำ, อาจารย์ เนติกร ชินโย, ธณา เศรษฐ์ศิรอภิวัลย์, ดุษฎี รักษ์มณี, ธานี ชินชูศักดิ์, ชัชวาล รอดคลองตัน และ อาจารย์แดง บัวแสน เป็นต้น






งานนิทรรศการนี้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ถึง วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๕ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๑๐.๓๐ น. – ๒๐.๐๐ น. และจะมีพิธีเปิดในวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๘.๓๐ น. ณ ห้อง Event hall ชั้น ๒ (ห้องสาละลังกา) ศูนย์การค้า โอ. พี. การ์เด้น ซอยเจริญกรุง ๓๖ ซึ่งได้รับเกียรติจาก ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต (ประธานในพิธีธรรม) โดยมี คุณพงษ์ชัย จินดาสุข ร่วมเป็นประธานเปิดงาน และคุณปณต สิริวัฒนภักดี เป็นประธานจัดงานในครั้งนี้ด้วย






นอกจากนี้ ยังจัดให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เพื่อส่งเสริมงานด้านศิลปะให้กับเยาวชน โดยร่วมมือกับศิลปินจัดกิจกรรม Workshop เพิ่มทักษะความรู้ทางศิลปะโดยไม่มีค่าใช้จ่าย จะจัดกิจกรรมในวัน เสาร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ช่วงเช้า เวลา ๙.oo - ๑๒.oo น. และ ช่วงบ่าย เวลา ๑๔.oo - ๑๗.oo น. ในหัวข้อ "การพัฒนาทักษะความรู้ทางศิลปะ การวาดภาพ DRAWING / ดินสอสี ไม้ / สีน้ำ / การปั้นดิน" ณ ห้อง Event Hall ชั้น ๒ (ห้องสาละลังกา) ศูนย์การค้า โอ.พี. การ์ เด้น ซอยเจริญกรุง ๓๖






ศิลปินผู้ร่วมแสดงงาน รวม ๒๓ ท่าน


อาจารย์ปัญญา เพ็ชรชู
อาจารย์วรวิทย์ ศุภจรรยา

คุณประสงค์ ลือเมือง
คุณเริงศักดิ์ บุณยวาณิชย์กุล
อาจารย์วัชระ ประยูรคำm
คุณวัชระ กล้าค้าขาย
อาจารย์เนติกร ชินโย 

คุณยุทธนา พงศ์ผาสุก

คุณชิงชัย อุดมเจริญกิจ

คุณสมยศ คำแสง
คุณธณาเศรษฐ์ ศิรอภิวัลย์
คุณทรงเดช ทิพย์ทอง
คุณพรชัย ใจมา
คุณดุษฎี รักษ์มณี
คุณธานี ชินชูศักดิ์
คุณเอกสิทธิ์ จิรัตติกานนท์

คุณชัชวาล รอดคลองตัน
คุณอานันท์ ราชวังอินทร์

คุณกฤษณะ ชวนคุณากร
คุณวาสนา สีสัง
คุณศุภโชค เกิดศรี
อาจารย์แดง บัวแสน
คุณวิษณุพงศ์ หนูนันท์



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนิทรรศการ 
โทร ๐๒-๒๖๖-๐๑๘๖ ถึง ๙๕ หรือ ๐๒-๒๓๕-๑๘๘๙ หรือ ๐๒-๒๓๕-๘๘๖๕
แฟกซ์ ๐๒-๒๓๕-๘๘๖๖
อีเมล o.p.mkt@hotmail.com หรือ hathairat.c@tcclr.co.th Facebook //www.o.p.facebook.com/opgardens



ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
artbangkok.com

bangkokbiznews.com












“ย้อนหลังผลงานศิลปะชั้นครู อาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุข”


อาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุข (๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๘ - ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๑๕๕๒) ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๓๔ และราชบัณฑิต สำนักศิลปกรรมประเภทวิจิตรศิลป์ สาขาจิตรกรรม นับเป็นศิลปินอาวุโสคนสำคัญ ผู้บุกเบิกศิลปะสมัยใหม่ของประเทศ จากการมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า ๕o ปี ทำให้ผลงานจิตรกรรมของอาจารย์สวัสดิ์เป็นที่ที่ยอมรับของวงการศิลปะทั้งในอดีตและปัจจุบัน






อาจารย์สวัสดิ์ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเพาะช่าง กรุงเทพมหานคร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ อนุปริญญาศิลปบัณฑิต สาขาจิตรกรรมและประติมากรรม จากมหาวิทยาลัยศิลปากร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๘ ต่อมาได้ไปศึกษาต่อด้านจิตรกรรมในต่างประเทศที่สถาบันศิลปะแห่งกรุงโรม ประเทศอิตาลี (Academy of Fine Arts, Rome) และได้รับประกาศนียบัตรจิตรกรรมเมื่อพ.ศ. ๒๕o๓


หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร อาจารย์สวัสดิ์ สันติสุขได้เริ่มเข้ารับราชการในตำแหน่งช่างตรีในแผนกหัตถศิลป์ กองสถาปัตยกรรม ในกรมศิลปากร ต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกกลาง ในสังกัดมหาวิทยาลัยศิลปากรเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ และใน พ.ศ. ๒๕o๔ อาจารย์สวัสดิ์ก็ได้การเลื่อนเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนช่างศิลป์ กรมศิลปากร และได้ดำรงตำแหน่งนี้อยู่ถึง ๑๔ ปี จึงได้รับการเลื่อนเป็นผู้อำนวยการวิทยายช่างศิลป์ในกรมศิลปากร อาจารย์สวัสดิ์ ได้ดำรงตำแหน่งนี้ตลอดมาจนเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. ๒๕๒๘





"พายุฝน"



นอกเหนือจากการปฏิบัติงานราชการตามตำแหน่งหน้าที่ อาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุขยังใช้เวลานอกราชการสร้างสรรค์ผลศิลปะจิตรกรรม ที่มีคุณค่าอย่างต่อเนื่องจนได้รับรางวัลจากการประกวดระดับชาติและนานาชาติ อาทิ รางวัลจากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติที่ได้รับอย่างต่อเนื่องจนได้รับเกียรติ เป็นศิลปินชั้นเยี่ยม พ.ศ. ๒๔๙๘ รางวัลเหรียญทอง การแสดงงานจิตรกรรม เมืองราเวนนา ประเทศอิตาลี พ.ศ. ๒๕o๒ รางวัลที่ ๑ ประเภทจิตรกรรมมหาวิทยาลัยแห่งกรุงโรม พ.ศ. ๒๕o๓ รางวัลที่ ๒ การแสดงศิลปะระหว่าง ชาติ ไซ่งอน พ.ศ. ๒๕o๕ และยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ในปีพ.ศ.๒๕๒๗ ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) และราชบัณฑิตสำนักศิลปกรรม ประเภทวิจิตรศิลป์ รวมถึงได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาวิจิตรศิลป์





"In the Morning Sataheep" 1994


อาจารย์สวัสดิ์เป็นศิลปินอาวุโสคนสำคัญ ผู้บุกเบิกศิลปะสมัยใหม่ของประเทศ มีผลงานจิตกรรมดีเด่นเป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะทั้งในอดีตและปัจจุบัน ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานกว่า ๕o ปี การบุกเบิกงานจิตรกรรมที่สำคัญคือ ได้สร้างสรรค์ผลงานจากแบบที่เป็นรูปธรรมเข้าสู่แบบนามธรรม ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการด้านจิตกรรมของศิลปินรุ่นหลังเป็นอย่างมาก และยังได้อุทิศตนให้กับการสอนและการเผยแพร่ศิลปะโบราณและสมัยใหม่ ให้แก่นักศึกษาในสถาบันการศึกษาและประชาชนทั่วไป การสร้างผลงานศิลปะและผลวิชาการทางศิลปะของอาจารย์สวัสดิ์ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการของวงการศิลปะร่วมสมัยในประเทศไทยเป็นอย่างมาก





"Cherry Blossom" 1988



เพื่อให้ผู้สนใจงานศิลปะได้ชื่นชมและเรียนรู้จากผลงานศิลปะที่ ทรงคุณค่าของอาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุข สมบัติเพิ่มพูนแกเลอรี จึงได้นำเสนอเสนอผลงานภาพวาดสีน้ำและสีน้ำมันฝีมือชั้นครูของอาจารย์สวัสดิ์ จากสมบัติคอลเลคชั่นมากกว่า ๒๙ ชิ้นมาจัดแสดงในนิทรรศการ "สมบัติคอลเลคชั่น - อาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุข"





"Cloudy" 1987



"ที่ผ่านมาทางแกลเลอรีเราเคยจัดการแสดงผลงานสะสมของศิลปินชั้นครูของไทยมาหลายครั้ง อย่างผลงานของอาจารย์ประยอม ยอดดี อาจารย์สมัคร สุวรรณพงษ์ หรือครั้งก่อนหน้านี้ อย่างการจัดแสดงผลงานศิลปะภาพ เปลือย นู๊ด คอลเลคชั่น ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานภาพเปลือยโดยศิลปินหลาย ๆ ท่านที่เรามีอยู่ สำหรับการจัดแสดงผลงานของอาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุขครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นงานที่เราสะสมมายาวนาน ๒o - ๓o ปี รวมผลงานที่จัดแสดงประมาณ ๒๙ ชิ้น ก็ถือว่าแกลเลอรีเรามีคอลเลคชั่นที่่ค่อนข้างสมบูรณ์ของอาจารย์สวัสดิ์ มีตั้งแต่งานภาพวาดสีน้ำที่อาจารย์เขียนไว้ช่วงปี ๑๙๗o ต่อเนื่องมาจนถึงต้น ๆ ยุค ๙o แล้วก็จะได้เห็นผลงานที่อาจารย์กลับมาวาดดอกไม้ด้วยสีน้ำมัน ประมาณต้น ๆ ๒oo๑ - ๒oo๒…"





