bloggang.com mainmenu search
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
กลับมาเจอกันทุกวันจันทร์อีกเช่นเคยค่ะ
ก่อนอื่นต้องกราบขออภัยเพื่อนๆทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยือนกัน
ในบล็อกก่อนหน้า แล้วเจ้าของบ้านไม่ได้แวะกลับไปทักทาย
เนื่องจากอยู่ในช่วงทำใจ  กับการสูญเสีย(ข้อมูล)อยู่หลายวันเชียว
แต่ตอนนี้ โอเค แล้วค่ะ กลับมาเริ่มต้นกันใหม่อีกรอบ
และขอบคุณทุกๆำกำลังใจที่มีให้กันค่ะ

วันนี้เรามาประเดิมกันที่เมนูโปรดของเจ้าของบ้านกันค่ะ 
กินหมูกินเนื้อมาเยอะแล้ว วันนี้เรามาหาอะไรเบาๆกินกันดีกว่าค่ะ
วันนี้เรามากินผักล้วนๆกันบ้างค่ะ เชื่อว่าเพื่อนๆหลายๆท่านคงชอบเมนูนี้เหมือนเรานะคะ

"เห็ดหอมผัดกะเพรา" ค่ะ


ก่อน(อีกครั้ง)อื่นเรามารู้จักคุณประโยชน์ของใบกระเพรา
ที่เรากินกันบ่อยๆหน่อยนึงนะคะ

ขออนุญาต Coppy มาทั้งภาพ ทั้งเรื่องเลยนะคะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ

จากweb *www.zoneza/view3317.htm*




สรรพคุณกะเพรา ประโยชน์ของกะเพรา กะเพราลดน้ำตาลและไขมัน

กะเพรา

กะเพรา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Ocimum sanctum) เป็นไม้ล้มลุก แตกกิ่งก้านสาขา สูง 30 - 60 ซม. นิยมนำใบมาประกอบอาหารคือ ผัดกะเพรา กะเพรามี 3 พันธุ์ คือ กะเพราแดง กะเพราขาว และ กะเพราลูกผสมระหว่างกะเพราแดงและกะเพราขาว

กะเพรามีชื่อสามัญอื่นอีกคือ กอมก้อ (เชียงใหม่) กอมก้อดง (เชียงใหม่) กะเพราขน (กลาง) กะเพราขาว (กลาง) กะเพราแดง (กลาง) ห่อกวอซู (กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน) ห่อตูปลู (กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน) อิ่มคิมหลำ (เงี้ยว แม่ฮ่องสอน) และ อีตู่ไทย (ตะวันออกเฉียงเหนือ)

สรรพคุณกะเพรา
ใบ บำรุงธาตุไฟธาตุ ขับลมแก้ปวดท้องอุจจาระ แก้ลมตานซาง แก้จุกเสียด แก้คลื่นเหียนอาเจียน และขับลม
เมล็ด เมื่อนำไปแช่น้ำเมล็ดจะพองตัวเป็นเมือกขาว ใช้พอกบริเวณตา เมื่อตามีผง หรือฝุ่นละอองเข้า ผงหรือฝุ่นละอองนั้นก็จะออกมา ซึ่งจะไม่ทำให้ตาเรานั้นช้ำอีกด้วย
รากกะเพรา ใช้รากที่แห้งแล้ว ชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม แก้โรคธาตุพิการ ทั้งนี้มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า กะเพรา มีฤทธิ์ในการลดน้ำตาลในเลือด และลดไขมันได้
น้ำสกัดทั้งต้นมีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ สามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ในใบมีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมันและลดอาการจุกเสียด
ใบและกิ่งสดเมื่อนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยโดยการต้มกลั่น (hydrodistillation) ได้น้ำมันหอมระเหยร้อยละ 0.08-0.10 ซึ่งมีราคา 10,000 บาทต่อกิโลกรัม
สำหรับ ใบแห้ง ใช้ชงดื่มกับน้ำ แก้ท้องขึ้น และน้ำมันที่ได้จากใบกะเพรานั้น สามารถยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิด ช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางอย่าง และมีฤทธิ์ฆ่ายุงได้ ซึ่งจะมีฤทธิ์ ได้นาน 2 ชั่วโมง


         นอกจากจะมีกลิ่นหองเฉพาะตัว ยังมีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น ใบสดของกะเพรามีน้ำมัน หอมระเหยอยู่ ซึ่ง ประกอบด้วย linaloo และmethyl chavicol เป็นยาแก้ขับลม ท้องอืด ท้องเฟ้อปวด ท้อง บำรุงธาตุ ขับผายลม แก้อาการจุกเสียดในท้อง ให้ใช้ใบสด หรือยอดอ่อน สัก 1 กำมือ มาต้มให้ เดือด แล้วกรองเอาน้ำดื่ม แต่ถ้าใช้กับเด็ก ทารกให้นำเอามาตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำนำมา ผสมกับ น้ำยามหาหิงคุ์แล้วใช้ทาบริเวณ รอบๆ สะดือ และทาที่ฝ่าเท้า แก้อาการปวดท้องของ เด็กได้ และน้ำที่ เราเอามาคั้นออกจากใบยังใช้ ขับเสมหะ ขับเหงื่อ หรือ ใช้ทาภายนอกแก้โรค ผิวหนัง กลาก เกลื้อนได้ นอกจากนี้ ใบสดยังนำมาผัด หรือนำมาแกงเป็นอาหาร ได้อีกด้วย 



เมื่อได้รู้จักคุณประโยชน์ของกะเพรากันแล้ว
ทีนี้เราเอากะเพรามาทำอาหารกันเลยดีกว่าค่ะ


"เห็ดหอมผัดกะเพรา" ค่ะ





ส่วนผสม

เห็ดหอมสด
ใบกะเพรา
พริกขี้หนูสว
กระเทียม
ซีอิ้วขาว
ซีอิ้วดำหวาน
น้ำมันหอย
น้ำตาลท
ราย
น้ำมันพืช




วิธีทำ

เห็ดหอมนำมาทำความสะอาด ตัดโคนออกเล็กน้อย
กะเพราเด็ดเป็นใบๆเตรียมไว้
ขลกพริกขึ้หนู กับกระเทียมเข้าด้วยกัน
ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟพอร้อนใส่
พริกขึ้หนูกับกระเทียมที่โขลกรวมกันไว้ลงไป
ผัดให้มีกลิ่นหอม พอจามสักสองสามที



ใส่เห็หอมสดลงไปผัดให้สุก
ปรุงรสด้วย ชีอิ้วขาว น้ำตาลทราย
น้ำมันหอย ตามด้วยซีอิ้วดำ
ชิมรสตามต้องการ
พอเห็ดหอมสุก ใส่ใบกะเพราลงไป
ผัดเร็วๆแต่ใบกะเพราสล
ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ





ทานกับข้าวสวยร้อนๆ
ใครๆก็ชอบ จริงมั้ยคะ






ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่แวะมาค่ะ
ล้วพบกันใหม่ในบล็อกต่อไปค่ะ
บล็อกล่าสุด
แกงจืดดอกชจรหมูสับ


Create Date :10 มิถุนายน 2556 Last Update :10 มิถุนายน 2556 16:59:16 น. Counter : 8550 Pageviews. Comments :54