"เรือแล่นสวนกัน" ภาพวาดสีน้ำมันบนพืนผ้าใบ ขนาด ๖o x ๘o ซม.
ลายเซ็นเป็นภาษาอังกฤษ นักสะสมนิยมเป็นอย่างมาก



"...อาจารย์สวัสดิ์เป็นศิลปินท่านหนึ่งที่ทำงานศิลปะอย่างต่อเนื่องทำให้มีผลงานออกมามากพอสมควร แต่ส่วนใหญ่ผลงานของอาจารย์จะอยู่ในการครอบครองของนักสะสมงานศิลปะ ก็เลยมีโอกาสค่อนข้างน้อยที่จะนำมาจัดแสดง เราก็เลยอยากจะเอางานของอาจารย์ในส่วนที่เราสะสมไว้ออกมาจัดแสดงให้คนไทยได้ชื่นชมผลงานของศิลปินไทยชั้นครูท่านนี้" ปนัดดา เลิศหัตถศิลป์ ผู้จัดการสมบัติเพิ่มพูนแกลเลอรี ให้ข้อมูล






นิทรรศการ "สมบัติคอลเลคชั่น - อาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุข" จัดแสดงตั้งแต่วันนี้จนถึง ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ ชั้น ๒ ตึกสมบัติเพิ่มพูน แกลเลอรี ซอยสุขุมวิท ๑ คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันระหว่างเวลา ๙.oo - ๒o.oo น. สอบถามโทร.o๒-๒๕๔-๖o๔o ถึง ๖ หรือที่เวบ sombatpermpoongallery


ภาพและข้อมูลจากเวบ
thaiavclub.org
portfolios.net<
sale20.eurseree.com
satoninogame.com

sawattantisuk.blogspot.com












"ภาพถ่ายหลุมศพกษัตริย์โบราณ"


สถานเอกอัครราชทูตเปรู ประจำประเทศไทย ร่วมกับ ดิ เอ็มโพเรี่ยม ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ จัดงาน Emporium Peru: The Royal Tombs of Sipán (เอ็มโพเรี่ยม เปรู: เดอะ รอยัล ทูม ออฟ สิปัน) นำเสนอ นิทรรศการหลุมศพกษัตริย์โบราณของอาณาจักร Moche ซึ่งเป็นหนึ่งในการค้นพบที่สำคัญที่สุดทางวัฒนธรรมของชาวอเมริกันในช่วงเริ่มต้นยุคสมัยโคลัมเบียน






จัดแสดงแบบจำลองของเครื่องประดับที่ขุดพบโดย Walter Alva นักโบราณคดีชาวเปรู ตื่นตากับการแสดงท้องถิ่น และชมการสาธิตการทำอาหารเปรูแบบดั้งเดิม ที่จะทำให้ทุกท่านสัมผัส วัฒนธรรมเปรูเวียน (Peruvian) อย่างใกล้ชิด เข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ - ๓ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น ๑ ดิ เอ็มโพเรี่ยม ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ (ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม)


ภาพและข้อมูลจากเวบ
a href ='//www.ryt9.com/s/prg/1440119'>ryt9.com
manager.co.th













"Nude Me & More โดย ติ๊ก ชีโร่"



ระหว่างวันที่ ๙ สิงหาคม - ๒ กันยายน ๒๕๕๕ ณ อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรี (สุขุมวิท ๕๕ ทองหล่อซอย ๑o) เตรียมพบกับผลงานจิตรกรรมและงานวาดเส้นชุดใหม่ของ ติ๊ก ชีโร่ ศิลปินหนุ่มชื่อดังผู้เปี่ยมล้นด้วยความสามารถอันเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในทางดนตรี เสียงเพลง และศิลปะ พร้อมเปิดตัวในนิทรรศการศิลปะสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ที่นำเสนอผลงานภาพเขียน Nude Portrait ในลักษณะที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการพูดถึงเรือนร่าง ใบหน้า และธรรมชาติของสรีระมนุษย์ ผ่านทักษะและกระบวนการเฉพาะทางของงานจิตรกรรม


เข้าชมได้ในวันอังคาร - เสาร์ ๑o.๓o – ๑๘.oo น. อาทิตย์ ๑o.๓o – ๑๗.๓o น. (ปิดวันจันทร์) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล โทร: o๒-๒๔๒๒-๒o๙๒, o๘๖-๘๙o-๒๗๖๒ แฟกซ์: o๒-๔๒๒-๒o๙๑ เว็บไซต์ ardelgallery.com














ภาพและข้อมูลจากเวบ
evenpro.in.th
facebook.com
greenscapeasia.com










<


“หลง…ใหล สาย เสียง” (Line Sign Sound)


ศิลปิน นกุลู ปัญญาดี (NukoonPanyadee) ลักษณะงานจิตรกรรมสีน้ำ ระยะเวลาที่จัดแสดง ๒๑ กรกฎาคม - ๖ สิงหาคม ๒๕๕๕ พิธีเปิดนิทรรศการวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๘.oo น. ห้องนิทรรศการขั้น ๑ ห้อง ๓ - ๔ ณ หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย






แนวความคิด


งานเขียนครั้งนี้ผมใช้ชื่อคอนเซ็ปต์ว่า "Line Sign Sound - หลง..ไหล สาย เสียง" ผมเขียนเรื่องของดนตรีเพราะดนตรีคือภาษาสากลที่ทุกคนรับรู้รับฟังได้ เป็นความสากลทางความรู้สึก ดนตรีเคลื่อนไหวด้วยเสียง และงานของผมก็เป็น Movement ของภาพ ทำให้คนดูได้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวในตัวภาพได้ ไม่ใช่เพราะเหตุผลว่าผมเป็นนักฟังที่ดีมากหรืออะไร แต่ด้วยความหลงใหลใน Form หรือ Shape ของเครื่องดนตรี จึงทําให้เกิดผลงานครั้งนี้ขึ้น และด้วยเราซึ่งเป็น Painter ก็ได้หยิบเรื่องของรูปทรง เรื่องของ Form ประกอบกับหลักการที่เรียนรู้มาทางด้านศิลปะ โดยงานนิทรรศการครั้งนี้ก็ได้นําเครื่องดนตรีมาเป็นสื่อเป็นงานที่สร้างสรรค์ด้วยจินตนาการความคิดของเรา ไมว่่าจะเป็นเทคนิควิธิีการวาด การมองบางสิ่งบางอย่างที่รู้สึกว่างานของเรามันมีชีีวิต มันเคลื่อนไหวไปด้วยสี ถ่ายทอดจินตนาการผ่านภาพออกมา






"ศิลปะ" เป็นเรื่องของอารมณ์...ของสี...ของทีแปรงและรวมถึงการไหลซึมของสีดว้ย เทคนิคในงานของผมจะมีเรื่องของการไหลซึมต่างๆ ซ่ึงเหตุผลแรกที่ผมเอาสีน้ํามันมาถ่ายทอด ผมก็ยังคงความรู้สึก รู้สัมผัสได้ถึงสีน้ํา และยังคง character ของสีนํ้าอยู่ ภาพสีนํ้าเราไม่มีทางที่จะสร้างความซับซ้อนในมิติใน Layer ของตัวงานจริง ๆ ได้มาก เพราะสีน้ำมันจะทำได้ และงานชุดน้ีก็จะมีภาพสีน้ำตบท้าย เพราะเป็นอะไรที่สบาย ๆ และมอบให้กับผู้ที่ติดตามผลงานสีน้ำของผมด้วย






ขอเชิญร่วมดื่มด่ำกับสาย เสียงดนตรีที่บรรเลงดุจวง Orchestra ทั้งไทยและสากล...กับ สาย เสียงดนตรี ผ่านผืนผ้าใบครั้งแรกในโลก ในงานนิทรรศการแสดงภาพเขียนเดี่ยวชุด "LINE SIGN SOUND" หลง... ไหล สาย เสียง พร้อมร่วมจับพู่กันใน Painting Workshop หลายวัน ให้ท่านเลือกกับ อ.นุกูล ปัญญาดี พร้อมกับเคลิบเคลิ้มกับเสียงแซ็กโซโฟนโดยคุณ โก้ Mr.Saxman ระหว่างวันที่ ๒๑ ก.ค. - ๖ ส.ค. ๒๕๕๕ ตั้งแต่ เวลา ๑o.oo-๑๙.oo น. วัน เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา ๑๒.oo - ๑๘.oo น. ณ หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณศศิภา โทร. o๘-๑๕๕๘-๒๓๓๓ หรือคุณกริษฐา o๘-๑๔oo-๒๓๓๓






ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
artbangkok.com
theseevenartgallery.com








"???? [สีฟ้า, หายใจ, สีส้ม, ความชื้น]"


เมื่อAsano Yuko ศิลปินญี่ปุ่นที่เคยมาเยือนเมืองไทยเมื่อ ๙ ปีที่แล้ว ได้เป็นแรงบันดาลใจและถ่ายทอด ความรู้สึกของเธอที่มีต่อประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้นกับสีสันสดใส แสงแดดอันเจิดจ้า การใช้เวลาอย่างไม่เร่งรีบ ผู้คนที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ต้นไม้น้อยใหญ่และตึกรามอันเก่าแก่ นอกจากนี้ ยังมีผลงานบางชิ้นที่เคยแสดงในญี่ปุ่นและยุโรปมาแล้ว ผลงานชุด "???? [สีฟ้า, หาย ใจ, สีส้ม, ความชื้น]" จัดแสดงใน Garden Cafe Gallery ตั้งแต่วันนี้ - ๕ สิงหาคม ๒๕๕๕


ภาพและข้อมูลจากเวบ ryt9.com












"กินของเน่า"


มิวเซียมสยามชวนแซ่บจัดนิทรรศการ “กินของเน่า” ตีความวัฒนธรรมการกินสุดคลาสสิกของคนไทย ตั้งแต่วันที่ ๑o ก.ค. - ๔ พ.ย. ๒๕๕๕ เวลา ๑o.oo - ๑๘.oo น. (ปิดวันจันทร์) ณ มิวเซียมสยาม


หากได้ยินคำว่าเรา กินของเน่ากันอยู่ทุกวัน หลายคนคงประหลาดใจ แต่ของที่ "เน่าเกินเน่า" นั้นกินได้จริง พิสูจน์แล้วด้วยการทดลองของคนโบราณ เช่นการทำปลาส้ม ปลาร้า กะปิ น้ำปลา ผักดอง ซึ่งภูมิปัญญาในการถนอมอาหาร และการปรุงรส คือศาสตร์ศิลป์เฉพาะถิ่นที่น่าสนใจ นิทรรศการ “กินของเน่า” นำเสนอภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยโบราณในการทำอาหารให้ “เน่าเสีย” ด้วยกระบวนการหมักดอง ความชาญฉลาดที่สอดคล้องกับหลักการถนอมอาหารในยุคปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า คนโบราณคือนักวิทยาศาสตร์และศิลปินเอก ที่นำจุลินทรีย์มาใช้ประโยชน์ได้แม้ไม่มีกล้องจุลทรรศน์ เกิดการสร้างสรรค์อาหารรสชาติแปลกใหม่ กลายเป็นสัญลักษณ์การกินที่เป็นตัวตนของคนไทย บ่งบอกถึงการอยู่ร่วมกันของผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ในผืนแผ่นดินไทยที่มีมา อย่างยาวนาน รวมถึงประวัติศาสตร์การค้าในสมัยโบราณที่มีเกลือเป็นเครื่องสร้างความมั่งคั่ง และโอกาสทางการค้าในยุคปัจจุบันจากการต่อยอดผลิตภัณฑ์


แกงเขียวหวานที่มีกะปิเป็นเครื่องแกง แกงฮังเล ใช้ถั่วเน่าเป็นเครื่องปรุงรส หรือแม้แต่ขนมจีนน้ำยาป่า มีปลาร้าเป็นส่วนผสม บอกเล่าผ่านวิดีโอสาธิต รวมถึงผักดองวิธีถนอมอาหารที่เข้ามาสยามพร้อมกับคนจีน ภูมิปัญญาการถนอมอาหารที่มำให้เป็นของเน่า เพื่อเก็บอาหารส่วนหนึ่งไว้กินยามขาดแคลน รวบรวมความรู้จัดแสดงในนิทรรศการกินของเน่า ให้ความรู้มากกว่ารสอาหาร แต่ยังสืบค้นที่มาซึ่งมีการพัฒนามาอย่างยาวนาน






ในนิทรรศการการ "กินของเน่า" ได้จัดส่วนหนึ่งเป็นห้องครัว เพื่อแสดงของเน่าที่เรากินกันอยู่ในชีวิตประจำวันอย่าเช่น เต้าเจี้ยว น้ำปลา และกะปิ เครื่องปรุงเหล่านี้ สะท้อนภูมิปัญญาของคนในอดีต ที่รู้จักนำเอาทรัพยาการใกล้ตัวมาถนอมอาหารโดยการใช้เกลือ และปลา


ปลาร้า ไม่ได้เป็นอาหารเฉพาะถิ่นภาคอีสานของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นอาหารคุ้นลิ้นของคนในอุษาคเนย์ ที่ล้วนมีส่วนผสมจากวัตถุดิบธรรมชาติที่คล้ายกัน คือ ข้าว ปลา เกลือ ต่างกันที่วิธีการ และชื่อเรียกแตกต่าง กัมพูชา เรียก "ปราฮ็อก" ลาวเรียก "ปลาแดก" "บากุง" ของ ฟิลิปปินส์ ส่วนเวียดนาม เรียก"มาม" เหล่านี้แสดงถึงทรัพยากรอันอุดมในดินแดนแถบนี้เป็นที่มาของภูมิปัญญาการถนอม อาหาร ซึ่งล้วนมีเอกลักษณ์ในแต่ละแห่งทั่วโลก


วัฒนธรรมการกินของ เน่าที่สืบทอดมากว่า ๓,ooo ปี นำมาจัดแสดงเพื่อสร้างความเข้าใจในที่มาของประวัติศาสตร์อาหาร ในบรรยากาศตลาดสด และร้านอาหาร โดยจัดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์ ร่วมตีความวัฒนธรรมการกินของเน่า ภูมิปัญญาที่นำมาซึ่งความอร่อย การอยู่รอด เงินตรา วรรณะ วัฒนธรรม และความเชื่อ ท่ามกลางบรรยากาศ ตลาดสด และ ร้านอาหาร โดยมี เชฟชาคริต แย้มนาม เป็นผู้แนะนำเมนู พร้อมเลือกซื้อเมนูหมักดองระดับ OTOP ได้ตั้งแต่วันที่ ๑o กรกฎาคม - ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑o.oo - ๑๘.oo น. (ปิดวันจันทร์) ณ มิวเซียมสยาม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. o๒-๒๒๕-๒๗๗๗ ต่อ ๔๑๑ หรือ facebook.com/museumsiamfan


ภาพและข้อมูลจากเวบ variety.thaiza.com












"The Care Parade รวมพลังช่วยช้างไทย"


ก้อย อาร์ต แกเลอรี่ ร่วมกับ Elephant Parade นำเสนอ “The Care Parade” นิทรรศการที่รวบรวมงานประติมากรรมรูปช้างขนาด ๓o และ ๗๕ เซนติเมตร จากฝีมือการสร้างสรรค์ ของศิลปิน และนักออกแบบที่มีชื่อเสียง ซึ่งเคยร่วมจัดแสดงใน นิทรรศการ Elephant Parade ครั้งก่อน ๆ


โดยมีวัตถุประสงค์สร้างความตระหนักต่อสาธารณชนถึงสถานการณ์ความรุนแรงของภัยคุกคามต่อชีวิตช้างในทวีปเอเชีย และเพื่อระดมเงินบริจาคเพื่อการอนุรักษ์ช้าง ในระหว่างวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ถึง ๓๑ สิงหาคม ศกนี้






“Elephant Parade” ถือกำเนิดขึ้น ในฐานะองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือช้าง องค์กร “Elephant Parade” หรือพาเหรดช้าง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๔๙ โดย มร. มาร์ค สไปท์ (Marc Spite) และ มร. ไมค์ สไปท์ (Mike Spite) นักธุรกิจสองพ่อลูกชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเกิดความคิดที่จะจัดตั้งองค์กรเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินในการอนุรักษ์ช้าง หลังจากได้เดินทางมาพักผ่อนในประเทศไทยและได้เห็นลูกช้างโมชาที่บาดเจ็บจากกับระเบิดที่ได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลช้างในจังหวัดลำปาง ซึ่งก่อตั้งโดย โซไรดา ซาลวาลา Elephant Parade มีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างความตระหนักถึงภัยคุกคาม และความจำเป็นในการอนุรักษ์ช้างในทวีปเอเชีย รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงินเพื่อการช่วยเหลือ การอนุรักษ์ช้างในแถบเอเชีย โดยการจัดนิทรรศการกลางแจ้ง หรือพาเหรดช้างขึ้นเป็นครั้งแรก โดยจัดขึ้นที่เมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศ เนเธอร์แลนด์ในปี ๒๕๕o และนับตั้งแต่นั้นในทุก ๆ ปี Elephant Parade ก็ได้จัดพาเหรดช้างเรื่อยมาในหลาย ๆ เมืองที่มีชื่อเสียงทั่วโลก และมีงานประมูล “แบบจำลองช้าง” (Elephant Model) ที่จัดแสดงในงานพาเหรด เพื่อนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือช้างด้วย ซึ่งแบบจำลองหรือโมเดลช้างที่ว่านี้ จะผลิตในจำนวนจำกัด และมีจำหน่ายในสาขาต่าง ๆ ของ Elephant Parade ทั่วโลก






สำหรับนิทรรศการ The Care Parade ในครั้งนี้ จะเป็นการจัดแสดงแบบจำลองช้างขนาด ๓o และ ๗๕ เซนติเมตร จากผลงานของศิลปินและนักออกแบบที่มีชื่อเสียงซึ่งเคยได้จัดแสดงไปแล้วในพาเหรดช้างครั้งก่อน ๆ อาทิ “Pavonia” โดย รีเบคก้า ซูเธอร์แลนด์ (Rebecca Sutherland) ศิลปินสาวนักวาดภาพประกอบจากลอนดอน ซึ่งแบบจำลองขนาดเท่าตัวช้างจริงเคยจัดแสดงในพาเหรดช้างที่สิงคโปร์ โดย รีเบคก้า อยากเติมสีแต้มลายให้สวยงามราวกับช้างของพระราชา ตามมาด้วย “Colorful Hope” โดย คาโค มาร์ติน (Cako Martin) ศิลปินชาวบราซิล ซึ่งจัดแสดงในพาเหรดช้างที่กรุงลอนดอน โดยได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์จากรูปทรงธรรมชาติและวัฒนธรรมข้างถนน และ “Siam Butterfly” แบบจำลองช้างขนาด ๗๕ เซนติเมตร โดย ทองไมย์ เทพราม ศิลปินไทยในสังกัด ก้อย อาร์ต แกเลอรี่ ที่ได้รับเลือกให้ร่วมแสดงในพาเหรดช้าง ซึ่งจะจัดขึ้นที่เบลเยียมช่วงปลายปี ซึ่งสร้างสรรค์ผลงานโดยการผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออกเข้ากับตะวันตก เพื่อสื่อให้เห็นถึงลมหายใจของช้างที่อวลด้วยกลิ่นหอมหวานจากธรรมชาติ ฯลฯ นอกจากนี้ ในวันเปิดนิทรรศการ จะมีการเปิดประมูลแบบจำลองช้างน้อยโมชา (Mosha) ขนาด ๗๕ เซนติเมตร ในราคาเริ่มต้นที่ ๗o,ooo บาท โดยรายได้จากการประมูลจะมอบให้มูลนิธิเพื่อนช้าง เพื่อช่วยเหลือการดำเนินการของโรงพยาบาลช้าง จังหวัดลำปาง


นิทรรศการ “The Care Parade” จัดแสดง ณ ก้อย อาร์ต แกเลอรี่ ๔๓/๑๒ ซอยสุขุมวิท ๓๑ (ซอยสวัสดี) เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ ๒๗ กรกฎาคม – ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๑.oo – ๑๙.oo น. สนใจเป็นเจ้าของแบบจำลองช้างขนาด ๓o และ ๗๕ เซนติเมตรพร้อมสนับสนุนการอนุรักษ์ช้าง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร : o๒-๖๖๒-๓๒๑๘


ภาพและข้อมูลจากเวบ artbangkok.com
















"โครงการรางวัลศิลปะเพื่อเยา​วชนไทย "


มูลนิธิเอสซีจี (SCG Foundation) ขอเชิญชวนเยาวชนที่มีความมุ่งมั่นพากเพียรสร้างสรรค์ผล งานศิลปะและผู้สนใจ ส่งผลงานศิลปะประกวดชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า ๒.๕ ล้านบาท กับ “ โครงการรางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย ๒๕๕๕ (Young Thai Artist Award 2012)”


เวทีการประกวดศิลปะสำหรับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งเป็นการประกวดศิลปะถึง ๖ สาขา ได้แก่ ศิลปะ ๒ มิติ, ศิลปะ ๓ มิติ, ภาพถ่าย,ภาพยนตร์, วรรณกรรม และการประพันธ์ดนตรี ที่มีมาตรฐานการคัดเลือกผลงานที่เข้มข้น มีความทรงเกียรติและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง กระทั่งจัดประกวดอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ ๘ โดยผลงานยอดเยี่ยมแต่ละสาขา จะได้รับเงินรางวัล ๑๕o,ooo บาท พร้อมทัศนศึกษาต่างประเทศ ส่วนผลงานดีเด่นจะได้รับเงินรางวัล ๕o,ooo บาท (สาขาละไม่เกิน ๕ รางวัล)


Young Thai Artist Award เป็นเวทีประกวดศิลปะระดับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐานการคัดเลือกผลงานที่เข้มงวด คณะกรรมการประกอบด้วยศิลปิน แห่งชาติ ศิลปินชั้นเยี่ยม และผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมูลนิธิเอสซีจีมุ่งสนับสนุนเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นพากเพียรใน การสร้างสรรค์ผลงานได้มีเวทีในการแสดงออกถึงความสามารถเชิงศิลปะของตนออกสู่สาธารณะ อันจะเป็นแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้สังคมเกิดความตื่นตัวอย่างกว้างขวาง


น้อง ๆ เยาวชนและผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ เตรียมผลงานเอาไว้ให้พร้อม และติดตามรายละเอียดเงื่อนไขการรับผลงานแต่ละสาขา รวมทั้งดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ //www.scgfoundation.org หรือโทร o๒-๕๘๖-๕๒๑๔ กำหนดรับสมัครผลงานจะมีขึ้นในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน ๒๕๕๕ (วัน เวลา สถานที่ ตามกำหนดของแต่ละสาขา) ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ //www.facebook.com/ YoungThaiArtistAward



ภาพและข้อมูลจากเวบ artbangkok.com












"Creativities Unfold, Bangkok 2012"


ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) เปิดเวทีระดับนานาชาติ ต่อยอดความคิด พัฒนาการสร้างสรรค์ผ่านการชุมนุมทางความคิดครั้งสำคัญ “Creativities Unfold, Bangkok 2012” ภายใต้แนวคิด “โอกาส...สร้างได้ด้วยการออกแบบ : นวัตกรรม กลยุทธ์ ธุรกิจ” (Design is Opportunities: Innovation, Strategy, Business) นำเสนอทางออกทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพเพื่อนำพาองค์กรให้ก้าวหน้าฝ่าวิกฤติโดยการใช้ “การออกแบบ” เป็นตัวแปรสำคัญ กับ ๓ กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย


กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ Creative Space Workshop ระหว่างวันที่ ๒๕ สิงหาคม – ๗ กันยายน ๒๕๕๕ โดยมี ๔๒ หัวหอกแห่งแวดวงการออกแบบและสร้างสรรค์ ครอบคลุม ๑๕ กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย อาทิ Propaganda, Greyhound, Smallroom, designLAB, Phenomena และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มาร่วมกันเปิดเวทีการเรียนรู้แบบใหม่ด้วยการสัมผัสประสบการณ์จริงในการนำความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบมาผสานเข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจ


กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ International Workshop @ TCDC ในวันที่ ๖, ๗ และ ๑o กันยายน ๒๕๕๕ เจาะลึกกลเม็ดสร้างสรรค์และขั้นตอนการทำงานของวิทยากรชื่อดังระดับโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อเข้าใจขั้นตอนของการบริหารศาสตร์หลากแขนง และนำไปสู่โอกาสใหม่ในการทำธุรกิจและการสร้างสรรค์ผลงานออกแบบ


กิจกรรมชุมนุมทางความคิด International Symposium ในวันที่ ๘ - ๙ กันยายน ๒๕๕๕ พบกับ ๙ ผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดชื่อดังจากหลากแวดวงทั้งในและต่างประเทศ ผู้ซึ่งมีประสบการณ์และความชำนาญในการผสมผสาน "วิทยาศาสตร์ และศิลปะวัฒนธรรม" จนกลายเป็นกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงองค์กรในยามวิกฤติ เป็นโมเดลประกอบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือด และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยืนหยัดในตลาดได้อย่างมั่นคงเหนือกาลเวลา อาทิ Dieter Rams (ดีเอเทอร์ แรมส์) นักออกแบบคนสำคัญผู้เป็นเจ้าของตำนานการออกแบบ “เรียบแต่มากประโยชน์” ที่สร้างแรงบันดาลใจให้นักออกแบบรุ่นใหม่มาแล้วหลากหลายคน Idris Mootee (อิดริส มูที) กูรูผู้เชี่ยวชาญกลยุทธ์ทางธุรกิจและกระบวนการออกแบบเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ และ James Arizumi (เจมส์ อริซูมิ) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์กีฬาผาดโผนของไนกี้ทั่วโลก


ผู้สนใจร่วมงาน Creativities Unfold, Bangkok 2012 สามารถติดต่อขอซื้อและจองบัตรเข้าร่วมงาน International Symposium ในราคา ๙oo บาทต่อวัน กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ International Workshop @ TCDC ในราคา ๑,๕oo บาท ต่อครั้ง และ ฟรี สำหรับ กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ Creative Space Workshop ได้ที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น ๖ ดิ เอ็มโพเรียม โทร.o๒-๖๖๔-๘๔๔๘ ต่อ ๒๑๓ และ ๒๑๔ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมสิทธิประโยชน์และส่วนลดพิเศษได้ที่ //www.creativitiesunfold.com และ //www.tcdc.or.th


ภาพจากเวบ newswit.com


บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2555
0 comments
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2555 18:56:19 น.
Counter : 25419 Pageviews.


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.